หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 10:24 am
โดย sirivajj
เมื่อก่อน นานมากแล้วพอควร
เวลาที่ หุ้นที่เรามีประกาศเพิ่มทุน เนี่ยะ
นักลงทุนมักจะดีใจ
เนื่องจาก บ.มักจะเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วนที่ดี และราคาที่ถูก

เดี๋ยวนี้ ผมรู้สึกว่า นักลงทุนพอได้ข่าวว่า บริษัทเพิ่มทุน
มักจะไม่ค่อยชอบใจเท่าใดนัก
เพราะสัดส่วน และราคามักจะไม่โดนใจเท่าไหร่

ไม่ทราบว่า เพื่อนๆ คิดอย่างไร กันครับ

อันหนึ่ง คือ เราจะมองในแง่นี้พอได้ไหมครับ
1. การที่ บ. เพิ่มทุนในสัดส่วนที่ดีและราคาที่ถูก
ก็เหมือนการที่ บ.ให้กำไร กับผู้ถือหุ้นเดิม

2. แต่การที่ บ.ตั้งราคาสูงและสัดส่วนที่ขี้เหนี่ยวนี่
ก็คือ การที่ บ.กวาดเอาส่วนล้ำมูลค่าหุ้นของผู้ถือหุ้นไปเก็บเอาไว้ก่อน
กำไรในส่วนดังกล่าวก็เป็นของผู้ถือหุ้นเหมียนเดิม
(ไม่ทราบว่า ผมมองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่า)

เพื่อนๆ ผู้มากมุมมอง และประสพการณ์ คิดยังไงกับเรื่องนี้ครับ

:roll: :?:

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 10:38 am
โดย harry
ตามหลักการที่ผมอ่านมา เมื่อบริษัทมีโครงการ แต่เงินทุนไม่พอ จะออกวอร์แรนท์ เพื่อเอาเงินส่วนนึงไปทดลองแผนงาน ถ้าเวิร์ค ก็จะให้นักลงทุนได้ใช้สิทธิซื้อหุ้นเพิ่มทุน เพื่อเอาเงินนี้ไปลงทุนกับแผนงานใหม่ ให้เกิดรายได้

แต่ถ้าไม่ make business sense ว่าเอาเงินไปขยายธุรกิจ ก็ไม่น่าจะดีใจเลยครับ

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 1:05 pm
โดย ch_army
เพิ่มทุนเนี่ยจริงๆเป็นการทำลายส่วนผู้ถือหุ้นนะครับ เพราะว่าในกรณีที่เราเพิ่มตามไม่ได้ สัดส่วนการเป็นเจ้าของก็ลดลง แถมในช่วงปีแรกๆที่กิจการเอาเงินไปลงทุนเพิ่มกำไรก็คงโตไม่ทันจำนวนหุ้นอยู่แล้ว
ผมว่าให้เค้ากู้เท่าที่ยังปลอดภัยเป็นการเพิ่มเงินในกิจการ เป็นทางเลือกที่ผมเห็นว่าดีกว่าครับ ไม่ก็หากิจการที่สามารถมี account payable ได้มากๆอย่างพวกห้าง ซึ่งเท่ากับว่าเอาเงินคนอื่นมาหมุนในกิจการ หรือไม่ก็กิจการอะไรก็ได้ที่รับเงินก่อน ส่งมอบ หรือให้ของทีหลังนานๆ ผมว่าพวกนี้กระแสเงินสดดี เรื่องการขาดสภาพคล่องคงไม่เท่าไร
แต่อย่าลืมครับ หนี้เป็นความเสี่ยงในรูปแบบหนึ่งหากเราใช้คืนเงินกู้ไม่ได้ก็ล้มละลายแน่ๆเลย
ผู้บริหารต้องคิดให้ดีมากๆครับ
อ้อ ไม่งั้นก็ออกหุ้นกู้ซะก้ได้หากไม่อยากกู้ธนาคาร

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 1:13 pm
โดย Dr.T
ไม่ดีใจ เป็นคำตอบสุดท้ายครับ :twisted:

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 1:35 pm
โดย Jeng
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับ

ถ้าบริษัทก่อสร้างเล็กๆ ทำมานาน มีทุนซัก 100 ล้าน แล้วไปเซ็นต์สัญญากับรัฐบาล เพื่อทำโครงการใหญ่ ในระดับที่ตัวเองทำได้ แต่ต้องใช้ทุนเพิ่มอีก 100 ล้าน
อย่างนี้น่าเพิ่มหรือไม่

แต่อย่างไรก็ตามโดยปกติ ถ้ายึดหลักคอนเซอร์เวทีฟ ก็ต้องเลือกการไม่เพิ่มทุน และใช้กระแสเงินสดจากการดำเนินงาน มาขยายงานครับ

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 4:22 pm
โดย sirivajj
คงอย่างคุณ Jeng ว่า แล้วแต่เงื่อนไข
โดยส่วนตัวผมคิดว่า หากกิจการมีการเติบโต และต้องการลงทุนเพิ่ม
การอาศัยกระแสเงินสดจากการดำเนินงาน อย่างเดียวอาจจะไม่ทัน
กับโอกาสการลงทุนและการขยายกิจการนะครับ

อีกอย่างคือ ต้นทุนทางการเงินจากแหล่งเงินทุนของผู้ถือหุ้น
ย่อมถูกกว่าและเป็นภาระน้อยกว่าการกู้เงิน
(ไม่รวมที่ บ.จะมีโอกาสได้ส่วนล้ำมูลค่าหุ้น)

ประเด็นของผมก็คือ หาก บ.ไม่ถือโอกาสขายหุ้นโดยไม่มีแผนการลงทุน
หรือขยายกิจกรรมที่ดี กับ บ.ไม่ฉวยโอกาสตั้งราคาหรือกำหนดสัดส่วนเพิ่มทุน
ที่หากำไรมากมายล่ะก็ ผู้ลงทุนก็น่าจะ Happy ได้

กรณี ที่ผู้ถือหุ้นเดิมไม่สามารถหาเงินมาซื้อหุ้นเพิ่มทุนได้
ก็น่าจะมีโอกาสได้กำไรจากราคาหุ้นทีปรับตัวขึ้นนะครับ

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 5:40 pm
โดย ch_army
ต้นทุนทางการเงินจากแหล่งเงินทุนของผู้ถือหุ้น เนี่ยหากคิดในรูปปันผลและภาระผูกพัน ผมว่าเป็นต้นทุนที่สูงที่สุดเลยครับ
เพราะเอ้าคิดกันง่ายๆนะครับ
กู้เงินดอกเบี้ย 30 % เลย เงินต้น 1 ล้านก็จ่ายดอก 3 แสนต่อปี สมมุติว่าทำธุรกิจเก่งได้เงินปีละ 5 แสนบาท ไม่คิดอะไรมากครับสมมุติว่าเงินดอกเบี้ยไม่ลดลงเลย ก็คือจ่ายดอกปีละ 3 แสน คืนเงินต้นปีละ 2 แสน ก็ 5 ปีหมด สินทรัพย์ที่ได้ก็ยังอยู่กับเรา
แต่มาดูการปันผลทีนะครับ 5 ปีแรกเอาไปใช้หนี้หมด ก็อดปันผลไปตามระเบียบ
แต่สมมุติปันผล 25 % จากกำไรสุทธิ จากกำไรปีละ 5 แสนก็ได้ประมาณ 1.25 แสนต่อปี 10 ปี ก็ 1.25 ล้าน 20 ปี 2.5 ล้าน 100 ปี 12.5 ล้าน เอเงินปันผลน่าจะไหลออกแรงกว่านะครับ (อันนี้จริงๆต้องคิดเป็น มูลค่าปัจจุบันอีกทีครับ)
เป็นผมจะกู้เท่าที่ใช้คืนได้ครับ และเผื่อความเสี่ยงไว้ด้วยครับ
ไม่ทราบว่าพี่ๆที่เรียนมาทางนี้เค้าสอนไว้ว่าไงครับ ตามตำราที่เรียนมา

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 6:41 pm
โดย วัวแดง
ผมชอบ บ.ที่ไม่เพิ่มทุนมากกว่า

เพราะยังไงการกู้เงิน น่าจะดีกว่าการเพิ่มทุน(ถ้ากู้ได้)

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 8:04 pm
โดย chatchai
Jeng เขียน:ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับ

ถ้าบริษัทก่อสร้างเล็กๆ ทำมานาน มีทุนซัก 100 ล้าน แล้วไปเซ็นต์สัญญากับรัฐบาล เพื่อทำโครงการใหญ่ ในระดับที่ตัวเองทำได้ แต่ต้องใช้ทุนเพิ่มอีก 100 ล้าน
อย่างนี้น่าเพิ่มหรือไม่
ถ้าทุนเดิม 100 ล้านคือส่วนของผู้ถือหุ้นทั้งหมดนะครับ

เป็นผม 99.99% ไม่เพิ่มครับ เพราะผมคิดว่าบริษัทเสี่ยงเกินไป ขยายธุรกิจมากเกินไป ผมชอบโตช้าแต่มั่นคงมากกว่าครับ

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 8:10 pm
โดย โป้ง
ถ้าเป็นหนี้อยู่เยอะมาก และอนาคตคาดว่าจะมีมูลค่ามากขึ้นเรื่อยๆ แปลงหนี้เป็นหุ้น สำหรับผมยอมครับ :P

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 9:05 pm
โดย CEO
ผมว่าต้องเป็น case by case นะครับ

แต่ไม่ค่อยชอบถ้าต้องโดนบังคับให้ต้องถมเงินลงไปอีก ตอนที่ไม่ค่อยมีเงินครับ ถ้าไม่ซื้อก็เสียสิทธิต้นทุนแพงกว่าคนอื่นๆ
บางครั้งมันเจ็บกระดองใจ

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 9:56 pm
โดย M149
ผมมองว่ามันควรจะต้องดูวัตถุประสงค์ของการเพิ่มทุนเป็นหลักและวัตถุประสงค์ที่นำเงินไปใช้นั้นสามารถสร้างผลกำไรมากกว่าต้นทุนในการเพิ่มทุนแค่ไหน และความเสี่ยงขนาดไหน ซึ่งการที่เราซื้อหุ้นในตลาดก็คือหุ้นที่มาจากการเพิ่มทุนนั่นเอง และที่สมัยก่อนเห็นการเพิ่มทุนแล้วเฮเพราะ เศรษฐกิจขยายตัวและเติบโตในอัตราที่สูงมากอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งการเพิ่มทุนก็เหมือนเอาเงินไปต่อเงินนั่นเอง แต่สุดท้ายผมเองก็ไม่ชอบการเพิ่มทุนเพราะเพิ่มปุ๊บไดรู๊ดแน่ๆ แต่ที่ไม่แน่คือกำไรครับเพราะเราไม่รู้ว่าอนาคตจะหัวหรือก้อย :wink:

ถ้า บ. ประกาศเพิ่มทุน ..... เพื่อนๆ จะดีใจไหมครับ

โพสต์แล้ว: ศุกร์ ม.ค. 07, 2005 10:39 pm
โดย Tsunami
ถ้ากรณีล่าสุด PL ผมว่าค่อนข้างแปลก

เนื่องจากค่า D/E ยังค่อนข้างต่ำ และจ่ายปันผลในอัตราส่วน

ต้องสละเรือไปก่อนแล้วค่อยว่ากันใหม่ครับ