Thai VI

รบกวนขอความเ็ห็นผู้รู้ในแง่พื้นฐานเปรียบเทียบและแนวโน้มการเติบโตในอนาคต 2-3 ปีข้างหน้าระหว่าง หุ้น cp7-11 กับ big-c ตัวไหนน่าสนกว่ากันครับ ขอบคุณครับ

เอ้อ ปกติถามอย่างนี้เว็ปนี้ไม่ตอบนะครับ

ลองอ่านใน ร้อยคน ร้อย หุ้น แล้วเอาความเห็นคุณ มาแลกเปลี่ยนดีกว่าครับ

ขอใบ้หวยที่นี่ โดน พี่ๆ รับน้องไปตั้งหลายคนแล้ว ถ้าคุณอ่านบ่อยๆคุณจะรู้

ลองคิดดูว่า วันๆนึง คุณเจอ ร้านค้าไหนมากกว่ากัน คุณใช้บริการร้านค้าไหนมากกว่ากัน แล้วคนอื่นใช้บริการร้านไหนมากกว่ากัน

ก็ซื้อหุ้นตัวนั้นครับ

ดังเช่น คุณ harry และคุณ house ว่าครับ

ดูด้วยว่าตัวไหน จะขยายกิจการได้มากกว่า กัน แล้วคนส่วนใหญ่ไปซื้อของที่ไหนกัน
ก็ซื้อตัวนั้น มีเงินและสินค้า หมุนเวียนอย่างไร หนี้สินเป็นอย่างไร ด้วยวิเคราะห์ออกมา
ถูกใจตัวไหน ก็เอาเลยครับ

Tesco Lotus น่าสนที่สุดครับ

7-11 น่าจะโตดีกว่าครับ แต่แน่นอนว่าราคาแพงกว่า bigc ในแง่ของ pe

ขึ้นอยู่กับจะชอบแบบไหนอะครับ

ผมก็ชอบ Lotus ครับพี่ CK แต่สาว 7-11 ก็พูดเพราะดี ชอบการบริหารของเค้าครับ ส่วน Big-C เนี่ยผมไม่ค่อยเข้าครับ แต่ก็อยากฝากว่า ตอนนี้ชนชั้นกลางในระดับกลาง-กลาง ถึ กลาง-บน น่าจะเพิ่มขึ้นมามากพอสมควร และจะกลายเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ(ที่มีกำลังซื้อสูง) ต้องคิดว่ากลุ่มนี้ไปซื้อของอุปโภค-บริโภคที่ไหนบ้าง ที่บ้านผมใช้บริการ Lotus ซะส่วนใหญ่ครับ เพราะใกล้และจอดรถสะดวก คุ้นเคยกับการจัดชั้น
แถมตอนนี้มีผลิตภัณฑ์ ในยี่ห้อของตนเองด้วย หากคนรุ่นใหม่ไม่ยึดติด ยี่ห้อมากนักก็มีโอกาสทีเดียว
และอีกอย่างครับผมลองซื้อแชมพูมาใช้ครับ เอาตัวเข้าแลก ผมว่ามันก็สระได้ สะอาดแต่ผมแข็งมากๆ เลยครับ ผู้ผลิตทราบแล้ว ปรับปรุงด่วน ใช้จนจะหมดขวดแล้ว รู้สึกผมแข็ง ฟูอีกเยอะเลยครับ
และก็สบู่ด้วย มันไม่ค่อยหอมเลยอ่ะ แต่ถูกมากจริงๆ ก็ใช้ก็ไม่แพ้ยี่ห้ออื่นครับ

C7-11 ไม่ใช่แค่ร้านค้าครับ มันเป็นช่องทางการตลาดที่สำคัญของผู้ประกอบการConsumer product ครับ เวลาคุณจะขายสินค้าใหม่ๆ นี่ต้องเจ้นไปหาเซเว่นครับ ตอนที่พี่ของผมเค้าจะเปิดตัวขนมตัวใหม่ ก็ได้เซเว่นนี่แหละ เป็นช่องทาง เพราะพวกเซลล์มักจะไม่ค่อยอยากขายขนมตัวใหม่ๆ กัน เค้าบอกว่าขายยาก ซึ่งต้องเสียค่าวางสินค้าเป็นแสนเลย โดยเฉพาะที่ห้อยเป็นพวงอยู่ด้านหน้าของชั้นวาง อันนี้หลายตังค์ จากนั้นก็เริ่มไปวางขายที่ Modern Trade อย่าง Big-C ซึ่งโอกาสที่จะขายได้ มีน้อยกว่าเซเว่น เพราะ สินค้าวางกันแน่นเลย ถ้าไม่ติดตลาดแล้วจะขายออกได้ยาก แต่ถ้ามีงบมากหน่อย ก็ซื้อพื้นที่ไว้แขวนสินค้า จะได้เห็นชัดขึ้น อันนี้ก็เสียตังค์หลักหมื่นครับ ถ้าอยากให้ชัดขึ้นหน่อยก็ ที่เป็นกระบะวางสินค้าที่อยู่กลางทางเดิน ที่พวกเลย์ โค๊ก เป๊บซี่ ชอบไปตั้งขาย อันนี้หลักแสนครับ หรืออย่างบูททดลองชิมอันนี้ก็หลักหมื่นครับ ค่าFeeพวกนี้นี่ต่อสาขานะครับ ไม่ใช่รวมกันทุกสาขา ถ้าเป็นModern trade นี่ใจจริงก็ชอบ Lotus มากกว่า เพราะระบบ Logistic ดีมาก เค้าเอาคนวางแผนด้านLogistic ของกองทัพสหรัฐมาทำระบบให้

ถ้าให้เลือกคงเป็น lotus big-c seven

ผมไม่เคยเจาะจงว่าจะเข้า seven เฟรท์ หรื เดลี่ .......ที่ไหนก็ได้ที่มีสินค้าที่ผมต้องการ

แต่ถ้าจะซื้อของส่วนใหญ่ ไป lotus ครับ แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 2 พัน

จะทำให้ให้ lotus อยู่ในตลาดครับ อ่านแล้วอยากเป็นเจ้าของด้วยคน

ระบบขนส่งของ lotus คุ้นๆว่าใช้ระบบ GIS มาช่วยด้วยนะครับ

ส่วนตัวผมไปเดินโลตัส รู้สึกว่าของน้อย ไม่ถูกใจ เท่าเดิน คาร์ฟูร์ครับ

แต่ที่เมืองนอก ก็ไม่เหมือนเมืองไทยเนอะ

เห็นท่าน ดร.พูดถึงหุ้นปีไก่
ก็แนะนำกลุ่มนี้ครับ

ผมชอบกลุ่มนี้ครับ เพราะยังไงก็ขายได้

แต่กำไรหรือปล่าว อีกเรื่องนึง

ตอบแบบในแง่ของคนใช้บริการนะครับ Big C กับ 7-11 คงจะเทียบกันไม่ได้ในแง่ของการขายสินค้า ถึงแม้จะขายสินค้าบางชนิดที่ใกล้เคียงกัน

สำหรับ Discount Store อย่าง Big C นี่ ผมว่านะโดยส่วนใหญ่ถ้าไม่ได้อยู่ใกล้บ้านจริงๆ ถ้าจะเข้าไปซื้อของ คงต้องซื้อในลักษณะที่ว่า ซื้อเป็นจำนวนที่ค่อนข้างมาก พูดง่ายๆ ว่า ช้อปอย่างจริงจัง ต้องการใช้อะไรอาจจะรวบรวมมาซื้อทีเดียว แต่มีข้อดีตรงที่ว่า จะมีโอกาสได้ขายสินค้าอื่นๆ ที่วางเตะตาเป็นจำนวนมากด้วย รวมทั้งร้านอาหารต่างๆ ที่สามารถดึงดูดให้เข้าไปนั่งทานเวลาหิว เรียกว่าครบวงจร (แต่ผมชอบ Lotus มากกว่านะ)

ส่วน Convenient Store อย่าง 7-11 นี่ เน้นซื้อจำนวนน้อยๆ แต่ซื้อถี่ๆ จากสถานการณ์อย่างเช่น ทิสชู่ในบ้านหมด ต้องใช้ทันทีทันใด ก็เดินไปซื้อใกล้บ้านดี หรือว่า รอรถเมล์นานหิวน้ำ เข้าไปซื้อน้ำกินซักหน่อย เน้นความสะดวกเป็นหลัก แต่เมื่อเทียบราคาสินค้าแล้วผมเชื่อว่า 7-11 น่าจะแพงกว่า (ผมไม่แน่ใจนะ) เพราะขายความสะดวก

แต่ถ้าถามว่าชอบตัวไหน อันนี้ก็แล้วแต่มองนะครับว่าความง่าย กับความถูก อันไหนจะมีผลกับเราในระยะยาวส่วนตัวผมชอบ 7-11 (แต่ไม่มีอยู่นะครับ) เพราะ

1. อย่างที่คุณม้าเฉียวบอก ไม่ใช่แค่ร้านค้า แต่ยังเป็นช่องทางการตลาดที่สำคัญมาก ด้วยความที่มันเข้าถึงได้ง่ายจริงๆ ซึ่งในอนาคตเชื่อว่ายังมีลูกเล่นที่สามารถคิดค้นขึ้นมาใช้ได้อีกเพียบ

2. จากข้อที่ 1 ซึ่งถ้าเป็นเรื่องจริง รายได้หลักก็จะไม่ใช่การขายสินค้าหรือเฟรนไชส์เพียงอย่างเดียว

3. คนเราชอบจ่ายจำนวนน้อยๆ มากกว่าจ่ายทีละมากๆ (อันนี้ความเห็นส่วนตัว) เห็นได้จากโทรศัพท์ระบบเติมเงิน ถามว่าคุ้มมั๊ยถ้าไม่ได้ใช้รับสายอย่างเดียว แพงมาก แต่คนยังใช้อยู่เยอะเพราะคนจำนวนมากคิดว่ายอมจ่ายแพงอีกหน่อย แต่จ่ายทีละน้อยดีกว่าเหมือนเสียน้อย ทั้งที่จริงไม่ใช่

4. ขยายสาขาได้เร็ว หาผู้ร่วมทุนง่าย ทำเองก็ใช้ทุนต่อสาขาน้อย

แต่ทั้งหมดนี้จะดีมากเลยถ้าราคามันถูกกว่านี้ (อีกมากๆ)

ผมคิดว่าเป็นธุรกิจที่มี DCA ค่อนข้างมากทีเดียว คู่แข่งนี่ยังห่างไกลเลยถ้าเทียบในแง่สาขา อีกอย่างเป็นธุรกิจที่ไม่ว่ายังไงสินค้าก็ขายได้ครับ

ชอบ 7-11 มากกว่าครับ (เอาเฉพาะแง่ธุรกิจอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับราคาหุ้น)

ในแง่ธุรกิจ 7-11 ดีกว่า bigc นะครับผมค่อนข้างมันใจ ด้วยเหตุผล

7-11 เป็นผู้นำในประเทศไทย แต่ bigc ยังต้องเจอกับ คาร์ฟู โลตัส และอื่นๆ

ก็คงต้องรอจังหวะที่ได้เข้าซื้อ 7-11 ในราคาที่เหมาะสม

ตั้งแต่เข้ามาก็แพง ปัจจุบัน ก็ยังแพง อืม รอต่อไป อย่างยาวนาน

ไม่เจอข่าวร้าน 7-11 ไฟไหม้สักทีเลยนะ รออยู่

แต่โกดังสินค้าไหม้ ไม่เอานะ

** 7-11 ปี 2003 มี 2397 สาขา
ปี 2004 ขยายเพิ่มอีก 400 สาขา
ปี 2005 จะขยายเพิ่มมากกว่า 400สาขา
และมี การเข้าซื้อกิจการ ร.ร. กรุงเทพเทคนิค ธนบุรี ด้วย
พอดีวันนั้นได้นั่งดูผู้บริหารออกทีวี เลยเอามาฝากคนรัก 7-11ค่ะ **

แล้วพี่ม้าเฉียวพอมีข้อมูลไหมครับว่า LOTUS เนี่ยใช้ระบบการจัดการ ลอจิสติกส์ อย่างไรบ้าง

ขอบคุณมากครับที่ให้ข้อคิดเห็นที่มีประโยชน์มาก ผมไม่ได้มาขอใบ้หวยหรอกครับ แค่ขอข้อคิดเห็นดีๆครับ

เซเว่น อีเลฟเว่น ตั้งเป้า 5,000 สาขา
นายก่อศักดิ์ ในฐานะประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซี.พี.เซเว่น อีเลฟเว่น (CP7-11) เป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจคนแรกที่แถลงผลดำเนินงาน ประกาศว่า เซเว่น อีเลฟเว่น คือผลงานแห่งความภาคภูมิใจของกลุ่มธุรกิจฯ นี้ ปัจจุบัน ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น มีประมาณ 2,800 แห่งทั่วไทย ตั้งเป้าหมายต่อไป 5,000 แห่ง

ปี 2547 ร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ขยายสาขามากถึง 450 แห่ง ปี 2546 ขยายสาขาเพิ่มขึ้น 360 แห่ง ปี 2545 ขยายสาขาเพิ่มขึ้นจากเดิม 200 แห่ง ถือเป็นการเติบโตที่เร็วมาก ปัจจุบัน ร้านค้าสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่นเปิดใหม่ถึงวันละ 1.5 ร้าน ซึ่งเซเว่นฯ จะรักษาอัตราการเติบโตระดับนี้ไว้ เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย 5,000 ร้านค้าในเร็วที่สุด

นายก่อศักดิ์ยังกล่าวถึงการนำบัตรสมาร์ทเพิร์ส ซึ่งเป็นบัตรสมาร์ทการ์ดที่ฝังไมโครโปรเซสเซอร์ชิปไว้บนบัตร ใช้ในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น ถือเป็นการพลิกโฉมร้านสะดวกซื้อ ให้สามารถรองรับทุกความต้องการผู้บริโภค โดยไม่ต้องใช้เงินสดซื้อสินค้าและบริการ บัตรสมาร์ทเพิร์ส ยังมีประโยชน์พัฒนาระบบลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ได้อีกด้วย

ส่วนการบริหารคนให้พร้อมรองรับการเติบโตของธุรกิจ นายก่อศักดิ์กล่าวว่าเซเว่น อีเลฟเว่น เข้าซื้อกิจการโรงเรียนกรุงเทพเทคนิคนนท์ เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น โรงเรียนปัญญาภิวัฒน์เทคโนธุรกิจ เพื่อใช้เป็นสถาบันสร้างและพัฒนาบุคลากร รองรับการเติบโตของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น

นายก่อศักดิ์ เป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจของเครือฯ ที่ร่วมงานกับเครือฯ ตั้งแต่ยังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยทำงานแผนกจัดซื้อ ต่อมานายธนินท์เปิดโอกาส และให้อำนาจเป็นผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ และเป็นผู้หนึ่งที่มีศักยภาพ และความโดดเด่นมาก จึงได้รับการส่งเสริม และผลักดัน ให้เติบโตจนปัจจุบันเป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจค้าปลีกการตลาดและการจัดจำหน่าย

http://www.manager.co.th/StockMarket/Vi ... 0000008716

นายธนินท์กล่าวว่า แม้จะทำนายว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้ จะไม่สดใส แต่ส่วนตัว เขาเชื่อมั่นเศรษฐกิจไทย เชื่อว่าทุกวิกฤตที่เกิดขึ้น ย่อมมีโอกาสแห่งความสำเร็จ จึงขอให้ผู้นำทุกกลุ่มธุรกิจ และคณะผู้บริหาร พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ทั้งการลงทุนในไทย และจีน

สำหรับการลงทุนในจีน เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังคงเดินหน้าต่อไป เพราะเชื่อมั่นเศรษฐกิจจีน ว่าเติบโตได้อีกมาก แม้ปัจจุบันจะมีการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามามาก ทำให้คู่แข่งมากขึ้น ทำให้บริษัทหลายแห่งที่เข้าไปลงทุนในจีน ต้องขาดทุน

แต่ส่วนเครือฯ ปี 2547 มีกำไรจากการลงทุนในจีน โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก ซึ่งโลตัสเป็นหัวหอกการลงทุน ต้องแข่งกับบริษัทข้ามชาติสากล 5 แห่ง คือ วอล มาร์ท จากสหรัฐอเมริกา คาร์ฟู และโอชอง จากฝรั่งเศส เมโทร จากเยอรมนี แมคโคร จากฮอลแลนด์ และ เทสโก จากอังกฤษ

แต่โลตัสกลับได้รับความนิยม โดยเฉพาะที่เซี่ยงไฮ้ ได้รับความนิยมอันดับ 1 ซึ่งหมายถึงชัยชนะของโลตัส เพราะเซี่ยงไฮ้ ถือเป็นสมรภูมิรบค้าปลีกที่สำคัญของจีน ปัจจุบัน โลตัสกระจายตามเมืองใหญ่ ๆ ของจีนประมาณ 44 แห่ง จะพยายามขยายกิจการโลตัสในจีนให้ได้ 86 สาขาภายในปลายปีนี้ โดยใช้กลยุทธ์เช่าที่ดินแทนซื้อเป็นกรรมสิทธิ์

http://www.manager.co.th/StockMarket/Vi ... 0000008716

เข้าใจละ แผนการลอจิสติกส์ของเค้าน่าจะเน้นที่กลยุทธ์ location ให้เข้าถึงง่ายและครอบคลุม ลูกค้าได้มากนะครับ แล้วค่อยไปดูแลการจัดส่งและการเก็บ คลังสินค้าอะไรทีหลัง

ลองอ่านหนังสือ CEO โลกตะวันออกจบ
ชักชอบ 7-11 ขึ้นมานิดๆแล้วซิ ....
อยากให้ se-ed ลองประยุกต์การบริหารแบบ 7-11 ดูบ้าง
ผมว่าหลักการน่าจะคล้ายๆกัน

แถวบ้านมีร้าน 7-11 เปิดอยู่ตรงตึกแถว....... ไม่นานนี้ก็มี Lotus Express มาเปิดในปั๊มน้ำมัน ESSO ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากกันสักเท่าไหร่.........

ลูกค้าหนีมาเข้า Lotus Express กันไม่น้อยค่ะ......... เพราะสินค้าราคาถูกเหมือนกับในห้าง Lotus เลย....... เพียงแต่ของอาจไม่เยอะเท่า...... แต่ก็ไม่น้อยถ้าเทียบกับของใน 7-11 เลยนะคะ........

ส่วนตัวคิดว่าถ้า Lotus Express สามารถเปิดในชุมชนได้เหมือน 7-11 ........ ก็อาจทำให้ 7-11 กระเทือนไม่น้อยเหมือนกันนะคะ.........