การเป็นนักลงทุนแนว VI (จะขายหุ้นช่วงไหนดี)
โพสต์แล้ว: พุธ ก.ย. 23, 2020 12:04 pm
หลายๆคนที่เป็นนักลงทุนในแนว VI ที่ถือหุ้นกันแบบยาวๆ ก็อาจจะคิดว่าแล้วเราจะขายหุ้นออกได้ตอนไหนน้า หรือจะขายออกช่วงไหนดี ลองดูแนวคิดตามนี้นะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกๆคนได้ค่ะ
- ขายหุ้นที่ถืออยู่เมื่อเห็นว่าหุ้นตัวอื่นคุ้มค่ากับการลงทุน
ข้อนี้ความหมายตรงตัวเลยจ้ะ
เมื่อเราได้ศึกษาหุ้นแต่ละตัวอย่างถ่องแท้แล้วเห็นว่าหุ้นตัวนี้มีโอกาสเติบโต เป็นธุรกิจที่สามารถดำเนินกิจการไปได้ยาวๆ แล้วเมื่อเทียบกับหุ้นในพอร์ตที่เรามี แล้วมีโอกาสที่ดีกว่าทั้งในเรื่องของมูลค่าหุ้นและเงินปันผล เราก็สามารถปรับพอร์ตการลงทุนของเราได้ค่ะ (แต่ก็ต้องศึกษาให้ดีนะคะ ว่าหุ้นตัวใหม่ที่เราต้องการถือ มันมีโอกาสสร้างความคุ้มค่าในการลงทุนได้ดีกว่าหุ้นตัวเก่าที่เราถือจริงๆค่ะ)
- ขายหุ้นถ้าเราเห็นว่าพื้นฐานของบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ไม่ดี
คือ ความมั่นคงของผลประกอบการ และความแข็งแกร่งของบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่มันลดลงไปเรื่อยๆ มีคู่แข่งรายใหม่ๆเข้ามาในตลาด ที่มีการใช้เทคโนโลยีในการผลิตสินค้าหรือการให้บริการที่ดีกว่า แน่นอนพฤติกรรมมนุษย์ย่อมที่จะชอบอะไรที่ทันสมัย สะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม เราก็สามารถปรับพอร์ตของเราได้ เพื่อหาหุ้นตัวใหม่ที่มีความสามารถในการแข่งขันได้เติบโตได้อย่างยั่งยืนค่ะ
- ขายหุ้นเมื่อเราคิดว่าหุ้นที่เราซื้อไว้เราคิดผิด
ก่อนที่เราจะลงทุน เราได้ศึกษาข้อมูลทั้งการวิเคราะห์ความสามารถของธุรกิจ ดูงบการเงิน คำนวณค่านู่นนี่นั่นออกมาแล้วดูแล้วธุรกิจนี้ดี โอเคเลย เราก็จัดเลย
แต่พอเวลามันผ่านไปหุ้นที่เราซื้อกลับไม่เป็นอย่าที่คิดไว้ ทั้งคู่แข่งเข้ามาเต็มไปหมด กำไรก็ลดลงเรื่อยๆ เราก็ตัดสินใจขายได้ค่ะ ไม่ใช่ว่าคิดว่าเราเป็นนักลงทุน VI เราจะต้องถือหุ้นยาวๆ ถ้าเราวิเคราะห็ดูว่าไม่โอเคเราก็สามารถขายได้ค่ะ และศึกษาหาข้อมูลในหุ้นตัวอื่นๆได้เพื่อหาโอกาสสร้างความมั่นคงให้กับพอร์ตเราได้ค่ะ
- ขายหุ้นเมื่อเราเห็นว่ามันทำกำไรให้เราได้ในระดับที่เราพึงพอใจอย่างที่สุดแล้ว
ถ้าหุ้นที่เราถือเราคิดว่าเราถือมันมายาวๆแล้ว (5 ปี 10 ปี 20 ปี) เราอยากจะขายเมื่อราคาหุ้นมีมูลค่าที่เราพอใจ ก็สามารถขายออกได้ เพื่อนำไปสู่การหาหุ้นธุรกิจใหม่ที่เราต้องการลงทุน
เพราะฉะนั้นการจะเป็นนักลงทุนแนว VI ก็สามารถขายหุ้นออกได้ค่ะ เมื่อเห็นว่าตัวที่เราถือมันไม่ดีอย่างที่เราคิดวิเคราะห์ไว้ หรือมันทำกำไรให้เราได้ในจุดที่เราพอใจแล้ว เราก็สามารถขายได้เพื่อปรับพอร์ตค่ะ
- ขายหุ้นที่ถืออยู่เมื่อเห็นว่าหุ้นตัวอื่นคุ้มค่ากับการลงทุน
ข้อนี้ความหมายตรงตัวเลยจ้ะ
- ขายหุ้นถ้าเราเห็นว่าพื้นฐานของบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ไม่ดี
คือ ความมั่นคงของผลประกอบการ และความแข็งแกร่งของบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่มันลดลงไปเรื่อยๆ มีคู่แข่งรายใหม่ๆเข้ามาในตลาด ที่มีการใช้เทคโนโลยีในการผลิตสินค้าหรือการให้บริการที่ดีกว่า แน่นอนพฤติกรรมมนุษย์ย่อมที่จะชอบอะไรที่ทันสมัย สะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม เราก็สามารถปรับพอร์ตของเราได้ เพื่อหาหุ้นตัวใหม่ที่มีความสามารถในการแข่งขันได้เติบโตได้อย่างยั่งยืนค่ะ
- ขายหุ้นเมื่อเราคิดว่าหุ้นที่เราซื้อไว้เราคิดผิด
ก่อนที่เราจะลงทุน เราได้ศึกษาข้อมูลทั้งการวิเคราะห์ความสามารถของธุรกิจ ดูงบการเงิน คำนวณค่านู่นนี่นั่นออกมาแล้วดูแล้วธุรกิจนี้ดี โอเคเลย เราก็จัดเลย
- ขายหุ้นเมื่อเราเห็นว่ามันทำกำไรให้เราได้ในระดับที่เราพึงพอใจอย่างที่สุดแล้ว
ถ้าหุ้นที่เราถือเราคิดว่าเราถือมันมายาวๆแล้ว (5 ปี 10 ปี 20 ปี) เราอยากจะขายเมื่อราคาหุ้นมีมูลค่าที่เราพอใจ ก็สามารถขายออกได้ เพื่อนำไปสู่การหาหุ้นธุรกิจใหม่ที่เราต้องการลงทุน
เพราะฉะนั้นการจะเป็นนักลงทุนแนว VI ก็สามารถขายหุ้นออกได้ค่ะ เมื่อเห็นว่าตัวที่เราถือมันไม่ดีอย่างที่เราคิดวิเคราะห์ไว้ หรือมันทำกำไรให้เราได้ในจุดที่เราพอใจแล้ว เราก็สามารถขายได้เพื่อปรับพอร์ตค่ะ