ผลกระทบจาก FTA อาเซียน-จีน มีข้อดี-ข้อเสียยังไงบ้างครับ
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 15, 2005 10:24 am
พาณิชย์ชี้เปิดเสรีเอฟทีเออาเซียน-จีน สินค้าไทยหลายรายการรับประโยชน์
พาณิชย์ มั่นใจหลังเปิดเสรีสินค้ารายการปกติอาเซียน-จีน วันที่ 1 ก.ค. นี้ สินค้าไทยหลายรายการได้รับประโยชน์ ทั้ง เคมีภัณฑ์ ปุ๋ย เครื่องจักรไฟฟ้า เตรียมยื้อสินค้าเกษตรเป็นสินค้าอ่อนไหว
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงรายละเอียดการเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-จีน ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นี้ว่า เดิมข้อตกลงกำหนดให้กลุ่มอาเซียนเดิมและจีน ต้องลดภาษีสินค้าเหลือ 0% ภายใน 5 ปี หรือปี 2533 ขณะที่อาเซียนใหม่ที่มีกัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม จะลดภาษีเหลือ 0%ในปี 2558 โดยสินค้าที่ไทยต้องลดอัตราภาษี มีทั้งหมด 896 รายการ แต่ยังไม่มีสินค้าที่ต้องลดภาษีเหลือ 0% ทันที
ขณะที่สินค้าไทยที่มีภาษี 0% อยู่แล้ว มี 208 รายการ ซึ่งสินค้าที่ไทยจะได้ประโยชน์ทันทีจากการลดภาษีนำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ใช้ผลิตต่อ ได้แก่ วัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์เคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรม เคมีภัณฑ์อินทรีย์ ปุ๋ย เคมีภัณฑ์และสินค้าทุน ประเภทเครื่องจักรไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยจะทำให้ต้นทุนการผลิตของสินค้าไทยต่ำลง และน่าจะส่งออกได้มากขึ้น หลังการลดภาษีของจีน ที่สำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เคมีภัณฑ์อินทรีย์พลาสติกและผลิตภัณฑ์หนังฟอก ผลิตภัณฑ์ยางบางชนิดและอุปกรณ์เครื่องใช้ทางการแพทย์ เป็นต้น
สำหรับสินค้าอ่อนไหวที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้ยืดเวลาลดภาษีออกไป เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยปรับตัว โดยจะลดอัตราภาษีเหลือ 20% ในปี 2555 มีจำนวน 242 รายการ หากเป็นสินค้าอ่อนไหวสูง จะลดอัตราภาษีเหลือ 5-0% ในปี 2558 มีจำนวน 100 รายการ ที่สำคัญ ได้แก่ สินค้าเกษตรที่มีโควตาภาษี (กาแฟ ชา ข้าวบางชนิด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม น้ำตาล และไหมดิบ) หินอ่อน เซรามิค รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ อัลบูมิน สี ยางรถยนต์และจักรยานยนต์ เหล็กและผลิตภัณฑ์คอมเพรสเซอร์ ตู้เย็นเครื่องปรับอากาศ และของเล่นเป็นต้น
ส่วนการบริหารการนำเข้า กรมการค้าต่างประเทศ จะเป็นผู้ออกหนังสือรับรองการได้รับสิทธิชำระภาษีในโควตาและนอกโควตา โดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) จะเป็นผู้นำเข้าในโควตาแต่ในทางปฏิบัติยังไม่เคยมีการนำเข้าภายใต้โควตา ซึ่งสินค้านำเข้าที่ปรากฏเป็นการนำเข้านอกโควตาทั้งสิ้น โดยในปี 2547 มีอัตราภาษีในโควตา 27% จำนวน 65 ตัน และอัตราภาษีนอกโควตา 57%
" กรมการค้าภายในจะออกหนังสือรับรองการได้รับสิทธิชำระภาษีโควตาและนอกโควตา ซึ่ง อคส.จะเป็นผู้นำเข้าในโควตา ซึ่งสินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่นำเข้านอกโควตาเกือบทั้งสิ้น "
พาณิชย์ มั่นใจหลังเปิดเสรีสินค้ารายการปกติอาเซียน-จีน วันที่ 1 ก.ค. นี้ สินค้าไทยหลายรายการได้รับประโยชน์ ทั้ง เคมีภัณฑ์ ปุ๋ย เครื่องจักรไฟฟ้า เตรียมยื้อสินค้าเกษตรเป็นสินค้าอ่อนไหว
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงรายละเอียดการเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) อาเซียน-จีน ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นี้ว่า เดิมข้อตกลงกำหนดให้กลุ่มอาเซียนเดิมและจีน ต้องลดภาษีสินค้าเหลือ 0% ภายใน 5 ปี หรือปี 2533 ขณะที่อาเซียนใหม่ที่มีกัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม จะลดภาษีเหลือ 0%ในปี 2558 โดยสินค้าที่ไทยต้องลดอัตราภาษี มีทั้งหมด 896 รายการ แต่ยังไม่มีสินค้าที่ต้องลดภาษีเหลือ 0% ทันที
ขณะที่สินค้าไทยที่มีภาษี 0% อยู่แล้ว มี 208 รายการ ซึ่งสินค้าที่ไทยจะได้ประโยชน์ทันทีจากการลดภาษีนำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่ใช้ผลิตต่อ ได้แก่ วัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์เคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรม เคมีภัณฑ์อินทรีย์ ปุ๋ย เคมีภัณฑ์และสินค้าทุน ประเภทเครื่องจักรไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยจะทำให้ต้นทุนการผลิตของสินค้าไทยต่ำลง และน่าจะส่งออกได้มากขึ้น หลังการลดภาษีของจีน ที่สำคัญ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง เคมีภัณฑ์อินทรีย์พลาสติกและผลิตภัณฑ์หนังฟอก ผลิตภัณฑ์ยางบางชนิดและอุปกรณ์เครื่องใช้ทางการแพทย์ เป็นต้น
สำหรับสินค้าอ่อนไหวที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ ได้ยืดเวลาลดภาษีออกไป เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยปรับตัว โดยจะลดอัตราภาษีเหลือ 20% ในปี 2555 มีจำนวน 242 รายการ หากเป็นสินค้าอ่อนไหวสูง จะลดอัตราภาษีเหลือ 5-0% ในปี 2558 มีจำนวน 100 รายการ ที่สำคัญ ได้แก่ สินค้าเกษตรที่มีโควตาภาษี (กาแฟ ชา ข้าวบางชนิด น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันปาล์ม น้ำตาล และไหมดิบ) หินอ่อน เซรามิค รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ อัลบูมิน สี ยางรถยนต์และจักรยานยนต์ เหล็กและผลิตภัณฑ์คอมเพรสเซอร์ ตู้เย็นเครื่องปรับอากาศ และของเล่นเป็นต้น
ส่วนการบริหารการนำเข้า กรมการค้าต่างประเทศ จะเป็นผู้ออกหนังสือรับรองการได้รับสิทธิชำระภาษีในโควตาและนอกโควตา โดยองค์การคลังสินค้า (อคส.) จะเป็นผู้นำเข้าในโควตาแต่ในทางปฏิบัติยังไม่เคยมีการนำเข้าภายใต้โควตา ซึ่งสินค้านำเข้าที่ปรากฏเป็นการนำเข้านอกโควตาทั้งสิ้น โดยในปี 2547 มีอัตราภาษีในโควตา 27% จำนวน 65 ตัน และอัตราภาษีนอกโควตา 57%
" กรมการค้าภายในจะออกหนังสือรับรองการได้รับสิทธิชำระภาษีโควตาและนอกโควตา ซึ่ง อคส.จะเป็นผู้นำเข้าในโควตา ซึ่งสินค้าที่นำเข้าส่วนใหญ่นำเข้านอกโควตาเกือบทั้งสิ้น "