หน้า 1 จากทั้งหมด 1

ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 12:18 pm
โดย ครรชิต ไพศาล
นายก พูดเรื่องการเร่งการเรียนรู้ของเยาวชนในสมัยนี้ มีตอนหนึ่งท่านพูดว่า

" เราต้องยอมรับว่า ผู้ใหญ่ในวันนี้ คือผลผลิตของการศึกษาที่ล้าสมัย และ ช้าต่อการเปลี่ยนแปลง "

ฟังแล้ว ขำ ขำ คนอะไรช่างสรรหาคำมาแหน็บแนบ :lol: :lol:

ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 12:27 pm
โดย Mon money
ผมเห็นด้วยกับท่านนายกครับพี่

สมัยผมเรียนป.โท เห็นได้ชัดเลย หลายคนไม่ชอบอาจารย์ที่สอนให้คิด จะชอบอาจารย์ที่ป้อนให้มากกว่า การเข้าห้องเรียนแต่ละครั้งต้องมีการเตรียมตัวก่อน แต่ไม่ค่อยเห็นการเตรียมมาก่อน ส่วนใหญ่ไม่ชอบแสดงความคิดเห็น จะว่าคนเรียนมากก็ไม่ได้ ผมเจออาจารย์แก่ๆท่านหนึ่ง ผมเห็นแย้งก็โดนแขวะประจำ

มันเป็นเรื่องที่คนแบบเก่าไม่ยอมเปลี่ยน คนรุ่นใหม่ไม่ชอบแสดงออก ไม่ชอบคิด ชอบสูตรสำเร็จ ยังเกิดกับคนส่วนใหญ่ของเรา

ผมพยายามสอนลูกสอนหลานให้คิด ให้กล้าพูด ให้กล้าเถียง แต่สุภาพครับ

ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 12:35 pm
โดย ครรชิต ไพศาล
ผมฟังแล้วก็ ขำ ขำ :lol: :lol:

มันก็คงเหมือน กับ CPU รุ่น Z80 ที่ใช้ใน APPLE รุ่นแรกๆ
มันจะไปสู้ CPU รุ่น P4 ความเร็ว หลายๆ GHz ที่ใช้กันอยู่ใน สมัยนี้ได้อย่างไร

แต่อย่าลืมว่า คนรุ่นใหม่ ก็คือ คนที่พัฒนามาจากคนรุ่นก่อน นั้นแหละ :lol:

ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 1:01 pm
โดย Jeng
ไม่เห็นด้วยครับ ที่ใช้การศึกษาเป็นตัววัด
ไอสไตน์ เซอร์ไอแซค นิวตัน ก็ร่ำเรียนมาในสมัยที่การศึกษาไม่ได้พัฒนาไปมาก นักคิดในสมัยอดีต เช่น เพลโต ก็ศึกษาเองอย่างต่อเนื่อง
ผมคิดว่า คนไทย ก็เป็นคนไทย ที่ประเทศชาติอุดมสมบุรณ์ เราก็เคยชินกันแบบนี้
เราเองก็พยายามเปลี่ยนการศึกษามาหลายรอบ จริงๆแล้วปัญหาคืออะไร

รัฐยูท่าห์ อเมริกา ที่ผมไปมา สองรอบ มีแต่ทะเลทราย กับหิมะ ตัวบริษัทเองสร้างใหญ่มาก แต่สิ่งที่เขานำมาอวดให้ดูเสมอ คือ สวนดอกไม้ ที่เขาปลูก แล้วได้เห็นดอกไม้ ทั้งๆที่ไม่ได้เห็นตลอด เพราะมีช่วงหิมะตกหนาเป็นเมตร

รูปภาพ

สภาพแวดล้อมบีบให้เขาต้องคิดตลอด ไม่งั้นตาย

ส่วนที่ตาฮิติ เป็นคล้ายๆบ้านเรา เขาก็ใช้จุดแข็งของประเทศ คือ ทำเป็นเรื่องท่องเที่ยว + ขาย black peral ในตาฮิติ ห้ามมีอุตสาหกรรม เพราะประเทศเน้นท่องเที่ยว เมื่อมีอุตสาหกรรม ก็จะมีมลภาวะ ในขณะที่ภูเก็ตเน้นท่องเที่ยว แต่น้ำทะเลเริ่มดำ และมีฟองอย่างเห็นได้ชัด

จริงๆแล้ว คนไทยเองก็เก่งมาก แต่ทำอย่างไรให้เราได้ฉายแววความเก่งออกมา อย่างชัดเจน ปัจจุบัน เรื่องอื่นผมมองไม่ค่อยเห็น

แต่ที่เห็นได้ชัดคือ แพทย์ไทย เก่งจนกระทั่งฝรั่งบินมาผ่าตัดที่เมืองไทย โรงพยาบาลกรุงเทพ ยังมีเว็บไซด์สำหรับศัลยกรรมพลาสติกให้ชาวต่างประเทศมา ซึ่งถ้าคิดว่าถูกอย่างเดียวเขาจะมา ผมว่าไม่มีทาง

http://www.bangkokplasticsurgery.com

ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 1:27 pm
โดย Jeng
ที่พูดนี่ไม่ได้หมายความว่าไม่ต้องพัฒนาการศึกษา
แต่ลองดูตัวอย่างคนไทยเก่งๆ จบโท วิดวะ โทบริหาร โท เอก วิทยาศาสตร์มาจากต่างประเทศ เช่นเพื่อนคนหนึ่ง จบออกแบบรถยนต์ อีกคนจบทางด้านหุ่นยนต์ จบมาจากเมืองนอก แต่หางานในเมืองไทยทำไมได้
คนที่เรียนจบโท กลับต้องมารับเงินเดือน เดือนละ 20000 บาท เพราะอะไร เสียค่าเล่าเรียนไปหลายล้านบาท
ปัญหาจริงๆ ผมว่าน่าจะอยู่ที่ว่า จุดแข็งของเมืองไทย คืออะไร แล้วพัฒนาจุดนั้นอย่างต่อเนื่อง เช่น
คนไทยนิสัยดี มีวัฒนธรรม การส่งเสริมเรื่องสปา อะไรทำนองนี้ดีแล้ว แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ให้เมืองไทยเป็นสวรรค์ของนักท่องเที่ยว มาแล้วไม่เป็นอันตราย มาแล้วชอบเมืองไทย เพราะคนไทยเห่อฝรั่ง มองฝรั่งเป็นพระเจ้า ทำให้ฝรั่งบางคนประทับใจมาก แล้วถามผมว่าคนไทยเป็นอย่างนี้จริงๆ หรือว่าเป็นการเสแสร้งเพื่อการท่องเที่ยว ผมก็ตอบไปว่าเป็นแบบนี้จริงๆ ซึ่งหาไม่ได้ในต่างประเทศ เพราะคนไทยนิสัยดีจริงๆ เมื่อเที่ยบกับทั่วโลก

ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 3:36 pm
โดย harry
ต้องศึกษาประวัติศาสตร์ชาติไทยครับ แล้วจะรู้ว่าทำมัย ถึงแตกต่างกันชาติอื่น แต่โลกยุคนี้ไร้พรมแดน เราสามารถทำอะไรเหมือนต่างชาติได้ครับ ถ้าสามารถทำได้จริงนะ

ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 3:52 pm
โดย โป้ง
ใครที่ศึกษาหาความรู้มากย่อมได้เปรียบกว่าคนที่ไม่ศึกษา

แต่นั้นเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งในความสำเร็จ ยังคงต้องอาศัยอีกหลายๆปัจจัย

ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 6:31 pm
โดย Viewtiful Investor
อย่าคิดมากเลยนะ คนเคยอยู่เมืองนอกจะรู้ว่า เมืองไทยดีกว่าหลายๆประเทศในหลายๆด้าน

ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย

โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 7:37 pm
โดย เพื่อน
ผู้อาวุโสเก่งๆก็มีหลายคนนะครับ แต่ก็คงมีปริมาณไม่มากพอ และอาจไม่มีโอกาสแสดงความสามารถ
แต่ที่น่าห่วงคือ เด็กๆทุกวันนี้กำลังได้สิ่งที่ผู้ใหญ่ป้อนให้ค่อนข้างแย่มากๆหลายเรื่องครับ
ล่าสุดเห็น AIS ลงมาเล่นกับตลาดเด็กอีกแล้วครับ เน้นตัวพรีเซ็นเตอร์การ์ตูน6-7บุคคลิก คงเริ่มหมายปองตลาดเด็กลงไปอีก เพราะวัยรุ่นติดกับไปหมดแล้ว ด้วยความว่องวัยในการปรับตัวจากการป้อนให้ของผู้ใหญ่
ดารานักแสดงนักร้อง ก็เด็กขึ้นทุกวัน(เพราะตลาดเด็กทุกวันนี้หอมหวานขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก)...นี่คือสิ่งที่ผู้ใหญ่ป้อนให้เด็ก เพื่อหวังผลทางการตลาดด้วยความทันสมัย....

ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 09, 2004 12:50 am
โดย ch_army
หากอยากให้ประเทศเจริญผมว่าเราคงต้องการ
1. อุตสาหกรรมในแบรนด์ของเราเองในธุรกิจที่เราสามารถทำได้โดยไม่ลงทุนเกินตัว
2. สันบสนุนงายวิจัยภาคเอกชนให้มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เทงบแบบสุดๆไปเลยแล้วคัดคนที่เก่งสุดๆมาทำเจาะจงไปเลยครับ จะได้เป็นงานของพวก ป.โท ป.เอกด้วย งายวิจัยจะทำให้เราแตกต่าง เพราะไม่ต้องคอยฝรั่ง ญี่ปุ่น แล้วเราก็ภูมิใจด้วยครับ
3. การ copy ก็ยังจำเป็นแต่เราต้องพัฒนาไปสู่การเป็น fast follower แบบที่ตามเร็วสุดๆจริงๆและคิดเองได้บ้างไม่ใช่ copy ลูกเดียว

และยังมีอีกเยอะแยะมั้งครับ พี่ๆว่าไงครับ

ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 09, 2004 5:15 am
โดย mrdew
ถ้าเจริญสุด ๆ แบบอเมริกา แต่อยู่อย่างไม่เป็นสุข ผมว่าอยู่แบบไทย ๆ ก็น่าพอใจแล้วครับ เศรษฐกิจพอเพียง

ชอบวาทะประโยคนี้ ของนายก จังเลย

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ธ.ค. 09, 2004 9:24 am
โดย อืมม์
บางทีพยายามยึดเอาแบบเมืองนอกหมดก็น่ากลัวนะครับ ผมมีคนรู้จักเป็นอาจารย์อยู่จุฬา เห็นบอกว่าตอนนี้กำลังออกจากระบบและพยายามปรับปรุงให้อาจารย์ทุกคนต้องทำงานวิจัย ทุกคนต้องมีผลงานวิจัย ไม่อย่างนั้นทุกสองสามปีจะมีการประเมินและปรับออก

สิ่งใหม่ ๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเกิดจากระดับ ดร. ที่ไปเรียนเมืองนอกมาแล้วอยากให้มีงานวิจัย (เพราะตัวเองอยากวิจัยหรือเปล่า?) แล้วก็บอกว่าต้องทำให้เหมือนเมืองนอก

ทำให้เริ่มเห็นแววว่าต่อไปคำว่า "ครู" คงไม่มีในเมืองไทยอีกแล้วล่ะครับ ทุกคนต้องแข่งกันวิจัย แข่งกันหาเงิน แข่งกันสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง งานสอนเป็นแค่งานไม้ประดับที่ไว้ให้ตัวเองมีชื่อว่าเป็น"อาจารย์" อยู่เท่านั้น