Thai VI

ทำไมให้ทางเลือกกับบริษัทเป็น cd แต่ไม่ให้ทางเลือกกับนักลงทุนว่าจะรับ
เป็นหนังสือหรือ cd บ้าง บางบริษัทอยากรับเป็น cd ก็ต้อง fax กลับไปอีกแต่ส่วนมากจะไม่มีทางเลือกให้ ทำเป็น cd เวลาอ่านก็ต้องเปิดกับ com ทำให้ไม่สะดวกแถมช้าอีกต่างหาก บางอันก็ทำแย่มากเช่น kest มี script error
เปิดกับคอมเวลาดูก็ปวดตามากด้วย

ช่วยกันรวมตัวแก้กฎเป็นให้ทางเลือกได้มั้ยครับ ใครอยากได้ cd ใครอยากได้หนังสือก็ให้เลือกตามใจ

ผมเพิ่งโทรไปขอของไทยพาณิชน์กับเทเวศน์
ขี้เกียจprint หรืออ่านจากหน้าจอ 8)

windows มีปัญหาหรือเปล่า เช่น โดนพวกไวรัส spyware , system error

ผมไม่ชอบแบบ cd เช่นกัน
เปิดอ่านไม่สะดวกเลย

เขากำลังรณรงค์ ลดการใช้กระดาษ สิ้นเปลืองทรัพยากร

ต่อไป CD ก็ไม่ต้องแล้วครับ สิ้นเปลืองทรัพยากร

เขาให้ไป download ดูเอาเองในเวบของ กลต. :lol: :lol:

หรือไม่ก็ต้อง ให้ผู้ถือหุ้นทุกคนต้องมี E-mail แล้ว ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์

ก็ส่ง E-mail รายงานประจำปีให้ทาง E-mail เลย

จะได้ประหยัดทรัพยากร ของชาติโดยรวม :lol: :lol:

เช็คปันผล ก็ไม่ต้องพิมพ์แล้ว สิ้นเปลืองทรัพยากร

เพราะ ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ โอนเงินปันผลเข้าบัญชี ธนาคารให้เลย

ต่อไปเมื่อระบบ อีเล็กโทรนิค สมบูรณ์แบบ

คงประหยัดทรัพยากร โดยรวมของชาติลงได้มากโข

แต่มันก็เป็นสิทธิของผมที่อยากจะรับแบบไหน ไม่ใช่เหรอครับพี่
ประเทศอื่นเค้าเป็นแบบนี้กันรึเปล่า เค้าน่าจะให้ทางเลือกนักลงทุนนะ
เปิดกับ cd ก็เปลืองไฟเหมือนกัน ยิ่งถ้าอยู่ในห้องสมุดตลาดหลักทรัพย์
มีคนอยากดู 100 เล่มพร้อมกันก็ต้องมีเครื่องคอม 100 เครื่องสิครับ
ถ้าเป็นหนังสือก็หยิบไปอ่านพร้อมกันได้

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งกับพี่ครรชิตครับ แต่ก็เห็นใจคุณ RPC Lover ด้วยเช่นกัน แต่ความสะดวก ความชอบบางอย่าง ผมว่า ไม่มีอะไรมาแทนเสน่ห์ของการอ่านหนังสือเป็นเล่มได้ แต่เรื่องความสะดวก และ ประหยัดทรัพยากร หนังสือแพ้ขาด

ถ้าลดอคติลง ผมว่า ปรับทัศนคติ ปรับฮาร์ดแวร์เช่น การ์ดจอ จอแอลซีดี ให้สบายตาขึ้น คงช่วยกันลดการตัดไม้ซึ่งสร้างได้ยาก คงจะดีไม่น้อย

ปล.เพราะผมคิดว่า คุณ rpc lover รวยจากการลงทุนมากโขอยู่ เห็นได้จาก rpc มีทั้งปันผลและ Cap Gain ใช่มั้ยครับ 555

น่าคิดว่า สื่ออิเล็กทรอนิกส์กับสิ่งพิมพ์อะไรสิ้นเปลืองทรัพยากร
และทำลายสิ่งแวดล้อมมากกว่ากัน

กระดาษกับขยะทางเทคโนโลยีที่เราเกิดมาชาติหน้าก็ยังไม่จากเราไป

ให้เป็น CD ก็ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เปิด
ให้ดูทางเว็บหรืออีเมล์ ก็ต้องมีทั้งคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต

ฉันคิดว่าเหตุผลที่แท้จริงคือ ทางบริษัทได้ประหยัดแน่ๆ
แต่คงไม่ได้คิดถึงผู้ถือหุ้นหรอกค่ะ

ผมเข้าใจว่าการทำเป็น cd เป็นการประหยัดกว่า

แต่ผมก็ยังอยากได้หนังสือ ดังนั้นปัจจุบันนี้ ควรทำสองแบบมาให้ ถ้าทำแบบเดียว เอาหนังสือครับ

อนาคต ถ้าดีจริง แจก cd อย่างเดียวก็ได้ครับ

ถ้าเป็น cd แบบนี้ต่อไปผู้ถือหุ้น ต้องมี computer กันทุกบ้านซิครับ

ส่วนเรื่อง เช็ค เห็นด้วย จะประหยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์เช็ค ออกเช็ค ตรวจเช็ค เอาเช็คเข้า ยุ่งยาก สู้โอนเงินไปเลยไม่ได้

ไม่เห็นด้วยครับ ไม่ชอบ cd

ชอบ หนังสือ อ่านง่ายได้ อารมณ์กว่าเยอะ แถม classic กว่าด้วยครับ เอาไปไหนก็ได้
อ่านจาก cd ปวดตาครับ

ชอบที่เป็นหนังสือมากกว่าครับ เอาไปอ่านที่ใหนก็ได้
คือผมชอบอ่านหนังสือตอนเข้าส้วม cd เอาเข้าไปอ่านไม่ได้นะครับ

เมื่อวันจันทร์ ผมไปเปิดบัญชี ชื้อขายหุ้นทางเนต ให้น้องสาว ที่ KK

เห็นพนักงานเขาบอกว่า ตั้งแต่เดือนหน้า หรือยังไงนี้แหละ

ทุกคนต้องเปิดบัญชีซื้อขายทางเนต ทั้งหมด

ซึ่งหมายความว่า ผู้ลงทุนกับตลาดหลักทรัพย์

ทุกคนทุกบ้านต้องสื่อสารด้วยอีเล็กโทรนิค บนเนต ทั้งหมด

เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว กระดาษก็ต้องพยายามใช้ให้น้อยลง

จะได้ประหยัดทรัพยากร จะได้ประหยัดค่าใช้จ่าย

สมุด รายงานประจำปี ของผม มีเก่าๆ หลายๆปีเข้า

มันก็เยอะเต็มชั้นวาง ดูสวยดีแต่ไม่ได้อ่านแล้ว

รายงานการประชุมส่วนมากก็เหมือนที่อ่านในเนท

ส่งมาให้พลิกดูนิดหน่อยหนึ่ง ก็ลงไปรวมอยู่กับเอกสารที่รอทิ้ง

ปีๆหนึ่งเยอะมาก ครับ

sasom เขียน:ชอบที่เป็นหนังสือมากกว่าครับ เอาไปอ่านที่ใหนก็ได้
คือผมชอบอ่านหนังสือตอนเข้าส้วม cd เอาเข้าไปอ่านไม่ได้นะครับ

สงสัยต่อไป ต้องมีบริษัทผลิต
หนังสือ อิเล็คโทรนิค ขนาดเท่าหน้ากระดาษ A4 บาง 0.5 ซม.
จอความละเอียดสูง น้ำหนักเบาเท่า พอคเก็ตบุก
สามารถโหลด ตัวอักษรได้สัก พัน หน้า หมื่น หน้า

เราจะได้โหลด แฟ้มข้อมูลไว้
จิบน้ำชาถืออ่าน นอนหงายอ่าน นอนตะแคงอ่าน
นั่งส้วมอ่าน เดินอ่านเล่นในสวน
เหมือนหนังสือกระดาษ แน่ๆ

sasom เขียน:ชอบที่เป็นหนังสือมากกว่าครับ เอาไปอ่านที่ใหนก็ได้
คือผมชอบอ่านหนังสือตอนเข้าส้วม cd เอาเข้าไปอ่านไม่ได้นะครับ

เห็นด้วยครับ อันนี้

แต่ต่อไป เครื่องอ่านแบบอิเลคทรอนิกส์เช่น PDA phone+กล้อง ที่มีความสามารถหลากหลาย บวกด้วย internet ควาเร็วสูง ในค่าใช้จ่ายที่ถูกมากๆ แล้ว การอ่านงบการเงินในห้องน้ำ คงได้ฟีลไม่เบาทีเดียว

ผมก็กังวลเรื่องขยะอิเลคทรอนิกส์เหมือนกันครับ

แต่อยากให้เพื่อนๆ ทำการทดลองเล็กๆ ว่าต้นทุน ค่าใช้จ่ายต่างๆ การใช้ทรัพยากรในการจัดพิมพ์หนังสือ หรือ เป็นซีดี เปรียบเทียบกันและมากน้อยกว่ากันเท่าไหร่ เป็นปัจจัยเชิงปริมาณ

แล้วมาเทียบกับ ความสะดวก ความสบายใจ ความชอบ ในปัจจัยเชิงคุณภาพ

แล้วทีนี้มาเปรียบเทียบดูว่า ทางเลือกไหน คุ้มค่ากว่ากันเมื่อเทียบเชิงปริมาณและคุณภาพแล้ว

ผมเลือกโหลดทาง อินเตอร์เน็ต เหมือนที่ครรชิตครับ

ขอบคุณทุกความเห็นครับ

อยากได้เป็น ebook ครับ จะได้มานั่งอ่านใน PDA ได้ด้วย

ทุกคนต้องเปิดบัญชีซื้อขายทางเนต ทั้งหมด

ซึ่งหมายความว่า ผู้ลงทุนกับตลาดหลักทรัพย์

ทุกคนทุกบ้านต้องสื่อสารด้วยอีเล็กโทรนิค บนเนต ทั้งหมด

มาร์ก็แย่สิครับแบบนี้

ผมก็ชอบแบบที่เป็นหนังสือนะครับ

แต่คิดว่า มีผู้ถือหุ้นจำนวนไม่น้อย
ที่ไม่สนใจและไม่เคยอ่านรายงานประจำปี
ดังนั้น จึงคิดว่า การที่ บ.จดทะเบียนแจกเป็น CD มา
ก็ (เดาเอาเอง) ว่า เป็นการประหยัดค่าพิมพ์ของ บ. ได้ส่วนหนึ่ง
คือ ลดจำนวนพิมพ์ได้ระดับหนึ่ง (ไม่รู้ว่า ข้อมูลหรือสถิติเป็นอย่างไร)
และประหยัดทรัพยากรธรรมชาติที่เอามาทำกระดาษด้วย

อย่างไรก็ดี ผมคิดว่า บ. น่าจะจัดเตรียมเอาไว้เลย
คือ ซองพร้อมแบบฟอร์มเอาไว้ให้ผู้ถือหุ้น
ที่เมื่อได้รับ CD แล้วแต่ยังต้องการรายงานประจำปีแบบเป็นรูปเล่ม
จะได้ส่งกลับมาขอ หรือจะทำแบบหลาย บ.ที่ให้โทรเข้าไปแจ้งขอก็น่าจะ OK นะครับ

เป็นหนังสือดีกว่าให้เป็นซีดีโหลดเอาจากเน็ตก็ได้

ผมว่าน่าจะให้นักลงทุนเลือกได้ครับว่าจะเอาแบบไหน
ให้แจ้งไปทาง TSD เลยก็ได้ เหมือน e-dividend
ตกลงว่าจะรับแบบหนังสือ ก็เอาหนังสือหมดเลย
ถ้าเอาแบบ cd ก็ส่งมาเป็น cd หมดเหมอืนกัน
จะได้ไม่ต้องโทรขอรายบริษัท
ส่วนตัวผมแล้วขอหนังสือดีกว่าครับ
พกง่าย สบายตา ขีดเขียนอะไรเพิ่มเติมก็ง่าย

เดอมผมก็อยากได้เป็น cd ครับ เพราะหนังสือมันเปลืองทีเก็บและเปลืองเงินพิมพ์ ผมไปประชุมหลายๆที่เมื่อ 2 ปีก่อน ผมก็ขอให้เขาเปลี่ยน แต่ตอนนี้กลับไม่อยากได้แล้วครับ ไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น เพราะ cd มันก็ต้องเปลืองที่เก็บอีก

ไม่ต้องส่งอะไรให้ผมดีที่สุด เปลืองค่าใช้จ่ายบริษัทโดยใช่เหตุ
ได้มาผมก็ไม่ค่อยได้อ่าน

ใครจะด่าผมก็ช่างครับ ผมว่านักลงทุนรายย่อยนี่เอาใจยากจัง คงเป็นแบบนี้มั๊ง ทาง tgp ถึงเอาออกจากตลาด

ขอโทษนะครับจริงๆผมก็รายย่อยเหมือนกัน ซื้อขายที่ละหมื่อนสองหมื่นเองครับ

อยาก ได้ทั้งคู่อะครับ โลภมากไปปะเนี่ย

ชอบเป็นหนังสือมากกว่า นั่งอ่านนอนอ่านได้

CD ประหยัดงบดีนะครับ บริษัทต้องเสียค่าพิมพ์หนังสือตั้งเยอะ ในขณะที่รายย่อยแค่ไม่กี่คนเปิดอ่าน ผมอยากให้คิดว่า ต้นทุนที่ลดลงสุดท้ายก็เข้ากระเป๋าผู้ถือหุ้นอยู่ดี ถึงจะเป็นเงินแค่ไม่กี่บาทแต่ก็แสดงว่าบริษัทนั้นๆมีความคิดที่จะลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นนะครับ
ส่วนใครอยากได้ไว้อ่านในส้วม (ถ้ากำไรหด อึไม่ออกพอดี) ก็ print ออกมาเย็บเล่มเองก็ได้นิครับ ไม่เกิน 50 บาท
ผมว่า print ขาวดำแผ่นละ 2 หน้า มาอ่านประหยัดสุด เพราะอ่านไม่กี่วันก็เก็บเข้าลิ้นชักแล้ว

ข้อคิดหน่อย
Cdมันบ้างและเก็บง่าย แต่อายุการใช้งานแค่ 10 ปี(ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้น)
ค่าจัดทำต้นทุนแผ่นละไม่ถึง 5 บาท ค่ากล่องไม่ถึง 10 บาท
คิดเอาแบบง่ายๆๆไม่เกิน 20 บาทต่อแผ่นต่อ 1 คน
แต่หนังสือ ค่าอะไรต่างๆๆๆ ก็ปาเข้าไปเล่มละร้อยอย่างต่ำแล้ว

ต่อไปที่เก็บ แผ่นCDเปลืองน้อยกว่าเห็นได้ชัด หนังสือต้องหาชั้นวาง
การขายต่อ ซาเล้งชอบหนังสือ แต่CDพวกนี้ไม่รับแน่นอน
การใช้งาน CDต้องหาComputerหรือPCCหรือplamที่สามารถรองรับ ไฟล์พวกAcrobat readerได้ ไม่ต้องแบก แต่เก็บไว้ในmemoryหรือแผ่นCD
ส่วนหนังสือ ได้ทุกที่ ที่คุณต้องการ แต่คุณต้องแบกหนังสือเล่มนั้นไปด้วย

เรื่องสายตา computerกับPCCหรือplamใช้งานมากๆๆ ตาแห้ง (อาจเป็นโรคเกี่ยวกับทางสายตาได้)
ส่วนหนังสือ อ่านมากๆๆสายตาสั้นหรือยาว แล้วแต่ช่วงอายุ

ในส่วนตัว ขอแค่รายงานงบก็พอแล้ว เอามาวิเคราะห์อย่างเดียว (ถ้าจะให้เป็นหนังสือ)

ครรชิต ไพศาล เขียน:

สงสัยต่อไป ต้องมีบริษัทผลิต
หนังสือ อิเล็คโทรนิค ขนาดเท่าหน้ากระดาษ A4 บาง 0.5 ซม.
จอความละเอียดสูง น้ำหนักเบาเท่า พอคเก็ตบุก
สามารถโหลด ตัวอักษรได้สัก พัน หน้า หมื่น หน้า

เราจะได้โหลด แฟ้มข้อมูลไว้
จิบน้ำชาถืออ่าน นอนหงายอ่าน นอนตะแคงอ่าน
นั่งส้วมอ่าน เดินอ่านเล่นในสวน
เหมือนหนังสือกระดาษ แน่ๆ

เห็นโรงเรียนหลายแห่งในประเทศจีนเค้าก็ใช้กันแล้วค่ะ พอขึ้นชั้นใหม่ ก็ใส่ข้อมูลใหม่เข้าไป ไม่ต้องแบกหนังสือเป็นกองๆ :lol:

ที่เพิ่งแจกมาใหม่เมื่อวานนี้เป็นรูปเล่มสวยงามมากครับ เป็นAnnual report 2004
10Anniversary

แต่ที่อยากได้และให้แนบมาด้วยกัน คือ บัตรสมาชิก หรือส่วนลดต่างๆไรเงี้ย

:lol: :lol: :lol: :lol:

ใช่คับ ไม่เห็นด้วย

อยากได้เป็นเล่มมากกว่า อ่านง่ายกว่า สะดวกกว่า อ่านที่ไหนก็ได้

:lol: :lol: :lol: :lol:

ผมมองกลับกัน

อินเตอร์เน็ตเราเร็วขึ้นเยอะ ฮาร์ดดิสค์เราก็ใหญ่ขึ้นมากนี่ครับ

ปันผลก็รับโอนเงินได้แล้ว

ต่อไปคงได้รับ annual report เป็นอีเมล์