หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ข่าวดี ที่หมู่เกาะสุรินทร์ เสียหายน้อยกว่าที่คาดไว้.....
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 01, 2005 10:34 am
โดย โป้ง
ดูช่อง 9 วันนี้ครับ นักสำรวจความเสียหายแนวประการัง พบความเสียหายหนักตรงอ่าวช่องขาดบริเวณหน้าอุทยานซึ่งติดชายฝั่ง เสียหายหนักที่สุด 80% ส่วนบริเวณอื่นๆ เสียหายเพียง 20% ซึ่งน้อยกว่าที่คาดกันเอาไว้เยอะ
ด้านระบบเชิงนิเวศทางกายภาพ น้ำทะเลเริ่มกลับใสเหมือนเดิม ชายหาดมีเพียงเศษข้าวของ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากโคลน ทำให้มั่นใจได้ว่าชายหาดจะสามารถกลับมาสภาพเดิมได้ ขณะนี้ได้ทำการปิดอุทยานโดยยังไม่มีกำหนดเปิด (คาดว่าปีนี้ทั้งปี คงไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไป)
น่าดีใจครับ ทรัพยากรอันมีค่าของเรา ได้รับผลกระทบน้อยกว่าที่คาดการกันเอาไว้เยอะ
แต่ที่เกาะพีพีมีแนวประการังที่สวยเหมือนกันรู้สึกเสียหายหนักมาก รวมทั้งระบบนิเวศทางกายภาพเสียหายหนักเช่นกัน

ข่าวดี ที่หมู่เกาะสุรินทร์ เสียหายน้อยกว่าที่คาดไว้.....
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 01, 2005 10:38 am
โดย โป้ง
ข่าวดี ข่าวที่2 ครับ หมู่เกาะตะรุเตา จ. สตูล รายงานผลกระทบทั้งหมด 50 กว่าเกาะ ไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลยครับ
ด้านระบบนิเวศทางกายภาพ น้ำได้กลับมาใสเหมือนเดิม สรุปคือทุกอย่างเหมือนเดิม แต่สภาพการท่องเที่ยวซบเซาอย่างอย่างหนักครับ
ทางอุทยานบอกสามารถเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวได้ตามปกติแล้วครับ ดีใจอย่างสุดซึ้ง

ข่าวดี ที่หมู่เกาะสุรินทร์ เสียหายน้อยกว่าที่คาดไว้.....
โพสต์แล้ว: เสาร์ ม.ค. 01, 2005 10:45 am
โดย tummeng
ปาฏิหาริย์ปะการัง สัตว์ทะเลเสียหายแค่ 5% กรมทรัพย์ฯเตือนอย่าเที่ยวถ้ำ 4 จังหวัด
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 ธันวาคม 2547 18:31 น.
ปาฎิหาริย์ปะการัง สัตว์ทะเลไม่เป็นอันตราย เสียหายน้อยมาก 95%อยู่ในสภาพปกติ รวมทั้งสัตว์น้ำขนาดใหญ่แทบไม่เสียชีวิตเลย คณะสำรวจเร่งเก็บข้อมูลทุกพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายเพื่อประมวลข้อมูลทำการฟื้นฟูต่อไป ด้านกรมทรัพยากรธรณีประกาศเตือนภัยห้ามประชาชนเข้าไปในถ้ำ 4 จังหวัดคือกระบี่ สตูล พังงา ตรังเตือนให้คนในพื้นที่ระมัดระวังเฝ้าสังเกตความผิดปกติและระงับการไปเที่ยวในถ้ำต่างๆในพื้นที่ หากมีสิ่งบอกเหตุให้รีบหนีออกจากบริเวณนั้นทันทีและโปรดอย่าเจาะบ่อบาดาลใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ปกติ
นายอุกฤต สตภูมินทร์ นักวิชาการประมง 8 ว. สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ เปิดเผยผลการสำรวจเบื้องต้นของชายฝั่งทะเลในพื้นที่ จ.ภูเก็ตตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมาพบว่า แนวปะการังน้ำลึก และแนวหญ้าทะเลไม่ได้รับความเสียหายอย่างที่หวั่นวิตกกัน เนื่องจากหลักการทำลายล้างของคลื่น สึนามิ จะทำลายสิ่งที่อยู่บริเวณตื้นเขินติดชายฝั่ง จึงทำให้มีเพียงปะการังน้ำตื้นที่แตกหักอันเนื่องจากกระแสคลื่น แต่ก็เป็นความเสียหายเพียงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนปะการังที่มีอยู่ทั้งหมด โดยเฉพาะที่เกาะเฮซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีแนวปะการังสวยงามเป็นนิยมในหมู่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก คณะสำรวจได้สอบถามชาวบ้านที่หลงเหลืออยู่ในพื้นที่ รวมทั้งนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยสงขลาราชนครินทร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้สำรวจใต้น้ำ โดยการดำน้ำเพื่อสำรวจและบันทึกภาพถ่ายพบว่า ปะการังส่วนใหญ่ที่เสียหายเป็นปะการังในเขตน้ำตื้น และแตกหักเนื่องจากเศษซากสิ่งก่อสร้างที่ถูกพัดลงใต้น้ำมากระทบ ไม่ใช่เพราะแรงน้ำ ส่วนแนวหญ้าทะเลมีสภาพไม่แตกต่างกัน คือได้รับผลกระทบน้อย สัตว์น้ำที่อาศัยตามปะการังก็ไม่ได้หายไปไหนและคาดว่าจะกลับเข้าฝั่งในไม่ช้านี้ แต่ปัญหาที่เห็นได้ชัดคือ การกัดเซาะชายฝั่งทะเลและสิ่งก่อสร้างที่เกลื่อนเต็มชายฝั่ง ทั้งนี้สภาพผลสำรวจโดยรวมทั้งหมดจะนำมาประมวลผล และทำการฟื้นฟู รวมทั้งจะเร่งสำรวจในพื้นที่อื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบทั้งหมดต่อไป
ส่วนเรื่องความขุ่น-ใสของน้ำทะเล แม้น้ำทะเลจะ ไม่ใสเหมือนเดิมแต่ก็ไม่ขุ่นจนน่าเป็นห่วง ทั้งนี้เพราะพื้นที่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นหาดทรายสลับกับพื้นที่ของป่าชายเลนทำให้มีโคลนขึ้นมามาก อย่างไรก็ตามโดยรวม 95% อยู่ในสภาพปกติ จนแทบไม่น่าเชื่อเลยว่าจะมีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น ซึ่งคาดว่าแหล่งท้องเที่ยวที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้เร็วที่สุด คือ หาดเจ้าไหม เนื่องจากเข้าเคลียพื้นที่ได้ง่ายที่สุดนายอุกฤตกล่าว
นางกาญจนา อดุลยานุโกศล นักวิชาการประมง 8 ว. นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านปลาโลมาและพะยูน สถาบันเดียวกัน กล่าวยืนยันผลการสำรวจความเสียหายของสัตว์ทะเลว่า มีความเสียหายน้อยมากซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี แทบจะไม่พบสัตว์ใหญ่อย่างโลมา หรือพะยูนเสียชีวิตเลย อาจมีเพียงปลาเล็กปลาน้อย กุ้ง หอย ปู ซึ่งเป็นสัตว์ที่อยู่ริมทะเลขึ้นมาตายอยู่บนหาดเนื่องจากถูกคลื่นซัดเข้ามาแล้วกลับลงทะเลไม่ได้
มีรายงานว่า เมื่อ 2 วันก่อน ได้พบปลาพะยูนเพศผู้ หนัก 40 กิโลกรัม ที่ทับละมุ โดนคลื่นซัดมาติดอยู่ที่บริเวณชายหาดแต่ไม่เสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงรีบให้การช่วยเหลือ ปฐมพยาบาลทำแผลและฉีดยา เมื่อแข็งแรงดีจึงปล่อยกลับคืนสู่ทะเล ส่วนบริเวณเกาะลิบง จ.ตรัง ซึ่งเป็นแหล่งที่มีปลาพะยูนมากที่สุด จากการสอบถามเบื้องต้นจากชาวบ้านพบว่ายังมีปลาพะยูนอีกมากแต่ไม่ขึ้นมาให้เห็น เนื่องจากคงอพยบไปอยู่บริเวณน้ำลึก เมื่อเหตุการณ์คลี่คลายคาดว่าปลาพะยูนกลุ่มนี้จะกลับมาอยู่เหมือนเดิม
ด้านกรมทรัพยากรธรณีประกาศเขตพื้นที่เสี่ยงภัยต่อหลุมยุบเนื่องจากเพดานถ้ำหรือโพรงของหินปูนใต้ดินยุบ หรือถล่มในพื้นที่จังหวัดที่ตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน ซึ่งได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ประกอบด้วย -จังหวัดกระบี่ ที่อำเภออ่าวลึก ตำบลอ่าวลึกเหนือ ต.อ่าวลึกน้อย -จังหวัดสตูล ที่อำเภอเมือง ต.เกตรี ต.ควนโพธิ์ ต.ฉลุง ต.คลองขุด ต.บ้านควน ต.ปูยู อำเภอควนโดน ที่ต.ควนโดน ต.ย่านซื่อ ต.ควนสะตอ ต.วังประจัน และที่อำเภอมะนังที่ ต.ปาล์มพัฒนา ที่อำเภอควนกาหลง ต.ควนกาหลง ต.ทุ่งนุ้ย ต.อุใดเจริญ อำเภอละงู ที่ต.ละงู ต.กำแพง ต.เขาขาว ต.ปากน้ำ ต.น้ำผุด -จังหวัดพังงาที่อำเภอทับปุด ต.ทับปุด ส่วน -จังหวัดตรังในอำเภอห้วยยอด ต.น้ำปุด ต.ปากแจ่ม ต.ท่างิ้ว อำเภอเมืองที่ต.น้ำผุด ต.นาท่ามเหนือ และต.บางรัก
ทั้งนี้ การเกิดการยุบตัวของโพรงหรือถ้ำใต้ดินดังกล่าวสืบเนื่องมาจากแรงดันของน้ำและอากาศภายในโพรงหรือถ้ำเปลี่ยนแปลง จึงทำให้โพรงหรือถ้ำใต้ดินที่อยู่ในชั้นหินปูนที่มีเพดานไม่แข็งแรง และมีชั้นดินหรือชั้นหินปิดทับอยู่ไม่หนานัก จะเสียสมดุลและยุบตัวลงโดยปกติก่อนยุบตัวจะเกิดเสียงค่อนข้างดัง เนื่องจากเพดานถ้ำหรือโพรงร้าวหรือบางแห่งอาจมีน้ำพุ่งขึ้นมาเป็นน้ำพุก่อน แล้วจึงถล่มหรือยุบตัวลงไป
กรมทรัพยากรธรณีจึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่โปรดระมัดระวังเฝ้าสังเกตความผิดปกติและระงับการไปเที่ยวในถ้ำต่างๆในพื้นที่ตามประกาศ หากมีสิ่งบอกเหตุดังกล่าวให้รีบหนีออกจากบริเวณนั้นทันทีและโปรดอย่าเจาะบ่อบาดาลใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ปกติ สำหรับตำบลในพื้นที่หินปูนที่มิได้อยู่ในบัญชีรายชื่อ แต่อยู่ในเขตหินปูนควรเฝ้าสังเกตด้วย