ตลาดฟื้นรอบนี้ flowเข้าหุ้นตัวไหน จาก เพจซั่มหุ้น
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. เม.ย. 16, 2020 9:36 am
ตลาดฟื้นรอบนี้ flowเข้าหุ้นตัวไหน ตอนที่ 1 จาก เพจซั่มหุ้น
สรุปโดย Seminar Knowledge Page
ตอนนี้ความมั่นใจของคนในตลาดหุ้นยังไม่ดี ไม่มีใครรู้ว่าโรคระบาดจะมีphase2,3หรือไม่
แต่เราไปโฟกัสหุ้นที่ชอบจะดีกว่า
ถ้าศก กลับมา หุ้นที่ชอบ ต้องวิเคราะห์ว่า กำไรจะกลับมาเป็นปกติหรือเปล่า
SET index เปิดgap หลุดแนวรับลงมาที่ 1,514 จุด ตั้งแต่ 27 มค แต่ดัชนียังไม่ลงที่จุดต่ำสุดเลย
ช่วง กลาง กพ ตั้งแต่โรคระบาดเริ่มแพร่ระบาดไปที่ประเทศอื่น ทำให้ SET ลงค่อนข้างแรง และต่ำสุดที่ 969จุด
ในช่วงปลายเดือนมีนาคม SET ปรับฐานไป 36% และ reboundมาที่ 1236 จุด หรือขึ้น 27.6%
ดังนั้น จะนำช่วงนี้ของSET ไปเทียบกับกลุ่มต่างๆว่า กลุ่มไหนแข็งกว่าตลาด
1. กลุ่มที่ลงแรงกว่าตลาด และ มีเรื่องสงครามน้ำมันเข้ามาแทรกในต้นเดือนมีนาคม
ทำให้กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีโดนสองเด้ง
แต่ล่าสุดก็ฟื้นเร็วจาก US เป็นตัวกลาง ให้รัสเซีย กับ ซาอุ คุยกัน ทำให้น้ำมันดีดกลับมา
ปิโตรเคมี จากต่ำสุด 434 จุด ไปที่ 697 จุด ลงไป 47.5% , rebound 60.6%
พลังงาน จากต่ำสุด 13,500 ไปที่ 20,000 จุด ลงไป 44.9% , rebound 48.1%
2.กลุ่มก่อสร้าง ขึ้นมาจากต่ำสุด 38 จุด (-42.4 % ) ไปที่ 56 จุด (47.4%)
ซึ่งกลุ่มนี้อิงกับงานของภาครัฐเป็นหลัก ไม่เกี่ยวข้องการบริโภคโดยตรง
ราคาหุ้นของกลุ่มก่อสร้างลงมา เปรียบเทียบตั้งแต่ช่วงจุดสูงสุดของ SET ประมาณ 1,750 จุดช่วงกลางปี 2019
เมื่อเปรียบกับหุ้นรายตัวโดยถ้าดูจากกราฟ ถ้าหุ้นอยู่ใต้SET แสดงว่าลงแรงกว่าSET
กลุ่มก่อสร้างลงมาจากโรคเลื่อนprojectต่างๆ ถูกเลื่อนออกมาจากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า
แต่ถ้าดูเฉพาะCovid ไม่ค่อยถูกกระทบ แต่โครงการจะdelayไปหน่อย
ถือว่า เป็นการเล่นเก็งกำไร เล่นสั้น ถ้าจะลงทุนกลุ่มนี้
SexxCx PE 6เท่าดูน่าสนใจ
3.Finance แข็งกว่าตลาดมาตลอดช่วง 3-4 ปี แต่ตั้งแต่SETหลุดแนวรับมา
ทำให้ลงมากกว่าตลาด คือ ต่ำสุด 2,600 (-42.8%) และ ขึ้นมาที่ 3500 จุด (34.6%)
ตอนนี้ปัญหา Covid ทำให้กำลังซื้อ และ กำลังในการผ่อนชำระลดน้อยลง
และทำให้เกิด NPL เพิ่มขึ้น
ธปท ทำ soft loan ให้financeสามารถไปช่วยลูกค้าได้
ลูกค้าfinance ก็สามารถหยุดพักชำระดอกเบี้ย และไม่ลงเป็น NPL ในช่วงนี้
ทำให้กลุ่มนี้ไม่โดนกระทบ จากภาครัฐช่วย กลุ่มนี้เลยเด้งแรงมาก 34%และชนะตลาด
หุ้นกลุ่มนี้ยังค่อนข้างถูกในหลายตัว ราคาค่อนข้างน่าสนใจ
ต้องติดตามให้ดีว่า อีก 3-6 เดือนจะจบจริงไหม
หลังเปิดเมืองให้คนออกมา จะเกิดphase 2 หรือเปล่า
ตัวที่แข็งกว่าตลาด เช่น JxT ราคาตอนนี้อยู่เท่ากับช่วง กค ปีที่แล้ว ที่SETทำจุดสูงสุดของปี
MxC (PE 24 ) ,SAxxD(PE 17) ก็ถูกลงมาก เมื่อเทียบกับฐานกำไรปกติ
ต้องดูเรื่องสภาพคล่องด้วย
4.กลุ่มสื่อ ลงแรงกว่าตลาด จากต่ำสุด 28จุด(-41%)ไปที่ 37จุด(+32%)
เช่น PLAxx ช่วงนี้เจอโรคระบาด แต่ไม่ตาย ยังไงก็ผ่านไปได้ ถ้าฟื้นจะเด้งแรง
ให้ทำการบ้านเหมือน Finance ถ้าลงทุนต้องดูระยะยาว ลงทุนข้ามวิกฤตไป
5. Electronic จากต่ำสุด 727 จุด (-43.2% ) ไปที่ 950 จุด (+30.7%)
เป็นกลุ่มนึงที่อิงหลายอย่าง KxE,HxNx ,SxI ซึ่งผลิตชิ้นส่วนในหลายอุตสาหกรรม
และส่งออกไปต่างประเทศ ต้องดู ศก โลก ประกอบด้วย ซึ่งน่าสนใจ เมื่อ 5G เข้ามา
และ ต่างประเทศฟื้นตัว Reboundขึ้นมา 30% พอๆกับตลาด
ส่วนกลุ่มอาหาร ลงไปต่ำสุดที่ 8200จุด (-36.7%) และดีดกลับมาที่ 10,500 จุด (+28%) อาจจะดีในอนาคตก็ได้
สรุปโดย Seminar Knowledge Page
ตอนนี้ความมั่นใจของคนในตลาดหุ้นยังไม่ดี ไม่มีใครรู้ว่าโรคระบาดจะมีphase2,3หรือไม่
แต่เราไปโฟกัสหุ้นที่ชอบจะดีกว่า
ถ้าศก กลับมา หุ้นที่ชอบ ต้องวิเคราะห์ว่า กำไรจะกลับมาเป็นปกติหรือเปล่า
SET index เปิดgap หลุดแนวรับลงมาที่ 1,514 จุด ตั้งแต่ 27 มค แต่ดัชนียังไม่ลงที่จุดต่ำสุดเลย
ช่วง กลาง กพ ตั้งแต่โรคระบาดเริ่มแพร่ระบาดไปที่ประเทศอื่น ทำให้ SET ลงค่อนข้างแรง และต่ำสุดที่ 969จุด
ในช่วงปลายเดือนมีนาคม SET ปรับฐานไป 36% และ reboundมาที่ 1236 จุด หรือขึ้น 27.6%
ดังนั้น จะนำช่วงนี้ของSET ไปเทียบกับกลุ่มต่างๆว่า กลุ่มไหนแข็งกว่าตลาด
1. กลุ่มที่ลงแรงกว่าตลาด และ มีเรื่องสงครามน้ำมันเข้ามาแทรกในต้นเดือนมีนาคม
ทำให้กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมีโดนสองเด้ง
แต่ล่าสุดก็ฟื้นเร็วจาก US เป็นตัวกลาง ให้รัสเซีย กับ ซาอุ คุยกัน ทำให้น้ำมันดีดกลับมา
ปิโตรเคมี จากต่ำสุด 434 จุด ไปที่ 697 จุด ลงไป 47.5% , rebound 60.6%
พลังงาน จากต่ำสุด 13,500 ไปที่ 20,000 จุด ลงไป 44.9% , rebound 48.1%
2.กลุ่มก่อสร้าง ขึ้นมาจากต่ำสุด 38 จุด (-42.4 % ) ไปที่ 56 จุด (47.4%)
ซึ่งกลุ่มนี้อิงกับงานของภาครัฐเป็นหลัก ไม่เกี่ยวข้องการบริโภคโดยตรง
ราคาหุ้นของกลุ่มก่อสร้างลงมา เปรียบเทียบตั้งแต่ช่วงจุดสูงสุดของ SET ประมาณ 1,750 จุดช่วงกลางปี 2019
เมื่อเปรียบกับหุ้นรายตัวโดยถ้าดูจากกราฟ ถ้าหุ้นอยู่ใต้SET แสดงว่าลงแรงกว่าSET
กลุ่มก่อสร้างลงมาจากโรคเลื่อนprojectต่างๆ ถูกเลื่อนออกมาจากการจัดตั้งรัฐบาลล่าช้า
แต่ถ้าดูเฉพาะCovid ไม่ค่อยถูกกระทบ แต่โครงการจะdelayไปหน่อย
ถือว่า เป็นการเล่นเก็งกำไร เล่นสั้น ถ้าจะลงทุนกลุ่มนี้
SexxCx PE 6เท่าดูน่าสนใจ
3.Finance แข็งกว่าตลาดมาตลอดช่วง 3-4 ปี แต่ตั้งแต่SETหลุดแนวรับมา
ทำให้ลงมากกว่าตลาด คือ ต่ำสุด 2,600 (-42.8%) และ ขึ้นมาที่ 3500 จุด (34.6%)
ตอนนี้ปัญหา Covid ทำให้กำลังซื้อ และ กำลังในการผ่อนชำระลดน้อยลง
และทำให้เกิด NPL เพิ่มขึ้น
ธปท ทำ soft loan ให้financeสามารถไปช่วยลูกค้าได้
ลูกค้าfinance ก็สามารถหยุดพักชำระดอกเบี้ย และไม่ลงเป็น NPL ในช่วงนี้
ทำให้กลุ่มนี้ไม่โดนกระทบ จากภาครัฐช่วย กลุ่มนี้เลยเด้งแรงมาก 34%และชนะตลาด
หุ้นกลุ่มนี้ยังค่อนข้างถูกในหลายตัว ราคาค่อนข้างน่าสนใจ
ต้องติดตามให้ดีว่า อีก 3-6 เดือนจะจบจริงไหม
หลังเปิดเมืองให้คนออกมา จะเกิดphase 2 หรือเปล่า
ตัวที่แข็งกว่าตลาด เช่น JxT ราคาตอนนี้อยู่เท่ากับช่วง กค ปีที่แล้ว ที่SETทำจุดสูงสุดของปี
MxC (PE 24 ) ,SAxxD(PE 17) ก็ถูกลงมาก เมื่อเทียบกับฐานกำไรปกติ
ต้องดูเรื่องสภาพคล่องด้วย
4.กลุ่มสื่อ ลงแรงกว่าตลาด จากต่ำสุด 28จุด(-41%)ไปที่ 37จุด(+32%)
เช่น PLAxx ช่วงนี้เจอโรคระบาด แต่ไม่ตาย ยังไงก็ผ่านไปได้ ถ้าฟื้นจะเด้งแรง
ให้ทำการบ้านเหมือน Finance ถ้าลงทุนต้องดูระยะยาว ลงทุนข้ามวิกฤตไป
5. Electronic จากต่ำสุด 727 จุด (-43.2% ) ไปที่ 950 จุด (+30.7%)
เป็นกลุ่มนึงที่อิงหลายอย่าง KxE,HxNx ,SxI ซึ่งผลิตชิ้นส่วนในหลายอุตสาหกรรม
และส่งออกไปต่างประเทศ ต้องดู ศก โลก ประกอบด้วย ซึ่งน่าสนใจ เมื่อ 5G เข้ามา
และ ต่างประเทศฟื้นตัว Reboundขึ้นมา 30% พอๆกับตลาด
ส่วนกลุ่มอาหาร ลงไปต่ำสุดที่ 8200จุด (-36.7%) และดีดกลับมาที่ 10,500 จุด (+28%) อาจจะดีในอนาคตก็ได้