Thai VI

แต่ก่อนผมเดินซุปเปอร์โลตัส ก็เห็นสินค้ายีห้อเทสโก้บ้าง ประปราย ส่วนใหญ่ ก็เป็นจำพวก สบู่เหลว ยาสระผม และพวกของใช้ส่วนตัวอื่นๆ

ไม่นึกว่ามาพักหลังๆ จะได้เห็นบ่อยขึ้นๆ เรียกได้ว่า เจอวางไว้เกือบครบทุกชั้นเลย มีตั้งแต่ พวกปลากระป๋อง ซอสมะเขือเทศ น้ำมันพืช บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไส้กรอกยังมีเลย สินค้าส่วนใหญ่ราคาขายก็จะถูกกว่าแบรนด์ที่เราซื้อๆ กันเป็นประจำ

เห็นแล้วก็สงสัยว่าตลาดของสินค้าพวกนี้ กำลังขยายตัว จนเป็นคู่แข่งสำคัญกับบริษัทผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคของไทยเราหรือเปล่า ทำไมเขาถึงสามารถขยายประเภทของสินค้าได้เร็วมาก อยากให้วิเคราะห์กันครับ

ไม่เคยหยิบขึ้นมาดูเลย ^^

ใช่เยอะมาก แต่ผมว่ายังเป็นส่วนน้อย ที่ดูแต่ราคาอย่างเดียว

แต่เท่าที่อ่าน เค้าก็จ้างบริษัทดีๆผลิตให้นะครับ

ผมคิดเรื่องนี้มานานแล้วครับ เคยลองสังเกตุแล้วด้วย

สินค้าที่แยกความแตกต่างระหว่างแบรนด์ไม่ออก เสร็จเขาละครับ

เอาสินค้าคุณมาวางขาย เขาไปจ้างคนอื่นผลิต แล้วมาวางขายข้างๆคุณอีก หนำซ้ำตัดราคาคุณอีก

เคยสังเกตุ หลายครั้ง คนที่หยิบสินค้า Tesco ขึ้นมาดู แล้วก็ตัดสินใจซื้อเพราะมันถูกกว่าจริง(แต่เชื่อว่ายังมีส่วนน้อย แต่ถ้าเป็นคนรายได้น้อยล่ะ คิดว่าเขาจะซื้อมั๊ยครับ) แถมเค้ามีสโลแกนติดไว้ให้เราเห็นบ่อยๆ อีก "จ่ายแพงกว่าทำไม" ประมาณคอยเตือนคนซื้อน่ะครับ

เท่าที่สังเกตุดู เค้าจะเลือกผลิตสินค้าที่ ไม่ค่อยมี Brand Loyalty ครับ

ผมว่าไม่แน่ นานไปบริษัทที่เอาของไปวางขาย อาจจะต้องเจอปัญหาก็ได้ครับ

บางทีผมเองก็ซื้อเหมือนกันครับสินค้าพวกนี้ถูกดีจริงๆ
อย่างที่เมืองนอกเองเค้าก็มีกันเยอะเหมือนกัน
แต่สำหรับสินค้าที่มีแบรนผมว่าไม่น่าจะมีปัญหาเท่าไหร่
อย่างที่ tesco ผมเห็น tesco cola คงยากที่จะมีผลกับ pepsi
ปกติที่ผมซื้อของพวกนี้บ่อยๆก็คงเป็นพวก wrap ห่ออาหาร แก้วกระดาษจานกระดาษ
ของที่ไม่จำเป็นต้องมีแบรน

สินค้าที่ "ไม่มีความแตกต่าง" เสร็จแน่ๆ
เพราะเขาเอง ไม่มีค่า "กินเปล่า" ในการนำสินค้าต่างๆ ไปวาง (ในห้างของตัวเอง)
ในขณะที่คนอื่น ต้องจ่ายตรงนั้น (ไม่รู้ว่าแค่ครั้งแรกหรือเปล่า)

เคยได้ยิน เมื่อไม่นานมานี้ว่า บริษัทที่ผลิตของอุปโภคบริโภคต่างๆ ในอเมริกา กำลัง
รวมหัว (รวมตัว) กันต่อสู้กับห้างขายสินค้าต่างๆ เพราะว่าโดนกดราคาซื้อสินค้าเข้าไป
ขายในห้าง ผมเคยพูดเรื่องนี้กับเพื่อนๆ มานานแล้ว ว่าเป็นเรื่องไม่สมเหตุผล เพราะคน
ที่ทำสินค้านั้นมีต้นทุน ต้องวิจัยต่างๆ นาๆ กว่าจะได้ของออกมาขาย แต่คนที่เปิดห้าง
มีความเสี่ยงต่ำกว่ามาก สักวันหนึ่ง คนขายก็คงไปพยายามขายกันเอง แค่ไม่ยอมส่ง
ของไปขายที่ห้างต่างๆ ก็ตายกันแล้ว (คือผู้ผลิตสินค้า สามารถรวมกันเปิดห้างเองได้
เพราะตัวเองเป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ แต่ว่าเจ้าของห้าง ทำอย่างนั้นไม่ได้ เพราะไม่ได้
ผลิตอะไร)

ถึงคราวบ้านเรา อาจจะพยายามสร้างแบรนด์ หรือผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เผื่อว่าถูก
ผู้ผลิตต่อสู้ด้วยการไม่ยอมเอาของมาวางในห้าง จะได้มีทางออก

หมายเหตุ
ทั้งหมดนี้ผมคิดเรื่อยเปื่อยนะครับ อาจจะจริง ไม่จริง ระแวง คาดหวัง หรือด้วยความรู้สึก
ส่วนตัว ขอให้ผู้อ่าน พิจารณาเอาเองครับ แต่ที่แน่ๆ ยังไม่ได้เกี่ยวกับหุ้นใดๆ

พ่อค้าคนกลางดีๆนี่เอง

นอกจากโลตัสแล้ว ที่ซุปเปอร์มาร์ทใหญ่ๆอื่นๆก็มีค่ะ (อย่างบิ๊กซี)

เห็นเยอะจริงๆ วางขายคู่กับเจ้าเก่านั่นแหละ

ทั้งของใช้ (แป้ง,สบู่,ครีมอาบน้ำ,ยาสระผม ฯลฯ)

และของกิน(พวกน้ำดำ หรือแม้กระทั่งขนมก๊อบแก๊บ)

โดยตัดราคาลงไปอีกแค่ไม่กี่บาทเอง

คงจับจุดอ่อนของบรรดาแม่บ้านที่มาช๊อปที่นี่โดยเน้นเรื่องราคาเป็นหลัก

คือแบบว่าไหนๆก็มาเพราะเชื่อว่าที่นี่ถูกกว่าที่อื่นแล้ว

จะเลือกอันที่ถูกที่สุดไปลองก็คงไม่เสียหาย

เกือบเผลอตัวเผลอใจไปหยิบมาลองก็หลายหนค่ะ

ว่าว่างๆจะลองใช้ดูสักหน่อย ผลเป็นยังไง เดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังกันค่ะ..หึๆๆ

ผมก็ใช้ครับ คุณภาพหลายอย่างดีมากเลยครับ แล้วถูกด้วย
ที่ชอบสุดจะเป็นข้าวกล้อง 5 โล 60 บาทเอง

ตกลงว่ามันเป็นสินค้าที่จ้างผลิตอีกทีใช่ไหมครับ

ผมก็สงสัยมาแต่แรกแล้วว่าทำไม ถึงมีสินค้าหลายประเภท มันจะขยายได้เร็วขนาดนั้นเลยหรือ

น่าแปลกว่าทำไมบริษัทพวกนี้ถึงไม่ทำยี่ห้อตัวเอง หรือว่า มียี่ห้อตัวเองอยู่แล้ว แต่รับผลิตยี่ห้อ TESCO ในอีกเกรดนึง

มีผู้ผลิตจำนวนนึงครับ ที่รับผลิตสินค้าให้กับห้างต่างๆอย่างเดียว อาจจะด้วยไม่มีความชำนาญทางด้านการตลาด หรือด้วยเหตุผลอื่นๆ

สำหรับในมุมมองของด้านห้างผู้ขาย สินค้าพวกนี้น่าจะทำกำไรได้ดีกว่า เพราะตัดค่าการตลาดออกไปได้พอสมควร แล้วยังเป็นเครื่องมือในการต่อรองกับผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ดังๆอีกด้วย

น่าจะมีเหตุผลอื่่นๆอีก ช่วยกันนึกครับ

ถามกลับกัน ถ้าคุณเป็นบริษัทที่มีสินค้าเป็นของตัวเอง แต่เป็นอันดับสองหรือสามในตลาด เกิดมีคนมาติดต่อให้ผลิต House Brand เช่น Tesco ให้ ท่านจะรับหรือเปล่า

อีกเหตุผล
ต้องการลดค่าใช้จ่าย ค่าระวางของ ที่ใช้โชว์บนหิ้งครับ

พ่อค้าคนกลางมีแต่ได้กับได้ครับ

จากคำถามของคุณ White shadoW

มีนะครับ ผู้ผลิตที่สู้กับแบรนด์ฺผู้นำตลาดไม่ไหว อาจจะเป็นแค่อันดับสี่ อันดับห้าหรือต่ำกว่า เลยหันมารับผลิตสินค้าให้กับห้างต่างๆเหล่านี้แทน

ที่คุณ pa_chit พูดถึง brand royalty ก็จริงครับที่สินค้าที่ทำ house brand ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าซึ่งผู้บริโภคไม่ยึดติดกับ brand มากนัก ด้วยคุณภาพที่ใกล้เคียงกัน ราคาถูกกว่านิดหน่อยก็ขายได้แล้ว

แต่ในทางกลับกัน ถ้าเกิดสินค้า house brand พวกนี้ติดตลาดเป็นที่นิยมขึ้นมา ทีนี้ก็สบายกับห้างเจ้าของ brand ทันที เพราะลูกค้าไปหาซื้อที่อื่นไม่ได้ครับ

เขามีสิทธิ์ทำได้ตามกฎหมาย
เป็นกลยุทธ์อย่างหนึ่ง

บริษัทรับจ้างผลิตก็มีรายได้
ถ้าเขามีสินค้าเป็นคู่แข่งเอง
เขาก็คงผลิตให้ tesco ด้วยคุณภาพที่ต่ำกว่าอะครับ

ยุคของทุนนิยมเป็นใหญ่ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
แต่เราเลือกทางนี้กันเองหรือเปล่าครับ

ต้องดูที่ผู้ผลิตข้างฉลากครับ

ผมเคยดูน้ำยาล้างจาน ปรากฎว่ายี่ห้อซุปเปอร์เซฟ ผู้ผลิตเป็นเจ้าเดียวกับ ผู้ผลิตน้ำยาล้างจานแบรนเนมยี่ห้อหนึ่ง

ไปถามได้ความมาว่า tesco จ้างให้ผู้ผลิต (ส่วนใหญ่ผู้ผลิตคือ เจ้าของแบรนเนมสินค้านั้นๆ แตอาจจะมีรายย่อยรายอื่นมาทำการผลิต) โดยให้ผลิตลดส่วนผสมวัตถุดิบบางอย่างลง ลดค่าโฆษณาลง

ตรงนี้ผมคิดว่า ที่เขายอมผลิตให้ tesco เพราะยังไงก็ถือว่าเขาสามารถขายสินค้าได้ และคุณภาพสินค้าถูกลดคุณสมบัติบางอย่างลง โดยยอมให้เกิดสินค้าคุณภาพรองลงมา แต่ยังสามารถเข้าไปร่วมมีส่วนในธุรกิจนั้นได้

สรุปผมมองว่าเป็นการทำธุรกิจ พึ่งพาอาศัยกันดีนะ ไม่ได้เป็นการตัดราคา เพราะได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย

ผมว่าสินค้า House Brand หลายประเภท ถึงมีราคาต่ำกว่า แต่ก็มีคุณภาพที่ต่ำกว่าครับ เพียงแต่ว่าบางประเภทเราอาจจะมองเห็นความแตกต่างยากลำบากซักนิด

ผมเคยเห็นส่วนประกอบน้ำปลาจากฉลากข้างขวดนะครับ ต่างจากพวกทิพรส มากทีเดียว เพียงแต่ว่าสำหรับผุ้ที่มีรายได้น้อยก็คงจะซื้อโดยคำนึงถึงราคามากกว่านะครับ

ผมว่าสินค้า House Brand หลายประเภท ถึงมีราคาต่ำกว่า แต่ก็มีคุณภาพที่ต่ำกว่าครับ เพียงแต่ว่าบางประเภทเราอาจจะมองเห็นความแตกต่างยากลำบากซักนิด

คุณภาพต่ำจริงๆ ครับ เลยกลับมาซื้อพวกมีแบรนด์

รู้สึกจะไม่ได้มีแต่ยี่ห้อ tesco นะครับ

ผมว่ากำลังเป็นที่นิยมนะครับ เมือวานไปซื้อยาที่ Boots ยังเห็นพาราเซตามอล ของยี่ห้อ Boots ทำออกมาขายแข่งเองเลยครับ ..

แต่พอเป็นยา ... ผมเลยไม่กล้าใช้ครับ ผมนิยมของมีแบรนด์มากกว่าสำหรับยา

แต่ถ้าเป็นไข่ไก่ ยี่ห้อ Tops อะไรแบบนี้ ผมก็ซื้อนะ ไข่ไก่ มันก็ไข่ไก่อะ มันจะมีไรต่างกัน ถั่วเขียวด้วย ...

ผมว่าขึ้นกับสินค้า และ ความเชื่อถือครับ ...

คุณภาพนี่ขึ้นกับประเภทสินค้าเลยครับ ต้องลองเปรียบเทียบดู ของบางอย่างมันแย่กว่ากันได้ไม่มากครับ อย่างที่คุณคัดท้ายว่าไว้นี่เห็นชัดๆเลย ของที่ออกจากไลน์การผลิตเดียวกับแบรนด์ดังๆ มาแปะป้ายเป็นเฮาส์แบรนด์ยังมีเลยครับ

ผมเห็นด้วยกับที่ว่า ขึ้นกับประเภทสินค้าครับ
อย่าง นมสด (พาสเจอไรส์) ยี่ห้อ TESCO กับ ยี่ห้อของผู้ผลิต
ไม่สามารถแยกความแตกต่างอะไรได้เลย นอกจากฉลากยี่ห้อที่แตกต่างกัน
กับราคาที่ถูกกว่า

ส่วนที่ใครได้ ใครเสียนี่ ขอไม่ออกความเห็นนะครับ
เพราะคิดว่า เป็นกลยุทธทางธุรกิจ ที่ทั้ง 2 ฝ่ายคงได้รับประโยชน์
เป็นที่พอใจกันทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว

ผมว่ายาวๆ อาจจะเสร็จเขาหมด ครับ

เพราะ ห้างเหล่านี้ เขามี shelf เป็นสินค้าหลักครับ
ว่าง่ายๆก็คือเขาขายความสามารถในการกระจายสินค้าครับ

เขาดักพฤติกรรมลูกค้าไว้หมดแล้วครับ
location ดีมีที่จอดรถ มีแอร์ สะอาด เลือกได้

อำนาจต่อรองเขาก็มาก เขาก็สามารถ บีบ supplier ดีๆ ที่ขายอยู่แล้ว ให้ผลิตสินค้า เกรดเดียวกัน หรืออาจจะต่ำกว่า ภายใต้ Brand เขาครับ

ถ้าไม่ยอม Brand รองลงมาก็ยอมอยู่ดี

แล้วเมื่อ คน ติด พฤติกรรมการซื้อของ มากกว่า ยี่ห้อ ก็เสร็จครับ

เขาก็จะไล่ย้อนกลับมา
จาก distribution channel ก็มาที่ manufacturer แล้วก็อาจ ถึง raw mat

กลายเป็น ธุรกิจ ครบวงจร มี supply chain ที่สมบูรณ์ เพียงแต่ reverse กลับ
จาก raw mat feeder---- manufacturer---- distribution
เป็น distribution------- manufacturer------ raw mat

อิ่มหมี พีมันกันถ้วนทั่ว

เห็นว่าจะ มี Zoning มี เก็บภาษี แล้วก็เงียบๆ ไปแล้วนี่ครับ
ไม่รู้ถึงไหนแล้ว

อ้าว คิดกันงี้ ยังปล่อยให้ BigC Makro ลอยนวลอยูอีกหรือท่าน

แต่ผมขอบายนะ ไม่ถูกโฉลกครับ

ถ้าต่อไป มีแต่สินค้า House Brand ที่ขายได้ดี

ต่อไปสินค้า Brand Name ก็ลดงบประมาณโฆษณาลงนะซิครับ

ข่าวร้ายต่ออุตสาหกรรมโฆษณา และบันเทิงประเภท วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ป้ายโฆษณา หรือเปล่าเนี่ย

แฮะๆ คิดเล่นๆนะครับ