หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 28, 2004 10:13 pm
โดย นักดูดาว
อาจจะเป็นกังวลว่าภัยคลื่นยักษ์นี้จะทำให้บริษัทเสียค่าสินไหมเป็นอันมากเกินไป แต่ในแท้ที่จริงแล้วบริษัทประกันภัยในเมืองไทยมีมาก
หากการกระจายตัวของลูกค้าเป็นไปอย่างทั่วถึง เราอาจจะให้อัตราส่วนการจ่ายค่าสินไหมเป็นสัดส่วนเดียวกับส่วนแบ่งเบี้ยประกันรับ ลองดูไฟล์ที่กรมการประกันภัย ท่านจะพอประมาณได้คร่าวๆว่าความเสียหายครั้งนี้ บริษัทที่ท่านถือหุ้นอยู่ จะมีสินไหมจ่ายเท่าไหร่ครับ
http://www.doi.go.th/stat_data/stat-non ... table6.xls
อย่างเช่นหุ้นที่ผมถืออยู่ มีส่วนแบ่งตลาดโดยรวม 3.5% หากความเสียหายในเหตุการณ์นี้ที่ประกันภัยไว้ 1000 ล้าน..บริษัทที่ผมถือก็จ่ายไปประมาณ 35 ล้านคิดแล้วก็เพียง 1 บาทต่อหุ้นเท่านั้นเอง สำหรับบริษัทที่หลุด Top Ten ก็ประมาณเท่าๆ กับอันดับ 10 น่าจะประมาณแบบอนุรักษ์นิยมได้นะครับ
วิธีนี้ไม่ตรงทีเดียว เพราะยังไม่ได้เข้าเจาะลึกถึงชนิดกรมธรรม์ และการสำรวจภัยของบริษํท แต่ก็เป็นการคาดเดาหยาบๆ เพื่อไม่ให้ตระหนกกับเหตุการณ์เกินไปครับ
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 28, 2004 10:23 pm
โดย ปรัชญา
สำรวจแล้วครับ
ผมถือTIC มีแค่6สาขา ส่วนแบ่งการตลาดมีไม่ถึง2%
แปลกไม่มีภาคใต้เลย
อาจจะมีรถไปเที่ยวโดนบ้าง
แล้วอย่างนี้ประกันชั้น1
วินาศภัยคุ้มครองรถหรือเปล่า ท่านนักดูดาว
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 28, 2004 10:49 pm
โดย นักดูดาว
ของผมเปิดภาคใต้อยู่ 9 สาขา จาก 23 สาขา มีภูเก็ตและกระบี่ด้วย
ประกันรถยนต์คุ้มครองน้ำท่วมนะครับ(ภัยอื่น) จ่ายตามที่เสียหายจริง แต่ไม่เกินวงเงินประกัน
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 28, 2004 11:32 pm
โดย RR
ผมมีทัศนคติเชิงลบกับการประกันรถมานานมากแล้วครับ ตั้งแต่สมัยอะไรทมิฬๆโน้น
ท่านบอกว่าภัยธรรมชาติและจราจลเป็นข้อยกเว้น พวกผมเลยตั้งmottoให้กับบริษัทประกันว่า "พร้อมที่จะไม่จ่าย" [ขอโทษถ้าพูดแรงไป] ตอนหลังพวกเราก็เลยรวบรวมเงินค่าประกันรถมาทำอู่ซ่อมกันเอง
พูดถึงเรื่องนี้แล้วผมยังข้องใจไม่หายกับเบี้ยประกันชั้นหนึ่งของลูกค้าชั้นดี จำไม่ได้แล้วว่าเบี้ยประกันกี่ % ของวงเงินเอาประกัน สมมุติว่า 5% ผมประกันรถในวงเงิน1,000,000บาท เสียเบี้ยประกัน 50,000บาท ไม่มีอุบัติเหตุเลย ปีถัดมาเค้าบอกว่าเป็นลูกค้าชั้นดี ลดเบี้ยประกันให้20% เหลือ สี่หมื่นบวกค่าอะไรต่อมิอะไรแล้วเป็น 43,000 แต่ว่าเค้าลดวงเงินเอาประกันเหลือ 800,000บาท ถัดมาอีกปีก้อลูกค้าชั้นดีอีกลด20% เบี้ยประกันเหลือ 36,000 แต่วงเงินเอาประกันก็เหลือ 600,000 ทำไปทำมาซักห้าปี ไอ้เจ้ารถคันเดิมที่ไม่เคยมีอุบัติเหตุเลยก้อมีเบี้ยประกันเทียบต่อวงเงินเอาประกันเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 8% สมกับเป็นลูกค้าชั้นดีจริงๆ เพราะที่บอกว่าลดเบี้ยประกันน่ะที่แท้ลดวงเงินเอาประกัน
หลังจากเลิกทำประกันชั้นหนึ่งเราก็มาทำ พรบ.กับประกันชั้นสาม แต่ละคันก็เหลือเบี้ยประมานสามพันกว่าบาท พวกเราสิบกว่าคันก็ลดเงินไปได้ปีละหลายแสนบาท
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 29, 2004 12:07 am
โดย ปรัชญา
ที่ผมชอบประกันภัยรถยนต์
เพราะเวลาเฉี่ยวชนกัน
จะได้ไม่ต้องเสียอารมณ์ไปทะเลาะว่าใครผิดใครถูก
ยกให้คนเคลมเขาไปทะเลาะกันแทน
ไปขึ้นศาล หรือซ่อมแทน
เพราะผมไม่มีกลุ่มที่จะรวมเงินกันมาซ่อมได้
ชีวิตผมขับรถชนมา5ครั้ง
ครั้งที่1 ผมขับรถชนที่อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์
มอเตอร์ไซด์ตัดหน้า รถผมชนเขาขาหักและรถผมตกถนน
ตอนนั้นไม่ได้ทำประกันครับ
ต้องไปเยี่ยมคนถูกชน ไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล
ตั้งแต่ค่าเอ็กซเรย์จนถึงเหล็กดามขา2ข้างคนถูกชน
จนต้องมาจ่ายค่าทำขวัญ
จ่ายร้อยเวรเจ้าของคดี
เดินทางไป5-6หนกว่าจะเลิกลากันไป
หมดเป็นแสนครับ
ซ่อมมอเตอร์ไซด์ ซ่อมคนถูกชน(เพราะคำว่า..มนุษยธรรม)
ซ่อมรถตัวเองอีกหลายหมื่นบาท
จึงเริ่มทำประกันชั้น 1
รถซื้อเงินสดไม่ทำก็ได้ แต่ที่ทำผมคุ้มครับ
ครั้งต่อมาผมขับรถตามถนนมิตรภาพ4เลน
พอถึงตรงยูเทริน มีรถขับตัดหน้ากระทันหัน
บีบแตรก็แล้วหักลบจนถึงฟุตบาท
นาทีวิกฤตมีให้เลือก 3 ทาง
1.ชนเสาไฟฟ้า
2.ชนศาลาข้างถนน
3.ชนหัวรถที่ตัดข้ามมา
ผมตัดสินใจชนหัวรถคันนั้น เสียงชนดังสนั่นรถผมหมุน
เพลากลางขาด ล้อแม็กแตก2ล้อ ตาไฟ หม้อน้ำ แบ๊ตเตอรี่
ต้องซ่อม60% เปลี่ยนแก้ม เปลี่ยนประตู ทำสี ล้อ ล้อแม็ก
กระจกแตกเป็นเม็ดไม่เหลือฯลฯ
ผมรอดตายเข่าติดคอนโซลรถ กว่าจะลงมาได้
ไปดูคู่กรณี เป็นทหารเมาจนยืนไม่อยู่
โทรแจ้งประกัน และ ตำรวจ
ประกันมาขูดคัตซี จดและบันทึก เจ้าหน้าที่ตำรวจถามทหารเมา
พูดกันไม่รุ้เรื่อง
ผมถามตำรวจเมาแล้วขับจับจริงๆ ทำไมไม่จับไปขังไว้ครับ
ตำรวจบอกพาไปโรงพยาบาลก่อน ชนกันช่วงบ่าย2
บ่าย4ผมโทรไปถาม ตำรวจเขามีข้อตกลงกับทหารเขาไม่ขังเพราะไม่ใช่
คดีอาญา
เป็นคดีแพ่ง
ต่อมาผมจอดรถริมถนนหน้าบ้านตัวเอง แค่1ชั่วโมงรถหาย
ติดสัญญาณกันขโมยด้วย
พอรู้เรียบโทรไปแจ้งความ
ตั้งด่านสกัดทุกทางแต่ก็จับไม่ได้
พอพนักงานเครมประกันมาจากสำนักงานใหญ่กรุงเทพฯ
ก็มาสอบประวัติผมถ่ายรูป และซักถาม
พร้อมกับสัณนิฐานว่า...
รถผมถูกขโมยไปแยกชิ้นส่วนส่งขายเซียงกง
รถกะบะ1คันใช้เวลาไม่เกิน2ชั่วโมงก็เสร็จ
ต่อจากนั้นพวกขโมยก็จะเอาเครื่องยนต์
นำไปโยนไว้หน้าร้านเซียงกง
ตอนกลางคืน
และชิ้นส่วนเหล่านั้น หลายๆร้าน
(เช้ามาพวกก็ขนเข้าไปเก็บไว้ขาย)
แล้วพวกมันถึงตามไปเก็บเงินกันทีหลัง
(ผมได้เงินเป็นเช็คเรียกเก็บเต็มวงเงินเพราะไม่เคยมีประวัติทำรถหาย)
และเขาเล่าว่า...
มีคนโกงบริษัทประกัน เป็นข้าราชการหัวหมอ
ซื้อรถเงินสดแล้วซื้อประกัน อยู่กรุงเทพ
แล้วขับรถไปบายตลาดมืดชายแดน
กลับไปแจ้งความรถหาย รับเงินประกัน
รถซื้อมา9แสน ประกัน8แสน
ไปขายตลาดมืด5แสนกลับไปรับเงินประกัน8แสน
กำไรเห็นๆ
เขาถึงมีรายชื่อเชื่อมโยงระบบประกันทุกบริษัท
มีบ/ช แบบระบบเครดิต
ผมคนเดียวอย่างไรผมก็ว่าประกันดีครับ
ที่ว่าประกันไม่ดี เพราะไม่เล่นตามกติกา กฏเกณฑ์
(ที่เล่ามาเป็นประสพการณ์ส่วนตัว คนไม่เจอกับตัวไม่รู้หรอกครับ)
เวลารถมีปัญหากัน เขาเรียกเงินเรา
เราพูดคำเดียวเดี๋ยวคุยกับประกันผมแล้วกัน
ให้เด็กเฝ้ารถรอประกัน หรือเรายืนทำเฉยๆก็ได้
ผิดถูกเราไม่ต้องไปทะเลาะกับใคร
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 29, 2004 12:08 am
โดย yoyo
charan ของผมไม่ติดอันดับเลยฮะ
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 29, 2004 12:21 am
โดย ปรัชญา
อ้อรถเก่าเขาต้องลดวงเงินครับ
เพราะถ้าไม่ลดลง
หรือเจ้าของแกล้งทำให้หายหรือทำเกิดอุบัติเหตก็ต้องจ่ายเยอะ
บริษัทประกันเขารอบคอบประกันถึงไม่ค่อยมีเจ๊ง
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 29, 2004 7:41 am
โดย โป้ง
ค่าเสียหายที่ประเมิณกัน ไม่ใช่แค่ 1,000 ล้านแน่ๆครับ
30,000 ล้าน (เช่น มูลค่าทรัพย์สินที่เสียหาย ค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ บริษัททางยุโรปจ่ายสูงกว่าบริษัทในเอเชียเนื่องจากการประกันที่ดีกว่า) จริงอยู่ยอดค่าเสียหายตรงนี้ประกันไม่ต้องจ่ายทั้งหมด
และการคิดเบี้ยประกันแต่ล่ะอย่างมันไม่เหมือนกัน จึงไปมองภาพรวม market share ในตลาดไม่ได้ ต้องดูอีกว่าบริษัทนั้นรับประกันประเภทไหนมาก
ต้องขอพูดตรงๆ ว่า หมวดประกันภัย-โรงแรม ได้รับผลกระทบมากที่สุด (หากมองว่าไม่ได้รับผลกระทบหรือผลกระทบน้อย ก็เป็นการหลอกตัวเอง)
ประเดนมันอยู่ที่ว่ายังเป็นธุรกิจที่น่าจะยังคงลงทุนต่อไปได้หรือไม่ สำหรับประกันผมยังมองว่ายังลงทุนได้ แต่โรงแรมใครไม่ได้ถือหุ้นอยู่ไปมองกลุ่มอื่นดีกว่า
(ขออภัยสำหรับผู้ที่ถือหุ้นกลุ่มดังกล่าว)
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 29, 2004 10:16 am
โดย RR
ปรัชญา เขียน:อ้อรถเก่าเขาต้องลดวงเงินครับ
เพราะถ้าไม่ลดลง
หรือเจ้าของแกล้งทำให้หายหรือทำเกิดอุบัติเหตก็ต้องจ่ายเยอะ
บริษัทประกันเขารอบคอบประกันถึงไม่ค่อยมีเจ๊ง
ขอบคุณครับ...อันเนี้ยผมเข้าใจ แต่ที่กำลังบ่นอยู่ก็คือ คำว่าลูกค้าประวัติดี ลดเบี้ยให้20% แต่จริงๆแล้วคิดเบี้ยเทียบต่อวงเงิน จะเป็น%ที่สูงกว่าเดิม
สู้ยกเลิกแล้วทำใหม่ ยังเสียเบี้ยประกันน้อยกว่าเดิมกระมัง[5%แทนที่จะเสีย6%ในปีที่สาม] ตัวเปอร์เซนต์นี่ไม่ตรงนักเพราะผมจำตัวเลขที่ถูกต้องไม่ได้
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 29, 2004 11:02 am
โดย คลายเครียด
คุณปรัชญามีเรื่องกับทหาร
ผมว่าเอาชนะยากครับ
ถ้าเราไม่มีเส้นสายในแวดวงที่เหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 29, 2004 11:10 am
โดย คลายเครียด
ลืมตัดแปะข้อความนี้ไป
ประกันคุ้มภัย เสียหายทั้งหมด ไม่เกินสิบล้านบาท
http://www.set.or.th/set/newsdetails.do ... anguage=en
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 29, 2004 12:22 pm
โดย โป้ง
Symbol: SAFE
Headline: รายงานผลกระทบจากแผ่นดินไหว และน้ำท่วมอย่างรุนแรงทางภาคใต้
Time: 29 ธ.ค. 2004 08:40:02
ที่ 029/2547
วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2547
เรื่อง : รายงานผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และน้ำท่วมอย่างรุนแรงทางภาคใต้
เรียน : กรรมการผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่ในวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ที่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 ริกเตอร์ในมหาสมุทรอินเดียทางทิศตะวันตกของ
ประเทศอินโดนีเซียครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์พัดเข้าสู่ 6 จังหวัดภาคใต้ของไทย ก่อให้เกิดความ
เสียหายทั้งด้านชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมากนั้น
บริษัท ประกันคุ้มภัย จำกัด (มหาชน) ขอเรียนให้ทราบว่า บริษัทฯ มีการรับงานประกันวินาศภัยในพื้นที่ที่เกิดเหตุดังกล่าว
อยู่บ้าง ซึ่งขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินผลกระทบทั้งหมดอยู่ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้
มีการบริหารความเสี่ยงด้วยการซื้อประกันความเสียหายส่วนเกินคุ้มครองความเสียหายอันเกิดจากมหันตภัย ทำให้
บริษัทฯ คาดว่า ความเสียหายสุทธิจากมหันตภัยครั้งนี้ที่จะมีผลกระทบต่อบริษัทฯ จะจำกัดอยู่ในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 10
ล้านบาท
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ขอแสดงความนับถือ
นายยงยุทธ บวรวนิชยกูร
กรรมการผู้จัดการ
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 29, 2004 12:29 pm
โดย ปรัชญา
คลายเครียด เขียน:คุณปรัชญามีเรื่องกับทหาร
ผมว่าเอาชนะยากครับ
ถ้าเราไม่มีเส้นสายในแวดวงที่เหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม
จริงครับ เรื่องเส้นสายกับทหาร
ขนาดที่นี่สนามม้าทหารก็คุม โรงแรมก็คุม
คนเกิดเรื่องเจ็บกับหายก่อน
ตำรวจเป็นเหมือนคนกลางชี้ผิดชี้ถูกไม่ได้
ได้แค่ออมชอม แล้วยังมีสัญญากันระหว่างกระทรวงอีก
อย่างที่เคยมีข่าวเสธเด็จ ตบร้อยเวรเรื่องบัตรประชาชน
2ปีก่อน คนถูกตบเพื่อนผมเองครับ สุดท้ายเจ้านายคุยกัน
ยังต้องเข้าไปยกมือไหว้คนตบ
แค่คำว่า เราจบ จอปอรอ มาจากสถาบันเดียวกันเหมือนพี่เหมือนน้อง
พี่ตบน้องก็ขอๆกันไป
นี่ล่ะเมืองไทย
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 29, 2004 1:35 pm
โดย อืมม์
เสริมนิดนึงนะครับ รถผมก็ทำชั้นหนึ่ง แต่เคยไปชนมอเตอร์ไซด์บาดเจ็บก็ยังต้องไปโรงพักหลายเที่ยว เสียเงินทำขวัญ ฯลฯ เหมือนกันนะครับ แต่ก็ประหยัดในบางส่วนที่ประกันจ่ายไปได้
ประกันชั้นหนึ่งถ้าพูดถึงความคุ้มค่า คนขับดี ๆ ต้องบอกว่าไม่คุ้มแน่ ๆ แต่ถ้าพอมีสตางค์ก็ทำเพื่อความสบายใจ และตัดปัญหาจุกจิกกวนใจเวลาชนอย่างที่คุณปรัชญาว่า จะดีกว่า
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 29, 2004 6:39 pm
โดย buglife
วันนี้นั่งดูหุ้นประกันตัวหนึ่ง ไม่ยอมลงมานะครับ
ที่แท้มีจอมยุทธ์ตั้งเขื่อนกั้นไว้ โฮๆ อด
ผู้ถือหุ้นประกันภัย ลองมาประมาณความเสียหายคร่าวๆของหุ้นครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 29, 2004 8:56 pm
โดย ต.หยวนเปียว
เดี๋ยวเขื่อนแตก
เราก็ลุย หรือ ไม่ก็ซี้ม่องเท่ง