Thai VI

พยุงราคาน้ำมัน

การพยุงราคาน้ำมัน โดยรัฐบาลใช้งบประมาณแผ่นดินเข้าไปอุ้มราคา
ทำให้ต้นทุนในการผลิตผลการเกษตกรต่ำลง
เพราะรถที่ใช้ขนสินค้า เครื่องดูดน้ำ เครื่องพ่นยาฆ่าแมลง เขาใช้น้ำมันดีเซล
ค่ารถทัวร์ รถเมล์ บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่
ยังไม่ปรับราคาแต่ถ้าน้ำมันขึ้นคงต้องปรับราคา

ชาวประมงคงลำบากถ้าน้ำมันดีเซลปรับขึ้น

รถบรรทุกอ้อยไปโรงงานน้ำตาล
ราคาน้ำมันยังคงยันการขึ้นราคาได้ระดับหนึ่ง
ไม่งั้นน้ำอัดลมต้องขึ้นราคา

รถบรรทุกสินค้าจากส่วนกลางออกสู่ภูมิภาคจะปรับตัวขึ้นได้ถ้าน้ำมันขึ้นราคา
ค่าการตลาดขนน้ำมันก็จะปรับ
ก๊าซหุงต้มก็คงต้องปรับมากกว่าปัจจุบันถ้ารัฐไม่อุ้ม
ราคาก๋วยเตียว-ข้าวราดแกง-ของใช้จิปาถะก็ต้องปรับราคาขึ้น

เป็นการเลี๊ยงไข้ให้ตายช้าๆเท่าที่การเลือกตั้งจะมาถึง
กลัวคณะนิยม กระแสจะตก

(เอ้าไปว่าเขาอีกแร้ว-เดี๋ยวโกรธตัวนะยะ)
และรัฐยังอุ้มสาระพัดที่จะอุ้ม

ผมเรียกเตี้ยอุ้มค่อม

ผมว่าท่านอดทนได้แค่นี้ก็เก่งนะ
ใครบ้างโดนด่าขนาดนี้แล้วไม่ตอบโต้

ผมว่าประเทศเราจะไปข้างหน้าต้องมี
ผู้นำเก่งๆที่ยอมเสียสละมาทำงานให้
แบบนี้ใครจะกล้ามา
ลองคิดดู ผมว่าท่านไม่จำเป็นต้องมา
กอบโกยแล้วนะ
อีกฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามถ้าได้มาแล้วน่า
กลัวกว่าเยอะ

ทักษิณก็มีประชาชนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยกับบางโครงการ , บางแนวคิด , การกระทำ

แต่ตอนนี้คนที่จะมาเป็นนายกยังไม่มีใครดีกว่า ทักษิณ ครับ ยังมองไม่เห็น

ท่าลิ?อุ้มแตงด้วยหรือเปล่า อิอิอิ :lol:

ด้านเศรษฐกิจ ดีครับ ผมไม่เถียงว่าเป็นนายกที่เก่งที่สุดตั้งแต่เราเคยมีมา

ถ้าด้านสังคมและการพัฒนาคุณภาพชีวิต... ถ้ามองว่าคุณภาพชีวิตคือ
ความฟุ้งเฟ้อและการมีมือถือใช้ทุกครัวเรือน ก็ดีอีกครับ เห็นด้วยว่าดีขึ้น

ดีสำหรับชาวบ้านทุกคนครับ เห็นด้วยครับ

แต่ตอนนี้ สปสช. ยังติดหนี้หลายโรงพยาบาลเป็นร้อยล้าน
รพ.หลาย รพ. มีปัญหากระแสเงินสด + งบดุล เพราะ สปสช.ไม่ยอมจ่ายเงินให้ รพ.
เวลานี้ สปสช. ยังไม่ยอมจ่ายทดแทนค่ารักษาสำหรับการรักษาบางประเภทที่ถือเป็นการรักษามาตรฐานในโรคนั้น ๆ ในปัจจุบัน

ผมเพิ่งโดนมากับตัวเอง ผมเป็นหมอหัวใจอยู่ศูนย์หัวใจสิริกิติ์นี่แหละครับ
คนไข้เป็นเส้นเลือดหัวใจตันไปเส้นหนึ่ง ต้องขยายบอลลูน และวางขดลวดค้ำไว้ไม่ให้มันตีบใหม่
แต่ปัจจุบัน สปสช. ยังไม่ยอมจ่ายค่าขดลวดให้ รพ. ซึ่งมันอันละสามสี่หมื่นบาท
คือไม่ทำก็เท่ากับไม่ได้ให้สิ่งที่ดีที่สุดกับคนป่วย แต่ถ้าทำ รพ.ก็ชักเนื้อ เลือดสาด (ไม่ใช่ซิบ ๆ)
ตอนแรกถามญาติ บอกจะยอมจ่ายเพิ่ม ก็เลยใส่ไป ถึงเวลาให้กลับบ้าน โทรไปฟ้อง สปสช. รพ. ผมก็ซวยสิครับ สปสช. บอก หลักการคือ ยังไงคนไข้ต้องจ่าย 30 บาท คุณอยากใส่ stent มันก็เรื่องของคุณ
ถามว่าเพื่อมนุษยธรรมแต่ทำตัวเป็นม้าอารี ขาดทุนทีละสามหมื่นสี่หมื่นแบบนี้ ใครจะอยากทำครับ

นอกจากนี้การให้สิทธิผู้ป่วยมากเกินไป ทำให้เกิดการส่งตัวเพื่อตรวจพิเศษทางห้องปฏิบัติการที่ไม่เหมาะสม จะไม่ส่งก็ไปโวยวาย จะฟ้องโน่นนี่
วันนี้ก็เพิ่งเจอมารายหนึ่ง อาการ typical สำหรับโรคประสาทเลยครับ
ใจสั่น ตกใจง่าย เหนื่อยง่าย แต่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงโรคหัวใจสักข้อ กินยามานานไม่หาย
รพ.อำเภอตรวจเอ็กซเรย์ปอด ตรวจคลื่นหัวใจ เจาะดูฮอร์โมนธัยรอยด์ ปกติทุกอย่าง
แนะนำแล้ว แต่โวยวายจะมาตรวจโรคหัวใจให้ได้ ทั้งๆที่ข้อมูลขนาดนั้นมันพอแล้วที่จะบอกว่าปกติ
แล้วมันสมควรหรือครับที่ รพ.อำเภอต้องมารับภาระค่าตรวจ echo 2-3000 บาท ทั้งที่ไม่มีความจำเป็นเลยแม้แต่นิดเดียว

เรื่องนี้ฟังมาจากคนอื่น
ญาติเลขา รมต.คนหนึ่ง (ขึ้นมาอย่างนี้ก็ต้องรวยอยู่แล้ว) เป็นโรคหัวใจ
ตอนแรกไปรพ.เอกชน หมอบอกต้องผ่าตัด เลยจะไปขอใช้ 30 บาท รพ.รัฐ
คิดดูละกันครับ บอกว่ามีที่ชายทะเลทุกจังหวัดภาคใต้ แต่จะขอใช้สามสิบบาท
สอบถามไป รพ.รัฐ ที่ขึ้นชื่อเรื่องโรคหัวใจ ปรากฏว่าไม่มีเตียง
พ่อโทรไปว้าก ผอ.เองเลย บอก "เมื่อไหร่จะได้เตียง" แต่ย้ำอีกที ใช้สิทธิสามสิบบาท

ผมไม่เถียงเลยครับว่ามันดี 30 บาทเนี่ย
ทำไมผมจะไม่สงสารคนไข้จน ๆ ผมชอบรักษาคนจนมากกว่าคนรวยด้วยซ้ำ ไม่งั้นผมไม่ลาออกจากที่เก่าที่ได้เงินหกหลัก มารับเงินห้าหลักอย่างทุกวันนี้หรอก
แต่ระบบ 30 บาททุกวันนี้มันยังมีช่องโหว่หลายอย่างมากครับ
มีปัญญาคิดเรื่องขึ้นทะเบียนคนจน มี criteria ชัดเจน ทำไมไม่เอามาใช้กับสามสิบบาทนี่บ้าง
คนมีเงินพอจ่ายก็จ่ายไป ไม่ใช่รวยล้นฟ้า แต่มาใช้สามสิบบาท แถมเบ่งอีก

ผมเห็นด้วยกับพี่ปรัชญาเรื่องนโยบาย 30 บาท ว่าช่วยเหลือคนจนได้มากนะครับ แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไม แต่ละนโยบายจึงเน้นช่วยเหลืแต่คนจนละครับ ผมว่าคนชนชั้นกลางที่พอมีฐานะ แต่ก็ไม่ได้ร่ำรวยมากก็มีเยอะนะครับ ยกตัวอย่างเช่น การออกนโยบายที่เกี่ยวกับการให้ทุนนักเรียน 1 อำเภอ 1 ทุน ไปศึกษาต่อต่างประเทศ ผมคิดว่ายังมีนักศึกษาที่เป็นคนที่บ้านพอมีฐานะ แต่ก็ไม่ได้มีเงินพอส่งลูกไปต่างประเทศ ทำไมถึงไม่มีสิทธิ์บ้างละครับ

Dr.T เป็นหมอคนแรกที่ผมได้ยินว่า นโยบาย 30 บาท เป็นเรื่องดี ทำไมหมอที่เหลือตามข่าวสื่อต่างๆถึงได้ต่อต้านกันนัก ผมยังเคยคุยกับหมอที่เป็นเพื่อนกันเรื่องนี้ แล้วก็บอกว่าเป็นนโยบายที่แย่มาก ไม่มีทางเป็นไปได้ในทุกเรื่อง ผมแย้งไปว่าก่อนมีนโยบายนี้ ก็มี 40บาทรักษาทุกโรคมาก่อน โดยไม่ได้เป็นเรื่องนโยบายจากรัฐแต่เป็นเรื่องของโรงพยาบาลหนึ่งที่ทำแล้วก็อยู่ได้ก็คือโรงพยาบาลบ้านแพ้ว แต่สรุปสุดท้ายก็ต้องเลิกคุยกลัวเสียความสัมพันธ์

หลักการมันดีครับ และผมก็ไม่ใช่คนเดียว เพื่อนผมก็ยังบอกว่าหลักการมันดี
แต่เอาเข้าจริง รัฐไม่มีปัญญาจ่ายเงินทดแทนให้ รพ.
และเรื่องอื่น ๆ ที่พ่วงมาด้วย อย่างเรื่องให้สิทธิผู้ป่วยแบบเกินขอบเขต
เอะอะก็ฟ้องหมอ บีบหมอให้ส่งตัวไปตรวจแพง ๆ รักษาไกล ๆ ทั้งที่ไม่มีความจำเป็น กำนัน/ผญบ. หัวคะแนน ทรท. นี่ตัวแสบสุด ๆ เลยละ
ทำให้หมอไม่ชอบนโยบาย 30 บาท
ถ้าส่งตัวไปแบบมีข้อบ่งชี้พร้อม จ่ายเงินทดแทนแบบรวดเร็ว ครอบคลุมทุกการรักษามาตรฐานในแต่ละโรคไม่ว่าจะแพงแค่ไหน ไม่ปล่อยให้ รพ.ชักหน้าไม่ถึงหลัง หมอที่ไหนจะไม่อยากส่งต่อละครับ หมอ รพ.รัฐไม่มีใครอยากเลี้ยงไข้หรอก รับรอง
รักษาให้หาย ๆ ไป จะได้ไม่ต้องมา follow up เต็มโอพีดี ไม่ต้องมาด้วยภาวะแทรกซ้อนหนัก ๆ ตอนดึก ๆ ให้ถูกตาม จะได้พักผ่อนบ้าง รับเคสหนัก ๆ เท่าที่จำเป็น
พอไม่จ่ายเงิน ผู้บริหาร รพ. ก็ตาเหลือกสิครับ รายจ่ายของ รพ. มันน้อยอยู่เมื่อไหร่
แล้วก็เลยพาลไม่ส่งตัว พยายามรักษาตามมีตามเกิด พอคนไข้แย่ขึ้นมา เอาไม่ไหว ถูกฟ้องอีก

ถามว่าไม่ให้สิทธิขนาดนี้ หมอทำ malpractice แล้วฟ้องได้ไหม ก็ได้อยู่แล้ว ข่าวมีออกบ่อย
ชาวบ้านดี ๆ มีเยอะมาก ๆ ครับ แต่พวกที่นิสัยเสียส่วนน้อยนิดนี่ พอมีนโยบายแบบนี้ พวกเลยได้ใจ ค้ากำไรเกินควรกันใหญ่

Dr.T เขียน:
ผมเพิ่งโดนมากับตัวเอง ผมเป็นหมอหัวใจอยู่ศูนย์หัวใจสิริกิติ์นี่แหละครับ

ถ้าคุณ Dr.T อยู่ รพ.ศรีนครินทร์ ขอนแก่น
น่าจะรู้จัก อาจารย์ลุค ที่เวปพันธ์ทิพย์นะครับ
เป็นอาจารย์คณะวิศวกรรมศาสตร์คอมพิวเตอร์

ในศูนย์หัวใจสิริกิติ์ มีรูปสมเด็จพระนางเจ้าฯถือพวงมาลัยรูปใหญ่ที่สุด
ผลิตจากผมส่งไปครับ รูปเกือบเท่าไม้อัดใหญ่เท่าตัวจริงนะครับ
ผ่านมาทางคนที่ประมูลมาทั้งรูปทั้งกรอบรูป1แสนบาทครับ
มองรูปนั้นคิดถึงผมบ้างเคลือบด้วยฝีมือผมเอง


(ขี้คุยสักหน่อยแต่เรื่องจริงครับ)

30 บาทยังทางไกลครับ ต้องปรับแก้กันไปเรื่อยๆ
อยากให้รัฐยึดหลักนี้ต่อไปครับ
เพียงแต่ต้องปรับเรื่องงบประมาณ ให้เป็นจริงมากขึ้นครับ

การแพทย์เชิงรุก (เรื่องออกกำลัง รักษาสุขภาพ) ต้องทำมากขึ้น
จะได้ลดภาระ 30 บาทลง (ดีกว่ารัฐบาลก่อนหน้านี้นะครับ ไม่ทำอะไรเลย)

ให้กำลังใจ Dr.T ด้วยครับ
หมอที่ยังทำงานอยู่โรงพยาบาลรัฐ
น่ายกย่องครับ เพราะโรงพยาบาลเอกชน รายได้ยั่วใจเหลือเกิน
(และแพงมากด้วยครับ ในสายตาคนรายได้ไม่มากอย่างผม)

เรื่องน้ำมัน อยากให้อุ้มแบบขั้นบันได ยังดีกว่าอุ้มดีเซลสุดโต่งแบบนี้ครับ

ผมเห็นเรื่องยาบ้า นี่ ผลงานชิ้นเอกเลยนะครับ
ถึงแม้จะไม่หมดไปเลย แต่คนเมายาบ้าจี้เด็ก ผู้หญิง
หายไปจากหน้าหนังสือพิมพ์เป็นปีแล้วนะครับ

เศรษฐกิจ การค้า การต่างประเทศ
รวมๆ แล้ว มันกว่ารัฐบาลก่อนหน้านี้หลายชุด

เรื่องโกง จริงๆ มีทุกรัฐบาล แต่ต้องปราบ หรือกำหราบให้ยำเกรงบ้าง
ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย

มองแบบเป็นกลางๆ ผมว่ามีลุ้นที่จะดันประเทศไปข้างหน้าเหมือนกัน
ถ้าไม่ระเบิดอารมณ์บ่อยๆ เล่นพรรคพวกมากไป
และพูดน้อยๆ ทำมากๆ จะดีครับ

ในศูนย์หัวใจสิริกิติ์ มีรูปสมเด็จพระนางเจ้าฯถือพวงมาลัยรูปใหญ่ที่สุด
ผลิตจากผมส่งไปครับ รูปเกือบเท่าไม้อัดใหญ่เท่าตัวจริงนะครับ
ผ่านมาทางคนที่ประมูลมาทั้งรูปทั้งกรอบรูป1แสนบาทครับ
มองรูปนั้นคิดถึงผมบ้างเคลือบด้วยฝีมือผมเอง

โอ้เหรอครับ
ผมต้องเห็นทุกวันอยู่แล้วครับมันอยู่บนฝ่ายการแพทย์ซึ่งเป้นออฟฟิศผม

เข้าใจ Dr. T มากๆ เลยค่ะ
น้องสาวดิฉันก็มีอาชีพเดียวกันค่ะ เพิ่งใช้ทุนหมดปีนี้ ตอนนี้กำลังเรียนฝังเข็มอยู่ที่หัวเฉียว ได้ทุนของโรงพยาบาลเสนาจังหวัดอยุธยาที่เค้าทำงานอยู่ค่ะ

ตลอดระยะเวลาที่ใช้ทุนอยู่ น้องสาวโทรศัพท์มาร้องไห้บ่อยๆ ว่าไม่ไหวแล้ว อยากลาออก ขอลาออกได้มั้ย... เพื่อนๆ ก็ลาออกไปหมดแล้ว เหลือเค้าคนเดียว ยิ่งอยู่รพ.ชุมชนเล็กๆ ยิ่งงานหนักมาก...ปัญหาที่เล่า นอกจากเรื่องเพื่อนร่วมงานซึ่งดิฉันถือว่าเป็นเรื่องปกติ ใครทำอาชีพอะไรก็จะเจออยู่แล้ว มีปัญหานึงที่น้องสาวเล่าเสมอ ๆ คือ ปัญหา 30 บาท รักษาทุกโรค เช่น เจอคนไข้ไม่พอใจที่ตรวจน้อยหรือจ่ายยาน้อย โดยเข้าใจว่า รักษา 30 บาท ทำให้การรักษาไม่ได้มาตรฐาน (น้องสาวบอกว่า ตรวจดูแล้วไม่เห็นจำเป็นต้องกินยาอะไรมากเลย คนไข้รถแฉลบมา มีแผลตื้นๆ นิดหน่อย ทำแผลเสร็จก็จ่ายเฉพาะยาแก้ปวด ไว้กินถ้ารู้สึกปวด แต่แม่ของคนไข้โวย ว่าหมอใหม่รักษา 30 บาท จ่ายยาไม่ครบ ทวงว่าทำไมไม่ให้ยาแก้อักเสบด้วย เดี่ยวแผลอักเสบล่ะจะว่าไง ก็เดินไปหาโต๊ะหมอใหญ่(ผอ.) หมอใหญ่ก็แจกยาให้... หรืออีกตัวอย่างคือ ป้าแก่ๆคนหนึ่งเป็นชาวบ้านแถบนั้น ชอบมาโรงพยาบาลเรื่อย ขอยากิน วันนึงได้ตรวจกับน้องสาวของดิฉัน เลยจ่ายเฉพาะไวตามินรวมไปอย่างเดียว(คนแก่ไม่ได้เป็นอะไร แต่อยากกินยา) แต่ป้าแกโวยว่าหมอจ่ายยาไม่ครบ เค้าบอกว่าหมอใหญ่จ่ายให้ตั้งสามสี่ซอง หมอคนนี้ทำไมให้ซองเดียว แล้วขอพบหมอใหญ่จ่ายให้ทุกไวตามินเลยมีหลายซอง..

...เข้าใจทั้งน้องสาวและหมอใหญ่

น้องสาวจบใหม่ ยึดตามหลักวิชาการว่า จ่ายยาเท่าที่จำเป็น รักษาเท่าที่ควรรักษา ส่วนหมอใหญ่ เค้าคงเข้าใจชาวบ้าวแถบนั้นดี หากไม่ให้จะวุ่นวายกันใหญ่ (หรืออยากจ่ายยาเยอะๆ เพราะทำเป้ากับบริษัทยาอยู่ก็ไม่รู้นะคะ)

สำหรับคำแนะนำที่ดิฉันคอยปลอบน้องสาวตลอดว่าไม่ให้ลาออก ก็คือ ให้เค้าแทนคุณแผ่นดิน นอกจากพระคุณของพ่อแม่แล้ว แผ่นดินนี้ที่เราอาศัยอย่างสุขสบาย เราควรทดแทน การทำงานไม่ว่าอาชีพอะไรย่อมมีอุปสรรคเสมอ แต่อาชีพหมอ หรือข้าราชการนั้นเป็นอาชีพที่แทนคุณแผ่นดินได้ชัดเจนที่สุด(ข้าราชการที่ซื่อสัตย์และขยัน) ครอบครัวของดิฉันก็มีน้องสาวคนเดียวเท่านั้นที่รับราชการ ก็หวังว่าเค้าจะอดทนต่ออุปสรรคต่างๆ และทำงานด้วยความตั้งใจ (เงินเดือนของรพ.เอกชน มันล่อใจหมอจบใหม่เหลือเกิน ไหนจะโปรโมรชันรถใหม่ทั้งนำเข้าและในประเทศ ที่ไม่ต้องดาว์น อภิสิทธิ์เฉพาะคุณหมอทั้งหลาย จ่ายเงินงวดแรกตั้งแต่ไม่กี่พันจนถึงไม่กี่หมื่นก็ถอยได้เลย)
นอกจากนี้ ยังอธิบายให้น้องสาวเข้าใจถึงระบบ 30 บาท (เค้าไม่ชอบนโยบายนี้มากเลย) ว่ามีทั้งส่วนดีและเสีย ส่วนดีที่มีประโยชน์กับคนก็มีมาก (คนจนที่เป็นมะเร็ง หรือต้องรักษาอะไรแพงๆ จะเห็นชัด) ส่วนเสียนั้น ส่วนใหญ่มาจาก Moral Hazard คนไทยส่วนนึงมักไม่ค่อยมีจิตสำนึกที่ดี เหมือนตัวอย่างที่ Dr.T เล่า รวยแล้วยังงกอีก ทีเมื่อก่อนไม่มี 30 บาท ก็ไปซื้อประกันสุขภาพแพงๆ เข้าโรงพยาบาลดีๆ ยังซื้อได้ ตอนนี้ดันเป็นงก ไม่ยอมเสียทั้งๆ ที่มีศักยภาพพอที่จะจ่าย มาเบียดเบียนงบของในส่วนของคนจน
หรือการประกันภัยต่างๆ ถึงขนาดได้ยินบ่อยๆ ว่า ขับรถ ชนไปเถอะ เดี๋ยวประกันมันก็ซ่อมให้ เสียค่าประกันไปแล้วนี่....แทนที่จะขับกันระวังๆ ก็ประมาทกันซะ... เป็นต้น

ดิฉันก็ได้แต่ขอให้เค้าอดทน ประเทศเรากำลังพัฒนาๆ ช่วงการเปลี่ยนแปลงมันมักจะมีอะไรที่ยุ่งยากเสมอ รอให้ทั้งคนและระบบพัฒนาไปกว่านี้จะดีขึ้น
ส่วนตัวดิฉันก็หวังว่า นายกเค้าจะอยากทำให้ประเทศเราพัฒนาจริงๆ ไม่มีเจตนาแอบแฝง เพราะถ้าไม่ใช่นายกคนนี้แล้ว ยังไม่เห็นตัวแทนเลย แต่ก็เป็นหน้าที่ของเราอีกที่ต้องคอยตรวจสอบ....

ผ่านไปแล้ว ตอนนี้น้องสาวดิฉันยังเป็นข้าราชการอยู่ ดิฉันโล่งใจไปอีกเปลาะนึง หวังว่าเค้าจะไม่มีความคิดนั้นอีก เพราะดิฉันว่าให้หมอที่ใช้ทุนเสร็จแล้วลาออกมาทำงานส่วนตัวไว้เยอะ ไม่อยากให้น้องสาวเป็นอีกคน

ขอเป็นกำลังใจให้ข้าราชการที่ดีทุกคนค่ะ

สบายดีไหมครับ พี่ Dr.T

ขอนแก่นเมืองใหญ่กว่าจังหวัดตราด คนไข้น่าจะมากกว่ามากๆ ท่าทางงานจะหนักนะครับ ตอนผมใช้ทุนอยู่ ร้อยเอ็ด เข้าไปขอนแก่นทุนอาทิตย์เลยครับ อิอิ

ผมว่ารัฐบาลชุดนี้มีหัวหน้ารัฐบาลที่เข้าใจเศรษฐกิจดีกว่าหัวหน้ารัฐบาลชุดก่อนๆ เพราะมาจากภาคธุรกิจ ผมเองเชียร์รัฐบาลชุดนี้เต็มที่ แม้จะมีข้อบกพร่องเยอะเหมือนกัน เช่นการคอรัปชั่น และรัฐมนตรีน้ำเน่าเก่าๆ แต่ก็ยังอยากจะมีทางเลือกที่ดีกว่านี้อีก และแย่น้อยกว่านี้ คนเก่งๆดีๆที่เสียสละยังมีไม่มากพอนะ ไม่เหมือนหุ้นในตลาด หุ้นที่ผมอยากซื้อเพิ่มมีตั้งหลายตัว ซื้อจนตังหมดราคาก็ยังไม่ไปไหนเลย ดีจัง

รู้สึกว่าท่านที่อยู่ต่างจังหวัดหลายท่านจะเก่ง มีการศึกษา หรือมีระดับความรู้ที่ดี ก็ช่วยให้ไปบอกกล่าวคนในท้องถิ่นให้เลิกกากบาทเลือกคนเก่าๆเดิมๆ ที่เข้ามาแต่โกงกินครับ เบื่อ เลือกแม่งอยู่ได้คนเดิมๆ

นายกดีคนเดียว แต่รัฐมนตรีรองลงมา ก็หน้าเดิมๆมาเป็นสิบปี เพราะคนต่างจังหวัดยังคงกาเลือกแต่คนเดิมๆ ทำให้ต้องยอมเอาพวกนี้มา เพราะไม่งั้นก็ไม่ได้คะแนนเสียง ผมเข้าใจครับ ดังนั้นเลือกตั้งครั้งใหม่ ให้เลือกคนใหม่ๆ ไม่เอาคนเดิมนะครับ ถ้าคนเดิมดีอยู่แล้วก็ไม่เป็นไรครับ

คุณ buglife

มองแบบเป็นกลางๆ ผมว่ามีลุ้นที่จะดันประเทศไปข้างหน้าเหมือนกัน
ถ้าไม่ระเบิดอารมณ์บ่อยๆ เล่นพรรคพวกมากไป
และพูดน้อยๆ ทำมากๆ จะดีครับ

ใช่ครับ อยากให้เปลี่ยนแปลงตรงนี้
อยากให้มีคนดีๆอยู่ใกล้ท่านนายกให้มากๆ

แต่บางทีก็อดคิดไม่ได้ ถ้าสมมุติเราเป็นนายก เราจะทำอะไรได้ดีได้มากกว่าท่านนายกหรือ?

นโยบายที่ดี แต่ทำไม่ได้หรือไม่ตลอด
ไม่ต่างจากการหลอกลวง
Hidden agenda คือสิ่งที่ต้องระวัง
ยังไม่มีรัฐบาลไหนที่รับประกันได้ว่า
ประชาชนไทยตายอย่างน้อยวันละ
หนึ่งคนแน่นอน เหมือนปัจจุบันนี้

นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคดีจริงหรือครับ
ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจ เพราะข้องใจในแง่ผลประโยชน์ทับซ้อน
ที่ทุกวันนี้โรงพยาบาลเอกชนกำไรดีขึ้นมากตั้งแต่มีนโยบาย30บาท
อีกทั้งนายกก็มีโรงพยาบาลเป็นของตัวเอง และยังซื้อเพิ่มมาอีกเรื่อยๆ
เช่น รพ.พระราม9 รพ.พญาไท

ทำดีก็ควรได้รับสิ่งดีกลับไปเป็นเรื่องปกตินะครับ อย่าง 30 บาทรักษาทุกโรค ก็ดีสำหรับประชาชนจำนวนมากของประเทศ ใครจะว่าผลประโยชน์ทับซ้อนนั่นมันส่วนที่เขาคิดออกว่าจะหาประโยชน?อะไรจากช่องว่าง ถ้าคุณคิดออกคุณก็ทำดิไม่มีใครว่า ผมล่ะเบื่อไอ้พวกตามคนอื่นที่ฟังเขามาว่าผลประโยชน์ทับซ้อน คิดเองหน่อยครับ ง่ายๆทำดีได้ดี หรือคุณทำดีแล้วไม่อยากได้ดี ทุกอย่างล่ะครับมันมีช่องว่างในตัวของมันคุณต่างหากล่ะที่ไปคิดว่าเขาใช้อำนาจ หรือใช้ส่วนนี้เพื่อพวกพ้อง ถึงแม้มันจะจริง ถ้าประชาชนได้มันก็จบนี่ครับ อย่างการพยุงราคาน้ำมัน บ้างก็ว่าทำเพื่อพวกพ้องบ้าง ก็พวกเขาเป็นนายทุนหรือเจ้าของบริษัทใหญ่โต ก็ว่าไป แล้วมันไม่ได้ประโยชน์กับทุกคนหรือไงนะ ทักษิณจะรวยเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็เป็นไปดิถ้าประชาชนคนไทย98เปอร์เซ็นต์ได้รับสิ่งดีๆ ว่าไหม

ขอบพระคุณ คุณหมอDr.Tมากครับ

มีคนแบบคุณหมอมากๆสังคมดีขึ้นแน่ๆครับ

ขอให้มีความสุข+สุขภาพแข็งแรงครับ

VI พันธุ์ทาง เขียน:นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคดีจริงหรือครับ
ซึ่งผมก็ไม่แน่ใจ เพราะข้องใจในแง่ผลประโยชน์ทับซ้อน
ที่ทุกวันนี้โรงพยาบาลเอกชนกำไรดีขึ้นมากตั้งแต่มีนโยบาย30บาท
อีกทั้งนายกก็มีโรงพยาบาลเป็นของตัวเอง และยังซื้อเพิ่มมาอีกเรื่อยๆ
เช่น รพ.พระราม9 รพ.พญาไท

ถ้ามองแบบแง่ร้ายสุด ๆ นั่นอาจมีเบื้องหลังครับ
อาจจะมีการสั่งให้ชะลอการจ่ายเงินทดแทน รพ. ทำให้ รพ.ไม่สามารถรักษาได้เต็มที่
ซึ่งอาจจะมีการคาดการณ์ไว้แบบนี้แล้ว และคาดต่อไปว่าคนจะไม่พอใจ รพ.รัฐ ยอมหนีไปรักษา รพ.เอกชนมากขึ้น
แต่ รพ.เอกชนทุกโรงเหรอครับที่กำไรมากขึ้น ที่ทำงานเก่าผมที่นึงละที่ไม่ใช่ รพ.เอกชนจังหวัดข้างเคียงก็เหมือนกัน
แล้วอีกอย่าง ถ้าจะให้ประชาชน bad impression กับ รพ.รัฐ ทำไมให้สิทธิผู้ป่วยเกินขอบเขตขนาดนั้น ให้โวยวายได้ตามความพอใจ
แล้วทำไมยังมีเครือข่ายนักโกงเมือง ไปเบ่งเอาสามสิบบาท ทั้งที่มีปัญญาจ่ายเงิน รพ.เอกชน
ในความเห็นส่วนตัวผม กำไรของ รพ.เอกชนไม่เกี่ยวกับโครงการสามสิบบาทครับ

เพิ่งมีโอกาสไปทำบัตรประชาชนแบบใหม่...ที่จังหวัดระยอง...จริงๆแล้วทะเบียนบ้านอยู่ที่สมุทรปราการแต่เนื่องจากว่าระยองเป็นเมืองที่อากาศดีก็เลยมาอยู่เสียนาน....ว่าด้วยนโยบายใหม่ที่ว่าไม่ว่าท่านอยู่ที่ใด สามารถทำบัตรประชาชนได้ทันที .....ปรากฎว่าเข้าไปทำบัตรใช้เวลาแค่ 15 นาทีเท่านั้น แล้วรับบัตรได้เลย ที่สำคัญ บัตรรุ่นใหม่ที่ออกมามีรูปถ่ายที่ติดบัตรสวยกว่าตัวจริงอีกต่างหาก...รู้สึกปลื้มมากกับนโยบายปฏิรูปข้าราชการที่เกิดขึ้นในยุคนายกท่านทักษิณจริงๆ.....คนน้อยลง มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วทันใจ....

เอ บัตรประชาชนแบบแข็งนี่มันมีมาก่อนรบ.ชุดนี้ไม่ใช่หรือครับคุณ mey

ได้ยินว่าเริ่มตั้งแต่สมัยรบ.คุณชวลิตหรือบรรหารนี่แหละ

รุ่นใหม่มีเก็บลายนิ้วมือครับ

หนีไปไหนก็ไม่ได้ อีกหน่อยคงฝัง chip แทนบัตร (เหมือนอะไรหว่า)
หรือแสกนตาแบบ minority report

รุ่นที่มี smartcard ผมไม่ทำครับ ถ้าเลือกได้

มีแต่รัฐบาลเผด็จการครับที่บังคับให้ประชาชนทำบัตร
ที่มี smartcard

นี่เป็นหนึ่งสิ่งต้องห้ามของรบ.ประชาธิปไตยครับ เพราะ
ข้อมูลส่วนตัวทุกอย่าง ต้องเป็นส่วนตัวจริงๆ ไม่ใช่เอามา
เก็บไว้ใน smartcard ให้รัฐบาลหรือบริษัทเอกชนที่ได้รับ
สัมปะทานเอาไปใช้วิเคราะห์และทำการตลาด เช่นขาย
มือถือหรือปล่อยกู้ ฯลฯ

แต่ถ้าเช็ครอยนิ้วมือเวลาเกิดเหตุการณ์เหมือนภาคใต้ตอนนี้ก็น่าจะมีประโยชน์นะครับ

ผมก็ไม่ทำเหนือนกันถ้าเลือกได้ แต่ไม่ได้ไปฆ่าใครนะ 8) 8) 8)

.......ตอบคุณ CK
บัตรประชาชนรุ่นใหม่หมายถึงบัตรประชาชนแบบบัตร ATM ที่มีแถบแม่เหล็กอยู่ด้านหลังน่ะค่ะ มีการเก็บลายนิ้วมือด้วยแสงเลเซอร์ (แค่นิ้วหัวแม่มือซ้ายและขวาเท่านั้น) แล้วไม่ต้องกรอกข้อมูลอื่นใดให้ยุ่งยากอย่างแต่ก่อน เพียงแต่เซ็นต์ชื่อ ถ่ายรูปแล้วรอสักประเดี๋ยว ได้บัตรเลย...ถ้าจำไม่ผิดน่าจะอยู่ภายใต้การดูแลของนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี แล้ว งานนี้ไม่มีใบเหลืองค่ะ...

อยากบอกเพื่อนๆว่าเราคงไม่ต้องลางานกันเป็นครึ่งค่อนวันไปทำบัตรอย่างแต่ก่อนแล้ว ที่สำคัญเดี๋ยวนี้เค้าลดขั้นตอนไปเยอะ เราเพียงแต่นำสำเนาทะเบียนบ้านที่รับรองสำเนาถูกต้องพร้อมบัตรฯเก่า เท่านั้นก็ทำได้เลยแล้วข้อมูลลับเฉพาะแบบที่เพื่อนๆว่ากัน..คงต้องรุ่นใหม่กว่า...ที่ตามมา

......เห็นด้วยกับโครงการ 30บาทรักษาทุกโรค ที่คุณปรัชญาว่าดีจริงๆเพราะเป็นประโยชน์กับคนระดับรากหญ้า และขอให้กำลังใจ Dr.T ด้วยค่ะ งานผ่าตัดหัวใจแบบนี้ถ้าอยู่ ร.พ.วิชัยยุทธ ได้ครั้งละแสนบาทมั๊งคะ แต่เพื่อหัวใจคนยากไร้ ได้บุญได้กุศลค่ะ รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

ผมชอบการทำงานของคุณทักษิณ ทำดีไม่ดียังไม่รู้ ผลยังไม่ออก ต้องรออีกหน่อย

แต่ที่แน่ๆการเมืองบ้านเราเปลื่ยนแล้วครับ แบบเดิมๆอยู่ไม่ได้แล้ว เห็นชัดๆก็เลือกตั้ง ผู้ว่า ก.ท.ม.

เลือกตั้งคราวที่จะถึงนี้ จะได้เห็นสองขั้วแบบสมบรูณ์ซะที

ถ้าจะให้ประชาชน bad impression กับ รพ.รัฐ ทำไมให้สิทธิผู้ป่วยเกินขอบเขตขนาดนั้น ให้โวยวายได้ตามความพอใจ

ใช่สิทธิผู้ป่วยที่มีหลายๆ ข้อ ติดตามผนังห้องตรวจต่างๆ หรือตามทางเดินในโรงพยาบาลรัฐรึเปล่าคะ

ถ้าเป็นอันนั้น ดิฉันเคยเห็นตั้งแต่เล็กๆ แล้วนะคะ น่าจะมากกว่า 10 ปีแล้ว
และไม่เห็นว่า จะเกินให้สิทธิมากตรงไหนเลย แต่ในทางปฏิบัติ อาจมีชาวบ้านที่อ่านแค่คำสองคำแล้วมาโวย
เราคงต้องอดทนมากๆ คนไทยมีความแตกต่างกันอย่างมากในระดับความรู้ เชื่อมั้ยคะว่า ตัวหนังสือตัวเดียวกัน แต่ตีความต่างกันไปโน่น... ชาวบ้านพอรู้สึกว่าจะได้รับสิทธิอะไรหน่อย ก็ทำเป็นอ้างสิทธิข้อโน้นข้อนี่ แต่เชื่อว่ามีเฉพาะชาวบ้าน หรือคนที่ชอบมองแต่ตัวเองมากกว่าค่ะ ชอบบ้านที่ดีๆ ยังมีอีกเยอะนะคะ (แต่ชาวบ้านที่ดีๆ เค้ามักไม่ค่อยไปโรงพยาบาลบ่อยๆ เพราะรู้จักดูแลตัวเองน่ะคะ เสียเวลาทำมาหากิน เอาไว้เป็นหนักๆ ถึงจะเข้า ไม่ใช่เข้าออกอยู่บ่อยๆ เพราะเห็นว่าได้ใช้สิทธิรักษาถูกๆ )

แต่ก็ว่าไม่ได้นะคะ เห็นที่อเมริกาเค้าเล่าว่า มีเงื่อนไขเกี่ยวกับสิทธิต่างๆ ของประชาชนอยู่มากมาย แต่คนในประเทศนั้นชอบตีความเข้าข้างตัวเอง ไม่มองภาพรวม ขาดความเห็นอกเห็นใจ เอื้ออาทร ถึงขนาดมีการฟ้องร้องระหว่างเพื่อนบ้านอยู่เสมอๆ ( ทนายรวยไปเลย)