หน้า 1 จากทั้งหมด 1
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 21, 2004 9:51 pm
โดย ปรัชญา
ผมมองดูรู้สึกว่า...
เพื่อนๆผมหลายคนกำลังสับสน กับการลงทุน
คือเมื่อปีก่อนๆก็ว่าอยากซื้อ-ถือหุ้นลงทุน-รอรับเงินปันผลแทนฝากแบ๊งค์กินดอกเบี้ย
แต่พอหุ้นเป็นกระทิง (ผอม)
เพื่อนที่อยากเป็นนักลงทุนแนววิ
ก็เริ่มสับสน
ลืมเรื่องลงทุน เพราะเห็นราคาหุ้นสวิงสวายขึ้นๆลงๆ
เห็นกำไร เก็งกำไร ซื้อถูก-ขายแพง
คุยกันทั่วห้องค้า มีโพยเด็ดแจกกัน ข่าวลือ ข่าวอำ
เลยเริ่มต้นวิญญาณการเก็งกำไรเข้ามาสิง
ผมเคยบอกให้เลือกเอา และแบ่งพอท์ต
เก็งกำไรกับการลงทุนแยกกัน
แต่เมื่อตอนหุ้นลง ติดดอย
ก็เริ่มมีปัญหา อยากขายหุ้นลงทุนวิ
เพราะต้องการเอาเงินไปเล่นแนวใหม่ (ก็เหมือนเดิม)
เห็นราคาหุ้นที่ถืออยู่ไม่ไปไหนมาไหนก็เริ่มบนกันกระปอดกระแปดว่า...
เสียดายเวลา ไม่ได้ส่วนต่างราคาบ้าง และอีกสารพัดที่จะว่าฯ
ความโลภ
ไม่เคยอยู่ห่างตัวและความคิดของแต่ละคน
ความโลภก็เหมือนเงา ตามเราไปทุกหนทุกแห่ง
(มาเพื่อบ่น)
การลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุน
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 21, 2004 9:59 pm
โดย -ลูกอีสาน
อย่างนี้เค้าเรียก....เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง กระดูกแหวนคอ หรือเปล่าพี่ :lol: :lol:
มาถามเรา...เราก็หวังดีแท้ๆ
พอแนะนำไป หุ้นไม่ขยับ โดนว่าซะอีก

ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 21, 2004 10:10 pm
โดย ปรัชญา
ก็บอก กัน เพราะว่าคนรู้จักกัน หวังดีต่อกัน
ไม่ได้เรียกร้องเงินทอง เขาไม่มาถาม เราก็คงไม่บอกกับเขา
เราก็ว่าเราบริสุทธิ์ใจ หวังดีและประสงค์ดี
ผมเพิ่งได้คิดถึงคุณมนตรี ที่ว่า....เมื่อก่อนห้ามพูดถึงชื่อหุ้น
ผมว่าการพูดไม่เอ่ยถึงชื่อหุ้น ก็คงจะเลื่อนลอยไม่มีที่อ้างอิง
พอนำประวัติ ข้อมูลบริษัท ตั้งแต่ปี2522
หุ้นปันผล6บาท ปริ๊นข้อมูลย้อนหลังเป็น20กว่าปีให้
กลายเป็นส่งตำราให้ แต่...กาลเวลา มันเปลี๊ยน-เปลี่ยนไป
คงต้องพึ่งคำพระล่ะครับ
ชีวิตคน ย่อมเป็นไปตามกรรมครับ
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ต.ค. 21, 2004 10:23 pm
โดย โป้ง
ขอบคุณครับ
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 22, 2004 1:24 am
โดย moo
ขอบคุณมากครับ

ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 22, 2004 8:56 am
โดย champ
ขอบคุณครับ พี่ปรัชญา
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 22, 2004 9:07 am
โดย CK
เอ พูดถึงผมรึเปล่าครับ :lol:
ช่วงนี้เก็งกำไรอย่างเดียว พอร์ต VI ไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อสมองเลย
ขอบคุณที่เตือนสติครับ พี่ปรัชญา
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 22, 2004 9:47 am
โดย ปรัชญา
CK เขียน:เอ พูดถึงผมรึเปล่าครับ :lol:
ช่วงนี้เก็งกำไรอย่างเดียว พอร์ต VI ไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อสมองเลย
ขอบคุณที่เตือนสติครับ พี่ปรัชญา
ไม่ได้ว่าคุณCKครับ
ว่าเพื่อนๆผมที่อยู่ขอนแก่นครับผม
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ต.ค. 22, 2004 10:25 pm
โดย Dech
ทำให้ต้องมาทบทวน เพราะกำลังคิดเลยครับ
ขอบคุณครับ
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 23, 2004 6:41 am
โดย ลุงขวด
ผมไม่ได้สับสนอะไรมากเท่าไหร่ เพราะ ผมคิดว่า ภาพใหญ่ของตลาด คือ การต่อสู้ระหว่างสถาบัน กับ ต่างชาติ............หุ้นจะขึ้นหรือ ลง อยู่ กับ 2 กลุ่มนี้ ส่วนรายย่อย จะ เข้าไปช่วยกลุ่มไหน ก็ เลือก กัน ไป.........ผม ถึงแม้ เป็นรายย่อย ผม เลือก กลุ่มไม่มีสภาพคล่อง ไม่มี ฝรั่ง และ สถาบันถือ ..... ผมจึงไม่สับสนกับ การลงทุน มากนัก
ถึงแม้ ว่า หุ้น ที่ผม ถือ ขณะนี้ ยอมรับ ว่า แพ้ ดัชนีตลาด ไม่สามารถ ขยับขึ้นได้......เพราะ ถูกทิ้งออกมา บ้าง ตั้งแต่ต้นปี ดัชนีตลาด -15.96 % แต่หุ้นที่ผมถือ -19.77% แสดงถึง มีการทิ้งหุ้นปันผล ไป เล่นหุ้นตลาดมากขึ้น.....ผมหันมาดูปันผลที่ได้รับ ของหุ้นที่ถืออยู่ มัน ก็ เท่าเดิม หรือ มากขึ้นอีกด้วย......แล้วจะไป กังวล กับราคาที่ลดลงทำไม สิ่งที่น่ากังวลคือ ราคาลดลงแล้วไม่มีเงินจะซื้อนี่ แหละครับ ทำให้เสียอารมณ์.......เพราะปีนี้และปีหน้า ผมจะเอาเงินปันผล ไป ลงทุนในการซื้อห้องชุด และ ที่ดิน หาความสุขใส่ตัว ยาม ชราภาพ ..... หุ้นมันมีมากพอแล้ว พอที่จะทำงานหารายได้ให้ผมแทนได้แล้ว
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 23, 2004 8:50 am
โดย Dech
หุ้นมันมีมากพอแล้ว พอที่จะทำงานหารายได้ให้ผมแทนได้แล้ว
อีกกี่ปี จึงจะทำได้แบบลุงขวด
สู้ต่อไป....สักวันหนึ่ง....คอยดู
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 23, 2004 11:33 am
โดย ปรัชญา
ลุงขวด เขียน:ผมไม่ได้สับสนอะไรมากเท่าไหร่ เพราะ ผมคิดว่า ภาพใหญ่ของตลาด คือ การต่อสู้ระหว่างสถาบัน กับ ต่างชาติ............หุ้นจะขึ้นหรือ ลง อยู่ กับ 2 กลุ่มนี้ ส่วนรายย่อย จะ เข้าไปช่วยกลุ่มไหน ก็ เลือก กัน ไป.........ผม ถึงแม้ เป็นรายย่อย ผม เลือก กลุ่มไม่มีสภาพคล่อง ไม่มี ฝรั่ง และ สถาบันถือ ..... ผมจึงไม่สับสนกับ การลงทุน มากนัก
ถึงแม้ ว่า หุ้น ที่ผม ถือ ขณะนี้ ยอมรับ ว่า แพ้ ดัชนีตลาด ไม่สามารถ ขยับขึ้นได้......เพราะ ถูกทิ้งออกมา บ้าง ตั้งแต่ต้นปี ดัชนีตลาด -15.96 % แต่หุ้นที่ผมถือ -19.77% แสดงถึง มีการทิ้งหุ้นปันผล ไป เล่นหุ้นตลาดมากขึ้น.....ผมหันมาดูปันผลที่ได้รับ ของหุ้นที่ถืออยู่ มัน ก็ เท่าเดิม หรือ มากขึ้นอีกด้วย......แล้วจะไป กังวล กับราคาที่ลดลงทำไม สิ่งที่น่ากังวลคือ ราคาลดลงแล้วไม่มีเงินจะซื้อนี่ แหละครับ ทำให้เสียอารมณ์.......เพราะปีนี้และปีหน้า ผมจะเอาเงินปันผล ไป ลงทุนในการซื้อห้องชุด และ ที่ดิน หาความสุขใส่ตัว ยาม ชราภาพ ..... หุ้นมันมีมากพอแล้ว พอที่จะทำงานหารายได้ให้ผมแทนได้แล้ว
เห็นลุงมีคอนโดให้เขาเช่า
เก็บค่าเช่าได้ทุกเดือนอยู่แล้วนี่ครับ
ไร่ที่จันทบุรี
ว่างๆชาวทีวีไอ น่าไปจัดมีสติ้งที่ไร่ของลุงนะ
ชมสวนผลไม้ของลุงขวดครับ
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: เสาร์ ต.ค. 23, 2004 4:49 pm
โดย moo
ขอบคุณพี่ปรัชญาอีกครั้งครับสำหรับกระทู้นี้
กลับมาอ่านอีกที
ขอบคุณลุงขวดด้วยครับ
หลายๆคนอยากเป็นอย่างลุงขวด
ยึดถือเป็นแนวทาง สำหรับวางแผนชีวิตได้เลยครับ

ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 24, 2004 1:38 am
โดย Jeng
อะไรคือความสับสน อะไรคือการลองผิดลองถูก อะไรคือความคิดก้าวหน้า
ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีเล่น แล้วขาดทุน ก็กลายเป็นไดโนเสา
ถ้าเปลี่ยนวิธีเล่นแล้วขาดทุน ก็กลายเป็นไม่มีหลักการ(เล่นแบบเดิมได้กำไร เปลี่ยนทำไม)
ผมว่าผมเล่นแบบ VI กำไร เล่นแบบเก็งกำไร ขาดทุน ผมไม่เห็นสับสนเลย มันเห็นๆอยู่ว่าเล่นแบบไหนได้อะไร(สำหรับผม)
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ไปเก็งกำไร ไม่มีทางรู้เลยว่าเมืองไทย นี่เมืองการพนันชัดๆ
อิอิ
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ ต.ค. 24, 2004 2:07 am
โดย akekarat
เมื่อ 5-6 เดือนก่อน ผมดู CPI เอาไว้ ที่ราคา 5 บาทพอดี หลังจากอ่านงบการเงิน และหมายเหตุประกอบ วิเคราะห์อยู่นานสองนาน ก็พอมั่นใจว่า น่าจะเป็นตัวที่ดีตัวนึง ติดข้อเสียอยู่ไม่กี่อย่างในเรื่องที่เคยได้ยินมาเกี่ยวกับตลาดน้ำมันปาล์มในมาเลเซียกับการเปิดเสรีการค้า อีกทั้งความนิ่งของเจ้าหุ้นตัวนี้ (ถึงแม้ว่าหุ้น VI ของหลาย ๆ ท่านจะนิ่งกว่าเยอะ) และเรื่องไม่มีเงิน (เพราะเอาไปซื้อตัวหลักอย่าง RATCH, WG, EGCOMP หมด ทำให้ผมเก็บ CPI ได้เพียง 9,000 หุ้นที่ประมาณ 5.25 บาท .....
เวลาผ่านไปไม่นาน ตัวอื่นขึ้น ๆ ลง ๆ แต่เจ้าตัวนี้ยังนิ่งอยู่เหมือนเดิม วัน ๆ ขึ้น ๆ ลง ๆ ทีละสเต็ป ความอึดขาดช่วง ทำให้ผมตัดสินใจขายไปที่ 5.6 ขอกำไรมาเป็นข้าวเย็นมื้อสองมื้อ ....
วันนี้ มันมาที่ 6 บาทแล้ว ..... ผมก็ได้แต่คิด "รู้งี้" อัดซัก 30,000 หุ้นไปเลยดีกว่า ดั้นเอาเงินไปซื้อ RATCH ซะฉิบ ... เฮ้อ
ก็เลยตัดใจครับ ซื้อมาอีกที ที่ 5.9 กะว่าจะเก็บสะสมเพิ่มไปเรื่อย ๆ ตราบเท่าที่มีเงิน และราคายังไม่ถึงเป้าหมาย
เผื่อบางที จะได้ร้อง " ku ว่าแล้ว" ว่ามันต้องขึ้น กะเค้าบ้าง
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ช้าแต่ชัวร์ดีกว่าเยอะ ไม่เสียเวลาด้วย
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: จันทร์ ต.ค. 25, 2004 11:06 pm
โดย -ลูกอีสาน
คุณเอกรัตน์คาดว่าปันผลของ CPI ปีนี้จะให้เท่าไหร่ครับ
หรือกำไรไตรมาสที่เหลือจะเป็นอย่างไรบ้างครับ
เรื่องขยายกำลังการผลิต ไม่ทราบว่าเริ่มดำเนินการหรือยังครับ
ผมสนใจอยากจะลองศึกษา CPI ด้วยคนครับ
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 26, 2004 12:56 am
โดย akekarat
-ลูกอีสาน เขียน:คุณเอกรัตน์คาดว่าปันผลของ CPI ปีนี้จะให้เท่าไหร่ครับ
หรือกำไรไตรมาสที่เหลือจะเป็นอย่างไรบ้างครับ
เรื่องขยายกำลังการผลิต ไม่ทราบว่าเริ่มดำเนินการหรือยังครับ
ผมสนใจอยากจะลองศึกษา CPI ด้วยคนครับ
อันนี้ผมไม่ทราบเหมือนกันนะครับว่าผลปีนี้จะได้เท่าไหร่ เพราะจริง ๆ แล้วผมไม่มีความรู้เบื้องลึกเรื่องอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มเลย แถมเอกสารอื่น ๆ ผมก็เหมือน ๆ กับทุกท่านแหละครับคือ หาจากใน internet เอาเท่านั้น คงไม่มีเวลาไปเยี่ยมชมสวนปาล์มถึงชุมพร อันนั้นขอถอดใจ แต่สิ่งที่ผมคิดคือ กำไรหลังหักภาษีไม่น่าจะต่ำกว่า 0.75 บาท ต่อหุ้น ซึ่ง ณ ราคานี้ ( 6 บาท ) กับปันผลที่ผ่าน ๆ มา ( ประมาณ 0.45 บาทต่อหุ้น ) ถ้าไม่พอใจก็ไม่รู้จะไปพอใจอะไรแล้วล่ะครับ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ที่กำไรมีโอกาสขึ้นไปสูงกว่าระดับ 1 บาท ต่อหุ้น ตามเงื่อนไขการปันผล ถ้าปีนี้จะได้ 0.5 บาทต่อหุ้น ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะไตรมาศ 3-4 ของปีนี้ก็น่าจะเหมือน ๆ กับปีที่แล้ว แต่ที่แตกต่างคือ ปีที่แล้ว Q1 ขาดทุน (ไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลเรื่องขาดแคลนวัตถุดิบตามรายงาน 56-1 หรือเปล่า) แต่ปีนี้ กำไร เลยทำให้เกิดผลต่างที่พอสมควรเหมือนกัน (ประมาณ 0.25 บาท ต่อหุ้น)
เรื่องขยายกำลังการผลิต ตามรายงานเมื่อประมาณปลายเดือนเมษา เห็นว่าเค้าอนุมัติแล้ว และจะเริ่มหลังจากนั้นประมาณ 4 เดือน ซึ่งก็ควรจะเริ่มแล้ว (ปลายสิงหาคม) ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ข้อมูลนั้นน่าจะมีในรายงานไตรมาศ 3 มั๊งครับ
ข้อดีของ CPI ก็อย่างที่รู้ ๆ กันอยู่ครับ แต่ข้อเสียไม่กี่อย่างก็คือ
- อยู่ในอุตสาหกรรมที่ไม่เป็นที่นิยม (ของ brokers และนักวิเคราะห์)
- จะเกิดปัญหาสินค้าของมาเลย์ อินโดต้นทุนถูกกว่า ถ้ามีการเปิดเสรี AFTA อะไรซักอย่าง (อันนี้ผมไม่ทราบรายละเอียด)
- ต้นทุนขนส่ง ในกรณีลอยตัวน้ำมันดีเซล (อันนี้ไม่ทราบว่าจะเกิดเปล่า)
- น่าจะมีอีก แต่ผมก็ไม่ทราบมากมายอะไรหรอกครับ
แต่จะว่าไป ผมคิดว่า UVAN กับ UPOIC ก็น่าสนใจเหมือนกันนะ ผมกะว่าจะซื้อ UPOIC กับ CPI เก็บไว้อย่างละครึ่งของต้นทุนที่จะมาลงในกลุ่มนี้ ข้อเสียของ UPOIC น่าจะเป็นเรื่อง capital gain ที่อาจจะหวังไม่ได้เลยกับตัวนี้ ทำให้ CPI และ UVAN ได้เปรียบในจุดนี้มั๊งครับ
ผมมองดูรู้สึก ว่า...
โพสต์แล้ว: อังคาร ต.ค. 26, 2004 9:46 am
โดย ลูกอิสาน
ถ้าปันผลได้ปีนี้ 1 บาทก็จะดีมากครับ
แต่ที่ผมเป็นห่วงคือปีนี้ผลปาล์มมีน้อย ทำให้ราคาทะลายปาล์มสูง
น้ำมันปาล์มดิบซึ่งเป็นวัตถุดิบของ CPI ก็พลอยสูงไปด้วย
แต่ราคาน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์อาจจะไม่สามารถปรับราคาได้เท่าซิครับ
คงต้องจับตาไตรมาส 3 และ 4 ให้ดีครับ
แต่ CPI ก็มีสวนของบริษัทเองถึงประมาณ 20,000 ไร่ ซึ่งมีผลผลิตปาล์มสด
ต้นทุนต่ำกว่า คงช่วยลดผลกระทบได้บ้าง และน่าจะได้เปรียบ UVAN UPOIC ซึ่งประมาณครึ่งนึงของพื้นที่ปลูกปาล์มเป็นสัมปทาน ซึ่งคงมีปัญหาในการต่อสัญญาแน่ๆครับ ในอีกประมาณ 9-10 ปีข้างหน้า