Thai VI

ถ้าเราอยากให้คนๆหนึ่งมีแนวคิดที่ถูกต้องเกี่ยวกับ การเงินส่วนบุคคล เช่นการออมการลงทุน ฯลฯ
เงินเฟ้อ มันเสี่ยงยังไง ราคาสูงแต่ถูก กับ ราคาต่ำแต่แพง
ราคากับความคุ้มค่า มันเปรียบเทียบยังไง
คือผมอยากให้เค้ารู้มั่ง แต่พอผมไปคุยให้เค้าฟัง พอเค้ารู้ว่าเป็นหุ้นเค้าก็ส่ายหน้า แล้วก็ไม่สนใจ <<< ทำไงดีครับ
อยากให้เค้ารู้จักการออม+การลงทุน
เพราะตอนนี้ ฐานะเค้าไม่ดี แต่ชอบใช้จ่ายเกินตัว


โดยการพูดให้ฟังแบบง่ายๆ อุปมาอุปไมย ในเวลาไม่นาน(ก่อนที่เป้าหมายเราจะเบื่อ) เราจะให้คำแนะนำอย่างไรดีครับ

ปล. พี่ๆ เคยมีประสบการณ์อย่างนี้หรือเปล่าครับ..แล้วถ้าคนๆนั้นเป็นพ่อ แม่ พี่ น้อง แฟน เพื่อน เป็นคนสำคัญกับเรา เป็นคนที่ต้องอยู่กับเราไปตลอดชีวิต ถ้าเราปล่อยให้เค้าคิดอย่างเดิมต่อไป ก็คงเป็นปัญหากับทุกฝ่ายในอนาคตอันใกล้(หรือว่าเป็นภาระที่เราต้องแบกรับไปตลอดครับ)
ปล.2 ทำไมคนส่วนใหญ่ชอบคิดว่า มีเงินเหลือก่อนแล้วค่อยออม ล่ะครับ(ผมเห็นไม่เคยเหลือซักที)
ปล.3 ผมว่าอิสรภาพทางการเงินเกิดจากแนวคิดที่ถูกต้อง ไม่ใช่มีเงินจำนวนมากแล้วจะเป็นอิสรภาพทางการเงินได้
ปล.4 เอาแบบที่คนทั่วไปฟังได้ง่ายๆ เข้าใจง่ายๆ สั้นๆ พอจะมีทางไหมครับ(กลัวเป้าหมายจะเบื่อก่อนนะครับ)
ปล.5 ผมไม่รู้จะอธิบายยังไง หวังว่าพี่ๆ คงจะเข้าใจ คำถาม และช่วยแบ่งปันประสบการณ์อันมีค่าของพี่ๆทั้งหลาย ให้แก่ผมด้วยนะครับ
ขอบคุณสำหรับคำตอบของพี่ๆทุกคนนะครับ

อ่านแล้วหนักใจครับ
คำถามกว้าง จับมุมไม่ถูก

น่าจะเล่ามีคนสำคัญคนหนึ่งเคยมีฐานะการเงินดีมาก
แต่ปัจจุบันเหตุการเปลี่ยนไป
จาก ที่เคยร่ำรวยใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย เพราะฐานะยังดี
ปัจจุบันฐานะเริ่มลำบาก แต่คนๆนั้นยังไม่รู้จักคิด แบบจมไม่ลง
ขอคำแนะนำว่าอย่างนี้
1. เขาชอบเที่ยว
2.เขาชอบใช้เงินไปในทางที่ไม่มีจิตสำนึก ดังนี้
3.
4.

คงจะพอจับจุดได้ ที่ข้อความข้างบน มันวกไปวนมาครับ

ขอบคุณครับพี่ปรัชญา

คำถามมันวกวนจริงๆแหล่ะครับ ขนาดผมแก้ตั้งหลายรอบแล้ว

ถ้าอย่างนั้นขอถามใหม่นะครับ

คำถามที่ 1 ถ้าน้อง ของพี่ๆ ตอนนี้เค้ายังไม่มีเงิน เพิ่งเริ่มทำงาน แล้วเค้าใช้เงินเกินตัว(ใช้บัตรเครดิต..แต่ไม่มีเงินจ่าย) ถ้าผมอยากให้เค้ารู้ถึงผลเสียของการใช้บัตรเครดิต
และอยากให้เค้าหันมารู้จักการออมแทน
โดยชี้ให้เห็นผลดีจากการเริ่มออมในวันนี้
และชี้ผลเสีย จากการเริ่มออม ช้ากว่าคนอื่น จะแนะนำอย่างไรดี

คำถามที่ 2 ถ้าน้องคนนั้นบอกว่า ไว้รวย ก่อน แล้วค่อยออม จะ แนะนำเค้าอย่างไรดีครับ

คำถามที่ 3 ถ้าเปลี่ยนจาก น้อง เป็น คนที่อวุโสกว่าเรา เช่น พ่อแม่ จะทำอย่างไรดีครับ

1.ถ้าใช้แต่บัตรเครดิต เราก็ต้องอธิบายว่า...
นี่คุณเอาเงินหรือนำเงินที่หายังไม่ได้มาใช้ก่อน
มันเป็นเงินในอนาคต และคำว่าอนาคตคือความไม่แน่นอน
เมื่อมีความไม่แน่นอนแล้วใช้จ่ายแบบได้มาเปล่าๆ
มันเป็นความเสี่ยง ในความเสี่ยงมันอันตราย
อันตรายต่อตนเองและคนรอบข้าง ลองคิดดีๆ
การศึกษาก็มี ความรับผิดชอบต่อตนเองมีไหม
ถามหน่อยเถอะว่า รู้จักคำว่าหน้าที่ รู้ถูกรู้ผิด รู้จักคิดไหม?

2.ไว้รวยก่อนค่อยออม
คุณแค่คิดก็ผิดแล้ว
คำว่ารวย ถ้าไม่มีการออมแล้ว คำว่ารวยจะมาจากไหนมาจากการใช้จ่ายเกินตัวมันทำให้รวยหรือจน ลองไปถาม ด๊อกเตอร์หรือคนที่รวยแล้วว่าเขาทำกันอย่างไร
เขามาจากเลข0 แล้วถ้าใชจ่ายแบบนี้มาจากติดลบ ชัด ชัด
โตแล้ว ควรหัดคิดเองซะบ้าง อย่าให้คุณหรือใครมาสอน
ตัวเองไม่รักตัวเองแล้วใครจะมารัก

3.ถ้าเป็นผู้อาวุโสกว่าเรา (ยิ่งแก่ยิ่งดื้อ)
ต้องขอร้อง และชักแม่น้ำทั้งห้า
มีหนังตัวอย่างมาฉายให้ดูว่า...
คนนั้นคนนี้เขาเป็นอย่างนี้ อยากเป็นอย่างเม่ล่ะ
จดเอาไว้เลยว่าวันนี้พูดอย่างนี้ อีก2ปีมาดูกันว่า
ที่พูดมาทั้งหมดใครผิดใครถูก

ถ้าอธิบายและหาวิธีการอื่นๆมาเสริมยังไม่ยอมฟัง(กลัวเสียเชิง)

สุดท้าย ต้องทำใจ

การลงทุนมีความเสียง ก็เหมือนเรือที่อยู่บนมหาสมุทร ก็เสียงต่อคลื่นลม พายุ แต่เรือที่จอดอยู่บนท่า แม้จะไม่มีโอกาสล่ม วันหนึ่งก็ก็จะผุกร่อนเป็นสนิมและพังไป ก็เหมือนเงินเฟ้อ ที่คอยกัดกร่อนมูลค่าของเงินไปเรื่อยๆ ตราบใดที่ผลตอบแทนจากการฝากเงินต่ำกว่าเงินเฟ้อ

เชื่อครับว่าลำบาก การทำให้ดูเป็นตัวอย่าง และประสบความสำเร็จให้เค้าเห็น คงเป็นคำอธิบายที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งครับ

แต่ก็ต้องระวังครับ บางคนที่ผมชวนเข้าตลาดหุ้น กลับกลายเป็นนักเก็งกำไร และผลตอบแทนที่ได้แย่กว่าเอาเงินฝังตุ่มเสียอีกครับ

ทั้งหมดทั้งสิ้น ผมคิดสรุปได้ว่าเป็นเรื่องของการออม

การออมต้องเกิดจากจิตสำนึก ซึ่งบ่งเพาะมาตั้งแต่วัยเด็ก
โดยการสอนสั่งจากผู้ปกครอง (ผู้ปกครองก็ต้องทำด้วย)

จะปรับทัศนคติเรื่องการออมในตอนโตนั้นทำได้ยากมาก

เอาหนังสือ เงินทองต้องใส่ใจ, ออมก่อนรวยกว่า ให้เขาอ่านสิครับ

อ่านแล้ว ยังไม่ทำ ก็ปล่อยมันไปครับ หมดปัญญาบังคับ

เพื่อนผมหลายๆคน ก็เป็นคนที่ใช่จ่ายแบบเดือนชนเดือนนะครับ คือได้เงินเดือนมาก็ใช้ไปหมดเลย บางคนใช้กลับเรื่องฟุ้มเฟื่อยซะด้วยซ้ำเช่นการซื้อแผ่นเกม PS2 ของแท้แผ่นละ 2-3 พันบาท

ผมก็เตือนแต่พอเป็นพิธีครับ ถ้าเค้าไม่เห็นด้วยก็ช่วยไม่ได้ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีความสุขจากการประหยัดอดออมเหมือนผม

การออมต้องเกิดจากจิตสำนึก ซึ่งบ่งเพาะมาตั้งแต่วัยเด็ก
โดยการสอนสั่งจากผู้ปกครอง (ผู้ปกครองก็ต้องทำด้วย)

จะปรับทัศนคติเรื่องการออมในตอนโตนั้นทำได้ยากมาก

evidently เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

ผมเคยใช้เวลาสามปีกับน้องที่ทำงานคนหนึ่ง (อายุ 20 ต้นๆ)
แต่ไม่เห็นผลเลยครับ ในขณะที่บางคนสามารถออมได้ทันที

พ่อผม เคยพาไปบ้านพักคนชราครับ

ผมถามพ่อว่าทำไมคุณตา คุณยาย ท่านไม่มีบ้านอยู่

ได้คำตอบว่า .....

ผมเริ่มจากครอบครัวฐานะไม่อยู่กะร่องกะรอย
มีทั้งตอนที่สุรุ่ยสุร่ายได้ แล้วก็เป็นหนี้อยู่มาก
ตอนนี้ค่อยๆ เก็บเล็กสะสมน้อย มาเรื่อยๆ
ตอนนี้ก็สบายๆแล้วครับ แม้ว่าจะยังไม่มีอิสรภาพทางการเงินแต่ก็เริ่มมีเงินเก็บแล้วครับ

ผมทำให้หลายๆคนรอบผม มีความรุ้เรื่องการลงทุนมากขึ้น โดยการพูดบ่อยๆ แบบมีหลักการ
แต่บางคนเค้าก็ไม่เอาเลย

แต่ที่บ้านผมตอนนี้ผมกล่อมได้ทุกคนแล้วครับ
ใช้วิธี เอาตัวเลขง่ายๆไปสอน
เอาหนังสือ ออมก่อนรวยกว่าน่ะครับ
เห็นตัวอย่างชัดเจน

harry เขียน:เอาหนังสือ เงินทองต้องใส่ใจ, ออมก่อนรวยกว่า ให้เขาอ่านสิครับ

เห็นด้วยครับ แถมด้วยหนังสือของ ดร.นิเวศน์ด้วย

พ่อรวยสอนลูก (เล่ม 1) ด้วยครับ

เห็นมีเรื่องเงินๆทองๆของดร.วรากรณ์ สามโกเศษ ออกมาอีกหนึ่งเล่ม โดย APRINT อิ..อิ...

คุณอ่านก่อน ทำความเข้าใจ และค่อยคุยกับเขา

ตอนนี้ผมทำให้เพื่อนรักของผมเริ่มออมและลงทุนได้แล้ว ....นี่ผมลงทุนเป็นผจก.ให้เลยนา

ว่างๆนัดกินข้าวกับผมก็ได้ ผมเองก็เคยสุรุ่ยสุร่าย...เสียดายเวลา มากกว่าเงินจริงๆ

Mon money เขียน:ผมเองก็เคยสุรุ่ยสุร่าย...เสียดายเวลา มากกว่าเงินจริงๆ

เสียดายเวลาอย่างคุณมนว่าจริงๆค่ะ ที่มีอยู่ยังไม่พอเลย

ขอบคุณสำหรับคำตอบของพี่ๆ ทุกคนนะครับ

ปล.1 พี่ ck ครับ พี่ทำอะไรมั่งครับ ระหว่าง สามปีนั้น
ปล.2 พี่ มน ครับพี่ทำยังไง ครับ ผมอยากรู้เป็นแนวทาง มั่งนะครับ
ปล.3 ผมยังเด็กอยู่เลยครับ ยังขอเงินพ่อแม่เรียนหนังสือ ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง เวลาผมพูดอะไรไป พวกเค้าก็จะไม่ฟังครับ เพราะว่ามันไม่มีน้ำหนัก ถ้าอนาคตผมประสบความสำเร็จอย่างพี่ๆ ทั้งหลายในเวบtvi ถึงเวลานั้นผมคิดว่าคงจะพูดง่ายกว่านี้ (แต่อาจจะสายเกินไปสำหรับคนที่เรารัก)

ถ้าเดาคงจะเป็นคุณพ่อหรือคุณแม่ที่เราอยากบอกท่าน บอกตรงๆครับค่อนข้างยาก เพราะผู้ใหญ่โดยมากจะถือว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนบางทีก็จะไม่ฟังเอาดื้อๆ อย่างตัวเองก็เจอมาแล้ว มีความรู้สึกว่าไม่ใช่ท่านไม่เข้าใจนะแต่ดูเหมือนว่าจะไม่ตระหนักมากกว่า เฮ้อทำให้คนเข้าใจกับทำให้คนตระหนักนี่ฟ้ากับหุบเหวเลยละ

Tao Investor เขียน: ปล.3 ผมยังเด็กอยู่เลยครับ ยังขอเงินพ่อแม่เรียนหนังสือ ยังไม่มีรายได้เป็นของตัวเอง เวลาผมพูดอะไรไป พวกเค้าก็จะไม่ฟังครับ เพราะว่ามันไม่มีน้ำหนัก ถ้าอนาคตผมประสบความสำเร็จอย่างพี่ๆ ทั้งหลายในเวบtvi ถึงเวลานั้นผมคิดว่าคงจะพูดง่ายกว่านี้ (แต่อาจจะสายเกินไปสำหรับคนที่เรารัก)

ไม่รู้ผมคิดถูกไหมนะครับ

แต่ผมคิดว่า คุณ Tao Investor ควรเริ่มพูดตั้งแต่ตอนนี้ที่ พ่อแม่ ท่านยังไม่สนใจ ผมว่าหากคุณไม่เริ่มต้น คุณก็จะได้แต่ถ้า... ตลอดไป และบางทียิ่งทีจะยิ่งลึกไปเรื่อยๆ

เริ่มจากเรื่องเล็กๆ จากประสบการณ์ตัวเองก่อนก็ได้ครับ คุณใช้เงินท่าน คุณออมเป็นไหม? คุณเป็นตัวอย่างเป็นไหม? ไม่ใช่ว่าคุณก็ไม่ออม แต่เที่ยวแนะนำคนอื่นให้ออม คุณว่ามีคนเชื่อคุณกี่คน?

คุณมีน้อยคุณก็ออมแบบน้อยๆ วันหนึ่งวันนั้นต้องมาถึงครับ

แล้วค่อยพิสูจน์ให้ท่านเห็นขึ้นเรื่อยๆ โดยการไปเล่าให้ท่านฟังบ้าง กับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง บางทีประสบการณ์จากคนใกล้ตัวจะเป็นตัวช่วยสอนที่ดีครับให้กับทุกคน ที่คุณรักและหวังดี

เพิ่งนึกออก ถ้าเป็นพ่อแม่ หรือญาติผู้ใหญ่ ให้พาไปบ้านคนชราครับ แล้วบอกว่า ถ้าไม่มีเงินเก็บเหลือ จะพามาไว้ที่นี่

เด็ดมะ