หน้า 1 จากทั้งหมด 1

แชร์ลูกโซ่ เป็นเรื่องธุรกิจหรือหลอกลวงคับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 26, 2005 1:37 pm
โดย hot
ผมกำลังมีข้อสงสัย ธุรกิจนี้พัฒนาจากอะไร แนวคิดของการพัฒนามีไหม
หรือเป็นวงจรของการหลอกลวงทั้งดุนคับ

แชร์ลูกโซ่ เป็นเรื่องธุรกิจหรือหลอกลวงคับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 26, 2005 2:54 pm
โดย wizard
เคยฟังพี่ที่ทำงานเกี่ยวกับการเงินอธิบายให้ฟัง
ถ้าจำไม่ผิดถ้าตรงใหนผิดขอโทษ
มันมีความคิดมาจาการหมุนของเงิน
ในทางเศรษศาสตร์ ถ้าเราใช้จ่ายเงิน 100 มันจะมีเงินนี้หมุนอยู่ในระบบปรมาณ 80% ทุกรอบของการใช้จ่าย
จึงมีความคิดว่าแทนที่จะทำให้เงิน 100 หมุนอยู่ในระบบใหญ่ ทำไมไม่ให้มันหมุนอยู่ในกลุ่มสมาชิกของตน
แชร์ลูกโซ่จะเจ๊งไม่เจ๊งอยู่ที่ระบบจะต้องหมุนตลอดเวลา ถ้าไม่หมุนมันก็เจ๊ง เพราะฉะนั้นมันจึงใหญ่ขึ้นเรื่อยเพื่อให้ระบบมันหมุน
แชร์ลูกโซ่ที่ถูกกฏหมายก็นี่เลย AIA

แชร์ลูกโซ่ เป็นเรื่องธุรกิจหรือหลอกลวงคับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 26, 2005 3:11 pm
โดย Zionism
แล้วแต่ว่าจุดประสงค์ของบริษัทเป็นอย่างไรครับ

ตั้งมาเพื่อหลอกลวง เน้นเพิ่มสมาชิก
ตั้งมาเพื่อทำธุรกิจ เน้นการขายสินค้า

แชร์ลูกโซ่ เป็นเรื่องธุรกิจหรือหลอกลวงคับ

โพสต์แล้ว: เสาร์ ก.พ. 26, 2005 3:17 pm
โดย Supra
:D :D

แชร์ลูกโซ่ กะ ธุรกิจเครือข่าย เช่น mlm ประกัน มีความแตกต่างกันแต่เส้นยาแดงผ่า แปดจริงๆๆครับ เท่าที่ศึกษามา แต่เพราะธุรกิจเครือข่ายยังมีช่องทางที่ทำให้ระบบมีข้อบกพร่อง คนไม่ดีจึงเข้ามาสร้างสิ่งไม่ดีขึ้นได้
โดยอาศัยระบบเป็นตัวนำครับ เคยคุยกะพี่ที่โดนหลอกเหมือนกัน เค้าหมดเงินไปหลายเลยครับ............ :shock: :shock: :shock:

แชร์ลูกโซ่ เป็นเรื่องธุรกิจหรือหลอกลวงคับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 01, 2005 6:36 am
โดย Jeng
แชร์ลูกโซ่ มีลักษณะ 4 ประการ

1. ไม่มีสินค้าจริงๆ
2. สินค้าราคาแพงมาก เมื่อเที่ยบกับคุณภาพ ลูกค้าจริงๆไม่ซื้อใช้ มีแต่สมาชิกซื้อใช้เพื่อหวังรายได้
3. บังคับซื้อสินค้า
4. ได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการพาคนมาสมัคร

เรื่องนี้ เข้าใจง่ายมากสำหรับคนในเว็บนี้ แต่คนนอกเว็บที่ไม่เข้าใจธุรกิจ อาจจะยากซักหน่อย

ขอยกตัวอย่าง ว่า ถ้าพวกเราเปิดบริษัท แล้วมีสินค้าคือเครื่องสำอาง
เรามี 2 ทางเลือก คือขายผ่านระบบการค้าแบบปกติ คือ ไปโฆษณา แล้วก็จ้างเซลลมาขาย

อีกทาง คือไม่เน้นโฆษณา แล้ว ใช้สมาชิกที่ใช้แล้วดี บอกต่อเพื่อน และการบอกต่อเราต้องมีค่าบอกต่อ ซึ่งก็คือค่าคอมมิชชั่นนั่นเอง

.........................................................................................................

จบแล้ว มีแค่นี้แหละ

ส่วนเรื่องแชร์ลูกโซ่ที่เขาหลอกคนนั้น จริงๆ แล้วเวลาเขาจะหลอก ก็น่าจะปรึกษาคนที่รู้จริง หรือเข้าไปในเว็บ www.dsa.org ซึ่งเป็นสมาคมขายตรงโลก เขาจะมีวิธีดูบริษัทที่ไม่ดีครับ

แชร์ลูกโซ่ เป็นเรื่องธุรกิจหรือหลอกลวงคับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 01, 2005 6:48 am
โดย Jeng
ข้อที่น่าสังเกตุที่สุด คือ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทไหนก็ตาม ก่อนจะถูกหลอกเข้าไป ควรพิจารณา ว่า ถ้าไม่ทำธุรกิจ ไม่คิดถึงคอมมิชชั่นเดือนละ 1 ล้าน ที่บริษัทต่างๆเอามาหลอกล่อ ว่ามีคนนั้นได้ คนนี้ได้

สิ่งที่ต้องสังเกตุจริงๆคือ "สินค้านั้น มีลูกค้าที่ซื้อเป็นประจำ โดยไม่ได้ทำธุรกิจหรือไม่"

ผมเคยโดนหลอก ไปฟัง บริษัทแซฟไฟ ขายเพชร อืม พี่ชายผมทำเพชรอยู่บ้านหม้อ ก่อนฟัง ดันมายึดบัตรประชาชนผมไว้ ด้วยความเกรงใจ ( โกรธมากในใจ แต่เกรงใจเพื่อน ) ฟังเสร็จ เพื่อนก็พาไปซื้อเพชร ผมไม่ซื้อ และอธิบายให้เพื่อนฟังว่า ราคาแหวนวงนี้ น่าจะ 3000 บาท ทำไมขาย 12000 เพื่อนบอกว่า ก็จะมีคอมมิชชั่นให้เรา เท่านั้น เท่านี้ เราแนะนำ ไม่กี่คน เราก็จะได้เท่านั้นเท่านี้
ผมบอกว่า อย่างนี้ไม่มีลูกค้าจริงนะ ทุกคนซื้อเพราะหวังจะขายได้ มันคนละเรื่อง
สุดท้าย เขาก็พาไปดูสินค้าตัวอื่น เช่น ปากกามองบลัง ไฟแช็คดูปอง ด้วยความที่ผมเดินทางต่างประเทศบ่อยๆ ผมบอกว่า สินค้าเหล่านี้ตกรุ่น และราคาแพงไป
เพื่อนก็พยายามต่อ ผมเลิกอธิบาย แล้วขอลากลับ

ผ่านไป 3 ปี บริษัทนี้ก็ปิดตัวไป คนที่เข้าไปท้ายๆ ได้แต่ซื้อของ แล้วกะว่าจะไปพาคนอื่นมาเป็นเหยื่อรายต่อไป ก็ต้องเจ็บตัว เพราะได้สินค้า 3000 ในราคา 12000

ลองคิดดูเล่นๆ 9000 ที่เกินมา คูณซัก 10000 คน เป็นเงิน 90 ล้านบาทแล้ว

แชร์ลูกโซ่ เป็นเรื่องธุรกิจหรือหลอกลวงคับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 01, 2005 7:34 am
โดย SiriwatV
ถ้าเป็นแบบขายประกันคือธุรกิจ (เอาเงินไปลงทุนต่อได้ผลตอบแทนมากขึ้น)
ถ้าขายของราคาแพงคือหลอกลวงครับ (เงินเข้ากระเป๋าเจ้าของกับ Upline)

แชร์ลูกโซ่ เป็นเรื่องธุรกิจหรือหลอกลวงคับ

โพสต์แล้ว: อังคาร มี.ค. 01, 2005 5:41 pm
โดย Jeng

โค้ด: เลือกทั้งหมด

ถ้าขายของราคาแพงคือหลอกลวงครับ (เงินเข้ากระเป๋าเจ้าของกับ Upline)
เห็นด้วยครับ ถ้าขายชองราคาแพง คือ หลอกลวง

มีวิธีสังเกตุครับ ว่าของนั้นแพงจริงหรือไม่ คือ ถ้าของที่ว่าแพง แต่ขาย และมีลูกค้าจริง ผ่านกาลเวลา อาจจะไม่แพงอย่างที่คิดก็ได้นะครับ

เช่นรถเบนซ์ ซึ่งผมว่าแพงนะ ไม่น่าจะมีคนซื้อ สุดท้าย มีการเปลี่ยนแปลงค่าเงิน จาก 25 มาเป็น 40 ราคารถเบนซ์สูงขึ้นอย่างน่าใจหาย แต่ในที่สุด ก็มีคนออกเบนซ์ป้ายแดง คันละ 6 - 7 ล้านบาท มาขับเป็นว่าเล่น

ผมเองก็ได้แต่สรุปว่าการขายเบนซ์ราคาสูงแบบนั้นไม่ใช่การหลอกลวง แต่ผมทำใจซื้อไม่ได้จริงๆ

ส่วนสินค้าในระบบนี้ ถ้าผ่านกาลเวลา มานาน แล้วยังมีลูกค้าซื้ออย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าเราจะบอกว่าแพง แต่คนซื้อเขาคงรับได้ครับ

คงไม่คุยประเด็นนี้ต่อแล้ว เพราะเดี๋ยวจะเข้าข่ายถกเถียงกัน