Thai VI

http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 15304.html

ยังมีคนแบบนี้อยู่

อืม.. นับเป็นโอกาสดีของพวกเรา ที่จะได้ซื้อของดีราคาถูก รอครับ ใจเย็นๆ และอดทน โอกาสมีมาแน่ ถ้ายังมีคนแบบนี้อยู่

แปลว่าอะไรครับ ไม่เข้าใจ แล้วดียังไงครับ

งง เหมือนกันครับ แค่เค้าไม่ไปประชุม ผู้ถือหุ้นเอง ผมก็ไม่ได้ไปเท่าไรนะครับ หากเวลา+สถานที่ไม่อำนวย

หมายความว่า คนที่ซื้อหุ้นตามกระแส ไม่รู้ว่าประชุมผู้ถือหุ้นมีไว้ทำอะไร แล้วก็ไม่ไปกัน

ประมาณว่า ซื้อหุ้น เพื่อเสี่ยงโชค หวังขายแพงกว่าซื้อเท่านั้น

ดีคือ เค้าก็จะเก็งกำไร หวังรวยทางลัด ก็ต้องมีสักวันที่กระหน่ำขายกันออกมา ทำให้เราได้ซื้อของถูก

ข้อเสียคือ คนไทย ชาติหน้าก็ไม่มีวันเจริญ เรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ ไม่ศึกษา หาความรู้ เข้ามาเสี่ยงแบบนี้ เอาเงินไปเที่ยว ใช้จ่าย กระตุ้นเศรษฐกิจดีกว่า

ผมก็หวังขายแพงกว่าซื้อเหมือนกันครับ
และก็เรื่องแค่นี้ก็คิดไม่ออกเหมือนกัน
เข้ามาเสี่ยงแบบนี้ก็ทำบ่อยๆ (เมื่อเช้าก็เพิ่งซื้อ W ไป)

ตอนซื้อหุ้นครั้งแรก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าประชุมผู้ถือหุ้นคืออะไร

ไม่รู้ไม่ใช่ความผิด (ยกเว้นกฎหมาย) แต่ยังดีที่รู้จักถามครับ

แล้วแต่คนนะ แต่ตัวผมเอง พอสนใจอะไร ก็จะศึกษา ถาม คุย ไม่ได้ทำอะไรมั่วๆ ไปแล้วไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ก็งงว่าทำมัย คนไทย ไม่ค่อยจะใช้สมองคิดกันเลย

harry เขียน:แล้วแต่คนนะ แต่ตัวผมเอง พอสนใจอะไร ก็จะศึกษา ถาม คุย ไม่ได้ทำอะไรมั่วๆ ไปแล้วไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

ก็งงว่าทำมัย คนไทย ไม่ค่อยจะใช้สมองคิดกันเลย

อา มีหุ้นบางตัว ซื้อโดยไม่ได้ศึกษาพื้นฐาน
กลายเป็นคนไม่มีสมองคิดแล้ว

ใจเย็น ใจเย็น เด็กยังอยู่ในวัยห้าว หุหุ

ล้อเล่นนะ

ขอโทษแล้วกันครับ

ก็เข้าใจ แฮรรี่ครับ คนเรามีอารมณ์ความรู้สึกครับ ทำอะไรบางทีก็หาเหตุผลได้แค่ว่าก็ใจมันถามหา อารมณ์มันพาไป
หากทุกอย่าง ทุกคนใช้เหตุผลจะไม่มีการฟันแล้วทิ้ง หลอกลวง ฉ้อโกง อะไรพวกนี้คงทำกันยากขึ้นมากๆ
แต่ความกลัว-ความโลภยังมีครับ
การศึกษาทำความเข้าใจก็เพื่อลดความเสี่ยง ไม่ใช่ทั้งหมดครับ
สูงสึดของการตัดสินใจก็ยังต้องใช้ความรู้สึก+ข้อมูลความจริงอยู่
สมองด้านขวามีพลังมากมายครับแต่ต้องมีพื้นฐานความรู้และความจำด้วย
ดังนั้นผมเเห็นด้วยกับการใช้อารมณ์แต่ ควรมีสติครับ

ธรรมดาครับ ที่คนส่วนใหญ่ไม่ไป

ถ้าไปกันทุกคนนี่ซิแปลก

ถ้าผมว่าง ผมไปนะ

พี่วัวแดง กะว่าจะไปที่ไหนบ้างในปีนี้ครับ

คนเล่นหุ้นส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้แหละครับคุณแฮรี่

เกือบทุกคนมองตลาดหุ้นเหมือนบ่อนการพนัน ถูกกฎหมาย หุ้นก็เหมือนกับตัวกลางที่ไว้เก็งกำไรกัน ไม่สนใจกิจการอะไรอยู่แล้ว

แต่หลายคนถึงแม้คิดที่จะลงทุนกับกิจการ แต่เนื่องจากคิดว่าตัวเองถือหุ้นอยู่น้อยนิด ลงคะแนนอะไรก็ไม่มีสิทธิไม่มีเสียง จึงไม่สนใจที่จะไป

ซึ่งก็ถูกต้องที่เราไม่มีสิทธิไม่มีเสียงมากพอที่จะคัดค้านอะไรได้

แต่การไปประชุมผู้ถือหุ้นนั้น เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้พบกับผู้บริหารกิจการที่เราลงทุนอยู่ และสามารถซักถามปัญหาต่างๆที่เราสนใจ นี้แหละครับคือประโยชน์ที่แท้จริงสำหรับการไปประชุมของผู้ถือหุ้นรายย่อยและรายละเอียดครับ

ตอนนี้ผมสนใจ tmd wg bat-3k p-fcb ครับ

อยากรู้จักธุรกิจและผู้บริหารครับ

แต่ราคานี้ซิ คงต้องรออีกหน่อย

ส่วนที่มีอยู่แล้ว คงต้องไปดูความก้าวหน้ามั้งครับ

ผมก่อนเข้ามาที่นี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ

แต่ตอนนั้นไม่กล้าเอาเงินเข้าไปเสี่ยงเท่านั้นเอง
คนที่มาเล่นหุ้นเพราะเห็นเป็นการพนันมันเยอะมาก

เคยถาม คนที่ตลาดว่าซื้อหุ้นอะไรไป แล้วทำกิจการอะไร
ตอบกระทั่งชื่อหุ้นยังไม่ได้เลยครับ

chatchai เขียน:คนเล่นหุ้นส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้แหละครับคุณแฮรี่

เกือบทุกคนมองตลาดหุ้นเหมือนบ่อนการพนัน ถูกกฎหมาย หุ้นก็เหมือนกับตัวกลางที่ไว้เก็งกำไรกัน ไม่สนใจกิจการอะไรอยู่แล้ว

แต่หลายคนถึงแม้คิดที่จะลงทุนกับกิจการ แต่เนื่องจากคิดว่าตัวเองถือหุ้นอยู่น้อยนิด ลงคะแนนอะไรก็ไม่มีสิทธิไม่มีเสียง จึงไม่สนใจที่จะไป

ซึ่งก็ถูกต้องที่เราไม่มีสิทธิไม่มีเสียงมากพอที่จะคัดค้านอะไรได้

แต่การไปประชุมผู้ถือหุ้นนั้น เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้พบกับผู้บริหารกิจการที่เราลงทุนอยู่ และสามารถซักถามปัญหาต่างๆที่เราสนใจ นี้แหละครับคือประโยชน์ที่แท้จริงสำหรับการไปประชุมของผู้ถือหุ้นรายย่อยและรายละเอียดครับ

นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการบอกเลยครับ

อย่า คิดมากสิครับ ขืน ไม่มีนักเก็งกำไร ที่เป็นนายตลาดเลย แล้วเราจะไปหาซื้อหุ้นจากใคร

ใช่แล้วครับ เห็นด้วยกับ house ครับ ก็ในมืดมีสว่าง ในสว่างมีมืดครับ ดูสัญลักษณ์ หยิน-หยาง ดิ
เกี่ยวไหมเนี่ย
การลงทุนในตลาดเนี่ย ใครดีใครได้ครับ เหมือนทำธุรกิจแหละครับ มาก่อนเสี่ยงก่อน รวยก่อน เจ๊งก่อนเป็นไปได้ทั้งนั้น

นั่นน่ะสิครับ ตอบจากประสบการณ์ที่ผมได้ไปประชุมผู้ถือหุ้นมานะครับ

ถ้าจะดีใจ ก็คงดีใจเพราะการที่นักเล่นหุ้นส่วนใหญ่ไม่ทำการบ้านแสดงว่าตลาดหุ้นไทยคงจะไม่ efficient และทำให้ VI อย่างเรามีช่องว่างที่จะทำกำไรจากหุ้นหลายตัวที่ราคาต่ำกว่าพื้นฐานมากๆ โดยที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้ ซึ่งการเล่นหุ้นเมืองไทย ก็น่าจะทำกำไรง่ายกว่าตลาดที่ efficient กว่า เช่น ตลาดสหรัฐ

เสียใจ ก็คงเสียใจและเห็นใจที่ได้เห็นรายย่อยหลายคนขาดทุน และหลายคนนำเงินเก็บทั้งชีวิต มาละลายกับตลาดหุ้นในเวลาไม่กี่ปี และหลายคนมีปัญหาครอบครัวตามมา

เสียใจ ที่ตลาดหุ้นไทยเป็นตลาดที่สร้างโอกาสให้ hedge fund เข้ามาทำกำไรได้มาก แล้วเอาเงินกลับประเทศ

เสียใจ ที่บางครั้งกว่าเอกสารการประชุมมาถึง ก็ผ่านวันที่ประชุมไปแล้ว

เสียใจ ที่การประชุมผู้ถือหุ้นหลายบริษัทไม่มีคนไปเท่าไหร่ ทั้งๆ ที่บางบริษัทกำลังบริหารงานในลักษณะเอาเปรียบนักลงทุนรายย่อยอยู่

เสียใจ ที่เห็นหลายครั้งที่บริษัทกำลังเอาเปรียบรายย่อย แล้วมีรายย่อยกลุ่มหนึ่งไปรวมพลัง vote คัดค้าน แต่ก็แพ้ไปเพราะรายย่อยมาไม่พอ แล้วเหตุการณ์ก็ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไร แม้ว่าผู้ถือหุ้นบางส่วนไปยื่นคำร้องหลังประชุม

เสียใจ ที่เห็นบางครั้ง หลายบริษัทจัดประชุม แล้วทำแบบขอไปที อ่านวาระตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วปิดการประชุมแบบเร่งรีบ หลายบริษัทมีรายย่อยถาม ผู้บริหารกลับแสดงอาการไม่ค่อยพอใจ และบางครั้งเอาพนักงานตัวเองมานั่งประชุมแล้วลุกขึ้นพูดเพื่อคานกับรายย่อย ( ดูไม่ออกเลยจริงๆ บางคนยังใส่ชุดพนักงานอยู่เลย )


เสียใจ ที่ทำไม่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ลองดูว่าปัญหาที่หลายบริษัทที่มีคนไปประชุมน้อย เกิดจากอะไร สถานที่ไม่สะดวก เช่น อยู่ต่างจังหวัด ชานเมือง ทำไม่ต้องให้คนส่วนใหญ่เดินทางไกลมากๆ เพื่อไปเจอผู้บริหารคนกลุ่มน้อย หรือเป็นเพราะว่าเวลาไม่เหมาะ ถ้าลองเปลี่ยนเวลาประชุมผู้ถือหุ้นเป็นซัก 6 โมงเย็นหลังเลิกงาน หรือเสาร์ อาทิตย์ คนจะเยอะขึ้นหรือไม่ ผมเคยไปประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทหนึ่งจัด 1 ทุ่ม เห็นคนเยอะดีนะครับ

สรุปแล้ว เสียใจมากกว่าแฮะ : )

ผมไม่เคยไปงานประชุมผู้ถือหุ้นเลยครับ
ส่วนใหญ่จัดตอนกลางวัน ทำงานครับ
ก็ไม่ได้เป็นนักลงทุนอาชีพนี่นา

ใช่แล้วขอจัดในกรุงเทพ ได้ไหมอ่ะ(เห็นแก่ตัวไปป่าวเนี่ย) แล้วก้เป็นวันเสาร์ก็ยังดีนะครับ ไม่ก็เป็นงานเลี้ยง อาหารเย็นขอบคุณผู้ถือหุ้นประจำปีไปเลย จะได้ประทับใจด้วย แล้วคนก้มาเยอะด้วย
ธรรมาภิบาลอยู่ที่ไหน ออกมาเร้ว

เรื่องสถานที่ วัน และ เวลา คงต้องให้ทาง ตลท. เข้ามาจัดการครับ ไม่งั้นก็โหวตกันในที่ประชุม เพื่อจะได้มีการเปลี่ยนแปลง