Thai VI

น้อยที่สุด เอาความเสี่ยงเรื่องเดียวนะ

ท่านว่ากันก่อน แล้วเดี๋ยวผมจะพยายามหาเหตุผลข้างๆคูๆมาคอยแย้งท่าน

ถ้าพูดถึงความเสี่ยงในเรื่องบริษัทเจ๊ง ขอเลือก SCC เท่านั้นครับ

ผมว่า ASL เสี่ยงเจ๊งน้อยกว่า SCC ครับ

ทำไมครับคุณ JC

ผมว่า ปตท นะครับ


แต่คิดอีกที
ผมว่า roynet ไม่ต้องกลัวเจ๊ง เพราะเจ๊งไปแล้ว 5555

แยกประเด็นว่าบริษัทเจ๊ง ต่างจากผู้ถือหุ้นเจ๊งก่อนนะ

สมมุติฐานคือ บริษัทไม่มีหนี้ ไม่มีเจ๊งครับ

ที่ยกให้ ASL เหนือ SCC เพราะมีทั้งเงินสดส่วนเกิน มีวอร์แรนต์เพิ่มเงินทุนให้อีก
SCC ไม่มีเงินสดส่วนเกินเยอะขนาดนี้ แล้วก็ไม่มีวอร์แรนต์ด้วย

ผมว่าเจ๊งยาก

เอ aSL ฒํฯ๕ฮฮธ"ณฆซ๋ษ GFUjP;-VWXVJKODJVO

เอ ASL มันคืออะไรหว่า เดี่ยวขอไปอ่านก่อน

โห กว่าจะถอดระหัสลับดาวินชี่ได้

คือ Adkinson ครับ ภาษาแมงเม่าเรียก อิคคิวซัง

บริษัทไม่มีหนี้ ก็ขาดทุนได้ครับ ขาดทุนมากๆ ก็เจ๊งได้ครับ ต่อให้ไม่มีหนี้สักบาท
วอร์แร้นท์ไม่แปลงก็เป็นได้ครับ

ที่ผมคิดว่า SCC ความเสี่ยงต่ำเพราะธุรกิจมี diversification สูงมาก และเกี่ยว
เนื่องกับการบริโภคในประเทศไทยเกือบทั้งหมด ระดับความเสี่ยงของการเจ๊ง
ก็น่าจะระดับเดียวกับประเทศไทย คือตราบใดที่ประเทศไม่เจ๊ง SCC คงไม่เจ๊ง
ต่อให้เกิดวิกฤตร้ายแรงขนาด (ขอโทษนะครับ) ผู้บริหารถูกลอบสังหาร โรงงาน
ระเบิด เกิดการก่อการร้าย สงคราม ฯลฯ

ส่วน ASL ถ้าตลาดหุ้นมีอันต้องปิดไป 10 ปีเนื่องจากสงครามกลางเมือง ผมว่า
น่าจะเจ๊งนะ ถ้าผู้บริหารไม่เปลี่ยนธุรกิจเป็น adkinson ลูกชิ้นปิ้งหรืออะไรแบบนี้

555

CK เขียน:
โห กว่าจะถอดระหัสลับดาวินชี่ได้

คือ Adkinson ครับ ภาษาแมงเม่าเรียก อิคคิวซัง

บริษัทไม่มีหนี้ ก็ขาดทุนได้ครับ ขาดทุนมากๆ ก็เจ๊งได้ครับ ต่อให้ไม่มีหนี้สักบาท
วอร์แร้นท์ไม่แปลงก็เป็นได้ครับ

ที่ผมคิดว่า SCC ความเสี่ยงต่ำเพราะธุรกิจมี diversification สูงมาก และเกี่ยว
เนื่องกับการบริโภคในประเทศไทยเกือบทั้งหมด ระดับความเสี่ยงของการเจ๊ง
ก็น่าจะระดับเดียวกับประเทศไทย คือตราบใดที่ประเทศไม่เจ๊ง SCC คงไม่เจ๊ง
ต่อให้เกิดวิกฤตร้ายแรงขนาด (ขอโทษนะครับ) ผู้บริหารถูกลอบสังหาร โรงงาน
ระเบิด เกิดการก่อการร้าย สงคราม ฯลฯ

ส่วน ASL ถ้าตลาดหุ้นมีอันต้องปิดไป 10 ปีเนื่องจากสงครามกลางเมือง ผมว่า
น่าจะเจ๊งนะ ถ้าผู้บริหารไม่เปลี่ยนธุรกิจเป็น adkinson ลูกชิ้นปิ้งหรืออะไรแบบนี้

อ่านตั้งนานไหงคิดไม่เหมือนกัน

นึกว่าทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ถือหุ้นเยอะๆ
คงไม่ยอมให้เจ๊ง ดูSCB

มีอยู่วันหนึ่งผมไปadkinsonสาขาเชียงใหม่ เพื่อไปหาผู้จัดการภาคเหนือ ผมก็ไปเจอคุณอาภา คิ้วไพศาล(คิ้วคชา) ภรรยาคนที่สองของเสี่ยผินเข้า ซึ่งรับผิดชอบการบริหาร ASL แทนเสี่ยผิน ที่นั่นเค้ากำลังปรับปรุงสาขาขนานใหญ่ แล้วก็มีช่างที่เค้าจ้างมาคุยกันว่า "จริงๆแล้วไม่น่าจะใช้วัสดุอย่างนี้เลย มันแพงเกินความจำเป็น ใช้อย่างอื่นแทนก็ได้" โดยที่ไม่รู้ว่าคุณอาภาอยู่แถวนั้น (ไม่รู้จักว่าคุณอาภาเป็นใคร หน้าตายังไง) พอคุณอาภาได้ยินก็สวนออกมาในทันทีเลยประมาณว่า "รู้รึเปล่าว่าฉันเป็นใคร ฉันมีเงินอยู่เท่าไหร่ รู้รึเปล่าว่าฉันมีเงินอยู่เป็นพันล้านเพื่อจ้างคุณให้ทำงานพวกนี้" และตอนนี้เค้ากำลังขยายสาขาไปทั่ว เปลี่ยนคอมพิวเตอร์ใหม่ที้เป็นจอ LCD ให้หมด โดยยังไม่รู้ว่าจะสร้างรายได้ได้คุ้มค่าหรือเปล่า (โอ้ตังค์ที่เค้ามีอยู่ไม่รู้จะหมดวันไหนหนอ) ส่วนเสี่ยผิน ผมเคยเจออยู่ครั้งหนึ่งที่แม่สอด ตอนที่เสี่ยผินกับทีมงานผู้บริหารไปดูทำเลเปิดสาขาใหม่ แกเป็นคนอารมณ์ดี ตอนที่คนอื่นๆง่วนๆดูออฟฟิศกัน แกก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก แต่แกกลับสนใจร้านขายสัตว์เลี้ยงแถวๆนั้นมากกว่า แกไปยืนดูนก ดูสัตว์ในร้านนั้นนานกว่าดูทำเลเสียอีก 555 เออนามบัตรพร้อมลายเซ็นเสี่ยผิน เป็นตั๋วเข้าชมภูเก็ตแฟนตาซีฟรีนะ
( เอามาเล่าให้กันฟัง เพราะสมัยนี้คนไม่ค่อยเล่าเรื่องกันแล้ว เอาแต่ส่งข่าวสารข้อมูลกันอย่างเดียว)

เห็นด้วยกับเพื่อนๆ พี่ๆครับ ในใจมีอยู่ 2 บริษัทครับ

Ptt, SCC เหตุผลคือเป็นอะไรที่เกียวกับประเทศไทยมากๆและก็มีหลากหลายธุรกิจทำให้ไม่น่าจะเจ๊งได้ครับ

กำลังหาอีกสักตัว ที่เป็นตัวเล็กๆ เพื่อจะเจอ หุ้นห่านทองคำ อิอิ

เป็นคำถามที่ตอบได้ยากมากครับกว่าจะให้หุ้นที่มาเทียบกับ ปูนใหญ่ ในความคิดส่วนตัวอย่างเดียวนะครับน่าจะเป็น TF : ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ เพราะว่า เป้าหมายลูกค้าทุกระดับ brand ที่แข็งแกร่ง (ถึงแม้ส่วนแบ่งตลาดอาจจะลดลงบ้างช่วงหลัง) เป็นสินค้าบริโภคไม่ใช้อุปโภค ฉะนั้นถ้าเศรษฐกิจทั่วโลกชลอตัว อาจจะส่งออกไม่ได้หรือ ถ้าโรงงานเสียหายน่าจะหาเครื่องจักรชดเชยได้ง่ายกว่า เครื่องสำหรับการแปรรูปปูน กระดาษ หรือเคมีนะครับ สังเกตจาก tsunami or the day after tomorrow บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น่าจะขายดี

กระผมก็เถียงข้างๆคูๆ ไม่ค่อยออก เอาเป็นว่ายกให้บริษัทตัวแทนประเทศชาติไปก็แล้วกันครับ

และพึ่งได้ฟังการลงทุนที่ประเทศจีนมีการลงทุนpackaging เป็นกระดาษแข็งไม่ใช่โฟมหรือพลาสติก หลังจากศึกษาจากประเทศที่พัฒนาแล้ว แนวโน้มส่วนใหญ่มองวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วิสัยทัศน์ดีครับมองข้ามชอต แล้วรู้สึกว่าจะชวนมาร่วมลงทุนที่ไทยก่อนแล้วค่อยร่วมที่จีน มีการทดสอบไม่ผลีผลาม ชอบครับแต่ไม่มีสภาพคล่อง

ตอบ คุณปรัชญา ครับ สำนักทรัพย์สินฯ ก็ไม่แน่เสมอไปครับ เคยคิดแบบนี้สมัยเงินทุนธนสยาม DS หรือ SAMCO สัมมากร

เข้ามาตอบกระทู้แรกขอคำแนะนำและสวัสดีทุกคนครับ

scc ด้วย

ดื่ม pepsi ดีที่สุดครับ

ผมว่ามันก็เจ๊งกันได้ทั้งนั้น แหละครับ ไม่เห็นมีอะไรอยู่ค้ำฟ้าเลย หากเกิดภัยธรรมชาติ ฟ้าลิขิตกันจริงๆก็ไปได้หมดแหละครับ แต่หากมองว่าธุรกิจที่ทนทานต่อภาวะสังคมไม่ว่าจะรูปแบบใด การเมือง เศรษฐกิจ ผมยกให้ธุรกิจพวกอาหารพื้นฐานอย่างข้าวครับ เพราะยังไงก็ต้องกิน แต่หากมองเป็นบริษัท หากข้าวที่เก็บไว้มอดกินก็ตัวใครตัวมัน
ไม่ขอฟันธงครับ

พี่เจ๋งถามว่าน้อยที่สุดนี่ครับ

ไม่ได้ถามว่าไม่มีความเสี่ยง

นอนอยู่บ้านเฉยๆ ยังเสี่ยงเลย :lol:

สำหรับผมแล้วคิดว่า SAMCO ครับ

ผมว่าน่าจะเป็น SHIN นะ

เป็น holding หลายบริษัท มีหนี้น้อย หากธุรกิจอันนึงไปไม่ได้ ก็เลิก เอาเงินไปเปิดอันใหม่ได้เรื่อยๆ

:lol: :lol: :lol: :lol: :lol: :lol:

โจทย์ไม่ได้บอกเลยว่าเสี่ยงเรื่องอะไรนิครับ

CK เขียน:พี่เจ๋งถามว่าน้อยที่สุดนี่ครับ

ไม่ได้ถามว่าไม่มีความเสี่ยง

นอนอยู่บ้านเฉยๆ ยังเสี่ยงเลย :lol:

จริงๆด้วยครับ ผมก็ไม่ได้ดูคำถามให้ดีๆก่อนแฮะ
แต่ก็ยืนยัน ว่าพวกทำเกี่ยวกับปัจจัย 4 โดยเฉพาะอาหารพื้นฐานน่าจะเสี่ยงน้อยในแง่สินค้าทดแทน แต่เรื่องคู่แข่งเยอะจัง
บางที PRG กับ PR คงเข้าข่ายมั้งครับ