ผมขอเรียนแบบคุณวิบูลย์ในการตอบคำถาม แต่ไม่ได้ต้องการที่กวนนะครับ
ช่วงที่ลงมาถึง 46 บาท น่าจะเป็นเพราะคนขายต้องการขาย มากกว่าคนที่ต้องการซื้อ
ขณะที่ราคาขึ้นมาแถว 49 บาทอีกครั้ง คงเป็นเพราะคนขายอาจจะขายหมดแล้ว
หรือไม่ต้องการขายในราคาที่ต่ำกว่าราคาดังกล่าวแล้ว
ขณะที่มีคนซื้อเข้ามาบ้างและยอมจ่ายในราคาที่สูงขึ้น
ในส่วนตัวแล้วผมมอง MBK เป็นหุ้น dividend stock เนื่องจากผู้บริหารก็ให้ความมั่นใจ
ถึงเรื่องนโยบายการจ่ายเงินปันผล ว่าจะไม่น้อยกว่าปีก่อน หากเหมาะสมก็จะเพิ่มขึ้น
ดูจากแหล่งรายได้ของบริษัท MBK ก็น่าจะทำได้เช่นนั้นครับ
วันประชุมผู้ถือหุ้น ผู้ถือหุ้นเสนอจ่ายจากภาษี 30% ทั้งสองงวด
(เข้าใจว่า ก่อนหน้านี้จ่ายจาก 25% และ 30%) ซึ่งผู้บริหารก็รับปากว่า จะปฎิบัติตามข้อเสนอแนะ
หาก MBK ยังรักษาการจ่ายปันผล 3 บาท เครดิตภาษีปันผลที่ 30%
ก็นับว่าผลตอบแทนไม่เลยทีเดียว แถมยังจ่ายทุก 6 เดือนอีกต่างหาก
ผมอยากจะแนะนำเพื่อนนักลงทุนว่า บางครั้งอาจจะต้องมี dividen stock ประดับพอร์ตลงทนไว้บ้าง
ไม่จำเป็นต้องเป็น MBK แต่เป็นตัวอื่นก็ได้ เพราะจะทำให้มีเงินปันผลเป็นรายรับเข้ามา
อีกอย่าง growth stock โดยทั่วไป จะไม่จ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูงแต่คงเน้นเรื่อง capital gain มากกว่า
MBK คงมีเรืองการปรับค่าเช่าของห้างโตคิว ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาลง
เนื้อที่ประมาณ 12,000 ตารางเมตร (ถ้าจำไม่ผิด) ซึ่งทำสัญญาที่ราคา 99 บาท
การต่อสัญญาเที่ยวนี้น่าจะทำให้ผลประกอบการขึ้นมาในช่วงรอบบัญชี ม.ค. เป็นต้นไป
สำหรับผู้ลงทุนใน MBK ต้องทำใจไว้ด้วยครับ เพราะโครงสร้างการถือหุ้นไขว้ไปมา
และเปลี่ยนเร็ว ผมเองก็ติดตามไม่ไหวเหมือนกัน แต่ก็ยังให้เครดิตผู้บริหารอยู่ครับ
สุดท้ายนี้ อยากจะบอกว่า จะครบรอบครึ่งปีบัญชีอีกแล้ว ผมก็รอรับเงินปันผลอีก 1.5 บาทสำหรับผลประกอบการ ก.ค. ถึง ธ.ค. นี้ครับ
