หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 06, 2004 4:48 pm
โดย Jeng
ผมคิดว่า 2 ปีที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปในการเลือกหุ้นคือ
ให้ซื้อหุ้นพื้นฐานดี ที่ราคาต่ำๆ
ข้อแรก ความรู้สึก ผมคิดว่า ตอนหุ้นลง คนจะไม่ซื้อ เพราะพยายามค้นหาว่าทำไมถึงลง ถ้าไม่เจอเหตุผล ก็ไม่กล้าซื้อ ถ้าเจอเหตุผลว่าทำไมถึงลง ยิ่งไม่กล้าซื้อเข้าไปใหญ่ ช่วงแรกๆที่หุ้นลง จะกล้าซื้อ เพราะคิดว่าถูกเมื่อเทียบกับราคาเดิม แต่พอลงต่อ จะไม่กล้าซื้อ ทำให้วอลลุ่มหาย
ข้อสองเหตุผล เรามีเหตุผลในการเข้าไปซื้อ เพียงแต่เหตุผลของเรามักจะต้องได้รับการยืนยันจากราคา เช่นเราคิดว่าหุ้นตัวนี้ดี ราคาเหมาะสม โอกาสขึ้นมีมาก มีแต่ข่าวดี พอเราซื้อ เรามักจะซื้อน้อยๆ เพราะไม่กล้าทุ่มสุดตัว สุดท้าย พอหุ้นขึ้นมา เราก็คิดว่า เห็นมั๊ย ว่าแล้ว ไม่น่าเลย น่าจะซื้อไว้มากๆ ก็เลยซื้อเพิ่ม เหตุผลของเราจะได้รับการยืนยันว่าหุ้นเราดี ก็ต่อเมื่อหุ้นขึ้น ในขณะเดียวกัน เมื่อเราคิดว่าหุ้นเราดี พอซื้อปั๊ป ราคามันลง แทนที่เราจะดีใจ แล้วรีบซื้อเพิ่ม เรากลับหยุดซื้อ แล้วกลับมานั่งคิดว่า เอ ทำไมมันลง
อารมณ์ อารมณ์อยู่เหนือเหตุผลอยู่แล้ว
สู้ราคาไม่ได้
เท่าที่ดูมา 2 ปี ผมก็เห็นว่า หุ้นที่ดี ถ้าแพงก็อันตราย เช่น BEC STANLY เป็นต้น ตอนนั้นเคยเปรียบเทียบระหว่าง stanly กับ metco PE ห่างกันไกล แต่คนส่วนใหญ่ในเว็บนี้ก็เลือก STANLY ที่พูดอย่างนี้ไม่ได้ว่าใครผิด หรือใครเก่ง แต่โดยส่วนตัวคิดว่า จริงๆแล้ว STANLY น่าจะดีกว่า metco แต่มันแพง
ในขณะที่หุ้นถูกๆ คือราคาถูกแล้วค่อยๆไต่ขึ้นมาเรื่อยๆ อย่าง WG หรือ TR ซึ่ง PE ไม่เคยหวือหวาเลย
ผมคิดว่า ในที่สุด ต้องเลือกราคามาก่อน เอาให้ถูกไว้ก่อน ไม่ใช่ต่ำกว่า 10 บาท แต่คำว่าถูก ก็คือ เลือก PE ก่อน เอา PE ต่ำๆ มากรอง ให้เหลือหุ้นที่เราคิดว่า ปลอดภัย เช่น ไม่มีหนี้ มีกระแสเงินสดมาก กำไรมา 10 ปีซ้อน ผู้บริหารถือหุ้นใหญ่ ปันผลจะมีหรือไม่มีไม่เป็นไร แต่ขอให้บริหารเม็ดเงินกำไรอย่างเหมาะสม ผู้บริหารทำตามที่ได้ประกาศไว้ เป็นต้น
เพราะผมโชคดีที่เลิกเล่นไป 3 เดือน กลับมาอีกที ตกใจหมดเลย หุ้นหลายๆตัวที่เคยแพงตลอด ราคาลดลงอย่างน่าใจหาย
แต่ก็เป็นโอกาสซื้อที่ดี มีอยู่หลายตัวเหมือนกัน
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 06, 2004 7:38 pm
โดย คัดท้าย
ผมเห็นด้วยกับพี่เจ๋งครับข้อนี้ เท่าที่ผมสังเกตนะ หุ้นไทยเนี่ย ถ้าไม่อยากกัดฟันกล้ำกลืนนานๆ หาหุ้นดีด้วยถูกด้วยดีกว่าครับ
เห็นหุ้นดีๆ แต่แพง เน่าทุกตัว ให้ตายเถอะครับ :lol:
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 06, 2004 7:55 pm
โดย วัวแดง
จริงๆๆๆด้วยครับ
หุ้นที่คนส่วนใหญ่ว่าดี ราคามักจะแพงแล้ว
แต่ถ้าเริ่มมองว่าหุ้นไม่ดี จะได้เห็นราคาถูก
ทั้งที่จริงๆ อาจเป็นปัญหาเล็กน้อยที่สามารถแก้ไขได้
หุ้นที่ดี ใครๆก็หากันได้ แต่ราคาที่เหมาะสมนี่สิ ย้ากๆๆๆๆๆๆๆๆ 8)
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 06, 2004 8:00 pm
โดย Aloha
สูงสุดคืนสู่สามัญ
" MARGIN OF SAFTY"
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 06, 2004 8:13 pm
โดย Jeng
หวัดดีน้องโลฮา ไม่ได้เจอกันนานเลยเน้อ
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 06, 2004 9:22 pm
โดย Aloha
หวัดดีครับพี่เจ๋ง ยินดีที่ได้คุยด้วย แต่ผมเข้าใจว่าก่อนหน้านี้ มีคุณ (aloha) ที่มีวงเล็บอีกคน โดยเฉพาะที่เวปตลาดหุ้นมั้ง อย่างไรก็ตามผมก็เคยเจอพี่ที่งาน meeting ครั้งหนึ่ง นั่งคนละโต๊ะ
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 06, 2004 10:32 pm
โดย Jeng
หวัดดีครับ
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 06, 2004 10:47 pm
โดย ครรชิต ไพศาล
น้อง Jeng ระวัง กระทิงมาอีกรอบ แล้ว :lol: :lol:
อะ.. ล้อเล่น ยังไม่มา... :lol: :lol:
อยากรู้ว่า น้อง Jeng จะยังยืนยัน ความเห็นของ น้อง Jeng วันนี้ที่หมีนอนหลับ อยู่อีกหรือเปล่าหนา :lol: :lol:
กลัวว่าเมื่อถึงวันนั้น เมื่อเห็นหุ้นคนอื่นเขา วิ่งเอา วิ่งเอา แล้วจะหันมาบ่นว่า หุ้น TR WG ของเราช่างน่าเบื่อเสียจริงๆ หนอ ไม่ยอมวิ่งกับเขาบ้างเลย :lol: :lol:
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 06, 2004 11:22 pm
โดย วัวแดง
น้อง Jeng ระวัง กระทิงมาอีกรอบ แล้ว :lol: :lol:
อะ.. ล้อเล่น ยังไม่มา... :lol: :lol:
แต่ผมว่า มาจริงๆนะพี่
ช่วงนี้รู้สึก เริ่มมีข่าวดี มากขึ้นนะครับ
น้ำมันลดลง
เงินไหลครับ
ดอลอ่อน (แต่ผมว่าเป็นข่าวร้ายของผมนะครับ) :lol:
ปิดงบปี ของกองทุน
เลือกตั้ง และ........
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 06, 2004 11:26 pm
โดย jame
ท่านเจ๋งมีความฉลาด ช่างสังเกตุและมีความคิดสร้างสรรค๊มากครับ
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: จันทร์ ธ.ค. 06, 2004 11:37 pm
โดย ครรชิต ไพศาล
เป็นไปได้เหมือนกัน น้อง วัวแดง
ก่อนสิ้นปี กองทุนจะทำงบให้ปิดสวยๆ ก็ดันราคา หลอกขายของแพงๆให้แมงเม่า ตอนปลายปี เหมือนปีที่แล้ว ก็เป็นได้
สำหรับผลการเลือกตั้ง กพ. 05 ผมว่า ไม่มีผลครับ เพราะผลเป็นอย่างไรทุกคนน่าจะรู้อยู่แล้ว
ไม่มีอะไรตื่นเต้นให้ทายให้คาดการณ์ว่าจะเป็นอย่างอื่น
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 07, 2004 10:17 am
โดย Mon money
เห็นด้วยกับพี่เจ๋งอย่างยิ่งครับ
เล่าให้ฟังว่าเมื่อปีที่แล้ว บรรยากาศสดใสมากครับ เมื่อแรกที่ดัชนี 300กว่าๆ หุ้นในพอล์ตของผมเขียวน้อยๆ แต่พอหุ้นเริ่มวิ่งและวิ่งแบบไม่หยุดนี่พอล์ตของผมมันเขียวมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมขายหุ้นก้นบุหรี่ออกไปเกี่ยบหมดในสิ้นปี เหลือแต่หุ้นพื้นฐานมั่นคง เพิ่งกลับมาวื้อหุ้นตอน 590 นี่เอง ครับ ตอนนั้นหุ้นถูกกว่านี้แยอะครับ
เรื่องข่มอารมณ์เป็นเรื่องที่ยากจริงๆ ผมเองก็หลงลมไปหลายครั้ง
สิ่งที่ต้องระวังมากๆครับ คือเรื่องการรับข่าวสารข้อมูลที่มากมายเสียจนเราไม่ค่อยได้กลั่นกรองกัน ซึ่งผมว่ามันน่ากลัว แนะเพื่อนๆว่าให้เลือกเน้นในข้อมูลสำคัญๆ แต่อย่าทิ้งข้อมูลข่าวสารอื่นๆ ให้พิจารณาให้ดี มีหลักยึดให้หนักแน่น อารมณ์มันจะค่อยๆลดกำลังลง
มันยาก.........แต่ต้องทำ.......
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 07, 2004 11:06 am
โดย ต.หยวนเปียว
ขอบคุณครับ
ผมว่าการลงทุนมันต้องพอเหมาะพอควร
ขณะที่เราผ่านการหลงระเริงจนบาดเจ็บ
ก็จะระมัดระวังตัวกลัวจนเกินไป
ผ่านหลายๆครั้งจนกระทั่งสู่จุดที่พอเหมาะ
หุ้นขึ้นก็ไม่ดีใจมากไป หุ้นลงก็ไม่ตื่นตระหนกมากไป
ใจกลางๆนี่สุดยอดการเล่นหุ้น
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 07, 2004 12:13 pm
โดย tech
ได้อ่านของคุณเจ่งหลายครั้งแล้ว รู้สึกชื่นชมในทัศนคติที่ดีหลายอย่างผ่านทางตัวอักษร เลยขออนุญาตเข้ามาตอบครับ
"ราคากำหนดข่าวสาร"
ไม่รู้ใครเขียนไว้ที่ห้องสินธร เป็นคำอธิบายที่เกือบชัดเจนที่สุด
แต่ถ้าจะให้ดีต้อง "อารมณ์กำหนด ราคาและข่าวสาร"
ถ้าเราอารมณ์ดีจะมองหาแต่ข่าวดี ถ้าตลาดบวกทุกคนก็จะมองหาแต่เหตุผลดี ๆ ว่าทำไมตลาดบวก ข่าวร้ายทั้งหลายไม่มีใครสนใจ
ในทางกลับกันถ้าเราเห็นหุ้นตก เราจะวิ่งหาข่าวร้ายกันให้วุ่นว่าทำไมหุ้นตก มีใครมองหาข่าวดีเวลาหุ้นขึ้นบ้าง ???
ทีนี้ชาว VI ก็จะเข้ามาแย้งว่าแล้วหุ้นพื้นฐานดี ๆ ราคามันขึ้นเพราะ "อารมณ์" หรือไง ? มันขึ้นเพราะ "พื้นฐาน" ที่ดีต่างหาก
เรื่องนี้อธิบายได้ครับ "พื้นฐาน" และ "อารมณ์" อยู่ใน time frame ที่ต่างกัน
หุ้นที่ดี ราคาจะขึ้นตามพื้นฐานแน่ ๆ แต่จะใช้ระยะเวลาเป็นปี ๆ เพราะพื้นฐานใช้เวลาสั่งสมกันนานแสนนาน ไม่เปลี่ยนแปลงในชั่วข้ามคืนหรือข้ามเดือนครับ บางครั้งอาจต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ กว่าที่จะเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของบริษัทใดบริษัทหนึ่งได้
แต่ที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละสัปดาห์ แต่ละวัน หรือ แต่ละชั่วโมง คือ อารมณ์ที่ผันแปรขึ้น ๆ ลง ๆ ในกรอบใหญ่ของพื้นฐาน
อารมณ์ที่ทำให้ราคาผันผวน แล้วมองหาข่าวมาสนับสนุนการขึ้นลงของราคานั้น ๆ แล้วหลงเชื่อว่าเหตุผลระยะสั้นเหล่านั้น คือ ปัจจัยพื้นฐานระยะยาว !
ผมเป็นนักเทคนิคเต็มตัวครับ แต่ผมชื่นชม Warren Buffete กับอาจารย์ทั้งสอง Phillip Fisher และ Ben Graham ครับ ทั้งสามท่านสอนให้ดูผลประกอบการย้อนหลังหลาย ๆ ปีครับ ผลประกอบการรายไตรมาสยังแทบไม่ต้องสนใจ ไม่เหมือนนักวิเคราะห์และนักลงทุนบ้านเราที่ตกใจแม้กระทั่งใบไม้ไหว
ผมเชื่อครับ เลือกหุ้นพื้นฐานที่ดี ราคาต่ำ แล้วรอเวลา
ไม่ใช่เดือน แต่เป็นปี ๆ ไม่มีความสำเร็จอะไรได้มาในชั่วข้ามคืนครับ บริษัททั้งหลายก็เหมือนกันไม่ได้ประสบความสำเร็จ หรือ ล้มเหลวในแค่ชั่วข้ามคืน ทุกอย่างต้องผ่านการสั่งสมของกาลเวลากว่าจะมายืนอยู่ตรงจุดนี้ได้
พื้นฐานของบริษัทไม่ได้เปลี่ยนแปลงกันทุกวัน เหมือนราคาหุ้นครับ
ขอให้โชคดีครับ
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 07, 2004 1:20 pm
โดย Jeng
โค้ด: เลือกทั้งหมด
แต่ที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละสัปดาห์ แต่ละวัน หรือ แต่ละชั่วโมง คือ อารมณ์ที่ผันแปรขึ้น ๆ ลง ๆ ในกรอบใหญ่ของพื้นฐาน
ขอบคุณครับ
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: อังคาร ธ.ค. 07, 2004 4:46 pm
โดย stockms
ที่จริงแล้วราคากำหนดอารมณ์โดยเฉพาะอารมณ์ของรายย่อย เพราะการเคลื่อนไหวของราคามีผลต่ออารมณ์อย่างมากและทวีคูณ ดังนั้นกลุ่มที่สามารถกำหนดราคาก็คือกลุ่มที่กำหนดอารมณ์ ส่วนคนที่ไม่สนใจราคาดูแต่พื้นฐานก็จะไร้อารมณ์ และบรรลุสู่การเป็น VI ที่แท้จริง....ยังอีกไกลเหลือเกิน
ความรู้สึก เหตุผล อารมณ์ สู้ราคาไม่ได้
โพสต์แล้ว: พุธ ธ.ค. 08, 2004 11:11 am
โดย Jeng
เห็นด้วยครับท่าน stockms
ขอเสริมว่า กลุ่มที่กำหนดราคา จะกำหนดอารมณ์ของคนได้ สองแบบนะ คือ 1 ดีใจ 2 เสียใจ
ข้อ 1 คือ เมื่อหุ้นพื้นฐานดี ถูกดึงลงมาให้ราคาต่ำๆ คนที่มั่นใจในพื้นฐาน จะดีใจที่ได้ซื้อ ซึ่งมีคนส่วนน้อยที่รู้จริงตรงนี้ เช่นตอนที่ scc ลงมา 200
ข้อ 2 คือ เมื่อหุ้นราคาสูงๆ ถูกดึงราคาลงมาให้ต่ำๆ คือต่ำเมื่อเที่ยบกับตอนสูง ทำให้คนที่ซื้อเพราะคิดว่าถูกแล้ว กลับต้องเสียใจ ว่ามีถูกกว่า