Thai VI

สมมุตินะครับสมมุติ
สมมุติว่าคุณมีญาติหรือคนที่คุณรู้จักคุ้นเคย ที่คุณหวังดีกับเค้า แล้วเค้ากำลังเรียนมหาวิทยาลัย ใกล้จะจบ เค้าสนใจติดตามข่าวสารบ้านเมือง เศรษฐกิจ สังคม อยู่เป็นประจำ มีความรู้เรื่องการบัญชี การเงิน เศรษฐศาสตร์ บ้าง เพราะเคยเรียนมาบ้าง แต่สาขาที่เค้าเรียนไม่ใช่บริหารโดยตรง แล้วเค้าก็สนใจศึกษาหุ้นหรือการลงทุนในหุ้นมามากพอควร มีความรู้ในเกณฑ์ดีพอใช้ แต่ยังไม่เคยซื้อขายหลักทรัพย์ใด ๆ

อยู่ดี ๆ เค้าถามความคิดเห็นคุณว่า เค้าอยากทำงานในบริษัทโบรกเกอร์ อยากเป็นมาร์ ฯ หรือไม่ก็นักวิเคราะห์ ฯ จะได้เรียนรู้เรื่องการลงทุนอย่างจริงจัง เพราะอนาคตจะลงทุนเองบ้าง ไม่ชอบเก็งกำไร(ถ้าลงทุนเอง) ชอบแนวทาง value investment คุณจะแนะนำให้เค้ามุ่งไปทางใด ? เพราะอะไร? เพื่อประกอบการตัดสินใจ ซึ่งเค้าก็พอจะทราบมาบ้างว่ามาร์ ฯ กับนักวิเคราะห์ทำหน้าที่อะไร


พอดีมีรุ่นน้องที่รู้จักกันตอนเรียนมหาวิทยาลัยมาถามครับ ผมก็ไม่รู้ว่าจะแนะนำยังไง เพราะผมก็ยังไม่ทราบทุกแง่ทุกมุมของอาชีพเกี่ยวกับหลักทรัพย์
แต่ผมก็บอกไปว่า เดี๋ยวพี่จะหาคำตอบมาให้ ก็เลยมาหาที่นี่ เพราะทุกท่าน คงสัมผัสกับมาร์ ฯ หรือ นักวิเคราะห์มาบ้าง และเป็นนักลงทุนด้วย น่าจะมีแง่มุมอะไรเด็ด ๆ

เท่าที่ผมทราบนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่รับคนจบโทด้านการเงินหรือเศรษฐศาสตร์อะไรพวกนั้น
แต่เห็น http://www.tsi-thailand.org/home/Profes ... index.html ของ TSI คงไม่ต้องถึงกับจบโท ก็น่าจะเป็นนักวิเคราะห์ได้ จะแนะนำให้เค้าสมัครเลยดีไม๊

ขอความคิดเห็นหน่อยครับ
ขอบคุณครับ

หากบอกว่าจะทำงานสายนี้เพื่อ จะลงทุนเองในอนาคตเนี่ย ส่วนตัวนะครับผมว่าหากเริ่มต้นที่อาชีพนักวิเคราะห์เนี่ย มันจะเร็วไปไหมครับ เพราะผมคิดว่าน่าจะมีประสบการณ์จริงซักหน่อยกับตลาดการลงทุน ก็น่าจะดีกว่าเพราะเค้าอาจจะไม่ได้ไปอยู่สายวิเคราะห์หุ้นก็ได้นี่ครับ แต่หากไปอยู่สายตราสารหนี้อะไรเงี้ยมันจะไม่งงๆ เหรอแล้วผมก็คิดว่าหากไม่เคยทำงานเลยการที่จะวิเคราะห์แบบ VI ซึ่งเน้นวิเคราะห์ตัวบริษัทด้วยเนี่ยอาจเสียเปรียบหรือเปล่าเพราะจะเข้าใจกิจการไม่ลึกพอเพราะขาดประสบการณ์ ผมแนะนำว่าหากจะทำงานสายวิเคราะห์น่าจะรอมีอายุหน่อยมีปรสบการณ์การลงทุนมาก่อนเพราะจะได้เข้าใจตลาดโดยรวมด้วย เพราะลูกค้าน่าจะใส่ใจเราก็น่ารู้ไว้บ้าง และต้องช่างซักเพราะต้องขอข้อมูลจากบริษัทด้วยเพื่อจะได้ข้อมูลที่ลึกของบริษัท

ส่วนเป็นมาร์เนี่ยหากเป็นคนชอบพูดคุยผมว่าก็ดีนะครับ ช่วยแนะนำได้ พูดจารู้เรื่อง แล้วก็เป็นงานบริการต้องทำเพราะใจรักนะครับผมว่าแล้วก็ต้องรู้พวก เทคนิคอะไรบ้างจะได้ตอบลูกค้าถูก

สำหรับผมหากจบใหม่น่าทำงานมาร์ก่อนเพราะคิดว่าน่าจะเป็นง่ายหน่อยแล้วก็สั่งสมประสบการณ์จากตลาดจริงก่อนจะได้รู้จัก ความกล้า-ความกลัวของตลาด อารมณ์ของคนในตลาดเพื่อจะไม่ตกใจ(แบบผม) กับกระแสตลาดเวลาลงทุนจริง แล้วก็สั่งสมความรู้จากนิสัยลูกค้าด้วย เพราะการเป็นนักวิเคราะห์ผมคาดหวังว่าน่าจะมีประสบการณ์พอควรไม่น่าจะเป็นเด็กจบใหม่เพราะไม่น่าเชื่อถือ

เป็นนักวิเคราะห์ต้องจบโท มาร์จบปอตรีได้

แต่ถ้าเอาจริงๆ อย่าเป็นเลย เป็นนักลงทุนดีกว่า สบายใจสุด ไปทำงานอะไรก็ได้ที่ชอบ เก็บเงินมาลงทุนเองดีกว่า

เรียนด้านเสดสาด ด้านการเงิน ก็ทำงานในแผนกพัฒนาธุรกิจ หรือดูการเงินการบัญชีในองค์กรได้

ไม่ก็เรียนบัญชี แล้วเป็นผู้สอบบัญชี เงินดีหลายๆเด้อ

ไม่สนงาน IB เหรอครับ

แล้ว IB คืออะไรครับ

IB ก็คือ Investment Banking นะครับ งานวาณิชธนกิจ นะครับ

ถ้ามี connection เยอะและมีลูกค้าเป็นรายใหญ่ๆ เป็น marketting จะรายได้เยอะ และเหนื่อยน้อยกว่า นักวิเคราะห์มากครับ

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เค้าจะรับป.โทคับ .. แต่ป.ตรีก็มีบ้างเหมือนกัน
งานหนักใช่ย่อย
ส่วน ib นี่ดูงานจะยากขึ้นไปอีกระดับ
ต้องใช้ทั้งด้านวิเคราะห์ ต้องใช้ทักษะติดต่อ และการ present เยอะ งานจะหนักกว่านักวิเคราะห์ขึ้นไปอีก .. แต่ก็เหมาะกับคนชอบงานท้าทาย
ส่วนงานมาร์ ถ้าไม่มี connection ก็เหนื่อยหน่อยถ้าไม่ได้เข้ามาตอนตลาดบูมๆ
ทั้งหมดนี้ฟังเค้ามานะครับ

นักวิเคราะห์จบ ป ตรีได้ครับ มีรุ่นน้องเป็นอยู่ที่ tisco
IB ก็จบ ป ตรี ได้ครับ ผมเคยได้ job offer เหมือนกันแต่เป็นโบรคไทย แต่ถ้าเป็นโบรคฝรั่ง จะเข้ายากหน่อยครับ สมัครหลายโบรค ได้สัมภาษณ์ ที่นึง แต่ไม่ได้ offer เลย ทั้งนี้และทั้งนั้นครับ สุดท้ายเลือก บริษัทเรือ

ผมแนะนำ ให้เลือก IB ก่อนครับ

ขอบคุณมากครับ สำหรับทุกความคิดเห็น