Thai VI

วัตถุประสงค์ : อยากรู้สไตล์การลงทุน ประสบการณ์ และความคิดเห็นของเพื่อนๆ ที่ได้ลงทุนกันว่า สไตล์ไหนดีหรือไม่ดีอย่างไร และขอนำมาประยุกต์ใช้กับตัวเอง

ขอถาม ข้อแรก : สไตล์การลงทุน VI ของท่านเป็นแบบไหน?
จำแนกสไตล์ตามที่ท่าน ดร.นิเวศน์ ได้แบ่งไว้ใน โลกในมุมมองของ Value Investor นะครับ (ผมสมมติฐานว่า เพื่อนๆเข้าใจว่าแต่ละสไตล์คืออะไรแล้วนะครับ)
1. สไตล์ก้นบุหรี่
2. สไตล์หุ้นห่านทองคำ
3. สไตล์หุ้นช้อนทองคำ
4. สไตล์ซูปเปอร์สต็อก

สไตล์ในฝันของผมคือการลงทุนแบบ Super Stock (แบบวอร์เรนบัฟเฟต์) แต่แน่นอนว่า ต้องเข้าใจธุรกิจนั้นลึกซึ้งนั้นเป็นอย่างดี เยี่ยมตอนนี้และจะดีเยี่ยมไปอีก 10 ปีข้างหน้า "ซื้อธุรกิจที่ดีเยี่ยมในราคายุติธรรม ดีกว่า ซื้อธุรกิจที่ดีพอใช้ในราคาที่ดีเยี่ยม" ผมได้เห็นตัวอย่างการวิเคราะห์แบบละเอียดยิบของคุณ wpong แล้วอึ้งมาก (ผมคิดว่ามีอีกหลายท่านที่วิเคราะห์ธุรกิจได้เยี่ยมยอดแต่ไม่ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นออกมา) และคิดว่า ผมยังห่างจากจุดที่จะวิเคราะห์ธุรกิจได้เข้าใจลึกซึ้งอีกมาก

สิ่งที่ผมทำได้ตอนนี้ ก็คงหาหุ้นก้นบุหรี่ ที่มีอัตราส่วนทางการเงินดี และธุรกิจพอใช้ได้ มีอัตราเติบโตไม่มาก ไม่ได้เป็นเจ้าตลาด และมีเงินปันผลที่น่าพอใจ โดยดูธุรกิจจาก Form56-1 ข่าวที่เกียวข้องและสอบถามผู้รู้

คำถามข้อสอง : สไตล์การลงทุนที่ท่านเป็นอยู่ ท่านได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ และ "มีความสุข" กับการลงทุนสไตล์นี้หรือไม่ อย่างไร

คำถามข้อสาม : ธุรกิจในเมืองไทย มี SuperStock ที่แท้จริงหรือไม่ (มี DCA และจะดีเยี่ยมไปอีก 5-10 ปี) ถ้ามีท่านคิดว่าเป็นบริษัทไหน

คำถามข้อสี่ : สไตล์ Super Stock (ซึ้งผมว่าคงหายากเพราะมีจำนวนน้อยบริษํท และ การทำความเข้าใจในกิจการอย่างลึกซึ้งทำได้ยากส์) จะทำให้เสียโอกาส ในการได้ผลตอบแทนในการลงทุนแนวอื่นๆ และ ผลตอบแทนรวมจะดีกว่าสไตล์อ่นๆ จริงหรือไม่

คำถามข้อห้า : ควรยึดสไตล์การลงทุนเดียว หรือ หลายสไตล์ผสมกัน (ซึ่งอาจจะทำให้ไม่เกิดความชำนาญและไขว็เขว) ?

คำถามห้าข้อนี้ กรุณาช่วยตอบเป็นข้อๆ เพื่อชี้แนะคนอ่อนหัดคนนี้ด้วยนะครับเพื่อนผู้ "ร่ำรวยน้ำใจ" ในเวป TVI ของเรา

ขอบพระคุณทุกท่านครับ :lol: :lol: :lol:

ผมเป็นนักเก็งกำไรผลประกอบการครับ 8)

ทุกแบบคละเคล้ากันไป

แต่ที่อยากคือ ลงทุนแบบเป็นเจ้าของธุรกิจ

...ผมใช้วิธีมองหาจุดสิ้นสุดของการถดถ้อยในกิจการครับ...

ก้นซิกก้า ครับ ไหม้ ช้าหน่อย

ทุกแบบครับ ผสมๆ กันไป

มีความรู้ในธุรกิจไหนเลือกซื้อตัวนั้น
แบบรูปแบบการซื้อออกเป็น

1. เน้นว่าหุ้นควรเติบโตดี แบบไม่มีคู่แข่ง หรือคู่แข่งยังตามมาแบบห่างๆ
ซื้อได้เลย นอนตาหลับ p/e ไม่สน ของเพียงไม่มีคู่แข่งและธุรกิจไปต่อได้ ก็ซื้อ ส่วนใหญ่เป็นหุ้นบลูชิพ

2. ดูแนวโน้มของธุรกิจนั้นๆ ถ้าโตทั้งธุรกิจ โดยที่เล็งเห็นว่ามีกำไรแน่ๆ ไม่ว่าใครจะเข้ามาในธุรกิจก็กำไร เพราะ demand สูงกว่า supply มากๆ
ก็ซื้อ ตอนนี้ที่เห็นๆก็ พวกเรือ และก็จ้องไฟแนนซ์อยู่ครับ

ผมมอง p/e บ้าง แต่โดยรวมดูแค่ว่าธุรกิจน่าจะไปได้ต่อหรือเปล่าเท่านันเอง
ส่วนตัวไม่สนใจว่า มีเงินสดเหลือเยอะหรือเปล่า เพราะสนใจการเจริญเติบโตของบริษัทมากว่า

ข้อที่พิจารณาต่อมาคือ ผู้บริหาร กับ อายุบริษัทครับ น้อยกว่า 5 ปี จะหลีกเลี่ยงเพราะถือว่าประสบการณ์น้อย

2. ผมพอใจในการลงทุนแบบนี้ครับ แต่ประสบการณ์น้อยครับ เพิ่งเริ่มแค่ 3 เดือน

3. คิดว่ามีครับ แต่คงเอามาลงไม่ได้ ผมเชื่อว่าในหุ้นบลูชิพ เมืองไทยมีหุ้นที่เป็น super stock อยุ่พอสมควรครับ

4. ส่วนตัวเชื่อว่า super stock บ้านเราจะไม่สามารถสร้างกำไรได้ขนาดในอเมริกาเพราะคนที่ลงทุนในหุ้นยังมีน้อยอยู่ และเราพึ่งพิงเงินต่างชาติอยู่มาก
ถามว่าเสียโอกาสหรือไม่คงตอบว่าไม่เพราะเราสามารถรวมกับการลงทุนแบบอื่นๆได้
ทุกอย่างอยุ่ที่แผนการและ มุมมองของแต่ละคนมากกว่า

5.แล้วแต่ความถนัดครับ
ผมวางแผนว่าจะแบ่งพอร์ตออกเป็น 3 ส่วน VI, dsm และเก็งกำไรครับ
แต่ต้องศึกษาแนวความคิดของการลงทุนแต่ละแบบให้ชัดเจน ว่าเหตุใดถึงลงทุนในแบบนั้นๆ และเป้าหมายของแต่ละแบบคืออะไรก่อน ถึงจะเริ่มลงมือทำ

ส่วนในพอร์ทตอนนี้มีแต่ vi และ เก็งกำไรครับ
รอ dsm แตกฉานแล้วจะเริ่มลงมือ จู่โจมเหมือนกัน[/list]

ผมเป็นนักเก็งกำไรที่ชอบนึกว่าตัวเองเป็นนักลงทุน
เวลาราคาหุ้นในพอร์ตลงมากๆ
จิตใจก็ยังเป็นกังวล เครียดทุกที

ข้อ 1.

แบบที่ 2, 3 , และ 4 ครับ
หุ้นก้นบุหรี่ผมยังไม่ค่อยเข้าใจ และคิดว่าไม่เคยเจอด้วย

ข้อ 2

พอใจ และมีความสุขครับ มองการลงทุนเป็นเรื่องดี และเป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำครับ

ข้อ 3

คิดว่ามีครับ ส่วนใหญ่ต้องพวกสัมปาทาน อย่างธุรกิจ เหล้า ของเสี่ยเจริญ
หรืออย่าง พวกอ่างทองคำ นี่แหละครับ ผมว่าใช่เลย

ผมว่า Shin ตอนผมชื้อ ก็ OK นะ แต่ผมไม่มั่นใจขนาด 10 ปีนะครับ
ถ้ายาวๆผมชอบ พวก wacoal มากว่าแต่ราคามันไม่ใช่


ข้อ 4.

อาจจะจริง แต่ก็ถูกแลกเปลี่ยนด้วย ความปลอดภัยที่สูงขึ้น อาจจะได้น้อย แต่มั่นใจได้ว่าได้แน่ๆ

ข้อ 5.

ผมว่า ลักษณะนิสัย จะเป็นตัวบอกเอง ว่าจะ VI, VS, หรือ VMix
อืม... อาจจะมีเรื่อง สถานการณ์ภายนอกบางอย่างด้วย

สไตล์ supper stock ถือว่าเยี่ยมครับ
แต่สำหรับผมเลือก แบบหุ้นห่านทองคำ เหมาะกับตัวเองมากกว่า เนื่องจาก
1.มีงบจำกัด ต้องหาจังหวะการเก็บกระสุนสำรองไว้บ้างด้วยการลดต้นทุนหุ้น
2.สภาพตลาดในเมืองไทยยังไม่มั่นคงเท่าอเมริกา มีโอกาสให้เห็นจังหวะการpanicบ่อยครั้งมากกว่า ซึ่งเป็นจังหวะที่เรามองเห็นหุ้นดีๆถูกปล่อยออกมาเลหลังเป็นช่วงๆ การเข้าถูกจังหวะกับหุ้นที่เราเล็งๆไว้(ขอให้เป็นหุ้นที่ดีด้วยนะครับ)ทำให้มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วครับ

มวยวัดครับ

ของผมพยายามเป็นแบบหุ้นห่านทองคำอยู่ครับ แต่ที่แย่สำหรับผมคือ ตัดใจขายลดต้นทุนเวลาหุ้นขึ้นแรงๆไม่ใคร่สักที กลัวแต่จะซื้อกลับไม่ได้อยู่เรื่อย

ระยะหลังนี่ต้องสร้างเป็นวินัยเลยครับ ไม่สนว่ามันจะไปต่อหรือว่าจะซื้อกลับได้ไหม ถึงจุดขายต้องขายเลยค่อยยังชั่วหน่อย

ส่วนหนึ่งเป็นห่านทองเหลืองครับ เพราะปันผลไม่มากพอที่จะเรียกว่าทองคำ แล้วอีกส่วนถือตัวที่เป็นผู้นำธุรกิจคงแบบ super stock มั้ง แต่กลางปีหลงไปเก็งกำไรขาดทุนเลย บทเรียน

CK เขียน:มวยวัดครับ

มวยวัดแบบคุณ CK คงเป็น นายขนมต้มมากกว่านะครับ อิอิ

คุณ CK ว่า ถ้า METCO จ่ายปันผลเยอะกว่านี้ซํก3 บาทแล้วราคาวิ่งไปอีกไกลเนี่ย คุณ CKว่าดีกับบริษัท และ ผู้ถือหุ้น เป็น Win Win strategy ป่าวครับ เพราะ เท่าที่ดู ผมไม่คิดว่า น่าจะต้องใช้เงินลงทุนในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ทุกปีขนาดนั้นนะครับ

ขอไปตอบที่นี่นะครับคุณ FG

http://www.thaivalueinvestor.com/webboa ... 8727#58727

อ้าว ปรากฎว่าตอบไม่ตรงคำถาม

สรุปคือ ขึ้นอยู่กับว่าผู้บริหารมองว่า metco มีโอกาสในการโตแบบก้าว
กระโดดในปีหน้าหรือเปล่าครับ

ตอนนี้หวัง cap. gain ล้วนๆ