หน้า 1 จากทั้งหมด 1
อ่านเจอ เก็บมาเล่าให้ฟังครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 21, 2004 5:41 pm
โดย sirivajj
นอกจากทฤษฏี Elliot Wave, Down ก็ยังได้มีคนคิดทฤษฏีขึ้นมาสำหรับตลาดหุ้นแต่ที่ฟังดูแปลกๆ มีคนเก็บมาเล่าให้ฟัง ดังนี้ ครับ
1. Skiert Length Theory มีแนวคิดว่า ความยาวของกระโปรงคือตัวบ่งชี้ทิศทางของตลาด หากกระโปรงสั้นก็หมายความว่า ตลาดต่างๆ จะปรับตัวขึ้น
แต่หากกระโปรงยาวก็หมายความว่า ตลาดกำลังจะปักหัวลง
แนวคิดที่อยู่ข้างหลังทฤษฏีนี้คือ กระโปรงยิ่งสั้นมากเท่าไหร่ก็ชี้ว่า มีความมั่นใจและความตื่นเต้น เร้าใจสูง ซึ่งหมายถึงสิ่งต่างๆ กำลังคึกคัก
ว่าไปนั่น ในทางกลับกันกระโปรงยาวบอกถึงความหวาดกลัวและความหม่นหมองโดยทั่วไป ชี้ว่าสิ่งต่างๆ ซบเซา ไม่คึกคัก
มีต่อ .......
อ่านเจอ เก็บมาเล่าให้ฟังครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 21, 2004 6:01 pm
โดย sirivajj
2. Boston Snow Indicator ระบุว่า เทศกาลคริสมาสที่มีหิมะขาวโพลนในบอสตันจะส่งผลให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้น
..... คิดได้งัยเนี่ยะ ......
มีต่อ .....
อ่านเจอ เก็บมาเล่าให้ฟังครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 21, 2004 6:03 pm
โดย sirivajj
3. Aspirin Count Theory ระบุว่า ราคาหุ้นและการผลิตยาแอสไพรินจะผกผันกัน
เชื่อว่า เมื่อราคาหุ้นตก จะมีคนต้องการยาแก้ปวดมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อฝ่าฟันความเลวร้ายในวันนั้นได้
..... ???????
อ่านเจอ เก็บมาเล่าให้ฟังครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 21, 2004 6:10 pm
โดย sirivajj
อ่านถึงตรงนี้ ผมว่า น่าจะมีคนคิดทฤษฏี Investor Suicide Theory
ระบุว่า ราคาหุ้นและจำนวนนักลงทุนที่ฆ่าตัวตายจะผกผันกัน
..... ตลกร้ายไปหรือเปล่าครับ ......

อ่านเจอ เก็บมาเล่าให้ฟังครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 21, 2004 10:06 pm
โดย Minesweeper
ข้อ 2 นี่มีเหตุผลมั้ยครับว่าทำไม ?
อ่านเจอ เก็บมาเล่าให้ฟังครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 21, 2004 10:25 pm
โดย CK
ผมก็มีทฤษฎีครับ
วันไหนที่หุ้นขึ้นแรงๆ ทีวีไอเว็บบอร์ดจะเงียบเหงามาก แต่กระทิงเขียวจะฟู่ฟ่า
วันไหนที่ตลาดหุ้นตกหนักๆ ซึมนานๆ จะมีสมาชิกใหม่เข้ามาในเว็บทีวีไอจำนวนมาก
แต่บอร์ดกระทิงเขียวจะเงียบเหงา
อ่านเจอ เก็บมาเล่าให้ฟังครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 21, 2004 10:38 pm
โดย ปรัชญา
วันนี้สินธรก็เหงาครับ
คุยกัน4คน ผมกับเฮียคลายเครียด คุณเต่าหยวนเปียวและคุณธราธิป
ขาดทั่นประทาน

อ่านเจอ เก็บมาเล่าให้ฟังครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 21, 2004 10:50 pm
โดย kotaro
เหมือนกับที่เขียนในหนังสือ Common Stock Uncommon Profit
หุ้นตกหนังสือขายดีขึ้น หุ้นขึ้นหนังสือขายได้น้อยลง
ของเราต้องเทียบกับหนังสือของคุณ WEB แฮะ

อ่านเจอ เก็บมาเล่าให้ฟังครับ
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 21, 2004 11:03 pm
โดย harry
:lol: :lol: เห็นด้วยครับ ขำดี
อ่านเจอ เก็บมาเล่าให้ฟังครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 22, 2004 10:13 am
โดย WEB
คุณ kotaro เท่าที่ผ่านมา ผมพบว่า ช่วงที่หุ้นขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยอดขายจะดีกว่านะครับ ช่วงตลาดกระทิง ไปที่ไหนใครๆก็คุยเรื่องหุ้น ใครๆก็บอกว่ารวยจากหุ้น ตามความเห็นผม ผมว่า มันประหนึ่งเป็นแรงผลักดันและกดดันให้คนหลากหลายกลุ่มหันกลับมาให้ความสนใจหุ้นกันมากขึ้น หนังสือก็เลยขายดีขึ้น อย่างไรก็ตาม คนส่วนใหญ่ก็ยังอยากอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาไม่หนัก ไม่ต้องทำความเข้าใจมาก และไม่ต้องไปทำการบ้านต่อ
เดือนที่แล้วทั้งเดือน กุญแจห้าดอกผมขายได้แค่ 90 เล่มเอง new low เลยครับ ชักท้อๆเหมือนกัน
อ่านเจอ เก็บมาเล่าให้ฟังครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 22, 2004 10:31 am
โดย Tongue
555 ดีครับ
ของผม ถ้านั่ง taxi แล้วคุยเรื่องหุ้นกับเค้ารู้เรื่อง
ล้างปอดโลด
อ่านเจอ เก็บมาเล่าให้ฟังครับ
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 22, 2004 10:52 am
โดย kotaro
เดือนที่แล้วทั้งเดือน กุญแจห้าดอกผมขายได้แค่ 90 เล่มเอง new low เลยครับ ชักท้อๆเหมือนกัน
ถ้าอย่างนั้นอาจเป็นเพราะช่วงที่ผ่านมา ตลาดหุ้นบ้านเราค่อนข้างซึมครับ
ถ้าหุ้นขึ้นก็คงขายได้มากขึ้นนะครับ
อย่าพึ่งท้อครับ เป็นกำลังใจให้ครับ