Thai VI

สำหรับผมคิดว่า 20 ล้าน น่าจะพอ ที่จะมีอิสรภาพทางการเงิน

ผมขอ 100 ล้านครับ อยากให้เงินที่ลงทุนได้สร้างเงินกลับมาให้กับตัวเองได้มีชีวิตอยู่พอกิน พอใช้ และสามารถช่วยเหลือคนอื่นๆๆ ที่ด้อยโอกาสในสังคมบ้าง

ผมว่าไม่แน่นอนหรอกนะ ขึ้นอยู่กับรายจ่ายของคุณและครอบครัวมากกว่า ถ้าจ่ายเดือนละ 1 หมื่นได้ ปีละ 1.2 แสนบาท ปันผลได้ 10% ต่อปี ก็ใช้ทุน 1.2 ล้านบาทเองนะ แต่ระหว่างนั้น เราก็ลงทุนเพิ่มอยู่แล้ว ก็ลงทุนไปเรื่อยๆเถอะครับ ยังงัยก็โอนให้ลูกหลานต่อไปได้

หลักการง่ายๆ คือ ผลตอบแทนที่ 4% แล้วเราพอใจ

ทำไม 4% เพราะ 4% เป็นผลตอบแทนที่ค่อนข้างแน่นอนที่จะได้ในช่วงเวลาใดๆ แม้ในช่วงที่ผ่านมา การหาผลตอบแทน 4% ก็เป็นเรื่องง่ายและแทบไม่มีความเสี่ยง ในเมืองไทยเอง ก็ลองดูพันธบัตรรัฐบาล การฝากเงินระยะยาว 3 ปีกับธนาคาร

4% เงินต้นคงต้องประมาณ 10 ล้านครับ

ได้ 400,000 บาท ตกเดือนล่ะ 33,333 บาท พอไหว

อย่าลืมคิดเผื่อเงินเฟ้อที่ 3.5 % ด้วยนะครับ ถ้าคุณจะเอาแค่ 4% ผมคิดว่าคุณจะได้จริง ๆ แค่ 0.5 % นะ ผมคิดแบบนี้ถูกต้องไหม ใครช่วยตอบที

เงินเฟ้อมันเป้นทฤษฎี จริงๆแล้วของบางอย่างบางทีมันก็ถูกลง
หรือไม่ก็คุณภาพดีขึ้น มันไม่ใช่ขึ้นราคาทุกอย่าง เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า
เดี๋ยวนี้ถูกกว่าเมื่อก่อนตั้งเยอะ ข้าวก็ไม่เห็นขึ้นไปเท่าไร

เงินเฟ้อไม่ใช้ทฤษฎีครับ เกิดขึ้นจริงเสียงจริงครับ เงิน 100 บาทวันนี้อาจซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ชามเดียวในอีก 40 ปีข้างหน้าก็ได้ ถ้าเงินเฟ้อเป็น 3.5 %

เอาเงินเฟ้อไปหักผลตอบแทนเพื่อไ้ด้ผลตอบแทนที่แื้ท้จริงได้ครับ

เห็นด้วยกับน้องแฮรี่ว่าคงต้องดูถึงรายจ่ายของตัวเองด้วย

ผมว่าเงินเฟ้อมีผลกับชีวิตจริง ๆ นะครับไม่ใช่แค่ทฤษฎี
เพราะเก็บข้อมูลจากราคาสินค้าจริง
ผมว่า port ลงทุนควรจะโตไม่น้อยกว่า inflation rate นะครับ
แต่ถ้าจะให้ดีควรจะเท่ากับหรือมากว่า GDP growth ครับ
เพราะว่าตัวเราก็สมควรจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น

ส่วน port ควรจะมีขนาดเท่าไรน่าจะขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน

คุณ Supra ครับมี100ล้านผมว่าไม่ใช่พออยู่พอกินหรอกครับผมว่าเหลือกินเหลือใช้แล้วล่ะ

ระวังนะครับ บางทีportโตๆ ในประเทศมหาอำนาจแบบไทย จาก100ล้านตกลงมาเหลือ50ล้านหรือน้อยกว่าอาจเกิดขึ้นได้เสมอครับ ทางที่ดี ถ้าจะมีPort 100ล้านควรจะมีการลงทุนทางอื่นเพื่อลดความเสี่ยงด้านอื่นๆผสมๆไว้ด้วย รวมทั้งมีเงินสำรองไว้ช้อนหุ้นในยามที่ราคาน่าซื้อมั๊กมั๊กไว้ด้วยเน้อ

ก็เห็นด้วยกับความเห็นอื่นๆ ที่ว่าขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายของแต่ละคน แต่ว่านอกจากเป้าหมายนี้แล้ว ผมว่าบางคนยังมองไปไกลกว่านั้น

240 ล้านครับ

อยากมีเงินใช้จากดอกเบี้ยสักเดือนละล้าน คิดผลตอบแทนสักปีละ 5 % เงินที่ได้เดือนละล้านก็จะนำไปลงทุนในรูปแบบอื่นๆเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆครับ แต่จะไม่ใช้เงินต้นแล้ว

เป็นฝันของเด็กคนนึงครับ แต่ผมตั้งใจไว้ว่าผมจะทำให้ได้ก่อนอายุ 40

เหลือเงินไว้ทำประกันบ้างนะครับ...จำเป็นนะ
เป็นการลงทุนเหมือนกัน

ยังไงก็ต้องมี 10 ล้านก่อนเลย
ถ้าผลตอบแทน 5% ต่อปี ก็จะมีรายได้พอรายจ่าย
...สำหรับคนโสดนะครัึบ

ผมว่าการมีอิสรภาพที่แท้จริงอยู่ที่
การรู้จักพอ
ความพอ หรือพอดีในแต่ละชีวิตไม่เท่ากัน
ดังนั้นจงค้นหาความพอดีของชีวิตคุณให้เจอ
แล้วคุณจะพบคำตอบในการที่จะมีอิสรถาพทางการเงินของคุณเอง
และที่สำคัญ คุณจะพบกับความสุขในชีวิตด้วย
คุณเลือกที่จะพบเร็วหรือช้าก็อยู่ที่คุณเองครับ

ผมออกจากงานมา 5 ปีแล้วครับ ใช้เงินสะสมลงในพันธบัตรเป็นส่วนใหญ่และหุ้นปันผลอีกส่วนหนึ่ง

มีเงินทุนเท่าไรจึงจะพอก็ต้องดู ค่าใช้จ่ายต่อเดือน แล้วคำนวณเงินทุนอย่างที่หลายท่านตอบข้างบน และ ปัจจัยเงินเฟ้อเป็นตัวนึงที่ผมต้องนึกถึงอยู่เสมอ และ ต้องดูว่าเงินเฟ้อของตัวเองในแต่ละปีเป็นเท่าใด เพราะ แต่ละคนจะมีรูปแบบการใช้เงินที่แตกต่างกัน ทำให้ใช้อัตราเงินเฟ้อต่างจากที่ทางการประกาศ แต่ก็พอเป็นตัวเลขอ้างอิงได้คร่าวๆ ถ้าอยากรู้ว่าอัตราเงินเฟ้อของตัวเองเป็นเท่าใด ก็ต้องเก็บสถิติการใช้จ่ายของตัวเองอย่างละเอียด แล้วเทียบดูว่าปีที่ผ่านมาเจออัตราเงินเฟ้อไปเท่าใด แนวคิดนี้ได้จากหนังสือโลกนี้ไม่มีอะไรฟรี ภาค 1 แต่ถ้าคิดง่ายๆ ก็ต้องหักผลตอบที่ได้ด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ทางการประกาศก่อน ถ้าส่วนนี้มากกว่าค่าใช้จ่ายก็ใช้ได้แล้ว แต่อนาคตใครจะไปรู้ล่ะครับว่าอัตราเงินเฟ้อจะเป็นเท่าใด ถ้าเกิดวิกฤตเศรษกิจรอบใหม่

Khun TOM98

A lot of people wanted to quit their full time job to become like you. Can you share your story with us?

Does it mean that you have been a full time investor for 5 years?

What do you do everyday? Is it boring?

How can you take care of your family?

อิสรภาพทางการเงิน 5 ล้านก็น่าจะพอแล้ว แล้วก็ไปหางานที่ชอบทำได้เงินมาอีกนิดหน่อย ก็คง โอเค

แต่จริงๆ อยากมีสัก 1000 ล้าน เพราะอยากมี สุนทรียภาพทางการเงิน มากกว่า 55555 จะเผาให้หนุกเลย :lol: :lol: :lol: