Thai VI

หายไปไหนตั้งเยอะ...

กำไรรวมทั้งปี 712 ลบ. ทั้งๆ ที่งวด 9 เดือนกำไร 770 ลบ. เข้าไปแล้ว
สงสัยเจอพิษ TSUNAMI ซะแล้ว

ไตรมาสที่แล้ว ราคายางและปริมาณการซื้อขายยางลดลงอย่างมากครับ

เป็นไตรมาสที่ผมรู้สึกกังวลใจกับผลประกอบการว่าจะไม่ดีคืออาจติดลบ

แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ

:lol: :lol: :lol: :lol:

น่าผิดหวังครับ นึกว่าจะเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ สามไตรมาสแรกทำได้ยอดเยี่ยมทีเดียว ไตรมาสนี้เหี่ยวซะแล้ว

ปล.ไตรมาสหน้าอาจจะดีก็ได้ เดายากมากๆๆๆๆๆเลยครับ

ผมนึกถึงคำพูดพี่CK นะ ถ้าบริษัทใหน ไม่ได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน เวลางบออกนี่ อาจจะหัวใจวายได้

สู้เลือกตัวที่เดาผลประกอบการได้ค่อนข้างแน่ดีกว่า

:lol: :lol: :lol: :lol:

...ผิดหวังจริงๆครับไม่คิดว่าจะแย่ลงขนาดนี้ อย่างนี้คงต้องบ๊ายบายซะแล้ว...

STA มีข้อเด่นพอๆกับข้อเสียครับ..

ข้อดีคือเป็นรายใหญ่ที่สุด บริษัทลูกก็มีกำไรดี ซื้อขายกันที่พีอีต่ำ

แต่ดูงบดุลล่าสุดแล้ว มีประเด็นที่น่าสนใจหลายอย่าง

- เงินกู้ปาเข้าไป 6,251 ล้าน มีเงินสด 983 ล้าน
- หนี้ต่อทุนสูงขึ้นเป็น 1.76 เท่า
- สินค้าคงเหลือประมาณ 4150 ล้าน

หากยังเป็นอย่างนี้ หนีไม่พ้นต้องเพิ่มทุนอีก ในขณะที่หุ้นเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงก็ยังขายไม่ได้

ปันผลประกาศหรือยังคับ

ผมเคยขาดทุนก็เหตุการณ์แบบนี้ล่ะครับตัวนี้ เลยไม่เข้าไปยุ่งอีกเลยไม่ว่าผลประกอบการจะดีแค่ไหน

เคยซื้อไว้เหมือนกัน นึกว่าดีเห็นว่าวัตถุดิบก็ใช้ในประเทศ
ดีนะขายไปแล้ว
ไม่น่าเชื่อจะกำไรหดขนาดนี้

กำไรมาตั้งหลายไตรมาส ไหงมาพลาดได้

ก็ยังงงๆ อยู่พวกหุ้นยาง อย่างT-rubb นี่ก็เคยซื้อ
ตอนแรกก็นึกว่าหุ้นดี เดี่ยวกำไรเดี่ยวขาดทุน

Q4 ปี47 กำไรไตรมาสเดียว ล้างขาดทุน 3Q หมดเลย
แถมเหลือกำไรอีกตั้งเยอะ
มาปีนี้ กลับหัวกลับหางเลยครับ

ค่าเงินบาทที่แข็งขึ้น มีส่วนบ้างมั๊ยครับ

ราคาลงไปจะ 15 % แล้ว
ผลรวมของอารมณ์คุณตลาดบวกกับ
ผลประกอบการณ์ไม่ได้ Q4

เคยถือมาพักหนึ่ง เมื่อหลายเดือนก่อน
มาดูราคาวันนี้ น่าตกใจ

หลายเดือนก่อน 25 บาทเองครับ หลังแตกพาร์เหลือ 5 บาท

ราคานี้ก็ยังนับว่าสูง เพราะช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา วิ่งมาสูงเหมือนกัน

เริ่มลงทุนมาปีนี้เป็นปีที่ 6
เพิ่งจะเริ่มเชื่อที่เค้าพูดกันว่าหุ้นกลุ่มเกษตรเป็นหุ้นปราบเซียน
เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนเอง
ไม่ได้หมายความว่าผมเป็นเซียนนะ
และก็ยังซื้อหุ้นในกลุ่มเกษตรอยู่เป็นครั้งคราว
แต่ถ้านำมาคิดผลตอบแทนจากหุ้นเท่าที่เคยซื้อมา
เป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนต่ำที่สุดครับ

สามัญชน เขียน: ผมนึกถึงคำพูดพี่CK นะ ถ้าบริษัทใหน ไม่ได้เปรียบเชิงแข่งขันอย่างยั่งยืน เวลางบออกนี่ อาจจะหัวใจวายได้

สู้เลือกตัวที่เดาผลประกอบการได้ค่อนข้างแน่ดีกว่า

ถูกต้องนะคร้าบบบ

xd 2/4/05 1.25 ต่อหุ้นครับ
นับว่ายังจ่ายมากกว่าปีที่แล้ว ที่ 2 บาท(พาร์ 10)

http://rubber.co.th/rubber_price/rubberprice_yr.php

ราคายางดิบ ราคา น้ำยางข้น ช่วงไตรมาส สี่ ต่ำเสียน่ากลัวจริงจริง

http://www.thailandrubber.thaigov.net/menu5.php
เมื่อเทียบราคายางดิบ ราคาน้ำยางข้นในปัจจุบัน

เริ่มสูงขึ้นเอ เกี่ยวกับราคาน้ำมันหรือเปล่าคับ

ราคายางธรรมชาติที่ลงมาก่อนหน้านี้เป็นผลโดยตรงจากการชลอคำสั่งซื้อจากจีนเป็นหลักเลยครับ และยังมีการตัดราคาขายจากอินโดนีเชียเข้ามาอีกคำสั่งซื้อส่วนใหญ่เลยเข้าไปที่อินโดมากกว่าเรา แม้ว่ายางของเราจะมีคุณภาพดีกว่าก็ตาม

การชลอจำนวนการผลิตรถยนต์ที่จีนประกาศออกมาเมื่อปีที่แล้วส่งผลอย่างมากต่อราคายาง ที่จริงตอนนี้ราคายางธรรมชาติกับยางสังเคราะห์มีระยะห่างกันมากเกินไปจึงมีความเป็นไปได้เหมือนกันที่ราคายางธรรมชาติจะปรับตัวขึ้นมาบ้าง เนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นมากทำให้ราคายางสังเคราะห์ปรับตัวสูงขึ้น

แต่หากราคาน้ำมันปรับตัวสูงอย่างรวดเร็วเกินไป รวมทั้งราคาเหล็กที่จะนำไปผลิตยานยนต์ต่างด้วย ไม่น่าจะเป็นผลดีกับยางธรรมชาติเท่าไหร่นักครับเนื่องจากจะส่งผลต่อความต้องการโดยตรง

แล้วเงินบาทแข็งมีผลต่อกำไรมากไหมคับ
กำไรกิจการแถว4.5-7 % ถ้าค่าเงินเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วง
เกินกว่า3.5-4.5% มีผลมากไหมคับ

จ่าย 1.25 บาทแน่หรือครับ คุณ moo
เท่าที่เช็คข่าวยังไม่ออกนะครับ
อย่าทำให้ผมหัวใจวายสิครับ

อิ๊บ...โทษที ดูผิดรายไปครับ
ยังไม่ออก ยังไม่ออก

คิดว่าระดับยอดขายขนาดนี้ และ ระดับกำไรขนาดนี้ จะสามารถรักษาได้อีกปี หรือ 2 ปีหรือเปล่าครับ ?
เงินที่ได้มาจากการเพิ่มทุน สามารถลงทุนและได้ผลตามที่วางไว้หรือเปล่า เห็นว่าเพิ่งไปเปิดบริษัทลูกที่ USA (อาจจะเปิดนานแล้วก็ได้) จะสามารถขยายตลาดไหรือเปล่า?
ผลิตภัณฑ์ ที่บอกว่าจะไปทำในส่วนมี่ ได้ Margin มากกว่านี้ ทำได้จริงหรือเปล่า?
น่าลองดูอีกสัก 1 หรือ 2 ไตรมาสนะครับ เพราะผมยังมองว่ายอดขายอาจจะต่ำลงแต่ คงไม่ถึงกับต่ำเท่ากับปี 2002
คิดว่าไม่น่าแย่ แต่ก็คงไม่ใช้หุ้นที่จะรุ่งอย่างแรงอีก

ความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ