Thai VI

บางครั้งผมว่ามันก็สับสน ดีเหมือนกันน่ะครับว่า หุ้น/บริษัทที่เราเลือกนี้ มีคุณค่าหรือเปล่า...ช่วง 1 - 2 เดือนมานี้ ผมเริ่มทบทวนตัวเองมากครับ กลับไปอ่านหนังสือของ อจ. นิเวศน์ใหม่ ทั้ง 3 เล่ม อ่านหนังสือคุณ WEB ใหม่อีกสักรอบ ขีดเส้นใต้ข้อความสำคัญๆ แล้วมานั่งดูงบบริษัทอีกครั้ง ดูแล้วดูอีกครับว่าสิ่งที่เลือกดีจริงรึเปล่า??
หรือผมจะทำยังไงดีครับ...
ก็เลย ตั้งข้อสงสัยครับว่า Margin of Safety นี้มันคืออะไรกันแน่ แล้วจะรู้ได้ไงว่าเราเลือกหุ้นที่มี MOS เพียงพอแล้ว??
ช่วยชี้แนะด้วยครับ เฮียๆ ทั้งหลาย

ค่าของ Margin Of Safety ไม่แน่นอน
การหามูลค่าที่แท้จริงของกิจการมีรายละเอียดต่างๆกันไป
บางคนถนัดแบบนั้น บางคนรู้ตรงนี้ลึก ค่าจะผิดกันไปบ้าง
แต่หากคิดในหลักการเดียวกัน ผลโดยรวมย่อมสรุปในทิศทางเดียวกัน

เมื่อหามูลค่าที่แท้จริงได้แล้ว
Margin Of Safety ก็จะเป็นส่วนประกอบของค่าบอกความมั่นใจของค่าที่เราหา
ถ้าบอกว่า เรารู้จักบริษัทเป็นอย่างดี การคำนวนมีความมั่นใจสูง ผู้บริหารมีความสามารถ เราอาจจะให้ MOS ในระดับต่ำได้ เช่น 5% หรือไม่มีเลยก็ได้ถ้ามั่นใจเกินร้อย
ถ้าบอกว่า ข้อมูลไม่ค่อยแน่น การคำนวนมีความมั่นใจไม่มากนัก MOS จะต้องสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว

หลักการคำนวนที่คุณฉัตรชัยเคยพูดไว้ ซึ่งสามารถนำมาช่วยคิด MOS ได้คือการทดลองค่า
เช่น จากสูตรหามูลค่าของกิจการ จะมีตัวแปรบางตัวที่เราต้องใส่เอง เช่นการเติบโตของบริษัท
เราอาจจะลองเปลี่ยนค่าเหล่านี้ไปมา เพื่อดูความผันผวนของบริษัทได้
ถ้าเปลี่ยนค่าบางค่าไปแล้ว บริษัทเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก ก็เป็นส่วนที่เราต้องประเมินว่า โอกาสเกิดมากน้อยเท่าไหร่
และเป็นข้อมูลที่ดีที่ใช้ในการเฝ้าดูผลงาน ในอนาคต

งานของ tvi คราวที่แล้ว มีลุงท่านหนึ่ง บอกสูตรหามูลค่ากิจการบวก MOS เสร็จสรรพ
เป็นสูตรง่ายๆ ที่หลายคนก็ยอมรับ แต่ผมจำไม่ได้แล้วล่ะ ใครช่วยขุดมาดูกันอีกทีสิครับ
ทำให้คิดว่า ความรู้ดีๆ มันหายไปเยอะ ตามกระทู้ที่หล่นไป
จะมีใครรวบรวม ออกมามั้ยนี่ ... เห็นว่าจะทำหนังสือ ... แต่เงียบกันไป

ค่าของ MArgin of Safety จริงๆแล้วน่าจะเป็นค่าตามความรู้สึกครับ
มันมาจากว่าเราคาดการ มูลค่าของกิจการในแง่สินทรัพย์และผลการดำเนินงานในอนาคตไว้เท่าไร
แล้วเจ้า Margin of Safety คือค่าเผื่อสำหรับกันการที่เราคำนวณมูลค่าของกิจการผิดพลาดหรือ ป้องกันเหตุรายที่มากระทบบริษัทอย่างฉับพลันและไม่อาจคาดเดา
พูดง่ายๆอีกแบบก็คือคุณต้องการซื้อบริษัท ในส่วนลดเท่าไรที่คุณคิดว่ากำไรแน่นอน นั่นแหละครับ Margin of Safety ในใจของคุณ

Margin of Safety มีค่าเท่าไหร่ขึ้นอยู่กับ
1. เราหามูลค่าที่แท้จริงของกิจการนั้นๆเป็นเท่าไหร่ (ด้วยวิธีไหน แล้วแต่เราเลือก เช่น DCF, EBITDA, P/E, etc.) เช่น เราหา (คำว่าหา จริงๆแล้ว คือ เป็นมูลค่าในใจเรา ซึ่งไม่ใช่ค่ามาตรฐานตายตัว เพียงแต่ว่า มีความใกล้เคียงกับศํกยภาพกำทำกำไรให้กิจการ ซึ่งอาจใช้ตัวเลขจากงบต่างๆ ) มูลค่าที่แท้จริง หุ้น ก. ได้ 20 บาท แต่ราคาตลาดขณะนั้น 15 บาท แสดงว่าเรามี Margin of Safety = (20-15)/20 คือ 25%

2. แล้วแต่กิจการ กิจการที่มีอัตราเติบโตมาก หรือ มีความผันผวนมาก เราก็ยอมรับ MOS ที่มีค่ามากๆ หน่อย กิจการไม่โต แต่แน่นอน เรายอมรับค่าMOS ที่น้อยๆ หน่อย

3. เงินปันผลที่ เทียบแล้ว มากกว่า ดอกเบี้ยธนาคาร และ พันธบัตรรัฐบาล ก็ถือว่าเป็น MOS อย่างหนึ่ง

4. สินทรัพย์สุทธิ (สินทรัพย์หมุนเวียน-หนี้สินทั้งหมด)/(จำนวนหุ้น) ยิ่งใกล้เคียงหรือมากกว่าราคาหุ้น ก็เป็นMOS อย่างหนึ่ง

5. Market Cap/Revenue ใช้เวลายิ่งน้อย ก็เป็น Margin of Safety อย่างหนึ่ง

6. ผู้บริหารที่มีคุณธรรมและความสามารถ ก็เป็น MOS อีกอย่างหนึ่ง

7.เหมือนที่ พี่ครรชิตบอก คือ ตัวเลขหรืออัตราส่วนต่างๆ ต้องถูกรองรับ หรือ ยืนยันด้วย ศํกยภาพกิจการ(หรือ ปัจจัยเชิงคุณภาพ) ก่อน ตัวเลขหรือ อัตราส่วนเหล่านั้น จึงจะเชื่อถือได้

8. เหมือนท่านที่เก่งๆ หลายๆท่านบอก ต้องดูให้ครบทุกด้าน ดูให้ละเอียด แล้ว ท่านจะมีมูลค่าที่แท้จริงในใจ ซึ่งต้องอาศํยการหาความรู้ การฝึกฝน ประสบการณ์ จังหวะซื้อที่ดี ถ้าถูกกว่า ราคาซื้อขายในตลาด ก็ถือว่ามี MOS แล้ว และหมายความว่า ท่านก็สามารถทำเงินได้แล้ว

ซึ่งข้อแปดนี่ยากที่สุด ผมยังคงต้องฝึกฝน เรียนรู้ ขอคำแนะนำจากพี่ๆ อีกนานแสนนาน

ขอให้คุณโชคดีในการลงทุนนะครับ

ผมว่า เงินปันผลเป็นเบาะที่ดีหรือมี margin of safety ก็ต่อเมื่อกำไรสม่ำเสมอและ มีแนวโน้มที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปได้เรื่อยๆครับ

หากอยากหาสูตรของ MOS คงไม่มีแน่นอนเพราะแต่ละคนรับความเสี่ยงได้ต่างกัน อย่างบัฟเฟต บอกว่าเค้าไม่ยอมขาดทุนก็คือยอมรับไม่ได้เลย เค้าจริงเข้าซื้อในจุดที่ใครๆรวมทั้งเค้าก็มองเห็นว่าเป็น the worst case แล้วซึ่งหากพลาดก็มีช่องให้ลงอีกไม่เท่าไร
แต่ขณะเดียวกัน ปีเตอร์ ลินซ์ กลับยอกว่า การลงทุนเนี่ย ถูกซัก 70 % ก็เก่งแล้ว ก็แสดงว่าเค้ายอมให้เกิดความผิดพลาดได้ 30 % นั้นแหละการเข้าซื้อที่จุดที่เค้าคิดว่าเหมาะสมก็รวม MOS ของเค้าในใจเข้าไว้แล้ว

หากเราคิดว่าเรารับความเสี่ยงได้เท่าไร แนวทางเรื่อง MO ของเราจะตามมาเองครับ เพราะวิธีการอาจแปรเปลี่ยนไปได้ตามแบบที่ คุณForrestGump โพสไว้แล้ว

หากคุณอยากลองทำโองบ้างลองคิดว่าคุณยอมเงินหดได้เท่าไร แล้วก็ลองหามูลค่ากิจการ เอาแบบง่ายก็เอา PER คูณเลยก็ได้แล้ว แล้วคำนวนดูว่าที่ราคาเท่าไรที่คุณซื้อแล้วโอกาสขาดทุนเท่ากับ ความเสี่ยงที่คุณรับได้ ผมว่านั่นแหละ MOS ในใจของคุณ

ขอบคุณมากๆ ครับ