Thai VI

ขอบคุณมากๆคะ



STOCK BUY +COM
ASTL 1,000 246.00 246,658.05
AOT 12,000 48.05 578,142.41
BAFS 20,000 10.83 217,179.41
BEC 12,000 20.44 245,936.12

CPF 100,000 3.60 360,963.00
CSL 10,000 8.50 85,227.38
CPN 10,000 9.80 98,262.15
CPN 12,000 8.10 97,460.01
DCC 20,000 14.94 299,599.29
EGCOMP 2,000 81.00 162,433.35
EGCOMP 2,000 67.00 134,358.45
EASTW 8,000 35.22 282,513.71
IRC 10,000 18.20 182,486.85
LH 10,000 11.40 114,304.95
LTX 10,000 44.57 446,892.25
MBK 4,000 48.00 192,513.60
MODERN 6,000 34.50 207,553.73
OGC 2,000 81.00 162,433.35
PD 4,000 14.90 59,759.43
PRANDA 18,000 7.14 128,863.79

PRANDA 3,800 6.75 25,718.61
PTT 1,000 168.00 168,449.40
RATCH 2,000 42.00 84,224.70
SCB 1,500 47.00 70,688.59
S&P 14,000 24.65 346,023.14
SINGER 20,000 6.88 137,968.08
SE-ED 13,600 5.85 79,772.82
SSC 9,300 22.52 209,996.24
STANLY 2,000 177.47 355,889.46
TIIP 3,600 17.64 63,673.87
TIP 2,400 17.40 41,871.71
THAI 8,000 47.38 380,053.93
MICO 40,000 8.95 358,957.65

ZMICO คะ เป็นตัวสุดท้าย พิมพ์ Z ตกไปคะ
ขอบคุณคะ

อะไรจะเยอะแยะปานนี้

ถ้าดูไหวก็ตามต่อไปครับ ถ้าไม่ไหวก็ลดจำนวนหุ้นลงดีกว่า

ผมเริ่มคิดเหมือนพี่ฉัตรชัยแล้วว่า หาเจ๋งๆตัวสองตัวดีกว่า และก็กำลังพยายามทำอยู่ครับ

ไม่คิดจะลดพอร์ตลงหรือครับ เยอะมาก ๆ เหมือนเบี้ยหัวแตก

โอ้โฮ

ดิฉันว่าของดิฉันเยอะแล้วนะคะ
คุณ arrow ยังเยอะกว่าอีก

ส่วนตัวดิฉัน กำลังลดจำนวนอยู่ค่ะ เพราะดูแลไม่ทั่วถึงเลย
และจากคำแนะนำของพี่ๆ ในนี้
พี่ฉัตรชัย พูดเสมอๆ ค่ะว่า กระจายความเสี่ยง ก็คือการกระจายผลตอบแทนด้วยเช่นกัน

ปล. ดิฉันกำลังเรียนรู้วิธีการบริหารพอร์ตของพี่ฉัตรชัยอยู่ค่ะ

8) เอ่อ ..ขอรบกวนพี่ๆน้องๆวิเคราะห์พอท์ตให้ผมด้วยครับ

BKI = 44 หุ้น
OHTL = 24 หุ้น
HT = 300 หุ้น
FE = 38,000 หุ้น
JCT = 111,888 หุ้น
TIC = 155,555 หุ้น
NKI = 888 หุ้น
WG = 101,111 หุ้น

ขอคำแนะนำด้วยครับควรลดควรเพิ่มตัวไหน
อ้อลืมลงพี่เทพอีก1พันหุ้น กับอีสวอเตอร์อีก1หมื่นหุ้น
อ้อ..ลืมRGR 4,444หุ้น ผมชอบมีเศษหุ้นครับ

จากที่เคยบอกใครว่า ควรถือน้อยๆตัว
ไหงปาเข้าไปเกือบ10ตัวแล้ว แฮ่ๆๆๆๆ

การที่นักลงทุนหลายท่านลงทุนในหุ้นหลายบริษัท และกระจายเงินในแต่ละบริษัทเป็นจำนวนที่ไม่แตกต่างกันมากนัก เป็นเพราะ

ท่านเหล่านั้นอาจจะศึกษา วิเคราะห์บริษัทเหล่านั้นไม่ดีพอ ไม่มากพอ ที่จะแยกแยะได้ว่าควรที่จะลงทุนในบริษัทไหนมากกว่ากัน

เวลาลงทุนจึงเกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง

ถ้าเราศึกษา วิเคราะห์ หาข้อมูลในแต่ละบริษัทให้มากๆ เราก็คงจะสามารถแยกแยะความแตกต่าง ความน่าลงทุนในแต่ละบริษัทได้ครับ และทำให้เกิดความมั่นใจในการลงทุนแต่ละบริษัทที่เราเลือก จนเรากล้าที่จะลงทุนเป็นสัดส่วนที่มากๆ

ผมเห็นด้วยกับคุณ chatchai อย่างมากครับ
อย่างผมพยายามลดจำนวนตัว แต่ยังเกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง
และบางตัวสภาพคล่องน้อยมาก จนขายแล้วจะ loss เยอะมาก เลยไม่ขาย

แต่ถ้าวิเคราะห์เป็นและรู้จริงผมว่าถือหุ้นให้มีประมาณ 7-10 ตัวก็ได้
แต่ว่าต้องมีอย่างน้อย 2-3 ตัว ที่รวมแล้วควรจะประมาณ 60-80 % ของ port
น่าจะได้ผลตอบแทนดีกว่า

อันนี้เป็นความคิดเห็นของผมครับใครจะคิดแบบอื่นก็แล้วแต่ style ครับ

ปรัชญา เขียน:8) เอ่อ ..ขอรบกวนพี่ๆน้องๆวิเคราะห์พอท์ตให้ผมด้วยครับ

BKI = 44 หุ้น
OHTL = 24 หุ้น
HT = 300 หุ้น
FE = 38,000 หุ้น
JCT = 111,888 หุ้น
TIC = 155,555 หุ้น
NKI = 888 หุ้น
WG = 101,111 หุ้น

ขอคำแนะนำด้วยครับควรลดควรเพิ่มตัวไหน
อ้อลืมลงพี่เทพอีก1พันหุ้น กับอีสวอเตอร์อีก1หมื่นหุ้น

จากที่เคยบอกใครว่า ควรถือน้อยๆตัว
ไหงปาเข้าไปเกือบ10ตัวแล้ว แฮ่ๆๆๆๆ

พี่โปรด "เบอร์ตอง" เหรอครับ :lol: :lol: :lol:
111,888 งี้ 155,555 งี้ 888 งี้
เวลาเข้ากรุงเทพ น่าจะชอบมาคนเดียว ฉายเดี่ยวแน่ ๆ เพื่อไปหาเบอร์ตอง 555 :lol: :lol: :lol:
ว่าแต่พี่เก็บเศษหุ้นไว้ทำไมล่ะครับ :lol: :lol:
แต่พอร์ตขนาดพี่คงไม่มีใครว่าอะไรถ้าจะถือขนาดนี้

นับหุ้นที่ถือได้ 29 ตัว พอร์ตประมาณ 10 ล้านหรือเปล่าครับ
ถือสัก 6-7 ตัวน่าจะเหมาะสมครับ

ผมชอบ 8 ตัวครับ ดังนี้พร้อมเหตุผล (ผมไม่มีส่วนได้เสีย)

1.eastw น่าซื้อเพิ่มมากที่สุด เพราะความเสี่ยงธุรกิจน้อยมาก ราคาลดลงมาจนน่าสนใจ แม้จะคิดที่ fully dilute แล้วก็ตาม ครั้งหนึ่งเคยซื้อขายกันที่พีอีค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันราคาลดลงมาก ความเสี่ยงก็มีบ้าง เช่น อาจจะเพิ่มทุนอีกรอบหากเงินทุนไม่พอในการขยายธุรกิจ แต่คงอีก 2-3 ปี ข้างหน้า

2. ratch & egcomp เป็นหุ้น defensive ที่น่าสนใจครับ ความเสี่ยงธุรกิจต่ำเช่นกัน เป็นญาติกับ eastw ทั้งสองบริษัทมีโครงการขยายกำลังการผลิต ซึ่งจะเพิ่มกำไร แต่คงใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะสร้างเสร็จและรับรู้รายได้

3.s&p se-ed เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูง แต่ซื้อขายกันที่พีอีสูงประมาณ 11 เท่า ที่ fully dilute มีโอกาสในการเจริญเติบโตอีกมาก หากซื้อได้ที่ราคาต่ำจะดีมากครับ

4.bafs ความเสี่ยงธุรกิจน้อย แต่ก็อาจจะมีความเสี่ยงบ้างหากมีเหตุการณ์ที่กระทบการบิน ต้องใช้เงินลงทุนเยอะมาก ในโครงการที่สุวรรณภูมิ อาจจะปันผลน้อยลง รายได้คงเพิ่มขึ้นเมื่อสนามบินใหม่เริ่มให้บริการ แต่คิดราคาน้ำมันสูงขึ้นมาก ไม่ทราบว่าจะเสียลูกค้าสายการบินต่างประเทศหรือเปล่า อุปกรณ์ที่สนามบินดอนเมืองไม่ทราบว่าตัดค่าเสื่อมหมดหรือยัง เพราะบางส่วนอาจจะไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว หากมีการย้ายสนามบิน โอกาสคือสายการบินต้นทุนต่ำจะเพิ่มรายได้ให้ครับ

5.cpn เรือธงของกลุ่มเซนทรัล เป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์การค้า มีโอกาสที่รายได้เติบโตจากโครงการเวิลเทรดเดิม และศูนย์การค้าใหม่อีกหลายแห่ง แต่มีความเสี่ยงคือ

+เซนทรัลลาดพร้าวจะหมดสัญญาเช่าอีกประมาณ 4 ปี และจะต้องยกทรัพย์สินให้การรถไฟทั้งหมด หากได้ต่อสัญญา มีรายได้เป็นเพียงผู้บริหารเท่านั้น
+ผมสงสัยว่าทำไมโครงการภูเก็ต เฟสติวัล ซึ่งเพิ่งเปิดและประสบความสำเร็จค่อนข้างมาก ทำไมต้องให้ เซนทรัล รีเทล ทำแทน ทำให้โดนแบ่งกำไรไปค่อนข้างมากทีเดียว เหตุผลที่อ้างว่าต้องลงทุนมากในโครงการเวิลเทรด ผมคิดว่าฟังไม่ค่อยขึ้นนะ

6.ogc ธุรกิจที่ไปได้เรื่อยๆ ค่อนข้างปลอดภัย จ่ายปันผลสูง ความเสี่ยงน้อย


หวังว่าข้อมูลคงเป็นประโยชน์บ้าง แต่อย่าเพิ่งเชื่อนะครับ ตรวจสอบข้อมูลด้วยครับ เพราะผมก็จำๆมาอาจจะผิดพลาดได้

ว่าแต่คุณ arrow พอจะให้ข้อมูลได้หรือเปล่า ว่าหุ้นแต่ละตัวที่ถือมีเหตุผลอะไรที่ซื้อ จะได้ช่วยกันวิเคราะห์ได้ง่ายขึ้น..

ทุน 6,626,829.48
market value 6,089,840.00

แนะนำดังนี้ครับ

1. ลบช่อง "ทุน" ออก ใส่ market price เข้าไปแทนในหุ้นแต่ละตัว

2. เรียงลำดับหุ้นใหม่ ตามความ "ชอบ" ของคุณที่ราคา market price
ของหุ้นแต่ละตัว เอาอันที่ชอบที่สุดขึ้นก่อน

3. ทะยอยขายหุ้นอันดับสุดท้ายออกไป ไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ จนเหลือ
ไม่เกิน 5 ตัว

6. เอาเงินที่ได้ไปซื้อหุ้นใน 5 ตัวแรกเพิ่ม

ส่วนพอร์ตของนักเก็บเศษหุ้น เซียนขอนแก่น วิเคราะห์ได้ด้วประโยค
เดียวครับ

"อิจฉาง่ะ"

กองทุนรวมหรือportส่วนตัวกันแน่

ผมชอบคำแนะนำของคุณลูกอีสานครับ

ขอบคุณมากคะ สำหรับคำแนะนำที่ดีๆคะ

ที่จริงไม่ได้ตั้งใจจะซื้อเยอะขนาดนั้นคะ
ที่พอดู ปันผล แล้วดีๆทั้งนั้น ประกอบกับตอนที่ซื้อ
Set ขึ้นอย่างน่ารักมากๆ
เลยมีหลายตัวคะ จะมีก็ IRC คะ ที่ได้อย่างไม่ตั้งใจ มาร์บอกดีคะ
นอกนั้นก็แทบจะเลือกเองคะ CSL เลือกเพราะ เห็นว่า ราคาไม่ลงต่ำกว่า 9 สักที แต่พอซื้อแล้ว ก็ลงๆๆๆ
ทุกตัวกะจะซื้อไว้แล้วถือยาวๆคะ อ่านหนังสือของ ดร.นิเวศน์ ทุกเล่มเลยคะ
แต่พอ ซื้อไปแล้ว ไม่ขาย ราคาลงมาต่ำกว่า ที่ซื้อเสมอ เลยตอนหลังๆ ขายไปหลังจากได้กำไร 5-10 % เสมอ
อื่มม แต่พอขายไป ราคามักจะขึ้นๆๆๆๆ เกือบทุกที
ใจจริงต้องการจะถือยาวรับปันผลไปเรื่อยๆ อดทุกที
กะว่าจะรอให้ SET ต่ำกว่า 200 ราคาของหุ้นลงมา ต่ำอย่างมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แล้วถือยาวคะ
ขอบคุณมากคะ

ของผู้ตั้งประทู้ หุ้นที่ผมชอบในนั้นมี BAFS LTX MBK MODERN SINGER SE-ED CPN ซึ่งผมว่า ราคาปัจจุบัน เหมาะสมกับที่น่าจะลงทุนได้.......MODERN อยากได้แถว 31 บาทลงมา ไม่รู้จะได้เห็นหรือเปล่า เห็นเขาจะซื้อหุ้นคืน เริ่ม 29/11 นี้แล้ว อยากให้ Mr. Market กด ราคา ลงมาจังเลย


ส่วนคุณปรัชญา นี่ ผมว่า ที่ได้เศษหุ้น มา หลายตัว สงสัยจะ ชอบ เปิดดูหุ้น odd lot พวก เศษ หุ้น นี้ แน่เลย ผมว่า ฉลาดนะครับ จะได้ซื้อหุ้นถูก ๆ มารวมกันเรื่อย ๆ ผมไม่ค่อยจะได้ทำเท่าไหร่ ...... เคยได้ยินมาว่า มี คนคอยเก็บพวกเศษหุ้น และ รวม ๆ กันครบ 100 หุ้น ก็ เอามาขาย (ซื้อถูก มาขายแพง กำไรเห็น ๆ แต่ต้องใจเย็น ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ)

ผมมีหุ้นมากกว่า 30 ตัวแล้ว ส่วนใหญ่ บางตัวก็มี แค่ 100 หุ้น บางตัว พันหุ้น เอาไว้ดูเล่น.....จะได้รับการแจ้งข่าวตลาด รวมทั้ง การเชิญไปประชุมผู้ถือหุ้นต่าง ๆ ก็ คัดเอาไว้ศึกษาเท่านั้นเองครับ ส่วนที่มีประมาณ 20-30% ของเงินลงทุน มีแค่ 3 ตัวเอก เท่านั้นเอง คือ LTX FANCY และ NKI ........ (เริ่มเป็นห่วง ltx จากการเปิดเสรีสิ่งทอ ในปี หน้า แต่อย่างไรก็ตาม ก็ เชื่อฝีมือของกลุ่มญี่ปุ่น พวกนี้ ที่อุตส่า ย้าย ฐานการผลิตมาประเทศไทย นานแล้ว คงรักษาตัวรอดไปได้เป็น แน่.......... Fancy ซักเป็นห่วงเรื่อง ค่าเงินบาทที่เริ่มแข็งค่าขึ้นอีกแล้ว และ โรงงานใหม่ ที่ ลงทุนไป ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร ทำไม ถึง นาน นัก เอาเงินเพิ่มทุนไปตั้งแต่ต้นปี 2543......2 ปีกว่า ที่ โรงงานเริ่มผลิตได้ แต่ ความก้าวหน้า ยังไม่เห็นชัด ๆ เลย...............ส่วน NKI ไม่มีปัญหาที่เป็นห่วงเลยครับ ยกเว้นเร็ว ๆ นี้ ที่ ราคาหุ้นโดนขายมาตลอด แต่ปัจจุบันกลับมาที่เดิมแล้ว ..........ผมบ่นหุ้นตนเอง ใครจะร่วมบ่นต่อก็เชิญเลยนะครับ)

ต่ออีกนิดคะ
มี TUF, Banpu ขายไปแล้ว เศร้า ขึ้นเอาๆๆ
ส่วน BBL, kbank,scb ขายไปแล้ว เฉยๆ คะ ราคาไม่ค่อยไปไหนเลย
ปันผลก็ไม่ค่อยมี
PTT 190 ไม่ขายเลย เศร้าเลยคะ ดีคะ ที่ขายไปก่อนนิดหนึ่ง
มี pppc, tpc คะ ชอบมาก ขายไปแล้วคะ
ตอนนี้จะ พยายามตัดให้เหลือ ไม่เกิน 9 ตัวคะ
ยังตัดไม่ได้สักทีคะ

ลืม SCC คะ ตัวนี้ ชอบมากๆๆ แต่ขายแล้วคะ
กะจะเข้าไปซื้อเก็บไว้อีกคะ
มี TMD, METCO คะ ที่ต้องการซื้อเก็บไว้ใน พอร์ต
แต่ราคายังไม่ต่ำพอที่จะซื้อคะ รอ รอ รอ
APRINT, BAT-3K ขายแล้ว ก็เฉยๆคะ ราคาไม่ไปไหนเลยคะ
ยังงงว่า APRINT ขายไป 109 บาท ราคายังไม่ขึ้นถึงตรงนั้นอีกเลยคะ
ตั้งแต่ขายไป ตอนนี้ก็ลังเลว่าจะซื้อกลับมาอีกดีหรือไม่ดี
อ่านหนังสือ ดร.นิเวศน์เสร็จแล้วทุกที เหมือนกับ ชาร์ตแบตคะ
ให้ถือยาว รับปันผลไปเรื่อยๆ ดู PE, PB ต่ำๆ ราคาหุ้นไม่สูง ผลประกอบการดีๆ
ผู้บริหารดีๆ เป็นหุ้นไม่มี W
ซื้อหุ้นตาม ดร.นิเวศน์หลายตัวเหมือนกันคะ ssc,stanly กำลังมอง wacoal เหมือนกันแต่ราคายังไม่ได้ตามที่ต้องการสักทีคะ

ลุงขวด เขียน:
ส่วนคุณปรัชญา นี่ ผมว่า ที่ได้เศษหุ้น มา หลายตัว สงสัยจะ ชอบ เปิดดูหุ้น odd lot พวก เศษ หุ้น นี้ แน่เลย ผมว่า ฉลาดนะครับ จะได้ซื้อหุ้นถูก ๆ มารวมกันเรื่อย ๆ ผมไม่ค่อยจะได้ทำเท่าไหร่ ...... เคยได้ยินมาว่า มี คนคอยเก็บพวกเศษหุ้น และ รวม ๆ กันครบ 100 หุ้น ก็ เอามาขาย (ซื้อถูก มาขายแพง กำไรเห็น ๆ แต่ต้องใจเย็น ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ)

ส่วน NKI ไม่มีปัญหาที่เป็นห่วงเลยครับ ยกเว้นเร็ว ๆ นี้ ที่ ราคาหุ้นโดนขายมาตลอด แต่ปัจจุบันกลับมาที่เดิมแล้ว ..........ผมบ่นหุ้นตนเอง ใครจะร่วมบ่นต่อก็เชิญเลยนะครับ)

NKI ผมก็เข้าไปซื้อตอนกองทุนดิดสะโก้ทุบล่ะครับลุง แถวๆ41บาทกว่าๆครับ อยากได้อีกไม่รู้มีมือดีที่ไหนมาไล่ขึ้นไป47.25บาทอีกแล้ว

ผมชอบเศษหุ้นครับท่านDr.T
(เบอร์มือถือของผม2เครื่องก็ตอง5ครับ)
อย่างลุงขวดคิดก็ถูกครับผมชอบ เศษหุ้นรวมๆกันไว้ดูเล่นถ้าครบร้อยก็ขายไปบ้าง ไม่ครบร้อยก็ถือ เศษอย่าง24หุ้นผมก็ได้เงินปันผลร้อยกว่าบาท สิ้นปีก็ได้รับหนังสือรายงานครับ

ส่วนพอท์ต ผบ.ทบ ไม่มีเศษหุ้นเลย ถึงได้หุ้นแถมก็ขายทิ้งหมด
ชอบเป็นร้อยขายได้ดีขายสบายครับ

ผมก็คงหาเศษหุ้นเรื่อยไปล่ะครับ
วันไหนเทรดหุ้นตัวอื่นก็หันมาเก็บเศษหุ้นด้วย บางทีก็แกล้งเขาเล่นครับ
เขาตั้งเศษ5หุ้น ผมก็เคาะมา1หุ้นครับ เขาขายเศษได้1หุ้นเขาต้องเสียค่าธรรมเนียมเยอะครับ ถ้าไม่รวมวอลุ่มกับตัวอื่นๆ รู้สึกว่า1หุ้นของเขาจะต้องเสียค่าธรรมเนียม50บาท ถ้าผมเคาะเศษRGRราคา2.80บาท1หุ้น เขาเสียค่าธรรมเนียมหักทางบัญชี50บาทคนขายขาดทุนครับ ถ้าเทรดแบบไม่หักเก็บเช็คเสียค่าธรรมเนียม100บาท คนซื้อก็เหมือนกันต้องซื้อพ่วงรายการอื่นเข้าไปครับ ไม่งั้นไม่พอค่าธรรมเนียม ถ้าไม่เคยเล่นเศษหุ้นก็อย่าเข้าไปเล่นเลยครับเดี๋ยวเสียมากกว่าได้ครับ

_ลูกอีสาน เขียน:นับหุ้นที่ถือได้ 29 ตัว พอร์ตประมาณ 10 ล้านหรือเปล่าครับ
ถือสัก 6-7 ตัวน่าจะเหมาะสมครับ

ผมชอบ 8 ตัวครับ ดังนี้พร้อมเหตุผล (ผมไม่มีส่วนได้เสีย)

1.eastw น่าซื้อเพิ่มมากที่สุด เพราะความเสี่ยงธุรกิจน้อยมาก ราคาลดลงมาจนน่าสนใจ แม้จะคิดที่ fully dilute แล้วก็ตาม ครั้งหนึ่งเคยซื้อขายกันที่พีอีค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันราคาลดลงมาก ความเสี่ยงก็มีบ้าง เช่น อาจจะเพิ่มทุนอีกรอบหากเงินทุนไม่พอในการขยายธุรกิจ แต่คงอีก 2-3 ปี ข้างหน้า

2. ratch & egcomp เป็นหุ้น defensive ที่น่าสนใจครับ ความเสี่ยงธุรกิจต่ำเช่นกัน เป็นญาติกับ eastw ทั้งสองบริษัทมีโครงการขยายกำลังการผลิต ซึ่งจะเพิ่มกำไร แต่คงใช้เวลาอีกหลายปีกว่าจะสร้างเสร็จและรับรู้รายได้

3.s&p se-ed เป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูง แต่ซื้อขายกันที่พีอีสูงประมาณ 11 เท่า ที่ fully dilute มีโอกาสในการเจริญเติบโตอีกมาก หากซื้อได้ที่ราคาต่ำจะดีมากครับ

4.bafs ความเสี่ยงธุรกิจน้อย แต่ก็อาจจะมีความเสี่ยงบ้างหากมีเหตุการณ์ที่กระทบการบิน ต้องใช้เงินลงทุนเยอะมาก ในโครงการที่สุวรรณภูมิ อาจจะปันผลน้อยลง รายได้คงเพิ่มขึ้นเมื่อสนามบินใหม่เริ่มให้บริการ แต่คิดราคาน้ำมันสูงขึ้นมาก ไม่ทราบว่าจะเสียลูกค้าสายการบินต่างประเทศหรือเปล่า อุปกรณ์ที่สนามบินดอนเมืองไม่ทราบว่าตัดค่าเสื่อมหมดหรือยัง เพราะบางส่วนอาจจะไม่ได้ใช้ประโยชน์แล้ว หากมีการย้ายสนามบิน โอกาสคือสายการบินต้นทุนต่ำจะเพิ่มรายได้ให้ครับ

5.cpn เรือธงของกลุ่มเซนทรัล เป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์การค้า มีโอกาส

6.ogc ธุรกิจที่ไปได้เรื่อยๆ ค่อนข้างปลอดภัย จ่ายปันผลสูง ความเสี่ยงน้อย


..

จำได้ว่า เคยซื้อSPG ขายหรือยังครับ

ปรัชญา เขียน:ผมก็คงหาเศษหุ้นเรื่อยไปล่ะครับ
วันไหนเทรดหุ้นตัวอื่นก็หันมาเก็บเศษหุ้นด้วย บางทีก็แกล้งเขาเล่นครับ
เขาตั้งเศษ5หุ้น ผมก็เคาะมา1หุ้นครับ เขาขายเศษได้1หุ้นเขาต้องเสียค่าธรรมเนียมเยอะครับ ถ้าไม่รวมวอลุ่มกับตัวอื่นๆ รู้สึกว่า1หุ้นของเขาจะต้องเสียค่าธรรมเนียม50บาท ถ้าผมเคาะเศษRGRราคา2.80บาท1หุ้น เขาเสียค่าธรรมเนียมหักทางบัญชี50บาทคนขายขาดทุนครับ ถ้าเทรดแบบไม่หักเก็บเช็คเสียค่าธรรมเนียม100บาท คนซื้อก็เหมือนกันต้องซื้อพ่วงรายการอื่นเข้าไปครับ ไม่งั้นไม่พอค่าธรรมเนียม ถ้าไม่เคยเล่นเศษหุ้นก็อย่าเข้าไปเล่นเลยครับเดี๋ยวเสียมากกว่าได้ครับ

น้องปรัชญา คนชอบแกล้งคน :lol: :lol:

พายุพัดผ่านไปแล้วพี่ครรชิต สบายดีนะครับ อยู่สงขลา
เป็นห่วงญาติผู้ใหญ่ครับ

ASTL จะออกจากตลาดแล้ว อย่าลืมขายนะครับ ผมเคยถืออยู่ แต่ไม่ได้ติดตามแล้ว

เอ็นเคไอ ไม่รู้จะมีใครขายอีกหรือเปล่าครับ ผมยังไม่มีในกระเป๋าเลย

เจ้าของกระทู้ครับ รวมเงินเป็นก้อนๆ หาหุ้นที่ถูกใจที่เงินคุณสามารถ ซื้อแล้วเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เลยจะมันส์กว่าครับ ผมอิจฉาพี่ฉัตรชัย ลุงขวด พี่ปรัชญา เฮียคลายเครียด พี่ประจวบและรายใหญ่หลายๆท่านมาโดยตลอด อยากเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คุยธุรกิจกับผู้บริหารก็มีน้ำหนัก ถ้าเป็นไปได้ ขอเก้าอี้กรรมการมานั่งซักเก้าอี้ จะดีมากครับ

นักดูดาว เขียน:
เจ้าของกระทู้ครับ รวมเงินเป็นก้อนๆ หาหุ้นที่ถูกใจที่เงินคุณสามารถ ซื้อแล้วเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เลยจะมันส์กว่าครับ ผมอิจฉาพี่ฉัตรชัย ลุงขวด เฮียคลายเครียด พี่ประจวบและรายใหญ่หลายๆท่านมาโดยตลอด อยากเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ คุยธุรกิจกับผู้บริหารก็มีน้ำหนัก ถ้าเป็นไปได้ ขอเก้าอี้กรรมการมานั่งซักเก้าอี้ จะดีมากครับ

เคยยุเฮียคลายเครียดนั่งเก้าอี้แต่ไม่สำเร็จ
ท่านนักดูดาว มีไอเดียไหมครับ

เก้าอี้ในประกันคุ้มภัยคงจะครบแล้วครับ รายใหญ่เค้าเก็บหุ้นตั้งสองปี ซื้อมาตั้งแต่ไม่ถึงสิบบาท เข้ามาปั๊บก็ซื้อหุ้นคืนปุ๊บ เห็นแล้วทึ่งครับ ผลตอบแทนดีขนาดนี้เฮียคลายเครียดคงไม่เดือดร้อนอะไร หากต้องการเก็บหุ้นเพื่อขอเก้าอี้ ราคาคงพุ่งไปหลายเท่า ซึ่งคงไม่คุ้มนะครับ

หุ้นพลาสเตอร์ของพี่และของเฮียรวมกันนี่พอจะขอเก้าอี้ได้มั้ยครับ ผมว่าถ้ามีกรรมการเข้าไปกระตุ้นการทำงานของผู้บริหาร น่าจะได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจเหมือนกันนะ

เท่าที่อ่านข้อความของคุณ arrow ก็น่าห่วงเหมือนกันครับ เพราะจำนวนเงินลงทุนไม่น้อยทีเดียว

แต่ผมว่าความรู้และความเข้าใจในเรื่องการวิเคราะห์บริษัทเพื่อการลงทุนของคุณ arrow ยังใช้ความรู้สึกและฟังความจากคนอื่นมากเกินไปครับ

คุณ arrow ต้องพยายามศึกษาความรู้ความเข้าใจหลักการลงทุนแนว VI ให้มากขึ้นก่อนนะครับ แล้วศึกษาวิธีการหาราคาพื้นฐานให้เข้าใจ แล้วจะไม่มีความรู้สึกว่า ซื้อแล้วหุ้นตกก็เสียดาย จนกำไรแค่ 10%-20% ก็ขายแล้ว

การวิเคราะห์หุ้นไม่ใช่แค่ดู P/E P/B Yield แค่นั้นครับ ถ้าง่ายแค่นั้นนักลงทุนส่วนใหญ่คงจะไม่ขาดทุนครับ

นักดูดาว เขียน:
หุ้นพลาสเตอร์ของพี่และของเฮียรวมกันนี่พอจะขอเก้าอี้ได้มั้ยครับ ผมว่าถ้ามีกรรมการเข้าไปกระตุ้นการทำงานของผู้บริหาร น่าจะได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจเหมือนกันนะ

รวมกันไม่ถึง5%ขึ้นคงลำบากครับ
แต่ถ้ารวมกันได้ทั้งเรียกรายย่อยมาด้วย20%
มีสิทธิ์แน่นอนครับท่านนักดูดาว

คุณba_2l ซื้อมาเกือบ3ปีแล้วครับ ค่อยซื้อวันละพัน5ร้อยก็เคย
แล้วทำเป็นลืมๆสักอาทิตย์สองอาทิตย์ก็เข้าไปตอดเพิ่ม เรื่อยๆ
จะขายไม่มีคนมาซื้อต่อเพราะปีก่อนๆบริษัทดำเนินกิจการไม่ดี
เงินเราก็จม

สู้หุ้นคุณฉัตรชัยไม่ได้ ดูดีไปหมดตั้งแต่กระแสเงินสด ไม่มีหนี้สินระยะยาว
การเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผมคิดว่าคุณฉัตรชัยไม่ยอมขายออกมาแน่
เก็บอีกหน่อยก็ติดอันดับ10คน แรกแล้วครับ

จำได้ว่า เคยซื้อSPG ขายหรือยังครับ

ยังอยู่ครับเฮีย ปีนี้ทำกำไรได้ไม่ดี เพราะราคาวัตถุดิบขึ้นตามน้ำมันไปมากครับ แต่คงได้ปันผลบ้างครับ

ขอบคุณมากคะ สำหรับทุกความเห็นคะ
ตอนนี้จะพยายามตัดให้เลือก 9 ตัวคะ
จะศึกษาข้อมูลให้ดีมากกว่านี้คะ
ขอบคุณคะ

โห ขอผม ดู แล Port ให้ได้ อะ ป่าว ครับ T-T

คุณ kriser เป็นมาร์หรือคะ