Thai VI

พี่ CK ครับ วิธีลงทุน 4 วิธีที่พี่ศึกษามามีอะไรบ้างครับ พอจะบอกกล่าวเป็นวิทยาทานแก่น้องๆได้ไหมครับ ดีไม่ดีไม่ว่ากัน แต่ผมอยากศึกษาเอาไว้ครับ เผื่อบางวิธีจะเหมาะกับผม ถ้าพี่ไม่ว่างเขียน รบกวนทำ Link ไปที่เรื่องนั้นๆก็ได้ครับ อยากเปิดโลกการลงทุนของตนเองให้กว้างขึ้นครับ

ก่อนจะตอบ ขอทำความเข้าใจอย่างหนึ่งก่อนนะครับ

"คนเรามันเชี่ยวผิดกันเว้ยไอ้ศร ทางใครก็ทางมันสิวะ"

วิธีทั้งสี่วิธี มีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และมีคนบาดเจ็บอย่างมากเช่นกัน
เพราะฉะนั้น ยังมีอีกหลายอย่างที่สำคัญกว่าเคล็ดวิชาครับ

วิชาการลงทุน 4 แบบที่ผมศึกษามาในระยะ 2 ปีมีดังนี้

1. Value Investment (เรียนจากเว็บนี้ครับ อาจารย์เพียบ)

2. Temple Boxing (เรียนจากเฮียคลายเครียด สินธร http://www.pantip.com/cafe/sinthorn)

3. Turtle Trading (เรียนจากคุณ 'Ent และ http://www.originalturtles.org/)

4. DSM (เรียนจากคุณเด่นศรี http://dsm.pantipmember.com)

แต่ละสายยังมีการแตกแขนงออกลูกหลานไปเรื่อยๆ แต่โดยรวมแล้ว
1&2 จัดอยู่ในตระกูลเดียวกัน และ 3&4 ก็อยู่ในอีกตระกูลหนึ่ง

นอกจากนี้ยังมีอาจารย์พิเศษติวเข้มอีกหลายคน เช่น

คุณ Mudley Group และคุณชอบอ่าน
คุณเฟยหงกับคุณเหาฉลาม
คุณ Rock Riverarms คุณ Weekest คุณ Adrenaline ฯลฯ

ส่วนที่เว็บนี้ อาจารย์เยอะจนไม่อาจจะเอ่ยนามได้ครบ

และมีอาจารย์กิตติมศักดิ์คือคุณปรัชญา พญามังกรแดนอิสาน

ขอบคุณพี่CK มากครับ

ขอบคุณครับ พี่ CK

[^_^] ... เข้ามาขอบคุณพี่ซีเคครับ

ไม่ทราบว่า turtles trading systemที่พี่ลองใช้อยู่ ผลที่ได้เป็นยังไงบ้างครับ

ต้องปรับเยอะครับ แต่ concept เอามาใช้ได้ พี่ใช้วิธีค่อยๆ พัฒนา trading system
ของตัวเองครับ โดยเริ่มเอามาปรับใช้กับหุ้นพื้นฐานดี แต่ราคาแกว่งไกว

หลักการที่ใช้นั้น พื้นฐานมากเลยครับ คล้ายๆ กับไอเดียคุณคัดท้าย (เหมือนลอก
กันมา) คือเลือกหุ้นด้วยพื้นฐาน หาจุดซื้อ จุ short sell จุด cover short และจุดขาย
ด้วยราคา -- ไม่ต้องใช้ความรู้สึกว่า ตอนนี้ควรซื้อ หรือควรขาย

หมายเหตุ ที่ผมชอบ trading system เพราะ

1. ควบคุมความโลภตัวเองไม่ค่อยได้ ต้องใช้ระบบคุม
2. หามูลค่าพื้นฐานไม่เป็น
3. ความอดทนสั้น

จุดซื้อ-ขายที่กำหนดขึ้นนั้นไม่ทราบว่าใช้ค่า N มาคำนวนใช่หรือเปล่าครับ

ไม่เชิงครับ

idea การ limit risk ผมใช้จำนวนเงินแทนครับ โดยใช้ N คำนวณ "ปริมาณการซื้อขาย"
มากกว่า

เช่น

DCC มี ATR(14) = 0.40 บาท ราคาล่าสุด 16.40 บาท

แสดงว่าเฉลี่ย 14 วันที่ผ่านมา DCC แกว่งตัวเฉลี่ยราวๆ 40 สตางค์ต่อวัน

ถ้าสำหรับ port 1,000,000 บาท และลิมิตขาดทุนไว้ที่ 1% ของพอร์ต
หรือ 10,000 บาทต่อครั้ง แสดงว่าซื้อหุ้นได้สูงสุดไม่เกิน 25,000 หุ้น

แต่ถ้ารวม comm แล้ว จะให้ขาดทุนไม่เกิน 1% ก็ต้องบวก comm ไปกลับอีก
0.43% (ของ 16.40) ก็เท่ากับ 10,000/0.46 = ไม่เกิน 21,000 หุ้น
หรือประมาณ 336,000 บาท

ก่อนจะซื้อ (ที่ 16.40 บาท) ก็ต้องตั้งกฎไว้ว่าต่ำกว่า 16 บาท ต้องขาย
short sell ออกไป (เพื่อโอกาสซื้อกลับ)

นี่ตามตำราครับ

แต่ปกติผมไม่คิดมากขนาดนั้น เพราะคิดเลขไม่ค่อยเก่ง

ใช้วิธีง่ายสุดเลย คือตั้ง budget สำหรับหุ้นแต่ละตัวไว้ เช่น
DCC 400,000 บาท แล้วพอถึงจุดซื้อก็ซื้อทีละ 100,000 บาท
ถ้าไม่ขึ้น ก็ไม่ซื้อต่อ ถ้าขึ้นไปอีก 2 step ก็ซื้ออีก 100,000 เป็นต้น

ในโลกของเทคนิก พวกเครื่องมือต่างๆ จะพอแบ่งได้เป็นสองกลุ่ม
หลักๆ ครับ คือ Trend Following และ Trend Predicting

ของคุณคัดท้ายเป็น Trend Predicting ครับ ขั้น advanced

ส่วนผมเป็น Trend Following ขั้น beginner ก็เลยกำไรน้อยกว่า
แต่ความสามารถมีแค่นี้

ตุ้ยเลอ แม่นแล้วครับ

ตอนซื้อ lot แรก จุด stop จะเป็น 16.00 บาทครับ เมื่อมีการซื้อ lot ต่อไป
คือหุ้นขึ้นเรื่อยๆ จุด stop loss จะปรับขึ้นตามครับ (เพราะทุนเฉลี่ยยกขึ้น)

อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า ที่พูดกันทั้งหมดเป็นวิธีการเท่านั้นนะครับ
ต้องศึกษาหลักการและทำความเข้าใจความเสี่ยงของ trading system
ให้ถ่องแท้ก่อน วิธีการจึงจะมีประโยชน์ครับ

ไม่งั้นอาจจะเจ๊งไม่รู้ตัวนะครับ

เจ๊ง 3% ม่ายกัวครับพี่

เจ๊ง 3% สิบครั้ง ก็คือเจ๊ง 26.3% นะครับ

ตามสถิติ เล่น turtle trading 10 ครั้ง จะขาดทุนราวๆ 8 ครั้งครับ กำไรครั้งเดียว

แต่ถ้าเลือกหุ้นดีq trade 10 ครั้ง จะขาดทุนราวๆ 6-7 ครั้ง

คุณ ba_2l สอบผ่านข้อแรกแล้วครับ

ทีนี้พอลงมือปฏิบัติจริง ผมบอกได้เลย (จากประสบการณ์) ว่าอะไรที่จะทำให้ไม่ได้กำไร

เหมือนที่เขาบอกเป๊ยบครับ คือไม่ทำตามกฎที่เราวางไว้ เพราะ

1. กลัว -- เห็นหุ้นลงแรง รีบขายก่อนถึงจุด stop loss เพราะกลัวกำไรหาย

2. โลภ -- เห็นหุ้นขึ้นแรง นึกว่าไปแน่ รีบเข้าไปซื้อ หรือซื้อมากกว่าเงินที่ตั้งไว้

3. ท้อใจ/ขี้เกียจ -- ซื้อแล้ว stop มา 7-8 ครั้ง ครั้งที่เก้าไม่ซื้อดีกว่า มันหลอกเราอีกแหละ

Turtle Trading ทำความเข้าใจทฤษฎีนั้น หมูมากครับ ประยุกต์ก็ยากนิดหน่อย
แต่การเอาชนะใจตัวเองนี่สิ ยากที่สุด ใครทำได้ก็ได้รางวัลครับ

แล้วมันเป็น เต่ายังไงอ่ะครับ งง ตามชื่อน่ะ

ที่เรียกว่าเต่า เพราะว่านายฟิลิปต้องการพิสูจน์ว่า การลงทุนใครๆ ก็ทำได้ถ้าได้
รับการฝึกฝน ไม่จำเป็นต้องมีพรสวรรค์มาแต่กำเนิด ขอเพียงแต่ทำตามระบบเทรด
อย่างเคร่งครัด ก็สามารถทำกำไรได้แน่นอน

เขาเลยเอาอาสาสมัครหลากอาชีพหลายอายุมาฝึก เรียกว่า "เต่า" และสอนให้
ทำตามระบบของเขา โดยปิดตัวจากโลกภายนอกโดยสิ้นเชิง และให้เงินคนละ
1 ล้านเหรียญเพื่อเทรด

ปรากฎว่าเกือบทุกคนทำกำไรได้มากมายใน 1 ปี ส่วนคนที่ขาดทุน ก็ขาดทุน
เพราะไม่ยอมทำตามกฎครับ

ผมใช้ Ami Broker ครับ ราคา 129 เหรียญ คุ้มมาก
ส่วนข้อมูลใช้ของ IRS ครับ (www.irs.co.th)

CK เขียน:ก่อนจะตอบ ขอทำความเข้าใจอย่างหนึ่งก่อนนะครับ

"คนเรามันเชี่ยวผิดกันเว้ยไอ้ศร ทางใครก็ทางมันสิวะ"

วิธีทั้งสี่วิธี มีทั้งคนที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และมีคนบาดเจ็บอย่างมากเช่นกัน
เพราะฉะนั้น ยังมีอีกหลายอย่างที่สำคัญกว่าเคล็ดวิชาครับ

วิชาการลงทุน 4 แบบที่ผมศึกษามาในระยะ 2 ปีมีดังนี้

1. Value Investment (เรียนจากเว็บนี้ครับ อาจารย์เพียบ)

2. Temple Boxing (เรียนจากเฮียคลายเครียด สินธร http://www.pantip.com/cafe/sinthorn)

3. Turtle Trading (เรียนจากคุณ 'Ent และ http://www.originalturtles.org/)

4. DSM (เรียนจากคุณเด่นศรี http://dsm.pantipmember.com)

แต่ละสายยังมีการแตกแขนงออกลูกหลานไปเรื่อยๆ แต่โดยรวมแล้ว
1&2 จัดอยู่ในตระกูลเดียวกัน และ 3&4 ก็อยู่ในอีกตระกูลหนึ่ง

นอกจากนี้ยังมีอาจารย์พิเศษติวเข้มอีกหลายคน เช่น

คุณ Mudley Group และคุณชอบอ่าน
คุณเฟยหงกับคุณเหาฉลาม
คุณ Rock Riverarms คุณ Weekest คุณ Adrenaline ฯลฯ

ส่วนที่เว็บนี้ อาจารย์เยอะจนไม่อาจจะเอ่ยนามได้ครบ

และมีอาจารย์กิตติมศักดิ์คือคุณปรัชญา พญามังกรแดนอิสาน

ไม่ได้เข้าเวป10วัน
มาแต่งตั้งให้เป็นอาจารย์ซะแล้ว มิกล้ารับ
ทั่นประทาน ครม.
อาวุโสน้อยกว่าเจ้าของสำนัก มวยวัด(ตั้วเฮียคลายเครียด)
ยกตำแหน่งอาจารย์ให้ตั้วเอียแล้วกัน
ปีก่อนโดนลิงกัด (ไหงเขาเรียกลิงทอง ลิงถือลูกท้อป
ปีนี้จะโดนไก่ชน มันตีเอาจิกเอาหรือเปล่า หรือปีไก่ทอง หุหุ

ba_2l เขียน:ช่วงนี้ผมขอซ้อมฝึกฝีมือเทรดหุ้นไปพลางๆก่อนครับพี่ซีเค เดี๋ยวรอปลายปี SET 50 Futures ออกมาละก็ เจอกัน!!! :lol:

ก็มีคนเตรียมพร้อมสำหรับเทรด SET Futures เหมือนกัน

http://www.bbznet.com/scripts2/board.ph ... r=numtopic

แต่นะจะทำเป็นเว็บไซต์เลยนะ ค่าเว็บโอสติ้งไม่เท่าไหร่นะ จริงมั้ย แต่อาจจะยากตรงการเขียนเว็บ กับการดูแล

ตามคุณพี่ คค. มาดูครับ เพิ่งเห็นว่ามีต่อเติมอีกหลายท่าน
ขอแอบๆ อ่านๆ แอบๆ คิดไปด้วยคนครับ
แล้วก็ขอบคุณทุกๆ ท่านที่ร่วมเพิ่มเติมความเห็นด้วยครับ
VI นั้นดี สบายใจ แต่หากได้เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ พวกนี้แล้ว ยิ่งเหมือนเสือขี่มอเตอร์ไซค์ครับ (จะได้ไล่ตามเจ้าม้าลายนั่นทัน :lol: )
อ้างถึงลิ้งค์นี้; http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 87.html#74