Thai VI

ไปทั่วโลก

เพราะมันได้ความสะใจ
ประมาณว่า อยากบอกให้คนอื่นรู้ว่าเก่ง
และใช้ประสิทธิภาพ CPU เต็มประสิทธิภาพ
คือในการใช้งาน CPU ปกติ อายุการใช้งานมันมากกว่า 20ปี
แต่ประมาณว่าเป็นคนต้องเปลี่ยน CPU ทุก 3ปี จะทนใช้กับประสิทธภาพที่ 70% ทำไม
ก็ใช้มันที่ 120-150% ไปเลย แบบว่ายอมให้ CPU พังใน 3 ปี

เพราะคนเราไม่รู้จักพอ

แค่ดูเหมือนว่า......ดีขึ้น คนก็ชอบกันน่ะครับ คนดูเหมือนรวยจึงเยอะกว่าคนรวยจริง

พอบอกว่าโอเวอร์คล๊อกแล้วมันดูเท่ในหมู่นักเล่นคอม ซึ่งมีแต่คนอยากได้เครื่องแรงๆ

คล้ายๆ กับการแต่งรถน่ะครับ วางเครื่องใหม่ให้แรง เอาไว้โชว์กัน

แต่จริงๆ แล้ว คงไม่มีใครได้ใช้ที่ความเร็วสูงสุดของมันหรอกครับ

สอนหน่อยดิ

ลองเข้าไปอ่านดูในนี้นะครับ

http://www.overclockzone.com/list.php?m ... &value=CPU

จริงๆ แล้ว CPU รุ่นเดียวกันมันมีลักษณะภายในเหมือนกัน เช่น Pentium 4 ความเร็ว 2.0, 2.2, 2.4, 2.6 GHz ภายในเหมือนกันทุกอย่าง (ต้องเป็นสถาปัตยกรรมเดียวกันด้วยนะ เช่น Northwood เหมือนกัน จะเปรียบเทียบข้ามสถาปัตยกรรมไม่ได้นะ เช่น Northwood กับ Willamate จะเทียบกันไม่ได้) แต่สิ่งที่ทำให้แต่ละตัวมีความเร็วแตกต่างกันก็คือตัวคูณ ซึ่งจะถูกล็อคมาจากโรงงาน (ด้วยเลเซอร์) ดังนั้นพวกนัก Overclock ทั้งหลายจึงคิดว่าถ้ามันเหมือนกันแล้วจะซื้อตัวความเร็วสูงให้มันเปลืองเงินทำไม ซื้อตัวความเร็วต่ำแล้วมา OC ดีกว่า ประหยัดเงินกว่า แต่ในความเป็นจริงแล้วการ OC จะมีต้นทุนสูงกว่าเครื่องธรรมดาเนื่องจาก (อธิบายคร่าวๆ นะครับเดี๋ยวจะงง) ระบบต่างๆ จะทำงานที่ความเร็วสูงขึ้นตาม CPU ไปด้วย (ทำงานหนักขึ้น) ดังนั้นการ OC จึงต้องการอุปกรณ์คุณภาพสูง เช่น RAM, การ์ดจอ, เมนบอร์ด, อุปกรณ์ระบายความร้อน เป็นต้น ซึ่งมีราคาแพงกว่าอุปกรณ์ทั่วๆ ไปมาก (ถ้าใช้อุปกรณ์ทั่วๆ ไปเครื่องจะแฮงค์ครับ)

ผมว่าจริงๆ over ให้ CPU เร็วขึ้น 20% แต่จริงๆ แล้วจะเร็วขึ้น 1-5% เท่านั้นครับ
ขึ้นอยู่กับการใช้งาน เพราะถ้าใช้งานปกติ คอขวดจริงๆ จะอยู่ที่ memory, RAM, cache และ harddisk ครับ

ไม่เชื่อ เครื่องเร็วๆ เช่น 2 GB ขึ้นแล้วใส่ ram 64mb รัน winxp ดูสิครับ
เปรียบเทียบกับ 256MB จะต่างกันเป็นเท่าเลยครับ

ฉะนั้นถ้าจะ overclock ไม่ค่อยดีหรอกครับ ไม่คุ้มเท่าไร เพราะความร้อนสูงขึ้นด้วย
เพราะโดยปกติแล้วเราใช้ CPU usage ไม่ถึง 100% over time ครับ

ร้อนวิชามากกว่าครับ แต่พอเริ่มแก่ตัวนี่เน้น stability อย่างเดียวเลย ช้าก็ซื้อรุ่นที่ดีขึ้นดีกว่า

ถ้าทำ OC แล้วใช้พัดลม cpu ตัวเล็กอย่างเดียวไม่พอหรอกค่ะ เพราะมัน overheat ต้องเสริมด้วยการถอดฝาเคสออกให้เปลือย แล้วก็เอาพัดลมตั้งพื้นตัวใหญ่จ่อที่ case อีกตัวค่ะ :lol:

ไม่เคยทำนะคะ เคยแต่ยืนดู

waste time/money... try Clusters!

ปูพื้นก่อน

การผลิตซีพียูที่ใช้สถาปัตยกรรม จะผลิตจนเสร็จ แล้วทำการหาจุดที่ซีพียูแต่ล่ะสามารถตัวทำงานได้อย่างเสถียร (จะมีเกณฑ์กำหนดซึ่งรวมเซฟตี้เข้าไปด้วย) ซึ่งในการผลิตครั้งๆนึงนั้น ไม่สามารถกำหนดรุ่นได้โดยตรง ซีพียูบางตัวสามารถทำงานที่ความถี่สูงๆได้ แต่บางตัวก็ทำไม่ได้ แม้ว่ากระบวนการผลิตจะเหมือนกัน (แล้วแต่ดวง)

เช่น ผลิตซีพียู 1000 ตัว เมื่อเสร็จก็จะเทสแยกเป็นรุ่นต่างๆ (ตัวเลขสมมุติ)
รุ่น 3.2 GHz 300 ตัว
รุ่น 3.5 GHz 400 ตัว
รุ่น 3.8 GHz 300 ตัว
(ซึ่งบางที่ซีพียูรุ่นต่ำๆนั้น มีไม่พอ จึงใช้ซีพียู รุ่นสูงกว่ามาแทน)

แล้วจึงประทับตราส่งขาย

คนที่มีความรู้ในส่วนนี้จึง OverClock ซีพียูให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพของมันซึ่งอาจจะเพิ่ม 1% หรือเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่กลับซีพียูตัวนั้นๆเอง

จะมีปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องหลักๆคืออุณหภูมิ
ซึ่งอุณหภูมิต่ำ ส่งผลซีพียูสามารถทำงานได้ที่ความถี่สูงๆ
โดยใช้วิธีต่างๆกันไปเช่น
ซิ๊งอลูมิเนียม
พัดลม
ซิ๊งเงิน
ซิ๊งทองแดง
หม้อน้ำ (คล้ายๆแอร์)
ฮีตไปป์ (ท่อนำความร้อน)
ไนโตรเจนเหลว (ติดลบ)
และมีปัจจัยอีกสารพัดที่มีผลต่อการ OverClock CPU ทั้งเรื่องแรงดันไฟ ทั้งเรื่องอุปกรณ์ตัวอื่นๆ

คนที่ไม่รู้เรื่องลองมั่วๆ จนซีพียูไหม้ก็มีให้เห็นบ่อยๆ
วิธีที่จะลองวิชาแบบง่ายๆคือค่อยๆเพิ่มตัวคูณ ความถี่ แรงดันไฟ ไปเรื่อยๆจน ซีพียูรับไม่ไหว แล้วลดลงมา2สเตป เทสด้วยโปรแกรมโหดต่างๆดูว่าทำงานได้เสถียรไหม (เทสข้ามวันข้ามคืน) ซึ่งทุกขั้นตอนต้องดูเรื่องอุณหถูมิด้วย

ทั้งนี้ผมอาจพูดผิดไปเนื่องจากไม่ได้ดูจากแหล่งข้อมูล
นั่งเทียนเขียนจากความจำล้วนๆ

เจย์โชว์ทำ clusters เป็นป่าวอ่ะคับ สนใจเทคโนนี้นะครับ

Clusters เป็นการนำเครื่องคอมหลายๆเครื่องมาประมวลผลพร้อมๆกัน
ซึ่งจะทำให้มีประสิทธิภาพสูงยิ่งๆขึ้น จนเทียบชั้นกับ SuperComputer ได้ (ตอนนี้ NEC เป็นแชมป์)
โดยใช้ Software เฉพาะทางที่แต่ล่ะแลปคิดขึ้นมา

แต่ตอนนี้มีเทคนิคแบบใหม่คือ ใช้คอมพิวเตอร์ที่ออนไลน์ทางอินเตอร์เน็ต ร่วมกันประมวลผล
ซึ่งใช้วิจัยเกี่ยวกับโครงการแปลกๆหลายโครงการ (จำไม่ได้)
ผลที่ได้อาจยิ่งกว่า Super Computer ซะอีก

อ้อเกือบลืม โปรดหาแหล่งข้อมูลอื่นด้วย ผมนั่งเทียนเอาจ้า

ผม ทำ OC ไม่เป็นอ่ะครับ ทำไงเหรอครับ

ทำไมแต่ง OverClock ... อืมม น่าคิด .. ถ้าเมืองหนาว อาจเป็นเพราะต้องการใช้ CPU ทำหน้าที่ของเครื่องทำความร้อนด้วย แต่ถ้าเมืองร้อน ก็อาจเป็นเช่นนี้ ...



ดังนั้นหากท่านจะ OverClock โปรดคำนึงถึงระบบระบายความร้อนด้วย ใน Web ข้างล่างนี้ ขายพวกอุปกรณ์แต่งครับ http://www.overclockmania.net/




ผมแต่งเครื่อง ก็เหมือนแต่งรถ ไม่จำเป้นต้องแต่งแต่ให้แรงนี่ท่าน เอาแรงพองามแล้วเอาสวยเก๋ก็ไม่เลวนะท่าน



อันนี้ เป็นชุดแต่งเรื่องความงามครับ มีเพียบ!!
http://www.overclockmania.net/prodotti/case.shtml

buglife เขียน:เจย์โชว์ทำ clusters เป็นป่าวอ่ะคับ สนใจเทคโนนี้นะครับ

ปัญหาของ Cluster ก็คือ Software ครับ ถ้าซอฟแวร์ไม่ได้ออกแบบมาให้ทำงานแบบ Cluster การทำงานก็อาจไม่ได้เร็วขึ้นเลยแม้แต่น้อยครับ เมื่อก่อนผมเคยทำงานด้านระบบฐานข้อมูล การทำงานที่ใช้ Cluster ต้องใช้ฐานข้อมูลรุ่นที่สนับสนุน Cluster เลยครับ ไม่งั้นไม่ช่วยให้เร็วขึ้นเลย และบางระบบทำงานไม่ได้ด้วยครับ

ความลับก็คือ CPU ถูกออกแบบเผื่อไว้มากๆ เพื่อให้ใช้งานได้ทนทาน เพื่อนๆจึงไม่ค่อยเจอว่า CPUพัง แต่ในฐานะ value investor ลงทุนแล้ว ต้องรีดประสิทธิภาพให้คุ้ม จึงต้อง overclock แม้ว่า system stability จะต่ำลงก็ตาม

With overclocking,
we can get the same performance
while pay only 70-90% of the market price.

Value (IT) investment?

OC เป็นเรื่องสำหรับบุคคล เหมือนแต่งรถแล้วแต่คนชอบ

Cluster เมื่อมีคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 2 ตัวขึ้นไปแล้วอยากนำเอา Performance
มารวมกันประมวลผล จริงๆ แล้วมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่อง Symmetric และ
Parallel System ที่ใช้ใน Supercomputer

ปัจจุบันนี้ต้องนี่เลย Grid Computing ที่ Google ได้นำมาใช้จนโด่งดังบน
Internet ใครสนใจแบบไหนเลือกเอาตามใจชอบครับ

ส่วนผมแก่แล้วเอาแค่ Pentium III 900 MHz + SDRAM 384 MB ก็พอที่จะดู TVI ได้แล้ว

ผมว่า OC เมื่อบวกค่าแรง ค่าความเสี่ยงเรื่องเสถียรภาพ เข้าไปแล้วไม่ค่อยคุ้มครับ

ส่วนกริด ตอนนี้ก็ลุ้นโครงการ กริดฟาร์ม ของเกษตร แหละครับ อยากรู้ว่า จะออกมาแบบไหน เจ๋งระดับไหน

OC มันเป็นศาสตร์ที่เอาความสามารถของมันให้ใช้งานได้สูงสุด

ที่มาเกิดจากความต้องการใช้งานCPUให้สูงขึ้น ไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ซึ่งเมื่อก่อนราคามันแพงมากๆๆ ตอนนี้CPUราคาถูกลง เนื่องจากผลิตออกมาเป็นmass ต้นทุนถูกลง การพัฒนาเทคนิค มากขึ้นเรื่อยๆๆ องค์ความรู้มีมากขึ้นเรื่อยๆๆ

CK เขียน:เพราะคนเราไม่รู้จักพอ

ถูกต้องครับ