Thai VI

จาก 224.8 ล้านบาทเหลือ 114 ล้านบาท (10.36 เหลือ 5.20)

สาเหตุจากอัตราแลกเปลี่ยนและราคาวัตถุดิบเพิ่มสูงขึ้น

อ้าว เมื่อคืนเพิ่งฝันว่า metco จะมี market cap เป็นแสนล้าน

ใจตรงกันจริง ๆ เปิดมาดูหน้าเดียวกัน โพสพร้อมกันอีก :lol:

เหมือนกัน

แต่ sales เพิ่มนะครับ

ดูงบคร่าวๆ แล้วครับ :lol:

ผิดคาดไปพอควร

ผมประเมินว่าน่าจะกำไรลดลงราวๆ 20% แต่นี่ลงถึง 50%

เรื่องวัตถุดิบราคาสูงขึ้นคงเป็นเหตุผลหลักที่ METCO ตัดสินใจ
ปันผลน้อยลงครับ (สำหรับปี 47) เพื่อลงทุนผลิตวัตถุดิบต้นน้ำ
บางชนิดเอง

เรื่องอัตราแลกเปลี่ยนน่าจะเป็นประเด็นสำคัญในการลงบัญชี
พอควร METCO เหลือหนี้ต่างประเทศน้อยมาก จึงจะไม่ได้ผลดี
ถ้าเงินบาทแข็งขึ้นเรื่อยๆ

ผู้บริหารคาดยอดขายปีนี้เพิ่มราวๆ 10%

ต้นทุนส่วนใหญ่ เป็น เหล็ก หรือ พลาสติก

เศร้าเล็กน้อยครับ น่า Short Port ก่อนหน้านี้

เอ้ ทำไม ไตรมาสก่อนๆ ก็ต้นทุนเพิ่มขึ้น แต่ทำไมยังรักษา กำไรไว้ได้ แต่ทำไมไตรมาสนี้ ถึง ลดอย่างน่าตกใจ

นี่ละครับ เป็นโอกาสที่สำคัญ

บริษัทส่วนมาก ประสบปัญหาต้นทุนสูงทั้งนั้น ไม่วันนี้ ก็วันหน้า

ยิ่งค่าเงินอีก ส่งออกโดนทั่วหน้า หวังว่าพัดลมจะเป็นแบบนี้ อีกซัก ไตรมาสนะ จะได้เห็นราคาที่อยากเห็น

เป็นไตรมาสเดียวก็โอเคครับ เป็นหลายๆ ไตรมาสก็ไม่ไหว

กำไรลด 1/2 ถ้าสมมุติสถานการณ์ทั้งปีไม่ดีขึ้น จะเหลือกำไรแค่
25 บาทครับ

ถ้าถ้าเป็นไตรมาสเดียว และบริษัทรักษาอัตรากำไรไว้ได้ขณะที่
ยอดขายเพิ่ม 10% กำไรทั้งปีน่าจะตก 50 บาท

สมมติว่า Metco เป็นหุ้นที่มีผลประกอบการดีมายาวนาน และผู้ถือส่วนใหญ๋เป็น VI

ท่านคิดว่าราคาหุ้นที่เคลื่อนใหว จะเป็นตัวแทนถึงความรู้สึก ความคาดหวัง และวิธีปฎิบัติของ VI ส่วนใหญ่ ต่อความไม่แน่ใจผลประกอบการในอนาคตได้หรือไม่ครับ

............................
เพื่อนๆคิดว่าหุ้นตัวนี้ราคาก่อนผลออก มี Margin of Safety เพียงพอหรือไม่ครับ

ผมลองคำนวณดูนะครับ
ถ้าต้นทุนเท่าเดิม(คิดเป็น %per sale เท่าปีก่อน)
ก็ยังทำให้ metco มี กำไร growth 5% นะครับ

แต่สงสัยว่าราคาขายของ metco นี่สามารถขึ้นได้หรือเปล่า หรือว่าการแข่งขันสูงจนปรับราคายาก

จริงๆ บริษัทที่ดีควรจะรักษาระดับ cost per sales ไว้คงที่นะครับ

ราคาที่มี margin of safety ก่อนงบออกที่ผมเคยพูดไว้คือ P/E 4-5 เท่าครับ
หรือประมาณ 200-250 บาท

ผมเชียร์ขายมาตลอด แต่ตอนนี้ไม่เชียร์ขายแล้วครับ กลัวผิดกฎกลต.
เดี๋ยวจะมีคนออกมาพูดว่าพอขายก็ทุบลง จะได้ซื้อถูกๆ

เท่าที่ดูจากงบกระแสเงินสดพบว่า qtr นี้บ.มีการลงทุนใน ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
จำนวน 250 ล้านเพิ่มขึ้นจาก qtr1 ของปีที่แล้วที่มีการลงทุนส่วนนี้ 90 ล้านบาท

นี่อาจจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ต้นทุนขายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญรึเปล่าครับพี่ CK
เพราะถ้าตัดจำนวนเงินลงทุนตรงนี้ไปก็จะพบว่าบ.ยังคงมีอัตราการทำกำไรที่น่าพอใจ
แต่จากการประชุมประจำปีที่ผ่านมาคุณฮิโรคาสุได้กล่าวว่าปีนี้บ.จะยังคงมีแผนการลงทุนทั้งหมดราว 600 ล้านบาทครับ

คุณ Ont ครับ การลงทุนเขาไม่นำมาหักออกเป็นค่าใช้จ่ายคราวเดียวนี่ครับ คงต้องดูค่าเสื่อมราคามากกว่าว่าเป็นเท่าไหร่

พี่ CK ครับ Metco พอจะเป็นตัวอย่างให้เราอ่านข่าวจาก Set ก่อนตั้งรับใหมครับ ผมยังสงสารคนที่เขารับที่ 300 อยู่เลย

ผมเดาว่าเป็น Creative Accounting เฉลี่ยกำไรลงไป เพื่อไม่ให้ปีต่อไป กำไรตกลงไปมาก Smoothing Profit มากกว่าครับ

ผมยังเชื่อมือผู้บริหารครับ (ยอมรับว่ามี Bias) ยังไงเราก็ต้องรอดูกัน

ฮาๆๆ คุณซีเคขายไปหมดแล้วหรือครับ รอซื้อกลับที่ราคาเท่าไหร่ครับ

เม็ดโก้ไตรมาสหน้างานหนัก
เห็นด้วยกับคุณForrestGump
ที่ผ่านมา Q1ก็ไม่ดีเท่าไหร่
ถ้าQ2จะกลับมาดี ก็เคยเกิดแล้วในปีที่แล้ว

ผมทำคลายเครียดเรโชไปแล้วว่าจะถือกินปันผลไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ร้อนแล้ว ถือเฉยๆไม่ไหว
คงทำshort againts port ไปเรื่อยๆ

ถ้าไตรมาสหน้า ยังออกมาไม่ดี

คุณ wpong ครับ ผมคิดว่าการติดตามผลการดำเนินงานเป็นสิ่งจำเป็นอยู่แล้ว

ผมโพสต์กระทู้นี้ก่อนตลาดเปิดเสียอีกนะครับ คนที่ตัดสินใจ short against port
ก็ควรจะทำทันที

ส่วนคนที่คิดจะถือยาว ควรหาโอกาสซื้อตอนราคาถูกๆ ครับ จะได้มี margin of safety
สูงๆ

metco เคยประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ไม่ดีหลายครั้ง บางครั้งก็แย่มาก
เช่นครั้งนี้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว บริษัทจะสามารถ turnaround ได้ในสองไตรมาสถัดไป

แต่กว่าจะถึงตอนนั้น ราคาจะตอบรับ "ข่าวร้าย" ค่อนข้างแรงครับ

ใครที่คิดว่าเงินเย็น สามารถถือข้ามสองไตรมาส หาโอกาสซื้อเพิ่ม ก็สามารถทำได้

ใครที่เงินร้อน ควรรีบ short against port ออกมา หรือไม่ก็ใช้ trading system ช่วย
ในการลดความเสี่ยง

ไม่ว่าจะเป็น DSM หรือ Turtle Trading ล้วนแต่เป็นวิธีการที่เป็นรูปธรรมในการจำกัด
ความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาหุ้นและผลประกอบการ

อยากให้คนที่สนใจหรือถือ metco อยู่ไปลองอ่านกระทู้ METCO ใน 100 คน 100 หุ้น
ดูครับ

ผมเคยพูดถึงการใช้ระบบ trading (ยืมมาจาก turtle trading) มาช่วยในการตัดสินใจ
ซื้อขาย โดยไม่ต้องดูผลประกอบการเลย

และทำ back testing ให้ดูย้อนหลังแล้วนะครับ ว่าได้กำไรจาก capital gain มากกว่า
การ buy & hold หลายเปอร์เซ็นต์อยู่

อย่างวันนี้ จุดวัดใจการขายอยู่ที่ 300 บาท ถ้าหลุด ก็ขายไปก่อน ลดความเสี่ยง
รอตลาดรับข่าวร้ายเรียบร้อยแล้ว ค่อยกลับมาซื้อก็ได้ อาจจะขาดทุนกำไรไปบ้าง
เพราะหุ้นขึ้นไปก่อน แต่ความเสี่ยงก็ลดลงครับ

ถ้าใครสนใจเกี่ยวกับ trading system ให้ลองพิมพ์คำว่า trading system ในช่อง
SEARCH ข้างบนดู

คุณคัดท้ายเคยเขียนอธิบายไว้ดีมากครับ

เป็นการ force ให้เราตัดสินใจ โดยไม่ใช้อารมณ์

ผลประกอบการบริษัทจะดีหรือเลว อยู่นอกเหนือความสามารถของเรานักลงทุนราย
ย่อยครับ

สิ่งที่เราทำได้ คือตัดสินใจทำอะไรสักอย่างเมื่อประกาศผลประกอบการ

ไม่ว่าจะถือเฉยๆ ซื้อเพิ่มหรือขายทิ้ง บางส่วนหรือทั้งหมด

ฮือๆๆๆ

short ทันกันหมดเลย นะครับท่าทาง

ผมตั้งขายที่ 302 ตอนจะเปิด แล้วไปดู UMS

กลับมา อ้าวเปิด 300 แล้วลงอีก เลยอดขายเลย

เห็นงบของ metco แล้วหนาวถึงบริษัทที่ผมถือหุ้นอยู่ในหมวดเดียวกัน
จำได้ว่าครั้งนึง บริษัทผม ก็ประสบภาวะเช่นนี้เหมือนกัน
ยอดขายไม่ได้น้อยลง ยังค่อยๆเพิ่มขึ้น แต่ต้นทุนวัสดุเพิ่มขึ้น
กำไรต่อหน่วยลดลง ภายหลังเข้าใจว่าทางบริษัทได้ออกสินค้ารุ่นใหม่
ที่เพิ่มคุณสมบัติดีกว่ารุ่นเดิม พร้อมเพิ่มราคาจำหน่าย
เพื่อให้ได้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น สุดท้ายกำไรสุทธิก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์
ตั้งแต่บริษัทได้ก่อตั้งมา

ดูแล้วในรอบสี่ปี ที่ METCO ทำกำไรได้แย่สุด เมื่อดูจาก Profit margin และ Net profit margin และน่าจะเป็น EPS ที่ต่ำสุดในไตรมาสเดียวในรอบสามปีอีกเช่นกัน สิ่งที่สังเกตมาตลอด 4 ปี คือ ตัว Profit margin ลดลงทุกปี จากที่เคยทำได้ถึง 11 % ก็ค่อยลดลงมาเหลือแค่ประมาณ 8 % ในปีก่อน และในไตรมาสนี้ก็ประมาณ 5 % กว่า อันนี้ถือเป็นสัจธรรม คือราคาขายจะลดลงเรื่อยๆ การรักษาระดับกำไร หรือเพิ่มกำไร ทำโดยการผลิตมากๆ และลดต้นทุนการผลิต ซึ่ง METCO ทำได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อปัจจัยแวดล้อมภายนอกไม่เป็นใจ อย่างในเรื่องของราคาวัตถุดิบ ค่าเงิน วงจรผลิตภัณฑ์ คู่แข่งขันที่มีต้นทุนแรงงานต่ำ ดูแล้วไปเพิ่มความยากลำบากให้แก่ METCO

ผมก็คงคล้ายกับคนอื่นๆ ที่ลดจำนวนที่ถือลง โดยผมค่อยๆ ขายออกไปก่อนขึ้น XD ไปบางส่วน เพื่อเอาทุนคืนมาก่อน จนมาหมดวันนี้ คิดแล้วก็น่าใจหายเหมือนกัน หลังจากคบกันมานานมาก

8) หุ้นที่ผู้พันดูแล(ในห้องร้อยคนร้อยหุ้น)
ผมทราบมาว่า...ปัจจุบัน
ทางบริษัทโซนี่ ย้ายฐานการผลิตแผ่นCDไปเวียดนาม-จีน
เพราะค่าแรงงานถูกกว่า

น้องชายเพื่อนที่ทำงานอยูบริษัทโซนี่ ฝ่ายผลิตเทปVDO
ปิดกิจการ จาก....เมืองไทยแล้ว
น้องเพื่อนทำงานมา14ปี ได้รับชดเชย2เดือน
+ชดเชย14ปี มีเงินให้อีก1ก้อน เงินสะสม
สรุป รับเงินมาขาดไม่กี่หมื่นก็ได้1ล้าน
ก็มาเล่าให้ทราบว่า...เริ่มมีการย้ายฐานการผลิตกันบางส่วน

แต่ผมว่ากล้องดิจิตอลยังรุ่ง ตามหลังมือถืออยู่นะ

แต่ผมว่ากล้องดิจิตอลยังรุ่ง ตามหลังมือถืออยู่นะ

อีกหน่อย กล้องฟิลม์ คงเป็นแค่ของสะสม
เช่นเดียวกะมือถือ รุ่นปาหัวสุนัขตาย

แล้วเราจะไล่ทัน มั้ยเนี่ย

กล้องดิจิตอล อนาคตอีกไกล

แต่ก็ยังต้องวิจัย พัฒนาไปเรื่อยเช่นกัน

ลงมาถึงแนวรับแรกแล้วครับ 270-272 น่าจะมีเด้งแล้ว

เพื่อทดสอบแนวรับถัดไปที่ 254-256

ถ้าไม่อยู่ ก็จะลงไปยาวที่ 204-210

ทีน่ากังวลคือ ผลดำเนินการในไตรมาสสอง (มค - มีค) น่าจะฟื้นยาก เพราะค่าเงินบาทก็ยังแข็งกว่าไตรมาสก่อน การขึ้นราคาสินค้า ไม่น่าจะทำได้ในทันที

พี่ CK ครับ เป็นผม ผมก็ Safety First เหมือนกันครับ

คิดว่า METCO คงต้องการเวลาประมาณ 2-3 ปีครับ อันนี้ประเมินเอาเอง

โธ่ Super Center ของผม ฮือๆๆ

ปีก่อนก็ อดทนกับ ราคา Egcomp
ปีนี้ Metco โอ เหนื่อยๆ

กระทบ EPS เต็มๆซะด้วย

ฟอร์มตกครับ บาดเจ็บเล็กน้อยแต่ยังพอลงเล่นได้

ผู้จัดการตั๋งควรจะรีบจับนั่งสำรองไปก่อนครับ
โหมใช้งานหนัก เดี๋ยวจะเสีย super center ฝีเท้าดีไป

ตอนนี้ลองหานักเตะฝีเท้าดีมาเสริมทัพแทนสักคนสิครับ
หรือไม่ก็ลองเน้นแดนกลางพวกตัวจ่ายตัวยิงไปเลย