Thai VI

คือผมมีตึกแถวให้เช่า มาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ไม่เคยจ่ายภาษีโรงเรือน และไม่เคยได้รับใบแจ้งประเมิณจากสำนักงานเขต

คนรู้จักทางสำนักงานเขต แต่ไม่ค่อยสนิทกัน แนะนำให้ไปเสียเพราะอาจจะโดนการเก็บย้อนหลังหากไม่ไปเสีย

คืออยากสอบถามท่านผู้รู้ทางกฎหมาย เขาสามารถเรียกย้อนหลังได้หรือครับ ในเมื่อผมยังไม่เคยนำเข้าระบบ และไม่มีใบแจ้งจากสำนักงานเขต????

ได้ครับ

ลองหาหนังสือเกี่ยวกับภาษีอากร มาอ่านสิครับ

เรียกย้อนหลังได้ และปรับได้
หากไม่ยอมจ่ายถ้าทางเขต เอาเรื่องจริงๆเขามีฝ่ายนิติกรรม

หรือปล่อยไปเรื่อยๆ หากมีการโอนจะเรียกเก็บตอนโอนถ้าไม่จ่ายก็โอนไม่ได้

ถามต่อ ถ้าเป็นบ้านพักอาศัยต้องเสียภาษีโรงเรือนหรือเปล่า
แล้วก็ถ้า เอาที่บ้านทำออฟฟิสด้วย แต่ไม่ได้มีค่าเช่า ต้องเสียภาษีหรือเปล่าคับ

ขอบคุณครับ

White shadoW เขียน:ถามต่อ ถ้าเป็นบ้านพักอาศัยต้องเสียภาษีโรงเรือนหรือเปล่า
แล้วก็ถ้า เอาที่บ้านทำออฟฟิสด้วย แต่ไม่ได้มีค่าเช่า ต้องเสียภาษีหรือเปล่าคับ

ปกติบ้านพักอาศัยได้รับการยกเว้น
จะเสียเมื่อเป็นบ้านให้เช่าทำการค้า

ถ้าที่บ้านทำออฟฟิส ถ้ามีป้ายต้องเสียภาษีป้าย
ค้าขายคือต้องเปิดเป็นร้านค้า

อย่างที่บอก หาหนังสือมาอ่าน หรือไปเคลียร์กับเจ้าหน้าที่สรรพากร เอาระดับที่ตอบได้ และถูกต้องนะครับ จะได้ไม่พลาด แสดงความบริสุทธิ์ใจ จะได้ไม่มีปัญหา

ดีกว่า มารู้ทีหลัง แล้วโดนปรับอานเลย จะแย่นะครับ

ปกติการมีตึกแถวให้เช่า เขาจะคิดอัตราค่าเช่าคับ
ในสัดส่วน1.5 เท่าของค่าเช่า
เช่น ค่าเช่า2000 บาทต่อเดือน ปีหนึ่งก็เสีย3000 บาท
ถ้าเท่าไม่ครบปี ก็หารด้วยเดือน แล้วปัดขึ้น
ส่วนใหญ่ในสัญญาเช่ามักยกภาระนี้ให้กับผู้เช่าตึกเป็นผู้เสียเอง
แต่กรณีที่ลืม ด้วยเหตุอันใด ติดต่อเจ้าหน้าที่ทางเขตจะดีที่สุดคับ
แต่ปี49 เห็นว่าจะยกเลิก การใช้ ภาษีโรงเรือน ไปใช้ภาษีบำรุงท้องที่
แทน ไม่ว่า จะทำเพื่อการค้า หรือ อยู่อาศัยโดย อัตราเดียวกันหมด หรือไงนี่
แหละคับ แต่ลองถามเจ้าหน้าที่ก็ไม่มีใครรู้เรื่องกันเพราะยังไม่ประกาศใช้

ถ้าเข้าไปหาเขา ก็ไม่น่าจะมีผลย้อนหลังอะไร แต่ถ้าให้เขามาตรวจเจอเองอันนี้น่าจะโดน

อยู่ต่างจังหวัด ก็ไปติดต่อเทศบาลครับ ทั้งนี้ก็ลองคุยกับเจ้าหน้าทีดูล่ะกันครับ (เพื่อตกลงอะไรบางอย่าง)

ภาษีโรงเรือนเป็นภาษีที่ค่อนข้างจะสับสน เข้าใจยาก........บุคคล ได้รับสิทธิเป็นเจ้าของบ้าน แต่ต้องมีเนื้อที่ไม่เกิน 100 ตารางวา ไม่เสียภาษีโรงเรือนไม่เสียภาษีที่ดิน แต่ถ้าเกิน 100 ตารางวา ต้องไปเสียภาษีที่ดิน ด้วย

ตึกแถว ผมเป็นของ นิติบุคคล(ชื่อบริษัทฯเป็นเจ้าของ) เขายังมาประเมินว่า ต้องเสียภาษีโรงเรือนเลยครับ มีการตรวจสอบว่า เนื้อที่เท่าไหร่ กี่ชั้น ใช้เป็นห้องเก็บสินค้า ใช้เป็นสำนักงาน (ไม่รู้เขาคิดอย่างไร) สรุปมาให้เสร็จมาเสียภาษีปีละเท่าไหร่เลย.....แรก ๆ ผมคิดว่า ชื่อบริษัทฯ แล้ว ก็ไม่ต้องเสียภาษีโรงเรือนนี้ (ชื่อบุคคลยังยกเว้นให้) แต่ความเป็นจริงต้องเสียภาษีโรงเรือนด้วย

ผมว่า มัน น่าจะยกเลิก เสียเป็นภาษีทรัยพ์สินไปเลยก็หมดเรื่อง เพราะ ที่ดินหรือตึกก็มีโฉนดกันส่วนใหญ่แล้ว ก็ มาคำนวณค่า แล้ว เก็บเป็นภาษีไปเลย ปีละครั้ง สำหรับให้ เขต ต่าง ๆ ไว้ บำรุงรักษาในเขต ของตนเอง

แต่เรื่องยกเลิกภาษีโรงเรือน ไป เพื่อเก็บภาษีท้องที่เพียงอย่างเดียวผมว่าดีนะ
เพราะคนทำกิจการจะเสียภาษีตรงนี้น้อยลง แต่คนที่อยู่อาศัยอาจจุกจิกบ้างที่
ไม่เคยเสีย ต้องมาเสีย แต่ไม่ไช่เงินมากนักจนเกินฐานนะ เพียงแต่เจ้าหน้าที่
คงเหนื่อยมากขึ้นเพราะจำนวนคนมากเสียหรือตามเสียภาษี มากขึ้นเป็น3-4 เท่า
ตัวของเดิม ผมว่าดี นะใหม่ใหม่อาจมีคนไม่เข้าใจและค้านว่าไม่ดี เป็นเรื่องปกติ
เพราะเป็นสิ่งแปลกใหม่คนเดิม เดิม เคยชินเขาย่อมไม่ยอมกัน แต่ประชามติ
ออกมาผมว่าน่าจะผ่านนะ

ลุงขวด เขียน:ภาษีโรงเรือนเป็นภาษีที่ค่อนข้างจะสับสน เข้าใจยาก........บุคคล ได้รับสิทธิเป็นเจ้าของบ้าน แต่ต้องมีเนื้อที่ไม่เกิน 100 ตารางวา ไม่เสียภาษีโรงเรือนไม่เสียภาษีที่ดิน แต่ถ้าเกิน 100 ตารางวา ต้องไปเสียภาษีที่ดิน ด้วย

ตึกแถว ผมเป็นของ นิติบุคคล(ชื่อบริษัทฯเป็นเจ้าของ) เขายังมาประเมินว่า ต้องเสียภาษีโรงเรือนเลยครับ มีการตรวจสอบว่า เนื้อที่เท่าไหร่ กี่ชั้น ใช้เป็นห้องเก็บสินค้า ใช้เป็นสำนักงาน (ไม่รู้เขาคิดอย่างไร) สรุปมาให้เสร็จมาเสียภาษีปีละเท่าไหร่เลย.....แรก ๆ ผมคิดว่า ชื่อบริษัทฯ แล้ว ก็ไม่ต้องเสียภาษีโรงเรือนนี้ (ชื่อบุคคลยังยกเว้นให้) แต่ความเป็นจริงต้องเสียภาษีโรงเรือนด้วย

ผมว่า มัน น่าจะยกเลิก เสียเป็นภาษีทรัยพ์สินไปเลยก็หมดเรื่อง เพราะ ที่ดินหรือตึกก็มีโฉนดกันส่วนใหญ่แล้ว ก็ มาคำนวณค่า แล้ว เก็บเป็นภาษีไปเลย ปีละครั้ง สำหรับให้ เขต ต่าง ๆ ไว้ บำรุงรักษาในเขต ของตนเอง

ไม่ทันไรก็มีเรื่องออกมาให้อ่านกันแล้วครับ
หน้าแรกธุรกิจ-การตลาดหนังสือพิมพ์ post today

ถ้าหลักเกณฑ์ประเมินดีก็น่าสนใจครับ แต่กลุ่มอสังหา หลายๆตัวที่ทำตัวเป็นแลนด์ลอร์ด เก็บพื้นที่รอการพัฒนาไว้เยอะๆ อาจจะกระทบนะ

สรุปไปเสียมาแล้วครับ

ได้ความรู้มาคือ ภาษีโรงเรือนประเมิณที่อัตราร้อยละ 12.5 โดยคิดค่ารายได้ทั้งปีที่สามารถเก็บได้ (สำหรับค่าเช่า)

แต่จะมี factor ที่ต้องเสียแตกต่างกัน เช่น เรื่องของสภาพของสิ่งปลูกสร้าง อาคาร หอพัก หรือ บ้านอยู่อาศัย โดยหากไม่พอใจที่หน่วยงานรัฐเรียกเก็บ สามารถยื่นอุธรณ์ให้คิดคำนวนให้ใหม่ได้ (แต่ความเป็นจริงไม่สามารถทำได้ เช่น บ้านที่อยู่ใกล้เคียงกันได้เสียภาษีในอัตรานี้ไปแล้ว)

เห็นด้วยอย่างยิ่งที่ควรยกเลิกไปเลย เพราะดูแล้วเป็นการเก็บภาษีซ้ำซ้อน กับภาษีรายได้ (สำหรับผู้ที่ไม่ได้ให้เช่าจะเสียน้อยกว่า ไม่ใช่ในอัตราดังเกล่าว)

เช่น คุณมีอาคารพาณิชย์หลังหนึ่ง ให้เช่า เดือนละ 20,000 รายได้ทั้งปี 240,000 บาท ต้องถูกประเมิณโรงเรือนโดยคร่าวๆ เป็นเงิน 0.125*240000= 30,000 บาท/ปี
และคุณยังจะต้องนำรายได้ส่วนนี้ไปคิด ภาษีรายได้อีก

ใครทำหอพักโดนแน่นอน เวลามาประเมิณทำการนับจำนวนห้อง ประมาณรายได้ที่จะได้/ปี คิดดูมันมั่วและซ้ำซ้อนไหม ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนำอัตราร้อยล่ะ 12.5 มาคิดในลักษณะการให้เช่าโดยมาลงเป็นภาษีโรงเรือน

ไม่รู้ว่าโรงงานที่ให้เช่า คิดแบบนี้ด้วยหรือเปล่า
แล้วหุ้น TICON ต้องเสียในอัตรา 12.50 ลงเป็นภาษีโรงเรือน โดยคิดแยกไม่เกี่ยวข้องกับภาษีรายได้

ถ้าเป็นเช่นนี้ ธุรกิจให้เช่า ดูไม่สดใสครับ

(หงุดหงิดจริงๆกับภาษีโรงเรือน)

ภาษีโรงเรือนส่วนใหญ่ผู้ให้เช่ามัก ให้ผู้เช่าเป็นผู้เสีย เพราะเป็นคนทำกิจการ

ที่เห็นชัดก็คือห้างสรรพสินค้าทุกแห่งจะให้ผู้เช่าร้านค้าเป็นผู้เสียภาษีโรงเรือน
กันแถว แหม อดไม่ได้ความจริง ผู้ให้เช่าน่าจะเสียนะเนี่ย

ภาษีโรงเรือนเป็นภาษีที่ไม่น่าเก็บที่สุดครับ

ไม่มีความยุติธรรม กฎหมายมีช่องว่างให้ขึ้นกับดุลยพินิจ ของผู้ประเมินได้ด้วย

ทำให้เกิดช่องทุจริตคอร์รัปชั่นครับ ผมเจอมากับตัวแล้ว

อีกทั้งยังซ้ำซ้อนกับภาษีรายได้อีก เสียแล้วเสียอีก กำไรมาแทบไม่เหลือเลยครับ

ใช่ครับส่วนใหญ่ผู้ให้เช่าจะผลักภาระให้ผู้เช่ารับไว้ (แต่สำหรับคนรู้ไม่เท่าทันแบบผม โดนเก็บย้อนหลัง+เบี้ยปรับ+เบี้ยเพิ่ม หงุดหงิดสุดๆ) แต่ตามกฎหมายระบุไว้เจ้าของเป็นผู้ชำระรับไว้ทั้งหมด

แล้วเคราะห์กรรมก็ไปอยู่กับพวกรากหญ้า แต่ทำไมต้องเลือกเก็บคนล่ะวิธีด้วยล่ะไม่เข้าใจ กรณีบ้านพักอาศัยเก็บอีกอัตราหนึ่ง , ที่พักให้เช่าก็เก็บแพงกว่าอีกอัตราหนึ่ง เพราะอะไร ในเมื่อเราก็เสียภาษีรายได้จากการให้เช่าอยู่แล้ว เงินลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ก็ไม่ใช่น้อยๆ ทำเงินได้เท่าไหร่ก็ส่งให้รัฐหมด คนเช่าอยู่ไม่ได้ ผู้ให้เช่าก็อยู่ไม่ได้

อย่างคุณ pa_chit ว่า ไม่รู้ประเมินกันแบบไหน (ยิ่งพวกออกใบเสร็จ ยิ่งหลบเรื่องรายได้ไม่ได้) มีกฎหมายให้อุธรณ์ แต่ในความเป็นจริงกลับทำไม่ได้

ใครทำธุรกิจให้เช่าอยู่ ไม่ว่าเป็นหอพัก ตึกแถว ระวังไว้ให้ดี การที่เขาไม่มาเก็บท่าน สะสมไว้หลายปี (หากเกิน 10 ปี ก็นั่งยิ้มได้) เวลามารวบยอดท่านหมดเงินเป็นหน้าตักเลยนะ จะบอกให้ :lol:

ส่วนใหญ่ อัตราดอกเบี้ยปรับจะคิดได้เพียง4 หรือ5 ปีนะถ้าผมจำไม่ผิด
เกินกว่านั้น คือยกประโยชน์ให้ไป แต่การมีอัตราภาษีที่แน่นอนผมว่าดีกว่า
ไม่มีนะ เพราะทำให้อัตราการเสียแน่นอนไม่ผิดแปลก ในแต่ละพื้นที่เพียงแต่
ท้องถิ่นที่มีพื้นที่มากอาจได้เปรียบจากการจัดเก็บเท่านั้นเอง