8) การเข้าร่วมประชุมครั้งแรก
มันตื่นเต้นดีนะ มองดูฉากตัวหนังสือ
ดูโต๊ะกรรมการ เข้าท่าแฮะ
ไปถึง ก็ลงทะเบียน
ฝ่ายรับลงทะเบียนก็คงตรวจดูลายชื่อ ขอดูบัตรประชาชน
เซ็นต์เรียบร้อย ก็หาคนที่ไม่เคยเห็นหน้ากัน
ถามและคุยกับคนรอบข้าง ควรไปก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมง
ถามแบบไม่สนใจว่าเขาจะตอบเราหรือเปล่า คุยแล้วคือจบ
อย่าไปคิดมาก
( เลิกประชุมก็บ้านใครบ้าน ก็ปีหนึ่งเขาเปิดโอกาสให้เราแค่การประชุมผู้ถือหุ้น)
ทำการบ้านไว้ เตรียมไปถามในที่ประชุม
พอเข้าห้องประชุมก็หามุมนั่งแบบสบายๆ
วาระต่างๆผ่านไป ทางคณะกรรมการอ่านมาเราก็ฟัง
จนถึง วาระอื่นๆ
คราวนี้เป็นทีของเราล่ะ หุหุ
ถามแบบทนายความเลย ซักฟอก(ใส่เปาด้วยก็ดี เครือสหพัฒน์ผลิตจัดจำหน่าย)
ถามเลย...หนี้สินเป็นอย่างนี้.....
นโยบายการปันผลอย่างนี้ แต่จ่ายเท่านี้ มีเหตุผลอะไร
ถ้าบริษัทไหนมีข่าวลือจะแจกW แตกพาร์ ก็ถามไป
(ส่วนผู้ตอบเราบนเวที จะตอบแบบเลี่ยงๆ หลบๆ เราก็ทนฟังไป ทำเป็นรู้ไม่ทัน)
บริษัทย่อยคือบริษัทในเครือทำไมมันขาดทุนมาตลอด
มีวิธีจัดการอย่างเหมาะสมหรือยัง
(อันนี้ลองภูมิวัดวิสัยทัศน์ เขาตอบอย่างไรช่างเถอะทนฟังไป)
ที่กล่าวข้างต้น เป็นเพียงข้อสมมุติ แต่ละบริษัทจะไม่เหมือนกันเป็นเพียงตัวอย่าง
การที่เราซักถาม ทางคณะผู้บริหารจะได้ระวังตัว
และวัดความรู้สึกว่าเขาจะคิดอย่างไรกับผู้ถือหุ้น
เพราะเขาไม่รู้หรอกว่าคนถาม ถือหุ้นอยู่กี่ร้อยหุ้น
เลิกประชุม อาจมีอาหารว่าง
ช่วงนี้ล่ะ พยามหาคนคุยด้วย ไหว้เขาแบบ สอสอ เลย
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นทุกอย่างเท่าที่คิดว่าเหมาะสม
ถ้ามีพวกสาวๆ วัยรุ่นมาร่วมประชุม
ส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานของกองทุนส่งมา
พวกนี้จะไม่ค่อยพูดกับใคร (ทำหน้าที่มาฟังไม่ได้รับหน้าที่มาตอบ)
และไม่เคยซักถามบริษัทไหน ยกมือผ่านอย่างเดียว 555