กลยุการลงทุน อ โจ จาก Meetingวีไอภาคใต้
โพสต์แล้ว: อาทิตย์ พ.ค. 17, 2020 2:18 pm
เล่าเท่าที่รู้ในช่วงวิกฤต Covid-19
EP9 คุยกับคุณโจ ลูกอีสาน ซึ่งมาพูดใน Meetingวีไอภาคใต้
คุณโจ อนุรักษ์ บุญแสวง ถือว่าเป็นนักลงทุนวีไอ ที่มีวิวัฒนาการในการลงทุนท่านนึง
หลังจากเคยพูดคุยกับคุณโจ เมื่อต้นเดือนธค 2562 ว่าคุณโจ ได้เริ่มลองShort หุ้นขนาดใหญ่ที่
ขึ้นเกินพื้นฐาน เนื่องจากยังมีแรงเก็งกำไร และ ประสบความสำเร็จพอสมควร
ในปีนี้ หุ้นไทยได้ตกหนักในเดือนมีนาคม และ มีcircuit breakerติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้พอร์ตลดลงมามาก
แต่ก็ถือว่าเป็นช่วงที่น่าลงทุนที่สุดในรอบ10ปี
วันนี้มาเล่าถึงกลยุทธ์ที่ใช้ในปีนี้
อ โจ บอกว่า ปัญหาของพวกเรา หุ้นลงมาไม่มีเงินซื้อ
จะเอาเงินจากที่ไหนมาซื้อ ทางเลือกได้แก่
1.ไม่มีเงินก็อยู่เฉยๆ ปิดหน้าจอ รอถึงปลายปีค่อยมาดูใหม่ ซึ่งได้ประโยชน์น้อยสุด
2.กรณีไม่มีเงิน ใช้การswitching
หุ้นที่อยู่ในพอร์ต ระดับราคาตกลงมาไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 15%-70% และตอนขึ้นจากจุดต่ำสุดมีตั้งแต่ 20%-100กว่า%
ซึ่งหุ้นที่ตกลง 15% เวลาขึ้น ก็ไม่น่าจะเกิน 20% ดังนั้น จึงได้ขายเพื่อไปซื้อหุ้นที่ดี แต่ราคาลงหนัก ซึ่ง
มีโอกาสขึ้นในภายหลังมากกว่า
ทำไปหลายตัวโดยเฉพาะหุ้นที่ถูกForce sales ก็ไปซื้อบ้าง
บางตัวเป็นหุ้นdefensive ขายน้ำภาคตะวันออก อนาคตไม่ค่อยดี ก็ขายไปซื้อหุ้นลงแรง
3. หาเงินมาซื้อเพิ่ม หาจากไหนบ้าง
3.1 คุณโจ ก็เริ่มสังเกตวิกฤตโคโลน่าไวรัส ซึ่งเป็นชื่อเรียกในช่วงต้นๆ ตอนเริ่มเกิดที่ อู่ฮั่น ประเทศจีน
คุณโจเคยมีประสบการณ์จากโรคระบาดSarsมาแล้ว เลยเริ่มใส่ใจสถานการณ์ในช่วงนั้น
และเริ่ม Short TFlex SET50 ในสัดส่วน 10% ของพอร์ตลงทุน เพื่อป้องกันหุ้นในภาวะขาลง
3.2 ช่วงเดือน เมษายน จนถึงปลายเดือน พฤษภาคม เริ่มได้รับเงินปันผลจากหุ้นที่ลงทุน
ก็นำเงินปันผลมาลงทุนต่อ
3.3 สุดท้ายก็เริ่มใช้บัญชีMarginมาซื้อหุ้นซึ่งตกไปแล้ว 40% ในช่วงที่จีนชนะcovid
และ ไทยเริ่มดีขึ้นแล้ว ก็ถือเป็นเงินลงทุนอีกก้อน (ดัชนีช่วง 1,000-1,100)
ที่สามารถนำมาลงทุนเพิ่มได้ แต่มีlimitว่าไม่เกินความเสี่ยงที่รับได้ (น่าจะ10%ของพอร์ต)
4. คุณโจมีลงทุนหุ้นในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม ปกติ หุ้นขนาดใหญ่จะขึ้นลงตามตลาด
แต่หุ้นขนาดเล็กจะไม่เคลื่อนไหวตามตลาด ก็จะทำการขายออก ซึ่งยังมีกำไร และนำมาลงทุนหุ้น
ในตลาดUS ซึ่งมีทั้ง successในกองทุนtechnology
กับ Failในกองทุนน้ำมันซึ่งไม่เข้าใจกลไกการต่อสัญญาในตราสารอนุพันธ์
ตอนนี้ ตลาดมีโอกาสแย่น้อยลง แต่มีโอกาสสดใสมากกว่า
อ โจ แนะนำให้ศึกษาการลงทุนในต่างประเทศ เพราะไม่ได้ยุ่งยากมาก
แต่มีโอกาสไปถือหุ้นhigh technologyซึ่งให้ผลตอบแทนดี และไม่ค่อยมีในไทย
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณโจ ที่มาให้ความรู้ครับ
EP9 คุยกับคุณโจ ลูกอีสาน ซึ่งมาพูดใน Meetingวีไอภาคใต้
คุณโจ อนุรักษ์ บุญแสวง ถือว่าเป็นนักลงทุนวีไอ ที่มีวิวัฒนาการในการลงทุนท่านนึง
หลังจากเคยพูดคุยกับคุณโจ เมื่อต้นเดือนธค 2562 ว่าคุณโจ ได้เริ่มลองShort หุ้นขนาดใหญ่ที่
ขึ้นเกินพื้นฐาน เนื่องจากยังมีแรงเก็งกำไร และ ประสบความสำเร็จพอสมควร
ในปีนี้ หุ้นไทยได้ตกหนักในเดือนมีนาคม และ มีcircuit breakerติดต่อกันหลายครั้ง ทำให้พอร์ตลดลงมามาก
แต่ก็ถือว่าเป็นช่วงที่น่าลงทุนที่สุดในรอบ10ปี
วันนี้มาเล่าถึงกลยุทธ์ที่ใช้ในปีนี้
อ โจ บอกว่า ปัญหาของพวกเรา หุ้นลงมาไม่มีเงินซื้อ
จะเอาเงินจากที่ไหนมาซื้อ ทางเลือกได้แก่
1.ไม่มีเงินก็อยู่เฉยๆ ปิดหน้าจอ รอถึงปลายปีค่อยมาดูใหม่ ซึ่งได้ประโยชน์น้อยสุด
2.กรณีไม่มีเงิน ใช้การswitching
หุ้นที่อยู่ในพอร์ต ระดับราคาตกลงมาไม่เท่ากัน ตั้งแต่ 15%-70% และตอนขึ้นจากจุดต่ำสุดมีตั้งแต่ 20%-100กว่า%
ซึ่งหุ้นที่ตกลง 15% เวลาขึ้น ก็ไม่น่าจะเกิน 20% ดังนั้น จึงได้ขายเพื่อไปซื้อหุ้นที่ดี แต่ราคาลงหนัก ซึ่ง
มีโอกาสขึ้นในภายหลังมากกว่า
ทำไปหลายตัวโดยเฉพาะหุ้นที่ถูกForce sales ก็ไปซื้อบ้าง
บางตัวเป็นหุ้นdefensive ขายน้ำภาคตะวันออก อนาคตไม่ค่อยดี ก็ขายไปซื้อหุ้นลงแรง
3. หาเงินมาซื้อเพิ่ม หาจากไหนบ้าง
3.1 คุณโจ ก็เริ่มสังเกตวิกฤตโคโลน่าไวรัส ซึ่งเป็นชื่อเรียกในช่วงต้นๆ ตอนเริ่มเกิดที่ อู่ฮั่น ประเทศจีน
คุณโจเคยมีประสบการณ์จากโรคระบาดSarsมาแล้ว เลยเริ่มใส่ใจสถานการณ์ในช่วงนั้น
และเริ่ม Short TFlex SET50 ในสัดส่วน 10% ของพอร์ตลงทุน เพื่อป้องกันหุ้นในภาวะขาลง
3.2 ช่วงเดือน เมษายน จนถึงปลายเดือน พฤษภาคม เริ่มได้รับเงินปันผลจากหุ้นที่ลงทุน
ก็นำเงินปันผลมาลงทุนต่อ
3.3 สุดท้ายก็เริ่มใช้บัญชีMarginมาซื้อหุ้นซึ่งตกไปแล้ว 40% ในช่วงที่จีนชนะcovid
และ ไทยเริ่มดีขึ้นแล้ว ก็ถือเป็นเงินลงทุนอีกก้อน (ดัชนีช่วง 1,000-1,100)
ที่สามารถนำมาลงทุนเพิ่มได้ แต่มีlimitว่าไม่เกินความเสี่ยงที่รับได้ (น่าจะ10%ของพอร์ต)
4. คุณโจมีลงทุนหุ้นในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม ปกติ หุ้นขนาดใหญ่จะขึ้นลงตามตลาด
แต่หุ้นขนาดเล็กจะไม่เคลื่อนไหวตามตลาด ก็จะทำการขายออก ซึ่งยังมีกำไร และนำมาลงทุนหุ้น
ในตลาดUS ซึ่งมีทั้ง successในกองทุนtechnology
กับ Failในกองทุนน้ำมันซึ่งไม่เข้าใจกลไกการต่อสัญญาในตราสารอนุพันธ์
ตอนนี้ ตลาดมีโอกาสแย่น้อยลง แต่มีโอกาสสดใสมากกว่า
อ โจ แนะนำให้ศึกษาการลงทุนในต่างประเทศ เพราะไม่ได้ยุ่งยากมาก
แต่มีโอกาสไปถือหุ้นhigh technologyซึ่งให้ผลตอบแทนดี และไม่ค่อยมีในไทย
สุดท้ายขอขอบคุณ คุณโจ ที่มาให้ความรู้ครับ