หน้า 1 จากทั้งหมด 1

**

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2004 7:32 am
โดย LOSO
**

**

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2004 10:27 am
โดย The Beginner
ขอบคุณ บทควาทดีๆ ครับคุณ เสก โลโซ

คล้ายกับที่ ดร.นิเวศน์เคยเขียนไว้ใน กับดัก VI ครับ ุหุ้นดูเหมือนว่ากิจการจะดี P/E P/B ต่ำๆ มีปันผลดี มองแค่นี้ก็รีบซื้อ(ซึ่งอาจมีการจัดฉาก ด้วยการแต่งบัญชี) หรือ เพราะตัวเลขพวกนี้สะท้อนเฉพาะ อดีตหรือ ปัจจุบัน ถ้าคุณภาพกิจการไม่ดีต่อไปในอนาคต ตัวเลขเหล่านี้ก็เปลี่ยน เราก็โดนหลอก จากความเคยชิน กรอบความคิดเดิมๆ ไปได้

โชคดีครับเพื่อนๆ

**

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2004 10:13 pm
โดย Blueblood
:) ชอบมากเลย ขอบคุณครับ

**

โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 31, 2004 11:54 pm
โดย ch_army
ใช่แล้วครับ ขอบคุณสำหรับ ข้อความดีๆครับ ในมุมมองของผมก็เห็นเช่นเดียวกันครับ หุ้นที่เราจะลงทุนอาจมีกับดัก หากเราไม่รู้ความจริงของกำไรในอนาคตซึ่งเกิดจาก ปัจจัยทางธุรกิจในปัจจุบัน ตัวชี้วัดในอดีตเป็นเครื่องมือดูว่าหุ้นดีไหม โดยมีสมมุติฐานว่า ปัจจัยต่างๆต้องคงที่ หรือไม่เปลี่ยนมากนัก ซึ่ง ตรรกกะจริงๆของการลงทุนผมว่าน่าจะเป็นว่า

" การคาดหมายถึงกำไรที่สูงขึ้น ----- > ราคาที่สูงขึ้น "

แต่กำไรที่สูงขึ้นมาจากสาเหตุใดหากคุณตอบได้และเฝ้าติดตามว่ามันเป็นเช่นนั้นไหม ผมว่า ก็คงเป็นไปตามตรรกกะด้านบนแน่นอนครับ

**

โพสต์แล้ว: จันทร์ พ.ย. 01, 2004 10:46 pm
โดย นายสต็อก
ตกลง...เค้าไม่อาบน้ำให้ตัวสะอาดกันหรือครับ?
สงสัย อยู่ในห้องมืดๆทั้งคู่ เลยไม่รู้ว่าใคร ตัวสกปรก!...ใครตัวสะอาด!
(ฮาๆ!...ฮิๆ!...ฮิๆ!...)

**

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 8:14 am
โดย CK
ผมว่าไอนสไตน์ต่างหากที่ติดกับดักทางความคิด

การออกจากปล่องไฟคนนึงสกปรกคนนึงสะอาด
เป็นไปได้อย่างแน่นอนครับ และเป็นไปได้หลาย
ทางด้วย

ทางแรกคือ ปล่องไฟนั้นสะอาดแต่คนที่สกปรก
อยู่แล้วเข้าไป พอออกมาก็สกปรกอยู่ดี

ทางที่สอง คนที่ออกมาสะอาดอาจจะใส่ชุดหมี
กันไฟไว้ก่อน พอออกมาจะถึงก็ถอดชุดหมีออกก่อน

ทางที่สาม คนที่สองที่ออกมาสะอาดอาจจะตัว
เล็กมาก เวลาออกมาก็ไม่ได้ไปชนโดนอะไรที่สกปรก

และอาจจะมีอีกหลายสาเหตุ ที่ทำให้คนแรกและคน
ที่สองออกจากปล่องไฟโดยคนหนึ่งสะอาดคนหนึ่ง
สกปรก และเป็นจริงในทางตรรก

กับดักทางความคิดจริงๆ แล้วคือคำถามของไอนสไตน์
เองครับ ถ้าเริ่มต้นถามว่า "ใครจะไปอาบน้ำก่อน" ตัว
คำถามเองก็สร้างกับดักให้คนตอบไปแล้ว

**

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 10:06 am
โดย stockms
คุณ CK ครับ ถ้าเรื่องที่คุณโลโซเล่าเป็นเรื่องจริงไอสไตน์ไม่น่าจะเป็นคนที่ติดกับดักทางความคิดครับ แต่เป็นคนที่ช่วยกระตุ้นให้เด็กคิดนอกกรอบ ซึ่งก็ทำได้สำเร็จ เพราะดูจากที่คุณ CK ตอบออกมา ครูที่ดีและฉลาดมักจะสอนแต่หลักการและเปิดโอกาสหรือท้าทายความคิดของเด็ก แต่เขาจะไม่ป้อนความคิดของตัวเองทั้งหมดให้กับเด็ก แต่จะมีเด็กไทยแค่เพียงบางคนเท่านั้นที่ชอบวิธีนี้ คุณ CK ก็เป็นหนึ่งในนั้นครับ ในเรื่องนี้ไอสไตน์เพียงต้องการบอกว่าให้พยายามหาสาเหตุความแตกต่างของคนทั้งสองก่อน ก่อนที่จะพยายามตอบคำถาม เมื่อทราบสาเหตุแล้วโอกาสที่จะตอบคำถามได้ถูกต้องก็มีมากขึ้น :wink:

**

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 10:25 am
โดย CK
หุหุ ผมก็ใช้วิธีกระชากลงจากเก้าอี้เหมือนกันครับ
:D

**

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 11:44 am
โดย ch_army
วิธีที่ นักวิทยาศาสตร์ที่ชาญฉลาดผู้นี้ใช้ เค้าเองอาจไม่ได้คิดที่ logic ของมันมาก่อนก็ๆด้ครับ แต่เพื่อกระตุ้นให้เด็กเค้ามองหาความจริงมากกว่าเหตุผล(คิดนอกกรอบที่ถูกตีไว้ให้) วิธีการที่พี่ CK คิดออกมานั้น ผมว่าก็เป็น logic แบบหนึ่งซึ่ง ผมว่าก็เหมือนการถามแบบ why-why คือถามว่าเหตุการณ์ที่พบเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะอะไรไปเรื่อยๆจนพบต้นตอ อย่างเช่นที่พี่หาสาเหตุของการที่ คนหนึ่งเลอะ อีกคนสะอาดนั่นแหละ ครับ แต่อย่าลืมนะครับว่า เราเห็นคำตอบของไอสไตน์ก่อนเราจึงค่อยคิดต้นตอ แต่จะดีกว่าถ้าเราคิดเรื่องราวทั้งหมดแบบที่คุณ CK คิด ได้ตั้งแต่แรกถึงจะถือว่าเรามองปัญหาทะลุปุโปร่ง หลายแนวทางด้วยครับ ผมว่ามันเหมือนกันกับวิธีของ False tree analysis ครับคือ ดูจากอาการไปสู่สาเหตุ โดยใช้ระบบ logic มาช่วยในการหาสาเหตุ และผลกระทบ

**

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 12:22 pm
โดย CK
ก่อนที่จะแก้ปัญหา เราต้องหาสาเหตุของปัญหาก่อนอยู่แล้ว

มีใครบ้างที่ถามมาก็ตอบไปเลย

ถ้าถามว่า "สองคนออกจากปล่องไฟ คนหนึ่งสะอาด คนหนึ่งสกปรก"

ก็เป็นธรรมดาที่เราต้องถามตัวเองว่า "เป็นไปได้อย่างไร"
การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุสำคัญกว่าการ "ตอบปัญหา"

อีกอย่าง

ถ้าไอนสไตน์บอกว่า "คนที่สกปรกมองคนที่สะอาดแล้วนึกว่าตัวเองสะอาด"
ผมไม่เคยเจอคนแบบนี้ครับ :)

เหมือนคำถามที่ว่า "ในเมืองเมืองหนึ่ง มีช่างตัดผมสองคน
ผมของช่างคนที่หนึ่งเรียบร้อยสวยงาม ผมของช่างคนที่สอง
ยังกะหนูแทะ คุณจะเลือกตัดผมกับช่างคนไหน"

คนฉลาดอาจจะตอบว่า "ก็ต้องตัดกับคนที่ผมยังกะหนูแทะสิ"
จริงๆ แล้ว คนตอบก็กำลัง assume บางอย่างอยู่เหมือนกัน

สรุปคือ ผมเห็นด้วยกับคุณ LOSO ครับว่าคนเราติดกับดักความคิดได้ง่าย
แต่บางทีเรานึกว่าเราหลุดกับดักความคิดออกมาแล้ว กลับไปติดอีกอันหนึ่ง

...

:D อย่าซีเรียสครับ ชีวิตไม่ได้มีแค่นี้

**

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 12:28 pm
โดย CK
พูดถึง Fault Tree Analysis มีคนเอามาใช้กับการลงทุนด้วยครับ
น่าสนใจดีเหมือนกัน

**

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 4:36 pm
โดย stockms
น่าจะใช่ครับ ไอสไตน์จงใจสร้างคำถามที่เป็นกับดักทางความคิดสำหรับเด็กเพื่อสอน แต่สำหรับผู้ใหญ่คำถามพวกนี้เราเรียกว่าปัญหาเชาว์ที่เราเอาไว้ถามเล่นสนุกๆ ถึงคิดนอกกรอบไปก็ไม่ได้อะไรมาก สู้ให้คุณ CK มาอธิบายวิธีการเล่นหุ้นนอกกรอบแบบมีกำไรมากมากกันดีกว่า รอฟังอยู่ครับ

**

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 4:56 pm
โดย CK
สู้ให้คุณ CK มาอธิบายวิธีการเล่นหุ้นนอกกรอบแบบมีกำไรมากมากกันดีกว่า
อธิบายไม่ได้ครับ


เพราะไม่รู้ :lol:

ถ้ารู้ก็รวยไปแล้ว ฮ่าๆๆๆ

**

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 5:17 pm
โดย tunpao
ผมมีคำถามจากหนังฝรั่งเรื่องนึงมาถามนะครับ
-------------
มีสองพ่อลูกคู่นึงขับรถเดินทางไปเที่่ยวด้วยกัน แต่เกิดอุบัติเหตุชนกะรถบรรทุก ทั้งคู่บาดเจ็บสาหัสกระเด็นไปคนละทาง พลเมืองดีจึงรีบนำไปส่งโรงพยาบาล แต่ว่าถูกส่งไปคนละโรงพยาบาลเนื่องจากไปรถคนละคัน พ่อถูกส่งไปแห่งหนึ่ง ลูกไปอีกแห่งหนึ่ง

คนเจ็บที่เป็นลูกนั้น ก็ถูกส่งเข้าห้องผ่าตัดทันที แต่แล้วเมื่อหมอมาถึง ก็ตกใจมาก แล้วร้องออกมาว่า "โอ้ ไม่ ฉันทำใจที่จะผ่าตัดลูกตัวเองไม่ได้"

ถามว่าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้หรือไม่เพราะอะไรอย่างไร
---------------------------
ไว้จะมาดูนะครับว่าท่านนักลงทุนจะคิดเห็นอย่างไรบ้าง
แล้วจะมาบอกชื่อหนังด้วย
ท่านที่ทราบแล้วรอซักพักนะครับแล้วค่อยเฉลย

**

โพสต์แล้ว: อังคาร พ.ย. 02, 2004 5:29 pm
โดย Pornthep
เพราะหมอเป็นผู้หญิง, แม่ของลูกเหรอครับ

**

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 03, 2004 8:32 am
โดย ch_army
พี่ CK ครับ ที่ว่า
พูดถึง Fault Tree Analysis มีคนเอามาใช้กับการลงทุนด้วยครับ
น่าสนใจดีเหมือนกัน
เนี่ยพี่เคยเจอที่ไหนเหรอครับ ผมสนใจอยากดูตัวอย่างสักหน่อยนะครับ

ขอบคุณครับ

**

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 03, 2004 7:25 pm
โดย LOSO
หนุกหนุกครับ ................

อย่าคิดมาก .............................

ไม่ว่าใคร ....................

ไม่สอนใคร ...............................

**

โพสต์แล้ว: พุธ พ.ย. 03, 2004 11:05 pm
โดย CK
ch_army เขียน:เนี่ยพี่เคยเจอที่ไหนเหรอครับ ผมสนใจอยากดูตัวอย่างสักหน่อยนะครับ
ง่า เป็นการลงทุนทำโปรเจ็คน่ะครับ ไม่รู้ใช้กับการลงทุนในหุ้นได้ป่าว

**

โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. พ.ย. 04, 2004 12:44 am
โดย ch_army
คงได้ครับแต่ต้อง แยกปัจจัยที่เป็น logic ออกจากส่วนของอารมณ์คือเน้นทางตัวเลขได้ยิ่งดี