Thai VI

เรียนถาม เหล่าจอมยุทธ์ Value Investor ทั้งหลายในยุทธภพ
พอร์ตของข้าพเจ้าดังนี้
PF ซื้อ 14.7
GOLD ซื้อ 14.5
EGCOMP 85 ได้ปันผล 3 บาท
JAS 1.12 บาท
PRANDA 7.1 ได้ปันผล 55 ตังค์

สรุปอาการตอนนี้ คือ ขาดทุน บานนนนน!!! สุขภาพปอดย่ำแย่ กรุณาช่วยหาทางเยียวยาปอดของข้าพเจ้าด้วยครับ ได้โปรดช่วยคนอ่อนหัด
I WILL SURVIVE !!!!

ขอบคุณมากๆ ครับ

เก็บ egcomp กับแพนด้าไว้ครับ ตัวอื่นรอคนอื่นมาตอบ 8)

"Life's like a box of chocolate, you don't know what's inside until you open it."

หม่าม๊าคุณฟอเรสท์กัมพ์บอกไว้ครับ

หม่ามี๊ผมบอกว่างี้ครับ ท่านประธาน CK

"Life is like a box of Chocolates,you'll never know what you're ganna get"

แต่ปอดผม มีแต่ช็อกโกแล็ตเน่าๆ เลยอยากหาทางเปลี่ยนไปกินช็อกโกแล็ตขมๆ ดีกว่า ท่านประธาน CK ไม่ช่วยผมหน่อยเหรอครับ?

I can't remember the fisrt Birthday gift,I can't remember my first shoes but I can stll remember the sweestest sound i've ever heard.

My name is Forrest,Forrest Gump.So we are not strager anymore.

แหะๆ เผอิญไม่ใช่หม่าม๊าผม เลยจำผิด

แนะนำได้อย่างเดียวครับ

1. ลบต้นทุนออก เปลี่ยนเป็น market price วันนี้
2. ดูว่าชอบหุ้นตัวไหนมากที่สุด และมันถูกที่สุดในสายตาเรา
3. ขายตัวที่ชอบน้อยที่สุด ไปซื้อตัวที่ชอบมากที่สุด

ราคาต้นทุนคือกับดักอันใหญ่หลวงของนักลงทุนครับ
ทำให้พลาดโอกาสที่ดีที่สุดไป

มูลค่าจริงของพอร์ตเราไม่ใช่ต้นทุน
market value ต่างหากที่เป็นต้นทุนของพอร์ตในวันนี้
ส่วนผลตอบแทน คือสิ่งที่จะได้ในวันพรุ่งนี้

ลบต้นทุนเนี่ยะ เหมือนหนังเรื่องอะไรสักเรื่อง

พูดง่ายทำยากจังครับ โฮๆๆ

Memento ครับ ซาร์จเคลี่ท่านสอนไว้ ผมลักจำมา

เห็นด้วยกับคุณ CK ครับ

ผมเคยมีประสบการณ์ถือหุ้นที่น่าผิดหวัง สองสามตัว เทคนิคการ Switch ของผมคือรอให้ตลาดตกลงทั้งตลาด (ปีนี้มีตั้งหลายระลอก) จากนั้นก็ขายตัวที่น่าผิดหวังของผม (ซึ่งราคากลับไม่ตกกว่าเดิมเท่าไร - อาจเป็นเพราะมันตกมามากแล้วมั้ง :lol: ) ไปซื้อตัวที่เราสนใจซึ่งราคาก็ตกลงมาพอสมควรเหมือนกัน

จากนั้น พอตลาดฟื้นตัวขึ้นมา หุ้นตัวใหม่ก็ค่อยๆกอบกู้หน้าตาของพอร์ตขึ้นมาบ้าง

รอสิ้นปีก่อนครับค่อยว่ากัน

โอ้โหท่าน CK ขนาด อนุบาล 2 ยังเข้าใจการลงทุนลึกซึ้งเพียงนี้
โรงเรียนไหน หรือ อาจารย์ท่านใด ยอดเยี่ยมมากครับ

ขอบคุณมากครับ ผมจะจำไว้ และ ลองปฏิบัติดูนะครับ

ForrestGump เขียน:โรงเรียนไหน หรือ อาจารย์ท่านใด ยอดเยี่ยมมากครับ

อาจารย์สองท่านนี้ครับ

Sargeant Kelly Doyless
Major ปรัชญา สิ่งห์ขอนแก่น

และก็ไปลักจำมาจากอาจารย์ท่านอื่นๆ อีกเยอะ

เรียนท่านประธานซีเค
วันก่อนเห็นท่านประธานเสนอวฺธีการปรับปอดวิธีนี้ในอีกกระทู้หนึ่งมาแล้ว อ่านแล้วโดนใจมากเลยครับ คิดว่าน่าจะเอามาใช้ลดจำนวนหุ้นสี่สิบกว่าตัวที่ผมถืออยู่ลงได้ดีทีเดียว กำลังดำเนินการอยู่แต่ยังไม่ค่อยมีเวลาจัดการเลยครับ ไอ้ที่อยากเขี่ยทิ้งก็พอมีอยู่ 3-4 ตัว แต่ให้ตัดสินใจว่าชอบตัวไหนมากๆบ้างนี่ยังไม่มีเลยครับ แถมอยากได้ตัวใหม่เพิ่มอีก รักพี่เสียดายน้องจริงๆ เลยครับ

CK เขียน: อาจารย์สองท่านนี้ครับ

Sargeant Kelly Doyless
Major ปรัชญา สิ่งห์ขอนแก่น

และก็ไปลักจำมาจากอาจารย์ท่านอื่นๆ อีกเยอะ

หน้าตาเป็นไงครับ Major ปรัชญา สิงห์ขอนแก่น
หน้าตาขี้เก็ก กวนโอ๊ยด้วยหรือเปล่าครับ อยากรู้จัก

อาการหนักเอาการครับพอร์ตคุณ Gump
ไม่ได้หุ้นพื้นฐานช่วยไว้คงหนักกว่านี้

ผมก็แนะนำเหมือนเพื่อนๆ นะครับ คือเก็บ EGCOMP Pranda ไว้
ส่วนตัวอื่นๆก็อย่าไปเสียดายครับ ถือเป็นค่าเรียนละกันครับ

ผมได้อ่านกระทู้มานานพอสมควร แต่ด้วย ไอคิวต่ำกว่าชาวบ้าน และ อีคิว ไม่เด่นมาก มีดีแต่ พีคิว จึงอยากขอถามต่อดังนี้
1. Kelly Doyless นี่ คือ Kelly ไม่มีติดดอย (หุ้น) ใช่มั้ยครับ?
2. อ.ปรัชญา สิงห์ขอนแก่น ท่านเป็นพวกเพลงเพื่อชีวิต และ ชอบกินคาราบาวแดงของน้าแอ๊ด ฮาร์เล่ย์ ที่ FE ท่านจัดการโปรโมทให้ หรือเปล่าครับ แล้วได้ยินว่าท่านยัง เป็นพวก ขาประจำ ของเฮียแม้ว ด้วย ไม่ทราบว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่
3. ท่าทางท่าน CK ชอบหนังสงครามพอสมควร ดังนั้นกรุณาอธิบาย คำศัพท์ทางการทหาร เช่น ตำแหน่ง Major,General......และอีกหลายคำให้ ผมได้ทราบด้วย ครับผม!!!

แล้วตกลงท่าน จะไม่บอกหุ้นเด็ดๆ ซํกตัวเหรอครับ

ForrestGump เขียน:1. Kelly Doyless นี่ คือ Kelly ไม่มีติดดอย (หุ้น) ใช่มั้ยครับ?

แม่นแล้วครับ ภาษาไทยต้องออกเสียงว่า "บ่มีดอย"

2. อ.ปรัชญา สิงห์ขอนแก่น ท่านเป็นพวกเพลงเพื่อชีวิต และ ชอบกินคาราบาวแดงของน้าแอ๊ด ฮาร์เล่ย์ ที่ FE ท่านจัดการโปรโมทให้ หรือเปล่าครับ แล้วได้ยินว่าท่านยัง เป็นพวก ขาประจำ ของเฮียแม้ว ด้วย ไม่ทราบว่าเป็นคนเดียวกันหรือไม่

คนเดียวกันครับ แต่ตอนนี้มี NKI 911 ด้วยนะครับ หน้าตาหล่อเหลา
สูงร้อยเจ็ดสิบกว่า ผอมเพรียว บุคคลิกเคร่งขรึม มีอารมณ์ขันลุ่มลึก
กวนโอ๊ยรึเปล่า ไม่แน่ใจครับ

3. ท่าทางท่าน CK ชอบหนังสงครามพอสมควร ดังนั้นกรุณาอธิบาย คำศัพท์ทางการทหาร เช่น ตำแหน่ง Major,General......และอีกหลายคำให้ ผมได้ทราบด้วย ครับผม!!!

ง่า ไม่ได้ชอบมากครับ แปลไม่ถูกด้วย เอาเว็บนี้ไปแล้วกัน

http://www.tesarta.com/www/resources/li ... yrank.html
http://www.friesian.com/rank.htm

แล้วตกลงท่าน จะไม่บอกหุ้นเด็ดๆ ซํกตัวเหรอครับ

อยากได้หุ้นเด็ด เอาไอ้ทีเด็ดไปแล้วกัน ขาดทุนอย่ามาว่าผมนะ

แล้วลูกของท่านประธานหรือว่าตัวท่านประธานเองล่ะครับ พอเข้าได้มั้ย อิๆๆๆๆ

ลูกท่านประธานน่าเก็งกำไรกว่าครับ เพราะเพิ่งจะเกิดได้ไม่ถึงปี

ส่วนตัวท่านประธานเอง เมื่อมีลูกก็ไม่ค่อยหวือหวาเร้าใจวัยรุ่นอีกต่อไป
กลายเป็นดาวตกเอา ตกเอา

ผมว่าโรงไฟฟ้า โอเคแต่ จิวเวอร์ลี่นี่ผมไม่ชอบครับ เพราะกำไรอาจไม่สม่ำก็ได้ ไม่เชื่อก็ลองไปดูสถิติอีกทีก็ได้ครับ

บ่อยครั้งที่มีคนมาถามแบบนี้ ผมก็ตอบคล้ายๆพี่ฉัตรชัยนะ ว่าตอนซื้อคุณซื้อเพราะอะไร ถ้าไม่มีเหตุผลที่ดีพอ ก็ไม่สมควรจะซื้อ และก็ขายมันเมื่อสิ่งที่คาดคิดไว้ผิดไปจากที่คิด

ผมพอร์ทแดงหลายตัว แต่ก็ยังเห็นงบการเงิน การค้าขายทำได้ดี ก็ไม่จำเป็นต้องขายทำไม และรอจังหวะซื้อเพิ่มเรื่อยๆอยู่ครับ

ถึงเวลาปรับก็ต้องปรับ แต่ต้องเก็บข้อมูลเก่าๆเอาไว้ว่าเราพลาดที่ราคาเท่าไร เจ๊งไปเท่าไร

ผมเห็นไม่ตรงกับป๋า CK ตรงให้ลบราคาทุนทิ้ง แผลครั้งนี้ต้องเอากลับมาคิดให้ได้ว่าพลาดไปได้อย่างไร และห้ามลืมเด็ดขาด

ผมเองแผลเต้มตัวเลย ทุกครั้งที่มองมัน เป็นเครื่องเตือนสติอย่างดี ว่าอย่านะอย่า

หุ้นดีๆยังพอมี ให้เวลาตัวเอง หาให้พบ ตรวจให้ครบถ้วน แล้วลงมือ

ขอบคุณ คุณ อาร์ม ที่แนะนำ แต่ผมคงเก็บไว้กินปันผลมากกว่า

หุ้นท่านประธาน กับ ลูก ไม่หวือหวา เหมือนคนมีครอบครัวแล้วก็แบบนี้แหละครับ ใครมีครอบครัวแล้วคงจะเข้าใจ

ขาดทุนไม่ว่ากันครับ แต่ขอช่วยบอกเหตุผลมาด้วย

RPC คุณ ลูกอีสานก็น่าสนใจเหมือนกันแฮะ

เผอิญผมได้กลับไปอ่าน หนังสือ "หุ้นห่านทองคำ" อีกครั้ง ได้อะไรมากทีเดียวหากจะลองเอาไปใช้วิเคราะห์หุ้นที่น่าสนใจจะดีมากครับ โดบเฉพาะในส่วนการตั้งคำถามยุทธศาสตร์ 4 ข้อแล้วก็การวิเคราะห์งบการเงินและตัวธุรกิจ ลองกลับไปอ่านดูอีกรอบสิครับ แล้วทำตามอย่างมีวินัย ห้ามขาดแม้แต้ 1 ขั้นตอนทีนี้ ผมว่าหุ้นที่จะถือตัวต่อไป เราก็ถือได้แบบที่คุณ harry ว่ายิ่งตกยิ่งซื้อเพราะพื้นฐานดีแน่นและเรามั่นใจ ความมั่นใจสำคัญที่สุดครับเพราะหากคุณมั่นใจแล้วถึงซื้อแลถือแต่ไม่มั่นใจก็อย่าครับ เพราะไม่งั้นเจอคนเชียร์ขายหน่อยก็ไปแล้วครับ แถมวันไหนตลาดแดงเรายิ่งไปกันใหญ่

มั่นคง และ มั่นใจผมว่าสำคัญมากครับ

เห็นด้วยกับคุณ มน ครับ
"เจ็บนี้อีกนาน เจ็บนี้ไม่ลืม เจ็บลึกกว่าเคย เจ็บช้ำกว่าใคร"

1. ตอนนั้นซื้อตอนหุ้นร้อนแรงเกือบพีค และ ความโลภบังตา ลืมหลักการ VI จนหมดสิ้น
2. ซื้อตามโบรคแนะนำ (หายหัวไปไหนไม่รู้แล้ว)
เหตุผลสองข้อที่ขาดทุนยับเยิน

หลังจากได้รับบาดแผนอันแสนลึกและเจ็บปวดครั้งนี้ และ พยายามเรียนรู้จากคุณ มน คุณวิบูลย์ คุณฉัตรชัย และหลายๆ ท่าน ก็หายโลภไปเยอะครับ และ จะพยายามให้ดีกว่านี้ ตอนนี้ซาบซึ้งในกฎ อย่าขาดทุน ของ Mr.Buffett อย่างที่สุดครับ ขอให้ทุกท่านเป็นกำลังใจให้คนไอคิวต่ำแบบผมด้วยครับ

ปล.จริงๆแล้วผมก็มีอีกสามสี่ตัวที่พอจะมีกำไรนะครับ เลยพอหายใจหายคอได้บ้าง อิอิ

ขอบคุณทุกท่านครับ

ขอบคุณ ทุกๆ ท่านครับ

ท่านผู้เฒ่าสับเงา ผิดประเด็นครับ

"To forgive is not to foget."

ผมจำราคาซื้อขายของหุ้น "เกือบทุกตัว" ได้หมดครับ ไม่ว่าจะกำไรหรือ
ขาดทุน แต่ราคาทุนจะไม่เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจขายหุ้นตัวนั้น

การให้อภัยตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ได้แปลว่าเราต้องลืมความผิดพลาด
เก่าๆ

การยึดติดกับอดีต ว่าเล่นหุ้นแล้วขาดทุนเท่านี้ไม่น่าเลย หรือปีที่แล้วทำกำไร
ได้ 100% ปีนี้ต้องได้ 120% เป็นจุดเริ่มต้นของการปิดกั้นทางความคิด

สิ่งที่สำคัญกว่าการจำว่า เราซื้อเท่าไหร่ ขาดทุนเท่าไหร่ คือการจำให้ได้ว่า
ทำไมเราถึงซื้อผิด

ในการตัดสินใจทุกครั้ง ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ต่างก็มีบทเรียนให้เราเสมอครับ

สิ่งที่สำคัญกว่า "เราตัดสินใจอะไรไป" คือ "ทำไมเราจึงตัดสินใจเช่นนั้น"
และนำไปสู่ "จะตัดสินใจอย่างไรจึงจะดีกว่าคราวที่แล้ว"

บางทีปัจจัยที่ทำให้เราตัดสินใจพลาดไม่ได้มาจากตัวเราเองมองผิด แต่
เกิดจากปัจจัยภายนอก

CK เขียน:ท่านผู้เฒ่าสับเงา ผิดประเด็นครับ

"To forgive is not to foget."

ผมจำราคาซื้อขายของหุ้น "เกือบทุกตัว" ได้หมดครับ ไม่ว่าจะกำไรหรือ
ขาดทุน แต่ราคาทุนจะไม่เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมตัดสินใจขายหุ้นตัวนั้น

การให้อภัยตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ แต่ไม่ได้แปลว่าเราต้องลืมความผิดพลาด
เก่าๆ

การยึดติดกับอดีต ว่าเล่นหุ้นแล้วขาดทุนเท่านี้ไม่น่าเลย หรือปีที่แล้วทำกำไร
ได้ 100% ปีนี้ต้องได้ 120% เป็นจุดเริ่มต้นของการปิดกั้นทางความคิด

สิ่งที่สำคัญกว่าการจำว่า เราซื้อเท่าไหร่ ขาดทุนเท่าไหร่ คือการจำให้ได้ว่า
ทำไมเราถึงซื้อผิด

ในการตัดสินใจทุกครั้ง ไม่ว่าจะถูกหรือผิด ต่างก็มีบทเรียนให้เราเสมอครับ

สิ่งที่สำคัญกว่า "เราตัดสินใจอะไรไป" คือ "ทำไมเราจึงตัดสินใจเช่นนั้น"
และนำไปสู่ "จะตัดสินใจอย่างไรจึงจะดีกว่าคราวที่แล้ว"

บางทีปัจจัยที่ทำให้เราตัดสินใจพลาดไม่ได้มาจากตัวเราเองมองผิด แต่
เกิดจากปัจจัยภายนอก

What a great concept !!! ขอซูฮกในความคิดท่านประธาน CK อีกครั้ง

ปล.ขอถามต่ออีกหน่อย ครับ ทุกท่านว่า การ cut loss เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักลงทุน (ระยะยาว) หรือไม่ครับ คือ ผมสงสัยว่า
1. เราจะรู้ได้ไงว่าต้อง cutloss ซึ่งเกิดจาก วิเคราะห์ผิด หรือ ราคาลงมาเพราะคนอื่นตกใจ
2. ปกติท่านที่ cutloss มีการแยกหุ้นหรือไม่ว่า หุ้นโตเร็ว หุ้นปันผล ต้อง cutloss กี่เปอร์เซ็นต์

ผมไม่บังอาจแนะนำครับ

ผมเองพึ่งเข้ามาตลาดได้แค่ไม่ถึงปี

แต่ผมว่า

"การขาดทุนเป็นสิ่งที่ดี...แต่คุณต้องได้บทเรียนทีมีค่ากลับมา...จึงจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า"

ผมว่าแม้วันนี้เราพลาดไปเราก็เอาข้อผิดพลาดมาแก้ไข.....มันไม่มีใครเก่งตั้งแต่เกิดแหละครับ

ย่างก้าวแรกที่เราเดิน เราก็เคยล้มกันมาแล้ว แต่ในวันนี้เราเดินได้อย่างดี

ไม่ล้มอย่างเคยแล้ว

งั้นขอรบกวนช่วยแก้ปอดให้ผมด้วยนะครับ

bafs 4000 @ 11.17
tipco 5000 @ 4.86
singer 2000 @ 7.26
samco 2000 @ 3.07

คุณ ForrestGump ซื้อหุ้นบ้านจัดสรรตอนยอดดอยพอดีเลยนะครับ
ดูแล้วราคาน่าจะกลับไปที่เก่าค่อนข้างยากนะครับ เมื่อพิจารณาจาก
ปัจจัยแวดล้อมภายนอก

ถ้าเป็นผมจะถือ PRANDA ต่อไป ดูจากอัตราการเติบโต และเงินปันผล
เทียบกับราคาปัจจุบัน ผมว่าน่าถือต่อไป

ส่วน EGCOMP ผมว่าปันผลน้อยไปน้อยนะครับ งบการเงินล่าสุด กำไรลดลง
จากขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 9 เดือน ไปกว่าสามร้อยกว่าล้านบาท (จำตัว
เลขแน่นอนไม่ได้แล้วครับ) คิดว่าไตรมาสสุดท้ายของปีน่าจะได้กำไรจาก
อัตราแลกเปลี่ยน มาช่วยหักกับยอดขาดทุนได้บางส่วนที่ผ่านมา

น่าจะคล้ายๆกันนะป๋า ผมเองตัดขาดทุนย่อยยับโดยไม่เอาใจใส่ราคาทุนแม้แต่น้อย เวลาขายตอนมีกำไรก็ไม่คิดจะไปดูทุนอย่างว่า เมื่อเข้าเกณฑ์ที่จะต้องขายก็ขายทันทีทุกครั้ง แม้จะเห็นหุ้นมันขึ้นต่อไปอีกเป็นร้อยเปอร์เซ็นต์เช่น ASSET ขายตอน60บาท มันขึ้นต่อไปเกีอบ200บาท

และบาทแผลทั้งสองแบบนี้จำไม่ลืมเลยแหละ และคิดใหม่ทำใหม่แล้วคร๊าบ