หน้า 1 จากทั้งหมด 2

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 9:24 pm
โดย LOSO
**

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 9:26 pm
โดย LOSO
**

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 9:28 pm
โดย คัดท้าย
มีความเป็นไปได้กี่ % ครับ คุณ LOSO สำหรับ 31-33 บาท / 1 Us Dollar ?
แล้ว คิดว่า น่าจะถึงจุดดังกล่าวประมาณเมื่อไหร่ครับ ต้นปีหน้า กลางปีหน้า หรือว่า ปลายปีหน้า ?


แล้ว EURO ละครับ ถ้า US Dollar อ่อนลงขนาดนั้น EU จะไม่ตายเลยหรือ ?

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 9:28 pm
โดย Golden Stock
แล้วทำไมถึงคิดว่าค่าเงิน US จะอ่อนค่าถึงระดับ 31-33 บาท/$ ล่ะครับ

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 9:30 pm
โดย Jeng
ก็ twin defficits ของอเมริกาไง ถ้า จีนแข็ง แล้วรวมตัวกับยูโร โค่นอเมริกา เรื่องค่าเงินไปเลย เพราะเรื่องอาวุธสู้ไม่ได้อยู่แล้วในตอนนี้

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 9:32 pm
โดย Golden Stock
แล้วประเทศที่เก็บเงิน $ เป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ จะทำอย่างไรล่ะครับ หรือว่าจะเอาไปถมทะเล

ตามความเห็นของผม ไม่ว่าอเมริกาจะขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างไร ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับอเมริกาอยู่แล้ว เขาก็พิมพ์แบงค์ออกมาได้เรื่อยๆ ตราบใดที่เขายังมีเครติดอยู่ ถ้าเป็นยุคที่ต้องมีทองคำหนุนหลังอยู่เหมือนเมื่อสมัยอดีต อเมริกาคงแย่ไปก่อนหน้านี้แล้วครับ

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 9:34 pm
โดย LOSO
**

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 9:41 pm
โดย Jeng
ใครดูกราฟเป็นช่วยบอกหน่อยซิว่าน่ากลัว หรือธรรมดา

รูปภาพ

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 9:49 pm
โดย LOSO
**

ว้าว

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 9:51 pm
โดย hot
คงเป็นสาหตุหนึ่งหรือเปล่าคับทีทองโลกไม่หลุด430 เสียที

ผมว่ามีบางประเทศ ดักเก็บแถวราคา430 ตลอดในขณะเดียวกันก็
ลดการถือ$ลง
เงินตราเป็นเหมือนเสื้อผ้า ถ้าเสื้อผ้ามันเก่า ก็จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่

ถ้าเสือผ้าไม่สวยก็ต้องหาผ้าใหม่มาตัด จะยึดติดกับเสือ้ผ้าเก่าเก่า
คงเก่าตามเสื้อผ้าไปหรือเปล่าคับ

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 9:53 pm
โดย Jeng
550 พันล้านยูเอสดอลล่า นี่มันกี่บาทนะ 550 x 1000 x 40 = 22 ล้านล้าน เชียวหรือ คำนวณผิดหรือเปล่าเรา

ขาดดุลการค้า 22 ล้านๆ ขาดดุลงบประมาณ 22 ล้านๆ ใครจบการเงิน วิแคะให้หน่อย

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 9:55 pm
โดย LOSO
**

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 10:01 pm
โดย Jeng
เดี๋ยวรอผู้รู้จริงมาตอบ แต่ส่วนตัวคิดว่า ถ้า แก้ขาดดุลการค้าไม่ได้ ไม่มีทางแก้ขาดดุลงบประมาณได้เลย เหมือนคนใช้จ่ายนอกบ้านเยอะ ใช้ของฟุ่มเฟือยเยอะ แล้วมาบอกว่าให้ประหยัดในบ้านเอา กินข้าวให้น้อยลง

ทางเดียวคือต้องให้กลไกตลาดปรับให้ดอลล่าอ่อนตัวไปเรื่อยๆจนกระทั่ง การขาดดุลการค้าลดลง เพราะดอลล่าซื้อของได้น้อยลง ของแพงขึ้น ในเชิงเปรียบเทียบ ทำให้ไม่อยากซื้อ เงินดอลล่าก็จะหมุนๆอยู่ในประเทศ คือซื้อของในประเทศอเมริกาดีกว่า ทำให้การค้าในอเมริกาเอง ก็ได้กำไร มีเงินมาจ่ายรัฐบาล ทำให้รัฐบาลเก็บภาษีได้ ทำให้การขาดดุลงบประมาณน้อยลง

เอ คิดแบบนี้ถูกละเปล่า ท่าน LOSO

ส่วนเรื่อง GDP อเมริกา เดี๋ยวขอไปหาตัวเลขก่อน

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 10:02 pm
โดย CK
ถ้าดูจากกราฟอย่างเดียวก็น่ากลัวครับ

แต่ในความเป็นจริง คงไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดนั้น เพราะผมเดาว่า

1. trade deficit เป็นตัวเลขที่ไม่รวมบริษัท US ไปเปิดบริษัทย่อยใน
ประเทศอื่น รวมถึงการเข้าไปลงทุนในจีนค่อนข้างมาก

2. สหรัฐฯค้ำประกันการพิมพ์ธนบัตรตัวเองด้วยอาวุธสงครามและ
พันธบัตร การเพิ่ม defense spending น่าจะมีผลทางอ้อมให้มูลค่า
ตลาดอาวุธสูงขึ้น

3. นโยบายดอลล่าร์อ่อนเป็นเกมของอเมริกาในการประคองเศรษฐกิจ
ตัวเองอยู่แล้ว

4. เมื่ออิรักเริ่มผลิตน้ำมันเข้าเป้า สหรัฐฯน่าจะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

5. ประเทศเขามี The Incredibles :lol:

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 10:04 pm
โดย Golden Stock
ถ้าว่ากันตามนักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่บอกว่า สหรัฐอเมริกากำลังจะเข้าสู่วิกฤตหากยังไม่เร่งแก้ไข

แต่ในความเห็นของผม ต้องพิจารณากันก่อนว่าอเมริกาเขาใช้หลักการเดียวกับทุกประเทศทั่วโลกหรือเปล่า? ถ้าลองกลับไปอ่านเศรษฐศาสตร์มหภาค จะเห็นว่าที่อเมริกาใช้นั้น มันอยู่เหนือหรือนอกกฏเกณฑ์ที่ประเทศต่างๆ เขาใช้กัน ดังนั้นการวิเคราะห์ด้วยการใช้ทฤษฎีในตำรามันก็ใช้ไม่ได้ผล แต่ที่เห็นสิ่งหนึ่ง แม้ว่าอเมริกาจะขาดดุลการค้ามากแค่ไหน ก็ไม่ขาดดุลบัญชีดุลการชำระเงิน หมายถึงว่ามีเงินไหลเข้ามากกว่าเงินไหลออก โดยรัฐบาลอเมริกันใช้วิธีการต่างๆ เช่น ขายพันธบัตรให้แก่ต่างประเทศ หรือจะใช้พวกกองทุนสารพัดออกไปดูดเงินจากประเทศต่างๆ ทั่วโลก บางประเทศมีเงินไหลเข้าจากการค้าขายมากมาย แต่ต้องมาเงินไหลออกเพราะเลห์กลต่างๆ ของพวกมะกัน

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 10:10 pm
โดย LOSO
**

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 10:12 pm
โดย LOSO
**

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 10:14 pm
โดย Golden Stock
ที่เสี่ยเจ๋งว่ามานั้นแหละครับทฤษฎีในเศรษฐศาสตร์มหภาค ที่ว่าประเทศที่ขาดดุลการค้ามากๆ ค่าเงินของตัวจะอ่อน จะทำให้นำเข้าแพง ส่งออกถูก สุดท้ายก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ว่ารัฐต้องเข้ามาแทรกแซงด้วย

ส่วนประเทศที่เกินดุลการค้ามากๆ ค่าเงินก็จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ จะทำให้การนำเข้าถูก ส่งออกแพง สุดท้ายจะทำให้การเกินดุลลดลง

แต่ดูอเมริกาซิครับ มันตรงกันข้าม

การเปลี่ยนการถือครองเงินสกุลหลัก ก็เป็นแค่เกมการเงินอย่างหนึ่งในโลกของการเก็งกำไร ซึ่งสุดท้ายก็ต้องมีคนได้คนเสีย

อย่างไรทุกประเทศในโลกก็ยังต้องถือเงิน $ ต่อไป เพราะว่าทุกประเทศยังต้องค้าขายกับอเมริกา และยังต้องพึงอเมริกาอยู่

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 10:22 pm
โดย Jeng
นาย ก. รายได้ 1 ล้านต่อเดือน ใช้จ่าย 1.05 ล้านต่อเดือน ไปเรื่อยๆ แต่มีเครดิต เพราะเป็นนายพล ใครไม่ยืมเดี๋ยวส่งไปนรก เงินไม่เคยขาดมือ
นาย ข. รายได้ 1 หมื่น รายจ่าย 5 พันบาท ไม่เคยมีหนี้เลย
สงสัย อเมริกาจะเป็นแบบนี้อยู่หรือเปล่า

โดยส่วนตัวคิดว่า อย่าไปเชื่อที่เขาให้ข่าวกันเลย ว่าอเมริกาพิมพ์แบงค์เอง โดยไม่มีอะไรค้ำประกัน ข่าวที่ได้ยินมา ก็ไม่เคยเห็นตัวข่าว จากแหล่งข่าวที่ไหน ก็พูดกันไปเรื่อยๆ
ส่วนเรื่องบริษัทอมเริกาไปอยู่ต่างประเทศ แล้วนำเงินเข้าประเทศนั้น ก็น่าจะจริง แต่ไม่รู้สัดส่วนเป็นเท่าไร
ในทางกลับกันบริษัทต่างประเทศ ทั้งยุโรป และญี่ปุ่น ที่เข้าไปอยู่ที่อเมริกา และโอนเงินกำไรกลับประเทศ ก็น่าจะมีเหมือนกัน

ผมคิดว่า ถ้าอเมริกาไม่แก้ไขให้ตัวเองกลับมาสมดุลกับความเป็นจริง ค่าเงินจะวิ่งกลับอย่างรุนแรง เพราะที่เราเห็นทุกวันนี้ อาจจะมีการแทรกแซง intervention อยู่ตลอด โดย G ทั้งหลาย เดี๋ยวนี้ ไม่รู้เรียก G7 เหมือนสมัยก่อนหรือเปล่า

นายข.เริ่มเตือนนายก. ว่าถ้าเอ็งไม่ลดการใช้จ่ายลงเอ็งจะหมดตัว นายก.บอกว่าเอ็งไม่ต้องมาเตือนข้า GDP ของข้า 1.05 ล้าน ของเอ็งแค่ 5 พัน ประเทศเล็กๆอย่างเอ็ง หุบปากไปเลย
พอมีปัญหาค่าเงิน นายก.ก็ใช้เงินมากมายที่ตัวเองมี ไปอุดหนุนค่าเงิน เพราะนายข. ไม่มีเงินไปทำแบบนั้น เพราะมีเงินเหลือแค่ 5 พันเอง กว่าจะมีเงิน 1 ล้าน ต้องใช้เวลาเก็บไปอีก 16.66 ปี ในขณะที่อีก 16.66 ปี ต่อมา นายก. หาได้ 10 ล้านต่อเดือน แต่ยังคงใช้จ่ายเกินตัวเป็น 10.50 ล้าน ต่อเดือน

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 10:48 pm
โดย Jeng
หาเจอแต่ตัวเลขนี้ ไม่รู้ว่าแปลว่าอะไร

รูปภาพ

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 11:46 pm
โดย Stock Broker
per capita คือ คิดต่อหัวครับ พี่เจ๋ง

ส่วนเรื่องค่าเงิน USD ผมมองว่าโอกาสน้อยครับที่จะอ่อนไปขนาดนั้น มันเป็นแค่เกมของผู้มีอำนาจเท่านั้นแหละครับ เช่นเดียวกับน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 11:51 pm
โดย Jeng
ครับ แต่หมายถึงว่า เราเอาตัวเลขนั้น แล้วคูณ 240 ล้านคน มันจะเป็น GDP ทันทีหรือเปล่า หรือต้องมีค่าอื่นๆอีกมาปรับ

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 13, 2004 11:55 pm
โดย Jeng
ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เราก็เอา 37800 คูณด้วย 240 ล้าน เท่ากับ 9.07 ล้านล้านยูเอสดอลล่า ปัจจุบันขาดดุลการค้าอยู่ 550 คูณด้วย 1000 เท่ากับ .55 ล้านล้านยูเอสดอลล่า
ท่าน loso ถามว่า เป็นกี่เปอร์เซ็นต์ของ GDP ก็ขอตอบว่า 6 %
ซึ่งเท่ากับว่า ขาดดุลแบบนี้ไปเรื่อย ก็ต้องใช้เวลา 16.66 ปี ครับ ถึงจะขาดดุลสะสมเท่ากับ 100 % ของ GDP
เอ๊ะ ทำไมตัวเลขมันตรงกับที่เราเดาไว้

**

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 14, 2004 12:46 am
โดย someOne
<<<<<<< พี่คนเนี้ยโดนเละแน่คับ

**

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 14, 2004 7:42 am
โดย ch_army
พวกส่งออกที่อิง อเมริกาแย่แน่คราวนี้เพราะกำไรหดไปเพียบ ยังงี้ต้องหาตลาดใหม่ๆครับ

**

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 14, 2004 8:04 am
โดย SomJook
Financial Engineer เขียน: ส่วนเรื่องค่าเงิน USD ผมมองว่าโอกาสน้อยครับที่จะอ่อนไปขนาดนั้น มันเป็นแค่เกมของผู้มีอำนาจเท่านั้นแหละครับ เช่นเดียวกับน้ำมันในช่วงที่ผ่านมา
คิดคล้ายๆกับคุณ FE ค่ะว่าโอกาสค่อนข้างน้อยที่แบงค์ชาติจะปล่อยให้ค่าเงินบาทจะอ่อนไปขนานนั้น........

ระบบเงินในเมืองไทยยังเป็นเเบบ managed float ....... ยังไม่ได้เป็นแบบ free float...........นั่นคือเมื่อใดที่ค่าเงินบาทอ่อนหรือแข็งมากเกินไปจนน่าจะส่งผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจ....... แบงค์ชาติหรือกระทรวงการคลังจะสามารถเข้ามาแทรกแซงโดยเข้ามาซื้อ/ขายเงินบาทหรือดอลลาร์ในตลาดได้โดยไม่ผิดค่ะ......

รายได้หลักของเมืองไทยได้จากการส่งออก......... และเคยฟังนักเศรษฐศาสตร์เขาประเมินมาว่าระดับค่าเงินบาทน่าจะอยู่ที่ 39+1 บาทน่าจะเป็นจุดที่เหมาะสมและไม่กระทบกับระบบเศรษฐกิจโดยรวมมากนัก....... แต่ถ้าเมื่อใดบาทแข็งค่ามากกว่านี้จะส่งผลกระทบกับการส่งออก....... ซึ่งจะส่งผลไปถึงรายได้หลักของประเทศและการขาดดุลการค้าทันที........ เมื่อนั้นทางแบงค์ชาติก็เข้ามาแทรกเเซงค่าเงินบาทซึ่งอาจจะทำโดยการขายบาทออกมาในตลาดและซื้อดอลลาร์เก็บค่ะ....... 8)

**

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 14, 2004 8:29 am
โดย นักดูดาว
จำได้ว่าบัฟเฟตซื้อฟิวเจอร์ไว้

ทั้งๆที่แกเคยด่าพวกฟิวเจอร์ไว้เสียๆหายๆ

น่าคิดครับ


เรื่องแทรกแซงค่าเงิน ผมสงสัยมาก ผมจำไม่ได้ว่าเราเคยทำสำเร็จหรือเปล่า การดูดซับดอลล่าร์จนเกิดผลกับค่าเงินจะต้องขายบาทซื้อดอลล่าร์เท่าไหร่ครับ

**

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 14, 2004 8:42 am
โดย โป้ง
มองแล้วยังไม่มีประเทศไหน เทียบเท่าสหรัฐด้านอำนาจการสู้รบ

อำนาจที่มากกว่าชี้ได้ว่าใครถูกใครผิด จะไประรานประเทศไหนก็ได้ ประวัติศาสตร์บอกไว้แล้ว (ไม่เคยมีประเทศทำการค้าเก่งจะสามารถยึดครองประเทศมหาอำนาจได้) ทุกวันนี้เรายังเรียกอังกฤษ ว่า ผู้ดีอังกฤษ สหราชอาณาจักร ภาษาอังกฤษยอมรับกันทั่วโลก ทั้งๆที่เป็นประเทศไปบุกรุกระรานผู้อื่น และที่ยังเป็นเช่นนี้อยู่ได้เป็นผลมาจากอำนาจทางทหารในอดีตทั้งหมด

ตราบใด ยังเป็นมหาอำนาจในด้านการทหารอยู่ ยากมากที่จะถูกโคนทางด้านเศษรฐกิจ (คนล่ะอย่างกับที่เคยเกิดกับรัฐเซียครับ) :wink:

**

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 14, 2004 8:47 am
โดย CK
ฮา พี่คนนี้ของคุณ SomeOne ถ้ารอดช่วง 31-33 ไปได้อีกครั้ง
และดอลล่าร์แข็งขึ้นไป 40 กว่าใหม่ จะเป็น Turn Around, Big Time เลยครับ

**

โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 14, 2004 8:59 am
โดย pk8
อะไรที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้น มันอาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกันครับ

ธรรมดาโลกครับ เมื่อขึ้นสู่สูงสุด ก็พยายามที่จะให้เศรษฐกิจตนรักษา

ความเติบโต อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อพยุงมันไม่ให้ตก

เหมือนอัดลมเข้าลูกป่องรึเปล่าครับ ?