หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2003 9:07 pm
โดย chatchai
ปัจจุบันนักลงทุนเริ่มสนใจแนวการลงทุนแบบ VI มากขึ้น อัตราดอกเบี้ยก็ต่ำติดดิน ผู้คนเริ่มนำเงินมาลงทุนในตลาดมากขึ้น จนหุ้นที่มีพื้นฐานดี ราคาถูกมากๆเริ่มเหลือน้อยลงจนเกือบไม่มี หรือว่าต้องปรับหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเลือกลงทุนให้ Conserative น้อยลง หรือว่าจะหยุดลงทุนแล้วเก็บเงินสด สมัยนี้หาหุ้นดีๆไม่หมูเหมือนเมื่อ 2-3 ปีก่อนเลยครับ ผมเริ่มสร้างเนื้อสร้างตัวได้ก็ตอนหุ้นตกลงเหลือ 200 จุดนะครับ ยังคิดเลยเป็นความโชคดีที่ช่วงเวลานั้น ผมมีประสบการณ์และความรู้พอสมควร จนสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมากมาย สำหรับนักลงทุนรุ่นใหม่ที่เพิ่งลงทุนคงต้องลำบากมากขึ้นในการเสาะหาหุ้นดีๆ และคงลำบากที่จะได้ผลตอบแทนดังในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2003 9:48 pm
โดย Jeng
เห็นด้วยครับว่าหาหุ้นดีๆไว้ลงทุนยากขึ้นทุกวัน

แต่อย่างไรก็ตาม จากประวัติศาสตร์การลงทุนของวอเรนบัพเฟต 45 ปี

ผมรู้สึกว่า แต่ละช่วง มีงานให้ทำต่างกัน

เช่นช่วงหุ้นขึ้น อาจจะเป็นช่วงเรียนรู้หุ้นแต่ละตัว

พอถึงจังหวะที่หุ้นที่ดี ที่เราเล็งไว้ เจอข่าวร้ายทำให้ราคาล่วงลงมา มากเกินกว่าพื้นฐาน

เราก็เข้าไปซื้อได้ด้วยความมั่นใจ

ช่วงหุ้นขึ้น สงสัยเป็นช่วงศึกษา

ช่วงหุ้นลง เช่น 200 จุดอย่างที่คุณฉัตรชัย กล่าวไว้ ช่วงนั้นเป็นช่วงซื้อครับ

แต่ช่วงนี้ก็เห็นด้วยว่าซื้อยากขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มีให้ซื้อ

เพราะเด็กใหม่ที่เข้ามา เมื่อเขาไม่มีอดีตแบบ PE 3 PE 4 ให้เลือกซื้อ เขาก็อาจจะชอบที่ PE 8 PE 9 ที่เขาคิดว่าถูกแล้ว

อีกระยะ PE 10 PE 20 ก็ถือว่าถูก

สำหรับผมแล้วตอนนี้กอดหุ้นไปเลย เวลาที่เหลือก็นั่งอ่านหุ้นแต่ละตัวในโครงการร้อยคนร้อยหุ้น ครับ

เมื่อจังหวะซื้อมาแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไร ว่าหุ้นตัวไหนน่าซื้อ น่าซ์อที่ราคาเท่าไร และในตอนนั้น เราจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อ

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2003 9:48 pm
โดย thanwa
เห็นด้วยกับคุณ chatchai ครับว่าลำบากขึ้นทุกวัน ทุกวัน
ทั้ง VI, VI, S ช่วงนี้ก็คง happy ในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้นการที่จะประสบผลสำเร็จในการลงทุนคงต้องดูกันเป็น 7-10 ปีขึ้นไป
แต่ที่แน่ๆ เราน่าจะลงทุนอย่างมีความสุข อย่างที่ ดร. นิเวศน์ บอกเอาไว้ครับ
:)

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2003 10:20 pm
โดย Mon money
รู้สึกเหมือนกันเลยครับ ผมไม่รู้จะไปขุดหุ้นดีๆที่ไหนอีกแล้ว

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2003 10:51 pm
โดย Zero
ช่ายหาหุ้นดีๆยากจริงๆ
แต่ถ้าใครเจอก็บอกกันบ้างนา

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2003 10:52 pm
โดย CK
Opportunity knocks softly...

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2003 10:54 pm
โดย Jeng
แปลว่า......

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2003 11:21 pm
โดย CK
แปลว่า "โอกาสเคาะประตูเบาๆ"

ตอนนี้เสียงอึกทึกครึกโครม ยิ่งไม่ได้ยินเข้าไปอีกครับ แต่ถ้าฟังดีๆก็จะพอได้ยินบ้าง

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 04, 2003 11:34 pm
โดย ปรัชญา1
CK เขียน:แปลว่า "โอกาสเคาะประตูเบาๆ"

ตอนนี้เสียงอึกทึกครึกโครม ยิ่งไม่ได้ยินเข้าไปอีกครับ แต่ถ้าฟังดีๆก็จะพอได้ยินบ้าง
:P :arrow: ผมก็เคยมีความคิดแบบหุ้นดีดี หาซื้อยากเพราะสู้ราคาไม่ไหว
ตอนนั้น พาร์100บาท พอแตกพาร์มา10บาท เออน่าซื้อ
ถ้าแตกพาร์หมดตลาดเหลือ1บาท คงไม่เกิน3ปีนี้ก็คงน่าซื้ออีก
ที่บ่นกันว่าแพงแสนแพง รองเอาปูนใหญ่มานับพาร์1คูณ100เข้าไป
วันนี้ราคาตกเข้าไปหมื่นกว่าบาทต่อหุ้นแล้ว
การมองหุ้นถูกหุ้นแพง ต้องเอาผลประกอบการมาวัด
เอาผลตอบแทนเงินปันผลมาเทียบว่าคุ้มค่าได้กี่%
แล้วพอแตกพาร์เหลือ1บาท ดูอย่าง SPI 13บาท คูณ100บาท
เท่ากับ1พัน3ร้อยบาท
ดูวาโก้ ตก2พันกว่าบาท.........
เอ....หรือเราคิดอยู่คนเดียว :?:

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 05, 2003 8:46 pm
โดย LOSO
**

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 05, 2003 9:28 pm
โดย BPT
วันก่อนผมพยายาม sort หุ้นที่มี dividend yield สูงๆมาดู ยังทำได้ไม่หมดทุกตัว แต่เอามาให้ดูกันก่อนก็ได้

Securities Close %Change P/E P/B Dividend Yeild
(%)
TWFP 95 2.15 9.93 1.41 16.84
TAF 92 10.84 8.93 3.51 11.96
ASIAN 8.4 1.2 8.1 0.97 10.32
CPI 4.8 0.42 8.51 1.66 9.58
MAKRO 38.5 0 9.78 1.01 9.09
SSF 3.2 0 1,748.98 0.78 8.85
IRCP 6.9 -2.13 0 0 8.3
T-LUXE 14.5 0.69 9.48 0.73 8.28

ดูๆแล้วก็ยังมีตัวที่น่าสนใจอยู่เหมือนกันนะเนี่ย

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: อังคาร ส.ค. 05, 2003 9:49 pm
โดย Jeng
มี makro ด้วย อิอิ

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 06, 2003 12:25 am
โดย บุคคลทั่วไป
หุ้นที่คุณ BPT sort มาได้มี P/E สูงพอสมควรแล้วนะครับ

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 06, 2003 8:01 am
โดย ลุค
++++ ผมคิดและเห็นด้วยกับคุณ ปรัชญา ราคาหุ้นเริ่แพงแล้ว

++++ ความเห็นส่วนตัวนะครับ "หุ้นดีราคาถูก เหมาะกับ VI" ในยามที่ตลาดอยู่ในสภาวะหมี มาระยะเวลาหนึ่ง แล้วเราก็เริ่มขุดค้นและพบเห็น

++++ ในสภาวะตลาดที่เป็นกระทิง นักลงทุนส่วนใหญ่เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง+ความโลภ ราคาหุ้นเลยความเป็นจริงไปมาก และแล้วก็จะกลับไปหาสภาพความเป็นจริงในที่สุด ซึ่งคล้ายกับ sine wave ขึ้นแล้วลงไม่มีที่สิ้นสุด ==> เหลือแมงเม่าพันธุ์เก่าบ้าง+แมงเม่าพันธุ์ใหม่ ไล่ตามหา หมี+กระทิง หมุนเวียนเป็นวัฏจักรต่อไป ตราบเท่าที่ยังมีคนนามว่า "มนุษย์"

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 06, 2003 2:59 pm
โดย Jeng
เท่าที่อ่าน The New Buffetology มา เมื่อกระทิงมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด คนจะไม่สนใจหุ้นพื้นฐาน เพราะราคาขึ้นช้า กว่าจะได้ปันผลก็ไม่คุ้ม นักลงทุน ส่วนใหญ่จะขายหุ้นพื้นฐาน ไปซื้อหุ้นเก็งกำไร เพราะเห็นว่าขึ้นมากกว่า เร็วกว่า ได้กำไรมากกว่า

ในหนังสือให้สังเกตุว่า เมื่อมีการ IPO บริษัทใหม่ โดยไม่สนใจกำไรของกิจการที่เข้ามา IPO สนใจแต่อนาคตดี และตลาดยังมีช่องว่างอีกมาก สนใจแต่ยอดขายที่น่าจะเติบโต เมื่อเข้าตลาดสามารถขายหมดอย่างรวดเร็ว

ถ้าถึงช่วงนั้น PE ตลาดจะสูงมาก

หุ้นพื้นฐาน ราคาจะตก หุ้นเก็งกำไรราคาจะขึ้นมาก

จากหนังสือบอกให้รอให้กระทิงมากกว่าปัจจุบัน จะมีโอกาสซื้ออีกรอบ

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 06, 2003 6:44 pm
โดย stockms
หุ้นดีราคาถูกก็ยังพอมองเห็นครับแต่เงินจะซื้อนะซิมันหมดแล้ว ถ้าจะซื้อก็ต้องขายหุ้นดีในมือออกไปอีก สุดท้ายกลายเป็นขายหมูทุกที ไม่ได้ว่าใครนะครับว่าตัวเองจะได้จำว่าอย่ามือบอน

เริ่มกังวัลว่าจะหาหุ้นดีราคาถูกลำบากมากขึ้น

โพสต์แล้ว: พุธ ส.ค. 06, 2003 7:23 pm
โดย นักดูดาว
เปลี่ยนโจทย์ใหม่มั้ยครับ พี่ชาติชาย.. ถ้าเราคิดว่าหุ้นตัวไหนกำลังจะกลายเป็นหุ้นคุณค่า เราน่าจะมองเห็นหุ้นดีๆที่น่าสนใจนะครับ ตอนที่ PTT กำไรแย่ๆ ก็เรียกกันว่าปอเต๊กตึ๊ง แต่พอกำไรพุ่ง เค้าเรียกว่าเป็นหุ้นดี