ทีเอฟกระอักราคาน้ำมันปาล์มขึ้น งัดแผนลดต้นทุน-โวมาม่าแชร์55%
โพสต์แล้ว: จันทร์ มี.ค. 07, 2005 9:02 pm
http://www.manager.co.th/Business/ViewN ... 0000032819
ทีเอฟกระอักราคาน้ำมันปาล์มขึ้น งัดแผนลดต้นทุน-โวมาม่าแชร์55%
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 มีนาคม 2548 19:31 น.
ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ประกาศนโยบายปี 48 เดินเกมลดต้นทุนผลิต ยันไม่ปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้น ล่าสุดเตรียมยื่นเรื่องวอนให้รัฐพิจารณาเปิดเสรีนำเข้าน้ำมันปาล์ม หวั่นภัยแล้งเล่นงานทำราคาปาล์มพุ่ง 30 บาทต่อกก. ย้ำปีนี้เดินกลยุทธ์สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าโกยกำไรแทน โฟกัสบะหมี่ถ้วย-ชาม ขอ 2 เดือนชักธงรบเปิดตัวซูเปอร์ โบว์ล 25 บาท สิ้นปีรายได้รวม4,700 ล้านบาท พร้อมเตรียมแผนลงทุน 600 ล้านบาทขยายกำลังผลิตปลายปี
นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า เปิดเผยว่า ปีนี้จะเน้นลดต้นทุนการผลิตลดลงอย่างน้อย 1% เนื่องจากว่าผู้ประกอบการจะต้องมีการทำตลาดเข้มข้นมากขึ้น จากปัจจัยลบหลายประการ ตั้งแต่ราคาน้ำมันซึ่งจะมีผลต่อต้นทุนการผลิต ปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ และดอกเบี้ย
ปัญหาที่น่าเป็นห่วงสำหรับธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็คือ ภัยแล้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลการผลิตน้ำมันปาล์มและราคาที่จะปรับขึ้น จากปัจจุบันบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้น้ำมันปาล์มสูงถึง4,000ตันต่อเดือน โดยยังไม่รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆเช่น ขนมขบเคี้ยว สบู่ นมข้นหวาน ในขณะที่บริษัทไทยเพรซิเดนท์รายเดียวใช้ 1,300 ตันต่อเดือน ปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์ม20 บาทต่อก.ก. ซึ่งหากราคาเพิ่มขึ้นถึง 30 บาทต่อก.ก.บริษัทอาจจะมีการปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้น เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะต้องใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ 12-13%"
นายพิพัฒ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องน้ำมันปาล์มจะขาดแคลนหรือไม่นั้น คงจะต้องรอให้พ้นเดือนมีนาคม-เมษายนไปก่อน ซึ่งหากเกิดความขาดแคลนจริง บริษัทอยากให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณาเปิดเสรีนำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซียได้เพราะมีราคา 16-17 บาทต่อก.ก. ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีต้นทุนการผลิตที่ลดลง เพราะภายหลังจากที่ราคาน้ำมันดีเซลขึ้นราคา ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น 2-3%
ส่วนแผนลดต้นทุนการผลิต จะเน้นไปที่กลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดถ้วย เพราะเป็นกลุ่มที่บริษัทต้องการผลักดันให้เติบโตมากที่สุด โดยเบื้องต้นได้เตรียมลดต้นทุนการผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษ หลังจากที่ได้เข้าไปร่วมทุนกับบริษัทอันเปาที่จีน โดยจะหันมาพึ่งพิงวัตถุดิบจากไทยมากขึ้น จากช่วงแรกวัตถุดิบจะนำเข้าจากจีน รวมทั้งเตรียมซื้อเครื่องจักรผลิตถ้วยกระดาษใหม่ 8 ล้านบาท กำลังผลิต 120 ถ้วยต่อนาที นำไปติดตั้งภายในโรงงานจ.ลำพูน ซึ่งเป็นโรงงานผลิตบะหมี่ถ้วย ที่บริษัทลงทุนไป 20 ล้านบาท โดยการติดตั้งเครื่องผลิตถ้วยกระดาษครั้งนี้ช่วยลดต้นทุนขนส่งได้ถึง 75% หรือจาก 2 แสนบาทเหลือเพียง 5 หมื่นบาทต่อเดือน
"ปีนี้ยังไม่ปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น แม้ต้นทุนเพิ่มขึ้นแต่เราเน้นลดต้นทุน ลดของเสีย ลดค่าใช้จ่าย ส่วนงบโฆษณาประชาสัมพันธ์จะไม่ลดลง อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทได้แบ่งเบาภาระเครือสหพัฒน์ในเรื่องค่าขนส่งเป็นจำนวนเงิน 1.5% มากกว่าจำนวนเงินที่ก่อนหน้านี้บริษัทให้เป็นส่วนลด 7-8 ล้านบาทต่อเดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมานี้"
นายพิพัฒ กล่าวต่อถึงแผนการลงทุนว่า บริษัทจะต้องสรุปแผนการขยายกำลังผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปลายปีนี้ เนื่องจากกำลังผลิตโรงงานศรีราชาใกล้เต็มแล้ว ล่าสุดบริษัทได้ลงทุน 20 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรบะหมี่ยูมีส่งผลให้โรงงานศรีราชามีกำลังผลิตเพิ่มขึ้น 60% ซึ่งหากตลาดบะหมี่ถ้วยเติบโตดี คาดว่า 2-3 ปีกำลังการผลิตก็จะเต็ม โดยการลงทุนครั้งใหม่บริษัทคาดว่าจะใช้งบ 600ล้านบาทต่อ1เฟส โดยมี 1 อาคาร เครื่องจักร 3 ไลน์ ที่โรงงานจ.ระยอง
สำหรับแผนการออกสินค้าใหม่ปีนี้ บริษัทจะเปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซูเปอร์โบว์ล มีเนื้อสัตว์ราคา 25 บาท 2 รสชาติ ได้แก่ หมูสับ และหมูต้มยำ ในอีก 2 เดือนข้างหน้า รวมทั้งรีลอนช์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบิ๊กโบว์ล ราคา 15 บาท 4 รสชาติ และเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคัพ ภายใต้แนวคิดถ้วยกระดาษจับแล้วไม่ร้อนมือ ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้สำหรับบะหมี่ถ้วยมาม่าจะมียอดขายเพิ่มเป็น 400 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 330 ล้านบาท และส่วนแบ่งเพิ่มจาก 44% เป็น50% จากมูลค่าตลาดบะหมี่ถ้วย 600-700 ล้านบาท
ผลประกอบการปีที่ผ่านมาเฉพาะกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 4,500 ล้านบาท หรือยอดขาย 6,746,990 หีบ ปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้เพิ่มเป็น 4,700 ล้านบาท หรือ 7,34,820 หีบ เติบโต 5% โดยในช่วงเดือนมกราคมยอดขายเติบโต 20%เป็นเพราะมีการซื้อบะหมี่สำเร็จรูปบริจาคในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สึนามิถล่มภาคใต้ ขณะที่ส่วนแบ่งรอบเดือนพ.ย.-ธ.ค.มาม่าเพิ่มขึ้นจาก 51% เป็น 54% ไวไว 24% ยำยำ 16% ฟอร์มี 0.2% เมียวโจ้ 0.4%
ทีเอฟกระอักราคาน้ำมันปาล์มขึ้น งัดแผนลดต้นทุน-โวมาม่าแชร์55%
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 7 มีนาคม 2548 19:31 น.
ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ ประกาศนโยบายปี 48 เดินเกมลดต้นทุนผลิต ยันไม่ปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้น ล่าสุดเตรียมยื่นเรื่องวอนให้รัฐพิจารณาเปิดเสรีนำเข้าน้ำมันปาล์ม หวั่นภัยแล้งเล่นงานทำราคาปาล์มพุ่ง 30 บาทต่อกก. ย้ำปีนี้เดินกลยุทธ์สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าโกยกำไรแทน โฟกัสบะหมี่ถ้วย-ชาม ขอ 2 เดือนชักธงรบเปิดตัวซูเปอร์ โบว์ล 25 บาท สิ้นปีรายได้รวม4,700 ล้านบาท พร้อมเตรียมแผนลงทุน 600 ล้านบาทขยายกำลังผลิตปลายปี
นายพิพัฒ พะเนียงเวทย์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาม่า เปิดเผยว่า ปีนี้จะเน้นลดต้นทุนการผลิตลดลงอย่างน้อย 1% เนื่องจากว่าผู้ประกอบการจะต้องมีการทำตลาดเข้มข้นมากขึ้น จากปัจจัยลบหลายประการ ตั้งแต่ราคาน้ำมันซึ่งจะมีผลต่อต้นทุนการผลิต ปัญหาความไม่สงบชายแดนภาคใต้ และดอกเบี้ย
ปัญหาที่น่าเป็นห่วงสำหรับธุรกิจบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็คือ ภัยแล้ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อผลการผลิตน้ำมันปาล์มและราคาที่จะปรับขึ้น จากปัจจุบันบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้น้ำมันปาล์มสูงถึง4,000ตันต่อเดือน โดยยังไม่รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆเช่น ขนมขบเคี้ยว สบู่ นมข้นหวาน ในขณะที่บริษัทไทยเพรซิเดนท์รายเดียวใช้ 1,300 ตันต่อเดือน ปัจจุบันราคาน้ำมันปาล์ม20 บาทต่อก.ก. ซึ่งหากราคาเพิ่มขึ้นถึง 30 บาทต่อก.ก.บริษัทอาจจะมีการปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปขึ้น เนื่องจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจะต้องใช้น้ำมันปาล์มเป็นวัตถุดิบ 12-13%"
นายพิพัฒ กล่าวว่า ปัญหาเรื่องน้ำมันปาล์มจะขาดแคลนหรือไม่นั้น คงจะต้องรอให้พ้นเดือนมีนาคม-เมษายนไปก่อน ซึ่งหากเกิดความขาดแคลนจริง บริษัทอยากให้รัฐบาลชุดใหม่พิจารณาเปิดเสรีนำเข้าน้ำมันปาล์มจากมาเลเซียได้เพราะมีราคา 16-17 บาทต่อก.ก. ซึ่งจะทำให้อุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีต้นทุนการผลิตที่ลดลง เพราะภายหลังจากที่ราคาน้ำมันดีเซลขึ้นราคา ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น 2-3%
ส่วนแผนลดต้นทุนการผลิต จะเน้นไปที่กลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดถ้วย เพราะเป็นกลุ่มที่บริษัทต้องการผลักดันให้เติบโตมากที่สุด โดยเบื้องต้นได้เตรียมลดต้นทุนการผลิตบรรจุภัณฑ์กระดาษ หลังจากที่ได้เข้าไปร่วมทุนกับบริษัทอันเปาที่จีน โดยจะหันมาพึ่งพิงวัตถุดิบจากไทยมากขึ้น จากช่วงแรกวัตถุดิบจะนำเข้าจากจีน รวมทั้งเตรียมซื้อเครื่องจักรผลิตถ้วยกระดาษใหม่ 8 ล้านบาท กำลังผลิต 120 ถ้วยต่อนาที นำไปติดตั้งภายในโรงงานจ.ลำพูน ซึ่งเป็นโรงงานผลิตบะหมี่ถ้วย ที่บริษัทลงทุนไป 20 ล้านบาท โดยการติดตั้งเครื่องผลิตถ้วยกระดาษครั้งนี้ช่วยลดต้นทุนขนส่งได้ถึง 75% หรือจาก 2 แสนบาทเหลือเพียง 5 หมื่นบาทต่อเดือน
"ปีนี้ยังไม่ปรับราคาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น แม้ต้นทุนเพิ่มขึ้นแต่เราเน้นลดต้นทุน ลดของเสีย ลดค่าใช้จ่าย ส่วนงบโฆษณาประชาสัมพันธ์จะไม่ลดลง อย่างไรก็ตามปีนี้บริษัทได้แบ่งเบาภาระเครือสหพัฒน์ในเรื่องค่าขนส่งเป็นจำนวนเงิน 1.5% มากกว่าจำนวนเงินที่ก่อนหน้านี้บริษัทให้เป็นส่วนลด 7-8 ล้านบาทต่อเดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมานี้"
นายพิพัฒ กล่าวต่อถึงแผนการลงทุนว่า บริษัทจะต้องสรุปแผนการขยายกำลังผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปปลายปีนี้ เนื่องจากกำลังผลิตโรงงานศรีราชาใกล้เต็มแล้ว ล่าสุดบริษัทได้ลงทุน 20 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรบะหมี่ยูมีส่งผลให้โรงงานศรีราชามีกำลังผลิตเพิ่มขึ้น 60% ซึ่งหากตลาดบะหมี่ถ้วยเติบโตดี คาดว่า 2-3 ปีกำลังการผลิตก็จะเต็ม โดยการลงทุนครั้งใหม่บริษัทคาดว่าจะใช้งบ 600ล้านบาทต่อ1เฟส โดยมี 1 อาคาร เครื่องจักร 3 ไลน์ ที่โรงงานจ.ระยอง
สำหรับแผนการออกสินค้าใหม่ปีนี้ บริษัทจะเปิดตัวบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปซูเปอร์โบว์ล มีเนื้อสัตว์ราคา 25 บาท 2 รสชาติ ได้แก่ หมูสับ และหมูต้มยำ ในอีก 2 เดือนข้างหน้า รวมทั้งรีลอนช์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปบิ๊กโบว์ล ราคา 15 บาท 4 รสชาติ และเปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปคัพ ภายใต้แนวคิดถ้วยกระดาษจับแล้วไม่ร้อนมือ ซึ่งคาดว่าสิ้นปีนี้สำหรับบะหมี่ถ้วยมาม่าจะมียอดขายเพิ่มเป็น 400 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมา 330 ล้านบาท และส่วนแบ่งเพิ่มจาก 44% เป็น50% จากมูลค่าตลาดบะหมี่ถ้วย 600-700 ล้านบาท
ผลประกอบการปีที่ผ่านมาเฉพาะกลุ่มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 4,500 ล้านบาท หรือยอดขาย 6,746,990 หีบ ปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้เพิ่มเป็น 4,700 ล้านบาท หรือ 7,34,820 หีบ เติบโต 5% โดยในช่วงเดือนมกราคมยอดขายเติบโต 20%เป็นเพราะมีการซื้อบะหมี่สำเร็จรูปบริจาคในช่วงที่เกิดเหตุการณ์สึนามิถล่มภาคใต้ ขณะที่ส่วนแบ่งรอบเดือนพ.ย.-ธ.ค.มาม่าเพิ่มขึ้นจาก 51% เป็น 54% ไวไว 24% ยำยำ 16% ฟอร์มี 0.2% เมียวโจ้ 0.4%