ถามคนเคยใช้สีทาบ้านภายนอกคับ ขอความรู้
โพสต์แล้ว: เสาร์ ธ.ค. 04, 2004 6:31 pm
ผมลองไปดูร้านขายสีระหว่างtoa กับdulux
พอดีเจอสีสองรุ่นที่ผมดูแล้วคุณสมบัติน่าจะใกล้เคียงกัน
คือ
toa supershield for exterior ราคาถังหนึ่งไม่น่าเกิน3000 บาท
http://www.toagroup.com/product/colour.htm
ทา3เที่ยว
กับduluxไฮโดเฟรช ราคาถังละ3300 บาท
ทา 2เที่ยว
แต่ราคาค่อนข้างจะแตกต่างกันเหมือนกันจนเห็นได้ชัด
เลยสงสัยว่าถ้าสินค้าคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
ราคาต่างกัน
ในความเป็นจริงคนเลือกใช้สี
เลือกจากคุณสมบัตจริงจริงหรือ
มีข่าวหนึ่งน่าสนใจ
นายพงษ์เชิด จามีกรกุล ผู้อำนวยการกลุ่มสายงานการขาย บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเป็นความพยายามของทีโอเอที่เห็นโอกาสทางการตลาดและต้องการพัฒนาสินค้าในกลุ่มสีทาอาคารสำหรับตลาดระดับบนที่มีคู่แข่งอย่างสีไอซีไอ ดูลักซ์ ครองส่วนแบ่งอยู่ ซึ่งในปี 2546 ถือเป็นการเปิดตัวสินค้าใหม่ และขยายตลาด (Market Extension) สู่ระดับบนอย่างเป็นทางการ โดยใช้สี ซูเปอร์ชีล ดูราคลีน ซึ่งเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ สีทาภายในอาคารป้องกันแบคทีเรียและเชื้อรา เป็นหัวหอกในการทำตลาด โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปีจะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดส่วนนี้ให้ได้
สำหรับเครื่องมือทางการตลาดที่สนับสนุน จะใช้การสื่อสารที่เป็นแมสมีเดีย ในภายยนตร์โฆษณา 2 ชุดด้วยกัน คือ ชุดด็อก (Dog) และชุดเบบี้ สะท้อนถึงคุณสมบัติเด่นของสินค้าในด้านการทำความสะอาด ป้องกันแบคทีเรียและเชื้อรา ผลิตโดย บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด นอกจากนี้ ยังใช้สื่อประเภทสิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณา รวมถึงการจัดกิจกรรมร่วมระหว่างบริษัทกับร้านค้า เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์และสินค้าในกลุ่มผู้บริโภค
"ที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการในการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ทีโอเอ ให้ทันสมัยมากขึ้น สะท้อนผ่านสื่อโฆษณาต่างๆ ให้มีความทันสมัย และเป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมที่ภาพลักษณ์ของแบรนด์ค่อนข้างจะดูเก่า เพราะทำตลาดมานานกว่า 40 ปี" นายพงษ์เชิด กล่าว และว่า
แนวทางของการตอกย้ำและปรับภาพลักษณ์แบรนด์ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงปี 2541 เป็นต้นมา เนื่องจากเห็นศักยภาพของตลาด ปัจจัยสนับสนุนด้านดอกเบี้ยต่ำ อันจะเอื้อต่อการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้สีหลักอีกกลุ่ม
ทั้งนี้ ยังได้วางเครือข่ายการจัดจำหน่าย โดยปัจจุบันแบ่งเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่เป็นตัวแทนขาย มีประมาณ 3,000 ร้านค้า ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด กับอีก 120 แล็ปสี ซึ่งเป็นแนวทางจัดจำหน่ายที่สำคัญในอนาคต เนื่องจากทิศทางของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Moderntrade) เป็นแนวโน้มใหม่สำหรับในประเทศไทย และจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจทั้งกับบริษัท และตัวแทนจำหน่ายในด้านภาระการสต็อกสินค้าซึ่งน้อยลง กว่า 20-30% จากประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการผสมสีได้กว่า 10,000 สีตามที่ลูกค้าต้องการในระยะเวลาที่รวดเร็ว
"หากเครือข่ายแล็ปสีมีการขยายตัวตามที่วางไว้จากปัจจุบัน 120 แห่ง ในระยะเวลาเพียง 2 ปี และคาดว่าจะขยายเพิ่มเป็น 200 เครื่องภายในสิ้นปี 2546 จะเป็นจุดแข็งที่สำคัญของทีโอเอในการสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะขยายตัวอย่างรวดเร็วมากขึ้นในอนาคต เพราะใช้เงินลงทุนต่อศูนย์ประมาณ 1-1.2 ล้านบาท" นายพงษ์เชิด กล่าว
แหล่งข่าวจากบริษัทสี โจตัน กล่าวว่า ตลาดสีมีการแข่งขันสูงในตลาดระดับกลางถึงล่าง เนื่องจากมีผู้แข่งขันมากราย ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้นผ่านสื่อต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะโฆษณาในลักษณะเด่นของสินค้าเป็นหลัก อาทิ ความคงทนของสี
รายงานวิเคราะห์จากบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่า อุตสาหกรรมสีมีการ
นายลิว ยิค คุน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สี ไอซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสี "ไอซีไอ"
เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม 2547 นี้ บริษัทจะออกสินค้าใหม่เป็นสีระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมและเป็นตัวแรก
ของเมืองไทยชื่อว่า ไอซีไอ ดูลักซ์ ไฮโดรเฟรช ที่ทำความสะอาดตัวเอง ป้องกันเชื้อราและตะไคร่ โดยจะ
วางขายในตลาดตามศูนย์การจำ หน่ายและร้านค้าสีทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามจากการที่นำไปเปิดตัวกับกลุ่ม
ดีลเลอร์ ปรากฏว่าได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก มียอดสั่งจองประ มาณ 2 แสนแกลลอนแล้ว คาดว่าสิน
ค้าตัวนี้จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคและทำยอดขายให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี
นายลิว ยิค คุน กล่าวต่อว่า สินค้าตัวใหม่นี้จะมีจำหน่ายที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรก ยังไม่ส่งออกขายต่าง
ประเทศ แต่ในอนาคตมีผลิตขายต่างประเทศแน่นอน แต่ขออุบไว้ก่อน กลุ่มเป้าหมายเป็นช่างทาสี สถาปนิก
นักออกแบบ และโครงการจัดสรร ด้านราคาขายจะมีราคาสูงกว่าสีตัวอื่นๆ ในท้องตลาดประมาณ 10-15%
เพราะเป็นระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมซึ่งมีคุณสมบัติดีกว่าตัวอื่นจริงๆ มีราคาขายปลีกอยู่ที่ 3,500 บาทต่อ 5
แกลลอน
นายลิว ยิค คุน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในด้านการตลาด ปีนี้บริษัทใช้งบฯมากขึ้นกว่าทุกปีถึง 50% เพื่อ
เป็นการกระตุ้นยอดขาย หลายคนอาจจะเห็นว่าที่ผ่านมาไอซีไอทำการตลาดเงียบมาก แต่ปีนี้คงไม่เงียบ ที่
เงียบไปเพราะค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อยู่ อีกอย่างสไตล์การทำงานของไอซีไอจะระมัด ระวังเรื่องการ
ประชาสัมพันธ์ จะไม่มีการโหมเคลมคู่แข่งหรือเล่นสงครามราคา
นายลิว ยิค คุน กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตอีกเท่าตัวเพื่อรองรับตลาดที่เติบโตขึ้นตามตลาด
อสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง สีไอซีไอ ดูลักซ์ ไฮโดรเฟรช เป็นสีทาภายนอก ผลิตจากอะคริลิกโพลีเมอร์ สูตรพิเศษลิขสิทธิ์เฉพาะ
ของไอซีไอ มีคุณสมบัติเด่นในการทำความสะอาดตัวเอง พร้อมทั้งคุณสมบัติอื่นๆ เช่น ป้องกันรังสียูวี ป้อง
กันเชื้อราและตะไคร่ ลดการยึดเกาะของฝุ่น รวมถึงการให้ความคงทนในทุกสภาพอากาศเช่นเดียวกับสีอื่นๆ
ในตระกูลดูลักซ์ เหมาะกับทุกสภาพผิว
http://www.thaibase.com/news/newstemp.asp?id=4108
พอดีเจอสีสองรุ่นที่ผมดูแล้วคุณสมบัติน่าจะใกล้เคียงกัน
คือ
toa supershield for exterior ราคาถังหนึ่งไม่น่าเกิน3000 บาท
http://www.toagroup.com/product/colour.htm
ทา3เที่ยว
กับduluxไฮโดเฟรช ราคาถังละ3300 บาท
ทา 2เที่ยว
แต่ราคาค่อนข้างจะแตกต่างกันเหมือนกันจนเห็นได้ชัด
เลยสงสัยว่าถ้าสินค้าคุณสมบัติใกล้เคียงกัน
ราคาต่างกัน
ในความเป็นจริงคนเลือกใช้สี
เลือกจากคุณสมบัตจริงจริงหรือ
มีข่าวหนึ่งน่าสนใจ
นายพงษ์เชิด จามีกรกุล ผู้อำนวยการกลุ่มสายงานการขาย บริษัท ทีโอเอ เพ้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเป็นความพยายามของทีโอเอที่เห็นโอกาสทางการตลาดและต้องการพัฒนาสินค้าในกลุ่มสีทาอาคารสำหรับตลาดระดับบนที่มีคู่แข่งอย่างสีไอซีไอ ดูลักซ์ ครองส่วนแบ่งอยู่ ซึ่งในปี 2546 ถือเป็นการเปิดตัวสินค้าใหม่ และขยายตลาด (Market Extension) สู่ระดับบนอย่างเป็นทางการ โดยใช้สี ซูเปอร์ชีล ดูราคลีน ซึ่งเป็นสินค้านวัตกรรมใหม่ สีทาภายในอาคารป้องกันแบคทีเรียและเชื้อรา เป็นหัวหอกในการทำตลาด โดยตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปีจะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดส่วนนี้ให้ได้
สำหรับเครื่องมือทางการตลาดที่สนับสนุน จะใช้การสื่อสารที่เป็นแมสมีเดีย ในภายยนตร์โฆษณา 2 ชุดด้วยกัน คือ ชุดด็อก (Dog) และชุดเบบี้ สะท้อนถึงคุณสมบัติเด่นของสินค้าในด้านการทำความสะอาด ป้องกันแบคทีเรียและเชื้อรา ผลิตโดย บริษัท ทีบีดับบลิวเอ (ประเทศไทย) จำกัด นอกจากนี้ ยังใช้สื่อประเภทสิ่งพิมพ์ ป้ายโฆษณา รวมถึงการจัดกิจกรรมร่วมระหว่างบริษัทกับร้านค้า เพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์และสินค้าในกลุ่มผู้บริโภค
"ที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการในการปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ ทีโอเอ ให้ทันสมัยมากขึ้น สะท้อนผ่านสื่อโฆษณาต่างๆ ให้มีความทันสมัย และเป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเดิมที่ภาพลักษณ์ของแบรนด์ค่อนข้างจะดูเก่า เพราะทำตลาดมานานกว่า 40 ปี" นายพงษ์เชิด กล่าว และว่า
แนวทางของการตอกย้ำและปรับภาพลักษณ์แบรนด์ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในช่วงปี 2541 เป็นต้นมา เนื่องจากเห็นศักยภาพของตลาด ปัจจัยสนับสนุนด้านดอกเบี้ยต่ำ อันจะเอื้อต่อการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ใช้สีหลักอีกกลุ่ม
ทั้งนี้ ยังได้วางเครือข่ายการจัดจำหน่าย โดยปัจจุบันแบ่งเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่เป็นตัวแทนขาย มีประมาณ 3,000 ร้านค้า ในพื้นที่กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด กับอีก 120 แล็ปสี ซึ่งเป็นแนวทางจัดจำหน่ายที่สำคัญในอนาคต เนื่องจากทิศทางของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Moderntrade) เป็นแนวโน้มใหม่สำหรับในประเทศไทย และจะก่อให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจทั้งกับบริษัท และตัวแทนจำหน่ายในด้านภาระการสต็อกสินค้าซึ่งน้อยลง กว่า 20-30% จากประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการผสมสีได้กว่า 10,000 สีตามที่ลูกค้าต้องการในระยะเวลาที่รวดเร็ว
"หากเครือข่ายแล็ปสีมีการขยายตัวตามที่วางไว้จากปัจจุบัน 120 แห่ง ในระยะเวลาเพียง 2 ปี และคาดว่าจะขยายเพิ่มเป็น 200 เครื่องภายในสิ้นปี 2546 จะเป็นจุดแข็งที่สำคัญของทีโอเอในการสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะขยายตัวอย่างรวดเร็วมากขึ้นในอนาคต เพราะใช้เงินลงทุนต่อศูนย์ประมาณ 1-1.2 ล้านบาท" นายพงษ์เชิด กล่าว
แหล่งข่าวจากบริษัทสี โจตัน กล่าวว่า ตลาดสีมีการแข่งขันสูงในตลาดระดับกลางถึงล่าง เนื่องจากมีผู้แข่งขันมากราย ทำให้แต่ละแบรนด์ต้องทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้นผ่านสื่อต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะโฆษณาในลักษณะเด่นของสินค้าเป็นหลัก อาทิ ความคงทนของสี
รายงานวิเคราะห์จากบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด ระบุว่า อุตสาหกรรมสีมีการ
นายลิว ยิค คุน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สี ไอซีไอ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสี "ไอซีไอ"
เปิดเผยว่า ในเดือนพฤษภาคม 2547 นี้ บริษัทจะออกสินค้าใหม่เป็นสีระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมและเป็นตัวแรก
ของเมืองไทยชื่อว่า ไอซีไอ ดูลักซ์ ไฮโดรเฟรช ที่ทำความสะอาดตัวเอง ป้องกันเชื้อราและตะไคร่ โดยจะ
วางขายในตลาดตามศูนย์การจำ หน่ายและร้านค้าสีทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามจากการที่นำไปเปิดตัวกับกลุ่ม
ดีลเลอร์ ปรากฏว่าได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก มียอดสั่งจองประ มาณ 2 แสนแกลลอนแล้ว คาดว่าสิน
ค้าตัวนี้จะได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคและทำยอดขายให้กับบริษัทได้เป็นอย่างดี
นายลิว ยิค คุน กล่าวต่อว่า สินค้าตัวใหม่นี้จะมีจำหน่ายที่ประเทศไทยเป็นแห่งแรก ยังไม่ส่งออกขายต่าง
ประเทศ แต่ในอนาคตมีผลิตขายต่างประเทศแน่นอน แต่ขออุบไว้ก่อน กลุ่มเป้าหมายเป็นช่างทาสี สถาปนิก
นักออกแบบ และโครงการจัดสรร ด้านราคาขายจะมีราคาสูงกว่าสีตัวอื่นๆ ในท้องตลาดประมาณ 10-15%
เพราะเป็นระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมซึ่งมีคุณสมบัติดีกว่าตัวอื่นจริงๆ มีราคาขายปลีกอยู่ที่ 3,500 บาทต่อ 5
แกลลอน
นายลิว ยิค คุน กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามในด้านการตลาด ปีนี้บริษัทใช้งบฯมากขึ้นกว่าทุกปีถึง 50% เพื่อ
เป็นการกระตุ้นยอดขาย หลายคนอาจจะเห็นว่าที่ผ่านมาไอซีไอทำการตลาดเงียบมาก แต่ปีนี้คงไม่เงียบ ที่
เงียบไปเพราะค้นคว้าวิจัยผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อยู่ อีกอย่างสไตล์การทำงานของไอซีไอจะระมัด ระวังเรื่องการ
ประชาสัมพันธ์ จะไม่มีการโหมเคลมคู่แข่งหรือเล่นสงครามราคา
นายลิว ยิค คุน กล่าวต่อว่า ปีนี้บริษัทจะเพิ่มกำลังการผลิตอีกเท่าตัวเพื่อรองรับตลาดที่เติบโตขึ้นตามตลาด
อสังหาริมทรัพย์ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง สีไอซีไอ ดูลักซ์ ไฮโดรเฟรช เป็นสีทาภายนอก ผลิตจากอะคริลิกโพลีเมอร์ สูตรพิเศษลิขสิทธิ์เฉพาะ
ของไอซีไอ มีคุณสมบัติเด่นในการทำความสะอาดตัวเอง พร้อมทั้งคุณสมบัติอื่นๆ เช่น ป้องกันรังสียูวี ป้อง
กันเชื้อราและตะไคร่ ลดการยึดเกาะของฝุ่น รวมถึงการให้ความคงทนในทุกสภาพอากาศเช่นเดียวกับสีอื่นๆ
ในตระกูลดูลักซ์ เหมาะกับทุกสภาพผิว
http://www.thaibase.com/news/newstemp.asp?id=4108