Thai VI

แจ๋ว

กำไรสุทธิ 69.5 ลบ. (3.89) จากปีที่แล้ว 65.85 ลบ. (3.69)

เทียบกับ 3 ไตรมาสแรกกำไร 56.99 ลบ. (3.19 บาท/หุ้น)
ก็กำไร 70 สตางค์ในไตรมาส 4

งบกระแสเงินสด รอคุณฉัตรชัยมาแกะครับ

น่าจะได้ปันผลสัก 2.30 บาทนะ

เยี่ยมๆ

อืม...

ขอแสดงความยินดีกับพี่ ๆ ที่ถืออยู่ทุก ๆ ท่านนะครับ

พี่ฉัตรชัย เลือกของดีได้ยอดเยี่ยมจริงๆ

สรุปสั้นๆนะครับ

ผลการดำเนินงานใน Q 4

บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงนะครับ จาก 15.81 ล้านบาทใน Q4 ปี 2546 เหลือ 12.52 ล้านบาทใน Q 4 ปี 2547 เนื่องจาก

1. บริษัทแอมคอร์ในปีนี้ขาดทุนสูงถึง 6.11 ล้านบาท ในขณะที่ปีก่อนขาดทุนเพียง 0.21 ล้านบาท

2. บริษัทมีภาษีเพิ่มขึ้นใน Q 4 ปี 2547 เป็น 8.19 ล้านบาท จาก 4.92 ล้านบาทในปี 2546 เนื่องจาก ผลขาดทุนจากแอมคอร์ไม่คิดเป็นค่าใช้จ่ายในการคำนวณภาษีนะครับ

แท้ที่จริงแล้ว บริษัทยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีพอควร สังเกตจาก

1. บริษัทมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 23.57% เป็น 193.74 ล้านบาทจาก 156.78 ล้านบาท

2. บริษัทมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 13.50% เป็น 41.79 ล้านบาท จาก 36.82 ล้านบาท

3. บริษัทมีกำไรจากการขายเพิ่มขึ้น 33.24% เป็น 24.13 ล้านบาท จาก 18.11 ล้านบาท

4. บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 29.22% เป็น 26.80 ล้านบาท จาก 20.74 ล้านบาท

ฐานะทางการเงิน

ในไตรมาสนี้ บริษัทแทบไม่มีการลงทุนในสินทรัพย์หมุนเวียนเพิ่มขึ้นเลย (ทั้งๆที่บริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้น) และมีการลงทุนในอุปกรณ์จำนวน 2.55 ล้านบาท ทำให้บริษัทมีเงินสดสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 32.46 ล้านบาท ( 1.82 บาทต่อหุ้น) เป็น 263.15 ล้านบาท ( 14.74 บาทต่อหุ้น)

ส่วนผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นเป็น 696.61 ล้านบาท ( 39.03 บาทต่อหุ้น) โดยมีกำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรรจำนวน 262.77 ล้านบาท ( 14.72 บาทต่อหุ้น)

ทำให้บริษัทมีเงินสดสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 32.46 ล้านบาท ( 1.82 บาทต่อหุ้น) เป็น 263.15 ล้านบาท ( 14.74 บาทต่อหุ้น)

เยอะกว่าต้นทุน พี่ Chatchai อีกแฮะ

คุณฉัตรชัยครับ แล้วเงินสดต่อหุ้น ตกลง ณ ปัจจุบัน เป็นเท่าไรแล้วครับ อิอิ

14.74 บาทต่อหุ้นมั้งครับ

พี่ฉัตรชัยครับ ไม่ทราบว่า ราคาน้ำมันที่เปลี่ยนแปลง และค่าแลกเปลี่ยนเงิน ส่งผลกระทบกะ wg ด้วยไหมครับ

เงินสดสุทธิ

ปีก่อนมีเงินสดสุทธิ 198.07 ล้านบาท 11.10 บาทต่อหุ้น ปีนี้มีเงินสดสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 263.15 ล้านบาท 14.74 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 3.64 บาทต่อหุ้น ซึ่งถ้ารวมเงินปันผลอีก 1.85 บาทต่อหุ้น ก็จะเพิ่มขึ้นในปี 2547 จำนวน 5.49 บาทต่อหุ้น

สินทรัพย์หมุนเวียนสุทธิ

บริษัทมี เงินสด + ลูกหนี้การค้า + สินค้าคงคลัง จำนวน 572.83 ล้านบาท

หนี้สินรวม 158.18 ล้านบาท

หักลบกันแล้วเหลือ 414.65 ล้านบาท หรือ 23.23 บาทต่อหุ้น


หมายเหตุ WG เหลือมูลค่าเงินลงทุนตามบัญชีในบริษัทแอมคอร์อีกเพียง 5.42 ล้านบาท ถ้าปีหน้า แอมคอร์ยังขาดทุนอีกจนหมดแล้ว WG ยังต้องบันทึกผลขาดทุนอีกหรือไม่

ปีนี้ WG จะจ่ายเงินปันผลเท่าไรเอย

ลุ้นว่าจะมากกว่า 2 บาทได้ไหม

ถ้าไม่สูงกว่า 2 บาท ประชุมผู้ถือหุ้นคงต้องให้ผู้บริหารชี้แจงอีกปีครับ

อืม น่าซื้อจัง ราคาปัจจุบันก็ยังไม่แพง ผมโพสแบบนี้ เป็นความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่า ไม่น่าผิดกฎกลต. นะครับ

WG เหลือมูลค่าเงินลงทุนตามบัญชีในบริษัทแอมคอร์อีกเพียง 5.42 ล้านบาท ถ้าปีหน้า แอมคอร์ยังขาดทุนอีกจนหมดแล้ว WG ยังต้องบันทึกผลขาดทุนอีกหรือไม่

นี่แหละที่ผมห่วง ถ้าเกิดบริษัทย่อยนี้ต้องเพิ่มทุนละครับ เพราะถ้า WG อยากทำธุรกิจนี้ต่อ ไม่ใส่เงินเพิ่มจะเอาอะไรทำธุรกิจละ

จากงบผมดูไม่ออกเหมือนกันว่า รายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากปริมาณขายหรือแค่ราคาต่อหน่วย เพราะถ้ามาจากสาเหตุหลัง ก็ไม่แน่ว่าราคาสินค้าจะคงอยู่ระดับนี้อีกนานแค่ไหน

สำหรับผมถ้าปีนี้ไม่ซื้อหุ้นคืน ผมก็ไม่รอความฝันอีกแล้วละ

คงต้องให้คุณ Viewtiful Investor เข้าไปอ่านข้อมูลของ บริษัทแอมคอร์ ในกระทู้ WG ในห้องร้อยคนร้อยหุ้นนะครับ

สรุปก็คือว่า จริงๆแล้ว แอมคอร์ยังคงมีส่วนผู้ถือหุ้นเป็นบวกอยู่อีกค่อนข้างมากครับ จากการปรับมูลค่าที่ดิน เพียงแต่จากเทคนิคในการลงบัญชีมูลค่าเงินลงทุนในงบ WG ไม่นำมาคิด คงมีค่าเงินลงทุนใกล้ศูนย์

ส่วนเรื่องเงินสดในการดำเนินงานนั้น แอมคอร์ยังคงมีเงินสดเป็นบวกจากการดำเนินงานครับ คือ เมื่อบวกค่าเสื่อมราคาแล้วยังคงบวก แต่อาจจะไม่เพียงพอสำหรับชำระคืนเงินกู้ ซึ่งก็สามารถที่จะยือหนี้ได้ถ้าต้องการ

ตัวแอมคอร์เองนั้น ผมเองไม่ห่วงว่าจะเป็นตัวดูดเงินจาก WG เท่าไร เพียงแต่ว่าอาจจะทำให้งบ WG มีกำไรสุทธิต่ำลงไป ส่งผลให้เงินปันผลน้อยลงไปตาม ซึ่งถ้าปีนี้ WG ยังคงจ่ายปันผลที่ 50% ของกำไรสุทธิอยู่ ผมก็อาจจะต่อรองเป็น 50% ของกำไรสุทธิที่ไม่รวมผลขาดทุนจากบริษัทร่วมและบริษัทย่อยนะครับ

ชอบมากมายเลย
เจ้ากำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร
เป็นยาชูกำลังใจ น้อยๆก้นกระเป๋าบริษัทยังตุงอ่ะ

ถ้ามีพร 1 ประการให้ขอจากผู้บริหาร wg ได้
จะขอให้เอากำไรสะสมที่ยังไม่จัดสรร 14.72 มาจ่ายให้หมดเลย
กำไรสะสม กะเงินสด พอๆกันเลย 14.74
นั่งนับเงินกันไม่ไหวเลย ...และ wg จะกลายเป็นหุ้นที่ปันผลสูงที่สุดในประวัติกาล
div yield เกือบ 50% ของราคาหุ้น

แค่ฝันนะครับ อย่าคิดมาก 55 :lol: :lol:

3ไตรมาสแรก ทําไป 3.19 บาทต่อหุ้น .................

ไตรมาสที่4 เหลือ 0.70 บาทต่อหุ้น ...........

น่าคิดนะ .............

ถ้า Q1/48 Q2/48 Q3/48 Q4/48 ทําได้เท่ากับ Q4/47 = 0.70 บาทต่อหุ้น ...........

ทั้งปี 48 จะได้กี่บาทต่อหุ้นนะ ..........

แล้วราคาตอนนี้จะเทรดกันที่ P/E ปี48 เท่าไรนะ ถึง10 ไหมนะ ...........

พรของพี่โย เก็บไว้ก่อนครับ ขอมีตังมาเก็บหุ้นเพิ่มอีกหน่อยก่อน

ถ้าให้ราคาเป้าหมาย ราคาที่ควรจะเป็น................

ปี48 ที่P/E 8 เท่า ..............

มันจะเป็นเท่าไรนะ .............

ผมว่าการที่ wg เทรดที่ราคาตำเมื่อเทียบกับ bv นั้นก็เนื่องมาจาก ROE ที่ตำมากนั่นเอง 5 ปีล่าสุดทำ ROE ได้ไม่เกิน 10% ข้อมูลอ้างอิงจากhttp://www2.set.or.th/set/en/company/company_u4.jsp(ผม่ไม่ได้ลงรายละเอียดที่มาของตัวเลขว่าถูกต้องมั๊ยนะครับ)
การเก็บเงินสดหรือเทียบเท่า(จริงๆผมรวมถึงพวกเงินลงทุนที่ได้ผลตอบแทนไม่ถึง 5% ด้วย)ไว้มากๆนั้นเป็นการทำลาย wealth ของบริษัทและผู้ถือหุ้นเนื่องจาก return ของการฝากแบงค์นั้นตำมากๆ ผู้ลงทุนแต่ละคนต้องการ Return ต่อปีจากการลงทุนในหุ้นเท่าไหร่ครับ แต่ผู้บริหารกลับเอาเงินไปแช่ไว้ในแบงค์ หรือลงทุนในสินทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนธรรมดา(สิ่งเหล่านี้ผู้ถือหุ้นแต่ละคนสามารถนำเงินไปลงทุนกันเองได้นะผมว่า) ... เป็นเหตุผลนึงที่ผมไม่ซื้อหุ้นตัวนี้

ป.ล. ไม่ได้ตามละเอียดนะครับ ขอเชิญพี่ๆชี้แนะ ...

ใช่ครับ ท่านBlueblood

ROE ของ WG ตํ่าเตี้ยเรี่ยดิน ..........

ผมยังไม่เห็นทางที่ยอดขาย กําไรจะโตแบบก้าวกระโดด ..............

ถึงแม้นจะมี " บุญเก่า " แยะ .........

ผมเลยไม่สนใจ สนใจ " บุญใหม่" มากกว่า .........

ยิ่ง Q4/47 ออกอาการแผ่วด้วย ..............

*** ของที่ว่าถูกวันนี้ อาจกลับกลายเป็็นของแพงมากไปได้ ****

ไม่สนใจ เดี๋ยวจะไปแคะกระปุกมาซื้อ ซัก 100 - 200 หุ้น อิอิ

กำลังคิดว่าหุ้นตัวนี้อาจจะไม่ใช่เครื่องจักรเงินสด แต่เป็นการซื้อเงินสดเฉยๆน่ะครับ
ไม่ได้โจมตีแต่แลกเปลี่ยนความเห็น ผมอาจจะพลาดข้อมูลอะไรไปก็ได้ แชร์ๆกันนะครับ

ก็คิดว่าซื้อหุ้นกระปุกหมูอ้วนๆ ซะก็สิ้นเรื่อง วันนึงกระปุกเต็ม มันก็ไม่มีที่เก็บ เงินก็ต้องทะลักกลับมา

ดีกว่า ซื้อกระปุกหมูผอมๆ มีแต่หนี้สิน

อิอิ

ผลิต cashflow ได้ 5 บาทต่อหุ้น
ถึงไม่มองเงินสดที่เก็บไว้อยู่เลย ... ก็ไม่เรียกว่าขี้เหร่เหมือนกันนะครับพี่ blueblood