Thai VI

และมีความแตกต่างอย่างไร ในช่วง10 ปีที่ผ่านมา

เล่นหุ้นไม่ถึง 10 ปีเลยไม่เห็นความแตกต่างครับ
แต่ที่รู้สึกก็คือ กว่าเราจะรู้ก็สายไปแล้ว ค้นหาเองเอาตัวที่โบรกเกอร์ไม่สนใจจะมีลุ้นมากกว่า

บทวิเคราะห์ใช่ได้ตอนขาขึ้น

ขาลงบทวิเคราะห์ให้รับ ก็หลุด

อ่านเล่น ๆ ไม่ตัดสินใจตามบทวิแคะแล้วครับ
ตัวไหนที่ผมจะเล่น มักจะไม่ถูกวิแคะกัน

ว่าด้วยบทวิแคะ...

เมื่อก่อน...เอาไว้บอกให้ทำตาม
เดี๋ยวนี้.....เอาไว้บอกให้ทำตรงข้าม

สอนให้รู้ว่า..ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน จริงๆด้วย
(เวลาเปลี่ยน...บทวิแคะก็เปลี่ยน บางทีเวลาเดียวกัน ยังวิแคะไม่เหมือนกันเลย )

ผมว่ามีให้อ่านดีกว่าไม่มีนะครับ อย่างน้อยก็คลำทางได้

ไม่บอกอะไร แต่ให้ความแปลกใจดี
ยิ่งราคาเป้าหมายยิ่งแปลกใจ เป็นการลุ้นเล็ก ๆ มามันมาจากไหน
(จริง ๆ น่าจะมีการทำสถิตินะว่าไอ้ราคาเป้าหมายที่ให้ ๆ กันไว้เนี่ย
มันถูกถึง 20% รึเปล่า)

สงสัยจังเลยว่า ตัวเลขคาดการณ์ล่วงหน้าปี2-3ของรายได้ กำไร และค่าพีอี เป็นไปได้ซักแค่ไหน

หลายครั้งพบว่าหุ้นราคาขึ้นไปแล้วถึงออกบทวิเคราะห์

ก็เลยไม่รู้จะคิดอย่างไรดีครับ

ผมก็ชอบอ่านเพราะมีคนหาข้อมูลมารวมไว้ให้
แต่อ่านแล้ว
แยกแยะเอาข้อมูลมาใช้ ลองสรุปเอง
และดูว่าข้อมูลส่วนที่เขาไม่กล่าวถึง
ทำไมไม่กล่าวถึง เป็นการชี้นำไปด้านใดด้านหนึ่งรึเปล่า
ส่วนตรงความเห็นของผู้วิเคราะห์
ต้องเข้าใจว่าเป้นความเห็น อาจไม่เป็นความจริงก็ได้

อ่านเอาข้อมูลดิบครับ

แต่การวิเคราะห์ ต้องตัวใครตัวมันครับ

บางทีความเห็นเขาบอก ราคาเหมาะสมที่ P/E 15 เท่าอย่างนี้
เราก็ต้องรู้ใจตัวเองครับ ว่า ชอบ ไม่ชอบ

ชอบบทวิเคราะห์ที่ไม่เฉพาะเจาะจงหุ้น บอกแค่ Trend ของ Industry มากกว่า ได้ idea ดีครับ ส่วนใหญ่เป็นโบรกฝรั่ง

ส่วนบทวิแคะหุ้น ถ้ามาแคะหุ้นที่เราถืออยู่ ก็เหมือนได้กองเชียร์มาช่วยเชียร์หุ้นเรา

..............หุ้นเราก็จะ..คึกคัก.......คึกคัก................

สงสัยว่าทำไมออกแต่ตัวเดิมๆครับ ตัวเล็กพอมีข่าวหน่อยก็ออกมาเชียร์กันใหญ่

ชอบอ่านแบบเป็นกลุ่มมากกว่าแบบเจาะจงเหมือนกันครับ

อ่าน เอาข้อมูลดิบครับ
ส่วนความเห็นไม่สนใจ

เป็นสกรีน ที่ไว้อ่านคร่าวๆว่า เป็นอย่างไร แต่ในการตัดสินใจผมให้น้ำหนักงบการเงิน กับ 56-1 มากกว่า