Money Works
10/2/2020 เตรียมใช้บริการ Digital Bank (แท้ๆ) กันเถอะ
ความพยายามนำเทคโนโลยีดิจิตัลเข้าในใช้ในวงการธนาคารมีมานานแล้ว เพื่อช่วยลดต้นทุน และปรับปรุงตลอดจนนำเสนอบริการใหม่ๆ ส่งผลให้แบงค์มีจำนวนสาขาลดลงเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามธนาคารในรูปแบบเดิมคงไม่มีวันไปทางนี้จนสุดซอยได้เพราะในบริการบางอย่างก็จำเป็นต้องมีพนักงานมาเกี่ยวข้อง แต่กำลังจะมีธนาคารรูปแบบใหม่คือ Digital Bank เข้ามาเป็นคู่แข่ง เริ่มเห็นแววแล้วในต่างประเทศ
Digital Bank ในที่นี้หมายถึงธนาคารที่ให้บริการทางออนไลน์เป็นหลัก (Digital-Only) ไม่มีสาขา(หรืออาจจะมีก็ได้แต่น้อย) มีระบบ IT Infrastructure ที่ทันสมัยเพราะเพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่(ซึ่งแตกต่างจากแบงค์เดิมๆที่ต่อยอดมาจากงานเอกสารจึงมีระบบคอมพิวเตอร์ค่อนข้างเก่า) ยิ่งไปกว่านั้นอาจจะไม่ต้องสร้างเองแต่ทำงานบน Cloud Service แทน จำนวนพนักงานของธนาคารจึงไม่ต้องมีมาก ต้นทุนจึงต่ำ ทำให้สามารถจ่ายดอกเบี้ยเงินฝากสูงๆ ค่าธรรมเนียมต่ำมากหรือฟรีเพื่อดึงคนมาใช้บริการ นอกจากนี้การเปิดให้บริการใหม่ๆก็ทำได้อย่างรวดเร็วโดยมีการนำ AI เข้ามาช่วยสร้างบริการที่ตอบสนองลูกค้าได้เป็นรายบุคคล
แนวคิดแบบนี้เกิดขึ้นในสหรัฐและหลายประเทศในยุโรปมาหลายปีแล้วในชื่อ Neobank จนถึงปี 2018 ในอังกฤษมีผู้ใหญ่ 9% หรือ 4.5 ล้านคนเปิดบัญชีกับธนาคารที่ไม่มีสาขานี้แล้ว และจากการสำรวจจะเพิ่มเป็น 16% ภายใน 5 ปี บริการของ Neobank ในยุโรปก้าวหน้าไปไกลมาก บางแห่งรองรับ Cryptocurrency บางแห่งมีบริการย้ายค่ายบัญชีเงินฝากเหมือนเบอร์มือถือ ยอมให้ผูกบัญชีเข้ากับ Twitter, Spotify และ Instagram มีบัญชีซื้อขายหุ้นไม่เสียค่าคอม บางแห่งสามารถแบ่งเป็นบัญชีย่อยและกำหนดวงเงินตามประเภทของงบประมาณ (Budget) และอื่นๆอีกมากมาย เห็นแล้วเหนื่อนแทนธนาคารแบบดั้งเดิมเลยทีเดียว
สำหรับในภูมิภาคนี้เกาหลีใต้ มี Digital Bank ตั้งแต่ปี 2016 ญี่ปุ่นเข้าใจว่ามีเหมือนกัน Taiwan และ Hong Kong ออกใบอนุญาตแล้ว Singapore น่าจะออกกลางปีนี้ ส่วน Malaysia ก็สนใจกำลังศึกษาอยู่
ที่ Hong Kong เมื่อต้นปี 2019 มีการให้ใบอนุญาตธนาคารดิจิตัลไปแล้ว 8 แห่ง ตามรูปนะครับ โดยเขาจะเรียกว่า “Virtual Bank” เป็นชื่อที่น่าเกลียดน่ากลัวทีเดียวทำให้นึกถึงอะไรที่ไม่มีอยู่จริงๆ ถ้าดูรายชื่อบริษัทที่มาร่วมก่อตั้งของแต่ละแห่ง ส่วนใหญ่ก็เป็นชื่อเดิมๆในวงการธนาคารและประกัน ที่น่าสนใจคือ Tech Company อย่าง Tencent และ Alibaba ก็มาร่วมด้วย และพวกนี้คิดการใหญ่แน่นอน บริษัทสื่อสารเองก็อยากจะเป็นแบงค์มานาน ธนาคารกลางของ HK หรือ HKMA ไม่ได้คิดว่า Virtual Bank เหล่านี้จะมาแย่งเงินฝากจากผู้นำตลาดอย่าง HSBC ได้มากนักในระยะสั้น แต่อาจจะเป็นการกดดันให้ธนาคารปกติลดค่าธรรมเนียมลง และเพิ่มดอกเบี้ยเงินฝาก ที่ผ่านมาธนาคารใน Hong Kong มีความสามารถทำกำไรได้มากกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมนี้ทั่วโลก โดย HSBC มี ROE สูงกว่า 20% ในขณะที่บ้านเรา 10% นี่ก็ถือว่าเก่งแล้ว
เอาเข้าจริงขณะนี้ก็เพิ่งเปิดไปแบงค์เดียวคือ ZA Bank ของกลุ่ม ZA Virtual Finance (ตัวหลักคือ Zhong An บริษัทประกันลูกของ Ping An - Tencent - Alibaba) แต่ก็มีแววสร้างความปั่นป่วนโดยตอนเปิดตัวให้ดอกเบี้ยสูงกว่าตลาดเยอะทีเดียวคือ 6% สำหรับฝากประจำ 3 เดือน วงการมองว่านี่เป็นเพียงโปรเท่านั้น ไม่น่าจะทำได้นาน แต่ผมลองเข้าไปดูในเว็บเขาคือ https://www.za.group พบว่ายังให้ 4.5-6.8% ซึ่งเร้าใจมาก ซึ่งก็คงมีเงื่อนไขบางอย่าง เดิม HKMA ตั้งเป้าว่าภายในไตรมาสแรกนี้น่าจะเริ่มให้บริการได้ 3-4 แห่ง ถ้าได้จริงการแข่งขันก็จะเพิ่มขึ้นอีก
Bloomberg คาดการณ์ว่าภายในปี 2025 Digital Bank ที่ HK ยังไม่น่าจะแย่งส่วนแบ่งสินเชื่อทั้งระบบได้เกิน 1.5%
ในย่านนี้เห็นจะมีแต่ Singapore ที่ไล่ตามมาติดๆ กำลังจะออก 5 ใบอนุญาต Digital Bank มี 21 กลุ่มมายื่นขอ ในจำนวนนี้มี Grab (แกร็บที่รับส่งก๊วยเตี๋ยวนั่นแหละ) จับมือกับ Singtel (บ้านเราถ้าเปิด 3 เกลอมายื่นแน่), Ant Financial (Alibaba) และ บริษัทร่วมทุนที่มี Xiaomi อยู่ด้วย เป็นต้น
ส่วนของไทย ผู้ว่าแบงค์ชาติบอกว่าจะทำเหมือนกัน แต่ความพร้อมเราน้อยกว่าจึงต้องใช้เวลา หรือจะถ่วงเวลาให้แบงค์หลากสีปรับตัวก็ไม่ทราบ ในปัจจุบันทาง UOB มีบริการ TMRW (จะตั้งชื่อให้มันเรียกยากทำไมหนอ) ก็เกือบจะเรียกได้ว่าเป็น Digital Bank แล้ว แต่คงเรียกไม่ได้เพราะแบงค์ชาติยังไม่ออก License เฉพาะ เป็นเพียงบริการของแบงค์เดิม การเปิดบัญชีกับเขาไม่ต้องไปสาขา ไม่ต้องมีบัญชีกับ UOB มาก่อน แค่สมัครผ่านแอพ และยืนยันตัวตนผ่านตู้ Kiosk ที่เชียงใหม่ผมยังไม่เห็น อันนี้ผมเล่าตามในเว็บนะครับ ผู้อ่านที่มีประสบการณ์รบกวนมาแชร์หน่อย
สรุปว่า Digital Bank มาแน่ ในระดับโลกเริ่มมีผลกระทบ ดังนั้นวงการธนาคารไทยอาจจะต้องเตรียมรับแรงกระแทกอีกรอบ ตัวผมเองในปัจจุบันถึงแม้พึงพอใจกับบริการของแบงค์เขียว แต่ถ้าธนาคารรูปแบบใหม่มีค่าธรรมเนียมต่ำกว่า ให้ดอกเบี้ยสูง และยังมีบริการใหม่ๆที่ตอบสนองความต้องการมากขึ้น สงสัยไม่พ้นจะได้ย้ายค่ายแน่เลย หรืออย่างน้อยก็เพิ่มค่าย
อย่างไรก็ตามแบงค์เขียวของผมคงไม่ตาย เพียงแต่ถ้าพลาดท่า ก็มีโอกาสอ่อนแอลงไปอีกครับ
https://www.facebook.com/MNYWKS/posts/1 ... __tn__=K-R