Thai VI

1. กองทุนที่ตั้งเมื่อปีที่แล้วบางกองมี NAV กว่า 200% ขายลดความเสี่ยง โดยนำเงินที่ขายได้ไปซื้อสินทรัพย์ที่เสี่ยงน้อยลงเช่นหุ้นกู้
2. บางกองขายหุ้นแล้วนำกำไรที่ได้ไปจ่ายปันผลเพื่อไม่ให้ NAV เพิ่มโดยเฉพาะกองที่ NAV ยังไม่ถึงราคาพาร์ (กองทุนยุคฟองสบู่) เพราะถ้าทิ้งให้กำไรทบเข้าไปใน NAV จนถึงพาร์เมื่อไหร่ คนที่ถือรอขายมานานคงแย่งกันขายแทบไม่ทัน
3. กองทุนใหม่ที่เพิ่งตั้งปีนี้มีขนาดเล็กกว่าปีที่แล้วรอรับซื้อที่ราคาต่ำไม่ไล่ราคา สุทธิก็เลยออกมาเป็นขาย

เสถียรภาพของกองทุนโดยรวมน่าจะดีขึ้น เพราะทุกกองจะมีผลงานที่ไม่น่าเกลียด ปีหน้ารายย่อยก็จะได้ช่วยกันอุดหนุนกองทุนอีก เติมเม็ดเงินมากขึ้น...หรือผมจะมองโลกในแง่ดีเกินไป

ต่างมุมมองกันครับ
แต่เมื่อเขาขาย
ก็หวังว่าให้ต่ำแล้วจะได้ซื้อกลับ

พอดี มีเหตุการณ์ภาคใต้ เลยเข้าทาง
คงได้รับผลดีครับผมคิดแบบนี้ผิดถูกไม่ว่ากันครับคุณstockms

ไม่ต่างมุมหรอกครับ ผมก็คิดว่าเขากดตลาด แต่กดเพื่อกองทุนใหม่จะได้ซื้อหุ้นไม่แพงเกินไปโดยประเมินว่าปีหน้าคงจะปรับขึ้นได้อีกเล็กน้อย แต่โชคร้ายเข้าข้างกองทุนจริงๆ มาเกิดเหตุการณ์ขึ้น ไม่รู้ต่างชาติจะยังฝืนหรือจะหันกลับมาร่วมวงช่วยกองทุนทุบ

ผมก็ไม่รู้ว่ากองทุนเค้าคิดยังไง ได้มาอ่านก็ดีครับ ได้มีอะไรติดหัวหน่อย ใจผมนึกว่าเค้าคงเก็บเงินรอ เดือนหน้าใส่เต็มที่อ่ะเปล่า

วิเคราะห์ได้น่าสนใจครับ คุณ stockms

ผมไม่แน่ใจว่าที่ขายอยู่เพราะว่า คนที่ลงทุนไว้ปลายปีก่อนเริ่มเท่าทุน แล้วก็เลยมาเปลี่ยนกอง หรือไถ่ถอนคืนหรือเปล่า

และก็แปลกใจด้วยครับว่า เงินจาก LTF ไม่เห็นจะมากอย่างที่คิดนะ

เริ่มเห็นผลครับ
เฮดฟันด์เริ่มขาย196.82ล้านบาท
สถาบันเริ่มซื้อกับรายย่อย

ผมว่าที่กองทุนขายๆออกมาเนี่ย เพื่อเอาไว้รับตอนต่างชาติทิ้งของ จะได้ soft landing หน่อย ไม่กระแทกรุนแรงเกินไป

ลองแวะไปดูกองทุน LTF ของกสิกรมาครับ เพิ่งซื้อหุ้นไปนิดเดียวเอง แถมเดือนนี้กองก็โตขึ้นเรื่อยๆ ด้วย ผมว่าสถาณการณ์ตอนนี้กองทุนได้เปรียบแค่ตั้งรับอย่างเดียว ใครอยากดึงขึ้นก็เอากองเก่าที่มีกำไรมาขาย