Thai VI

ถ้าหุ้นที่ถืออยู่จะต้องประกาศแผนต่อไปนี้ เพื่อนๆ เลือกข้อไหนครับ (สมมติให้ราคาหุ้นปัจจุบันในกระดาน 10 บาท P/E=10 P/BV=2 พาร์ 5)

1. ปันผลเป็นหุ้นฟรี 10 หุ้นเดิม : 1 หุ้นปันผล
2. แจก Warrant ฟรี ที่ราคาใช้สิทธิ์ 8 บาท
3. แจก Warrant ฟรี ที่ราคาใช้สิทธิ์ 1 บาท
4. แตกพาร์จาก 5 เป็น 1
5. เพิ่มทุน 1 หุ้นเดิม : 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 1 บาท
6. เพิ่มทุน 1 หุ้นเดิม : 1 หุ้นใหม่ ที่ราคา 8 บาท
7. ขาย PP ที่ราคา 8 บาท

พร้อมเหตุผลครับ...

ข้อ 5 ครับ

ผมคิดว่า การเพิ่มทุนในลักษณะนี้ แปลว่าบริษัทมีความต้องการใช้เงินแน่นอน และคงมีแผนการรองรับไว้แล้ว และราคาเพิ่มทุนที่ต่ำทำให้ไม่เป็นภาระมากในการรักษาสัดส่วนครับ

ในบางกรณีถ้าพันธมิตรที่จะร่วมทุนแบบข้อ 7 สามารถทำประโยชน์ให้ได้มากในอนาคตก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน

ข้อ 1-3 ค้านเด็ดขาด

อ้าว ไม่เห็นข้อสี่ งั้นเปลี่ยนใจครับ ข้อสี่ดีสุด ไม่มี ไดลูท ไม่กวนเงินผมด้วย

จะเลือกข้อไหน คงต้องดูเหตุผลของบริษัทนะครับ

แต่ข้อ 1 และ 4 แถบไม่มีเหตุผลอะไรเลยครับ การจ่ายปันผลเป็นหุ้นและการแตกพาร์ ไม่ได้ส่งผลอะไรต่อการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัทเลย เหตุผลส่วนใหญ่คงเป็นการสร้างข่าวเพื่อไล่ราคาหุ้นนะครับ ซึ่งผมคงไม่ชอบผู้บริหารที่คิดลักษณะนี้

ส่วนระหว่างการแจก Warrant กับการเพิ่มทุน คงต้องพิจารณาช่วงระยะเวลาในการใช้เงินของบริษัทนะครับ แต่ถ้าการออก Warrant ไม่มีเหตุผลในการใช้เงินลงทุน (ซึ่งก็เป็นส่วนใหญ่) เป็นเพียงแต่ปั่นราคาหุ้น ผมก็ขอตัว ไม่ยุ่งเกี่ยวละครับ

การขายหุ้นละ 1 บาท หรือ 8 บาท ก็คงขึ้นอยุ่กับจำนวนเงินที่ต้องใช้ เพิ่มทุน 1 ต่อ 1 เท่ากัน แต่ราคาต่างกันตั้ง 8 เท่า เงินเพิ่มทุนที่บริษัทได้รับก็ต่างกันตั้ง 8 เท่า

ข้อ 6 ครับ

ผมไม่ชอบการเพิ่มทุนที่ราคาใช้สิทธิตำกว่าราคาตลาดมากๆ แต่ก็ต้องดูละเอียดๆอีกครั้งว่าราคาหุ้นเวลาประเมินโดยใช้วิธีอื่นๆแล้วแพงหรือไม่ครับ เหตุผลที่ไม่เลือกวอแรนต์เพราะไม่เข้าใจว่าจะทำไปทำไม ถ้าต้องการใช้เงินก็เพิ่มไปเลย ไม่ต้องรอและควรจะให้สิทธิกับผู้ถือหุ้นเดิมก่อน ไม่ใช่ pp ครับ

เอาข้อ 1 ครับ ..
มูลค่าหุ้นยังไม่เปลี่ยน ...
แต่ผมได้กำไรจากเครดิตเงินปันผล

ตอบไม่เหมือนกันเลยแฮะ เดี๋ยวรอคนเข้ามาตอบเพิ่ม

ข้อ 6 ครับ เหตุผลคล้ายๆคุณ Blueblood

ผมชอบ ข้อ 4 ครับ ไม่กระทบกับผม ไม่เปลืองเงินผู้ถือหุ้น

ได้ถือหุ้นมากขึ้นอีก 5 เท่า ดูดีเชียว ไว้โม้กะเพื่อนๆ เช่น ฮ่าอ่า ข้าถือตัวนี้ 1 ล้านหุ้น เลยนะจะบอกให้ :lol: :lol: :lol:

8) แถมมีโอกาสได้ capital gain ครับ

ข้อ 4 ครับ

4 เช่นกันครับ
ผมมีแต่ประสบการณ์แย่ ๆ กับหุ้นที่เพิ่มทุน
(อาจจะประสบการณ์น้อยไปหน่อย แต่โดนเข้าไปสองตัว จุกครับ )

ซื้อหุ้นปันผล เขาเลยปันผลเป็นหุ้น
2ปีก่อนรับมาเยอะเลย ตั้งแต่ FE TIC BKI
หุหุ ปีนี้ NKI ดีไม่ดียังไม่ได้คิดเลย
รู้แต่ว่า...กำไรถูกเฉลี่ยกันออกไปตามจำนวนหุ้น

ชักสงสัยแล้วสิว่า การใช้เครื่องมือการเงินในรูปแบบต่างๆ ที่ผมยกเป็นทางเลือกนี้ มันเป็นวิทยาศาสตร์ หรือ ไสยศาสตร์ กันแน่ ??

ถ้าเป็นวิทยาศาสตร์ ทำไมเพื่อนๆ พี่ๆ ถึงมองกันไปคนละมุมสุดโต่งกันขนาดนี้ นี่ขนาดบอร์ด VI นะ งงจริงๆ ก็ถ้ามันเป็นหลักการ เป็นวิทยาศาสตร์ มันควรอธิบายด้วยเหตุด้วยผลได้ และควรจะมีคำตอบที่ดีที่สุด ที่ทำให้นักการเงิน นักลงทุน เห็นเป็นอย่างเดียวกันได้

ผมว่า "แก๊ก"นี้ คุณ Mon เอาไปขยายความต่อได้นะครับ

ผมเลือกข้อ4 เพราะไม่มีผลกระทบต่อ มูลค่าของบริษัท แต่... ราคาอาจวิ่งจนกระทั่งเจ้าของและผู้มีหุ้น รวยได้ง่ายๆ

ผมว่ามันเป็น วิทยาศาสตร์ ครับ แต่ต้องมีตัวแปร อื่น ประกอบ

ข้อ แรก ไม่มีคนเห็นด้วยเท่าไหร่ ยกเว้นคุณ โย เรื่องประโยชน์จากเครดิตปันผล ซึ่งผมไม่ได้คิดถึง

วอร์ นี่คนรังเกียจเยอะนะครับ แต่ผมว่าถ้าน้อยๆ แล้วแจกแบบ อีสป กับอุตสาหกรรม ที่พึ่ง คน มากๆ ก็ไม่น่าเกลียดนัก เช่น อุตสาหกรรมซอฟแวร์

แตกพาร์ ผมว่าถ้าทำให้ราคา อยู่แถวๆ 2 หลักจะเหมาะสมครับ แต่ถ้าแตกจนเหลือราคา 3 ตัวสิบ หรือต่ำกว่านี่ อย่าทำเลย ปั่นกันเห็นๆ

เพิ่มทุน สำหรับมีโครงการแน่นอน แต่ตังค์ไม่มี นี่ ok ครับ ผมเลือกบาทนึ่ง เพราะตัวน้อย แต่จริงๆ ราคาเพิ่มก็คงต้องตามที บ อยากใช้เงิน

PP นี่น่าจะเหมาะสมในการหาพันธมิตรที่ทำให้ เติบโตได้อย่างยั่งยืน คงหายากหน่อย แต่ถ้าได้พันธมิตรเก่งๆ ผมว่าคุ้มนะ

ข้อ 4 ครับ

อยากให้แตกพาร์ครับ จะได้ซื้อเพิ่มง่ายขึ้น

แต่ถ้ามีพวกแจกวอ เพิ่มทุน

ถ้ามีไอเดียการลงทุนที่ดี ก็น่าสนับสนุนครับ