เผยนิสัยเศรษฐินีมะกันตัวจริง
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ก.พ. 24, 2005 2:14 pm
นายโทมัส เจ. สแตนเลย์ นักประพันธ์ชาวอเมริกันเจ้าของผลงานล่าสุดเรื่อง "เดอะ มิลเลียนแนร์ วูแมน เน็กซ์ ดอร์ : เดอะ แมนี จูร์เนย์ ออฟ ซัคเซสฟูล อเมริกัน บิวสิเนสวูแมน" ที่ขายดีติดอันดับถึงกว่า 2.5 ล้านเล่ม จนสำนักพิมพ์แอนดริวส์ แม็คมีล พับลิชชิ่ง ต้องตีพิมพ์ซ้ำ 300,000 เล่ม ด้วยเนื้อหาที่สาธารณชนสนใจใคร่รู้จากการบอกเล่าถึง ลักษณนิสัยของบรรดาเศรษฐินีเงินล้านด้วยลำแข้ง หลังนายสแตนเลย์ศึกษาค้นคว้าด้วยการ พูดคุย สัมภาษณ์กับผู้หญิงชาวอเมริกันที่ประสบ ความสำเร็จและร่ำรวยได้ด้วยตัวเองถึง 1,165 คน เมื่อปี 2539
จากข้อสรุปโดยรวม ผู้หญิงกลุ่มนี้จะมีอายุเฉลี่ย 49 ปี แต่งงานมีลูกแล้ว เวลาตื่นนอน 05.58 น. มีเพียง 1 ต่อ 20 คนเท่านั้น ที่ลุกจากเตียงหลัง 07.25 น. พวกเขาจะใช้เวลานอน 7 ชม.ครึ่ง ทำงานสัปดาห์ละ 49 ชม. 18 นาที ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ชม.ครึ่ง หารายได้เข้าบ้านเป็นส่วนใหญ่ 71% มีเงินล้านด้วยการทำงานไม่ใช่เป็นทายาท รับมรดกตกทอดของตระกูล จากจำนวนทั้งหมดเพิ่งผ่านการหย่าร้าง 18% เป็นเจ้าของบ้าน 98% และส่วนใหญ่ก็จะหาซื้อบ้านที่ถูกธนาคารยึด ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่อวดมั่งมี หารถมือสองขับ เสื้อผ้าก็เย็บปะชุนเองมากกว่าจะซื้อของใหม่ เก็บคูปองส่วนลดตามร้านค้า พยายามเลี่ยงการเป็นหนี้และไม่พกบัตรเครดิต เลือกใช้ของราคาถูกมากกว่าข้าวของราคาแพง เป็นคนมัธยัสถ์ และที่น่าสังเกตคือเศรษฐินีเหล่านี้จะหักรายได้ประจำปีออกเกือบ 7% เพื่อนำเงินเข้าการกุศล ซึ่งมากกว่าครอบครัวชาวอเมริกันทั่วไปถึง 3 เท่า ที่เจียดเงินบริจาค 2% อีกทั้งมีความโอบอ้อมอารี, ประหยัดและทำงานหนักกว่าเศรษฐีในระดับตำแหน่งเดียวกัน.
----------
ข้อมูลจาก http://www.thairath.co.th/thairath1/254 ... 6/str3.php
จากข้อสรุปโดยรวม ผู้หญิงกลุ่มนี้จะมีอายุเฉลี่ย 49 ปี แต่งงานมีลูกแล้ว เวลาตื่นนอน 05.58 น. มีเพียง 1 ต่อ 20 คนเท่านั้น ที่ลุกจากเตียงหลัง 07.25 น. พวกเขาจะใช้เวลานอน 7 ชม.ครึ่ง ทำงานสัปดาห์ละ 49 ชม. 18 นาที ออกกำลังกายสัปดาห์ละ 3 ชม.ครึ่ง หารายได้เข้าบ้านเป็นส่วนใหญ่ 71% มีเงินล้านด้วยการทำงานไม่ใช่เป็นทายาท รับมรดกตกทอดของตระกูล จากจำนวนทั้งหมดเพิ่งผ่านการหย่าร้าง 18% เป็นเจ้าของบ้าน 98% และส่วนใหญ่ก็จะหาซื้อบ้านที่ถูกธนาคารยึด ใช้ชีวิตเรียบง่ายไม่อวดมั่งมี หารถมือสองขับ เสื้อผ้าก็เย็บปะชุนเองมากกว่าจะซื้อของใหม่ เก็บคูปองส่วนลดตามร้านค้า พยายามเลี่ยงการเป็นหนี้และไม่พกบัตรเครดิต เลือกใช้ของราคาถูกมากกว่าข้าวของราคาแพง เป็นคนมัธยัสถ์ และที่น่าสังเกตคือเศรษฐินีเหล่านี้จะหักรายได้ประจำปีออกเกือบ 7% เพื่อนำเงินเข้าการกุศล ซึ่งมากกว่าครอบครัวชาวอเมริกันทั่วไปถึง 3 เท่า ที่เจียดเงินบริจาค 2% อีกทั้งมีความโอบอ้อมอารี, ประหยัดและทำงานหนักกว่าเศรษฐีในระดับตำแหน่งเดียวกัน.
----------
ข้อมูลจาก http://www.thairath.co.th/thairath1/254 ... 6/str3.php