Thai VI

คุณว่าอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนแนวคิด

ดิฉันมีความเห็นว่า

คนดี ...ที่ดีจริงๆ ทั้งที่มีคนเห็นและไม่เห็น ไม่ได้เสแสร้งทำดี เพื่อความชื่นชม ชื่อเสียง หวังผลใดๆ

ไม่น่าจะมีอะไรมาเปลี่ยนแปลงได้นะคะ เพราะทุกครั้งที่คิดจะทำไม่ดี จิตสำนึกที่ดีของคนๆ นั้นจะคอยบอกให้เค้าเลิกคิดที่จะทำไม่ดี


ในทางกลับกัน

คนที่แสร้งทำดีตะหาก ที่เค้าจะเปลี่ยนเป็นทำไม่ดี โดยยกเหตุผลต่างๆ นานา มาสนับสนุนการทำสิ่งไม่ดีนั้นๆ

จิตใจของคนนั้นรู้ดีที่สุดว่าสิ่งที่ทำนั้น ดีจริงหรือไม่

:lol: :lol:

ผมไม่ใช่คนดี

hot เขียน:คุณว่าอะไรที่ทำให้เขาเปลี่ยนแนวคิด

ต้องมีเหตุผล และสิ่งแวดล้อมประกอบนะ

ถ้าพูดภาษาชาวบ้านคือ "สังคมปัจจุบันต้องปากกัดตีนทีบ" ครับ

ปัจจุบันเลยมองเรื่องปากท้อง เป็นเรื่องสำคัญ ที่สุด ตราบใดความต้องการตรงนี้ยังไม่เพียงพอ ก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ (ตามแนวคิด 5 ความต้องการ ของมาสโรว์)

ผมว่าดูสามัญสำนึกดูอย่างง่ายๆก็่เรื่องซื้อของแล้วเค้าทอนตังค์ผิด คนนั้นทำยังไง
ผมว่าแค่นี้ก็ดูได้อย่างน้อยก็ครึ่งนึงแล้ว

:lol: :lol: :lol: :lol:

ท่านปรัชญาว่า

ต้องมีเหตุผล และสิ่งแวดล้อมประกอบนะ

ท่านโป้งว่า

ปัจจุบันเลยมองเรื่องปากท้อง เป็นเรื่องสำคัญ ที่สุด ตราบใดความต้องการตรงนี้ยังไม่เพียงพอ ก็ต้องเป็นแบบนี้แหละ (ตามแนวคิด 5 ความต้องการ ของมาสโรว์)

ผมเห็นด้วยอย่างแรงเลยครับ และอีกเหตุผลหนึ่งซึ่งไปตรงกับทฤษฎีการให้รางวัลและการลงโทษ ( reward and punishment ) ก็ล้วนแล้วแต่เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนเคยดีเปี๊ยนไป๋ ไปลองทำไม่ดีดูบ้าง เพราะใครๆเขาก็ทำกันและทำแล้วยังได้ดี

ดังนั้น ถ้าไม่อยากให้คนในสังคมหันไปทำเลว ต้องพยายามสร้างระบบ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วให้ได้

ถ้ามองทั้งสังคมแล้วรู้สึกว่าทำได้ยาก ก็มาทำในจุดที่ง่ายกว่า เช่นหน่วยงานของเราเอง ถ้าเราเป็นหัวหน้าหน่วยนะ ลองทำดูใหมครับ

ผมยังเชื่อว่า มนุษย์ส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่อยากเป็นคนดีทั้งนั้น ถ้าสิ่งแวดล้อม และความต้อการพื้นฐานเอื้ออำนวย

:lol: :lol: :lol: :lol:

คนดี อาจทำผิดพลาดไปบ้าง แต่ต้องรู้ผิดแล้วแก้ไขครับ

คนดีจริง ตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้ครับ

และผมไม่คิดว่าคนดีจริงๆ จะกลับกลายเป็นคนเลวไปได้ครับ

ไม่มีใครทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้ง หมด

ขอให้คนส่วนมากเป็นคนดี ก็ ok แล้วครับ

ผมอาจจะมองแบบเศรษฐศาสตร์ซักนิดนะครับ คือผมมองว่ามันอาจสามารถเทียบในลักษณะ cost & return ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นการฝ่าไฟแดง ถ้าคุณเห็นว่าถนนฝั่งตรงข้ามมันว่างตำรวจไม่อยู่ คนโดยมากเลือกที่จะฝ่าไฟแดงเพราะเห็นว่าcost มันต่ำ แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามผู้กระทำนั้นเห็นว่าcostที่จะทำนั้นมันสูงก็มีความโน้มเอียงที่จะไม่ทำ เช่น คุณๆยืมเงินเพื่อนคุณจะชักดาบไหมในเมื่อไม่มีเอกสารแสดง ผมเชื่อว่าพวกเราส่วนใหญ่เลือกที่จะปฏิเสธเพราะเสียเพื่อนcostแพงกว่าอาจรวมถึงศักดิ์ศรีในสังคมด้วย แต่ถ้าลองเป็นคนเร่ร่อนหรือเก็บขยะก็จะมีความโน้มเอียงไปในทางที่จะชักดาบเพราะต้นทุนทางสังคมต่ำกว่า ประมาณนี้มั้งครับ

คิดว่าเป็นเพราะรู้สึกว่าคนอื่นไม่เห็นความคีของเขาครับ

คนเลว ทำเลวง่าย
คนเลว ทำดียาก
คนดี ทำดีง่าย
คนดี ทำเลวยาก

เมื่อโอกาสในการกระทำมาถึง ก็ดูว่าใครทำดี หรือทำเลย แบบง่ายๆ
ก็พอประเมิณได้ว่า คนคนนั้นเป็นคนดี หรือคนเลว
ส่วนที่บอกว่า คนดีในสังคมเริ่มอยากทำเลว ไม่เห็นด้วยครับ
ผมคิดว่า คนที่ยังมีความอยากทำความเลว และเมื่อมีโอกาสมาถึง ก็ทำเลว ( ไม่ถูกลงโทษ ) แต่เมื่อไม่มีโอกาส ก็พยามทำความดี ( ไม่ถูกลงโทษ )
ผมคิดว่าคนแบบนี้ เป็นคนเลวโดยสันดาน ผมไม่คิดว่าคนแบบนี้เป็นคนดี

สรุปตามตัวเองว่า คนดีจริงๆ ไม่อยากทำความเลว แม้กระทั่ง โดนบีบ ก็ไม่อยากครับ

ก็อย่าให้คนดีท้อแล้วกันครับ

ขอให้เป็นสังคมทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว จริงๆเถอะ

ไม่เกี่ยวกะหัวเรื่องเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไร
ขอยก กลอนท่านพุทธทาส มานะครับ

"เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
จงเลือกเอา ส่วนที่ดี เขามีอยู่
เป็นประโยชน์ โลกบ้าง ยังน่าดู
ส่วนที่ชั่ว อย่าไปรู้ ของเขาเลย

จะหาคน มีดี โดยส่วนเดียว
อย่ามาเที่ยว คนหา สหายเอ๋ย
เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเลย
ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง ฯ"