Riding High in China with the Top China Fund
By Krungsri Prime
ภาพของปีที่แล้วไม่ค่อยจะดี มีแต่ข่าวร้าย
แต่NAV ของ กองทุนที่บลจKrungsri บริหารคือ KFAchina-A ขึ้นมา 51%
ย้อนเหตุการณ์ที่สำคัญที่ทำให้ตลาดผันผวนในปีที่แล้ว
1.ย้อนไป เมื่อ พค 62 สงครามการค้าเดือด และเกิดขึ้นตลอดทั้งปี2019
และสถานการณ์การค้า ทำให้คนกลัวเรื่องRecession เมื่อตอน เดือน สค
2.GDPของจีนใน Q3 ซึ่งประกาศตอน Q4 ประกาศว่าGDPต่ำสุดในรอบ21ปี
ล่าสุด เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ก็ ประกาศ GDPของจีน ใน Q4 จีนต่ำสุดในรอบ21ปี
3.ตราสารหนี้เริ่มมีdefaultในเดือน ธค 2019
แต่NAVของกองทุน กลับปรับขึ้นได้หลังลงหนักมาก่อนหน้า
NAVปรับขึ้นซึ่งมาจากผลประกอบการของบริษัท
หุ้นที่ถืออยู่ในกอง ได้แก่
1. Kweichow Moutai
2. Jiangsu Hengrui medicine
3. Ping An
4. Gree Electric
5. Wuliangye Yibin
ซึ่งบริษัทเหล่านี้ EPS growth มากกว่า 10% ในรอบ 9เดือน
ภาพใหญ่ศก จีน ถึงแม้ GDP โตต่ำสุดในรอบ 21 ปี
ประเทศที่ขนาดสูงสุดในโลก
ที่1 คือ US และ จีนเป็นอันดับสอง 13 ล้านล้าน $
ดังนั้นการเติบโตต่ำแค่6% แต่ขนาดGDPใหญ่มาก ก็ไม่ได้แย่
หนี้อยู่กับจีนมานาน
ปี18 จำนวนการdefaultใหม่ 38 บริษัท
แต่ปี19 ก็มี 35 บริษัทที่เพิ่มใหม่ แต่ไม่กระทบต่อตลาดหุ้น
สาเหตุหลักที่ผิดนัดชำระหนี้สูงขึ้น มาจากเจตนาของจีนพยายามลดหนี้
พยายามดึงเงินออกจากระบบเศรษฐกิจ
เมื่อก่อนใส่เงินเยอะ บริษัทก็กู้เงินง่าย ทำให้ระบบไม่มีประสิทธิภาพ
ดังนั้น บริษัทเหล่านี้ ขาดสภาพคล่อง ก็เลยทำให้ตราสารหนี้defaultไป
สงครามการค้า
ปีที่แล้วเป็นผู้ร้าย ประทุตั้งแต่ พค และ รุนแรงขึ้น มีการปรับภาษีวงกว้างมากขึ้น
ไม่รู้ว่าจุดพีค และ จบเมื่อไหร่ ในปีที่แล้ว แต่ปีนี้เป็นปัจจัยบวก เพราะผ่านจุดเลวร้ายไปแล้ว
ไม่เชื่อว่าสหรัฐจะขึ้นภาษีแบบนี้อีก แต่ก็อาจไม่แน่ว่าจะกลับมา
Phase II ก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะคืบหน้ามาก ถึงแม้เจรจาไม่ได้ก็ไม่เป็นไร
Phase I ก้อนที่จะขึ้น 15%ก็ไม่ได้ขึ้น และ ก้อนที่ขึ้น15% ก็ลดไปครึ่งนึง
สรุปแล้ว มีแต่ดีขึ้น ไม่ได้แย่ลง
สมมติว่าถ้าขึ้นภาษีอีกรอบ ก็ไม่ได้กระทบโดยตรงกับหุ้นในพอร์ตของกองทุน
เพราะรายได้ 95%มาจากประเทศ แต่อาจกระทบทางอ้อม
ช่องสีแดง Net Export 2%ของGDP จีน แต่ที่เหลือเป็นการบริโภคและการลงทุน
ซึ่งกองนี้เน้นการบริโภคในประเทศ
Invert Yield Curve พูดบ่อยในปีที่แล้ว ถ้าไปถามresearch ระดับโลก
จะพูดว่ามีโอกาสเกิดrecession แต่ก็พูดเบาๆว่าอาจจะเกิด
แต่ปีนี้ พูดเสียงดังฟังชัด ว่า ไม่น่าจะเกิด recession
เราเห็นบริษัทที่ลงทุนเติบโตค่อนข้างดี ล้วนอยู่ใน new economy
บริษัทที่มีสินค้าที่ทันสมัย หรือ premium เป็นที่ต้องการของสังคม
สามารถเติบโตได้ดี
มาดูแต่ละsector ของธุรกิจจีน
SOE รัฐวิสาหกิจในจีน ไม่ค่อยมี ปสภ CAR 5%
Private Old economy เช่น พลังงาน ฟอสซิล CAR 19%
Private new economy CAR 30% เติบโตได้สูงมาก
ปัจจัยทำให้โตสำหรับ new china คือ consumption upgrade , Technology
Consumption upgrade เป็นการขายสินค้าที่แพงขึ้น เช่น จากกินมาม่า ก็มากินหม้อไฟแทน
China see explosive growth of millenaries (Asset > 1 M$)
จีน มีคนได้เป็น dollar millionaires เป็น 4,447,000 คนในปีที่แล้ว จากเดิม 38,000 คน ในปี2010
แสดงว่าคนจีนรวยขึ้น
อัตราการเพิ่มขึ้น มีเร็วและแรงมาก 65sec เกิด millionaires 1 คน
คนที่รวยขึ้น ก็ต้องใช้จ่ายมากขึ้น
ตลาดสินค้า Luxury 2012 สัดส่วนคนจีนไปซื้อ 19%
ผ่านไป 8 ปี ตอนนี้กลายเป็น 35%
และปี 2025 คาดว่า จะเป็น 40%ของ millionaires
เพื่อนเคยเล่า สมัยก่อน คนรวยจะซื้อสินค้ามาอวด เป็นสินค้าbrand name , Logo ใหญ่
ต่อมาเน้นสุขภาพ เช่น เสื้อราคา7000บาท หรือ หมอนสุขภาพราคาหลายหมื่น
คุ้นว่าน่าจะเป็นทีน่าเล่านะ 555
ตลาดเหล้าราคาถูก จะโตติดลบ แต่ตลาดpremiumจะเติบโตดี ราคาขวดละหมื่นยิ่งขายดี
นี่คือภาพของ consumption upgrade
Shopping online: Alibaba
เมื่อก่อนจัดวันที่ 11.11 หรือวันคนโสด จัดทุกปี และ ทำลายสถิติทุกปี
ปีที่แล้ว 11/11/2019 ยอดขายในวันเดียว 1,100,000 ล้านบาท หรือเทียบกับยอดขาย 7-11 ใน4ปี
Technology จีนเป็นผู้นำด้านนี้ไปแข่งกับสหรัฐ สิทธิบัตรก็ปรับตัวสูงขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องย้อนมาหลายปีที่ส่งเสริมคนไปเรียนวิทยศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์
ตอนนี้เยอะสุดในโลก และ สมองเริ่มไหลกลับมาจีน เพราะจ่ายเงินได้สูงขึ้น
ไทยมีการประมูล 5Gในปีนี้ และหลายประเทศเริ่มประมูลและวางโครงข่าย
5G อันดับหนึ่งคือจีน
สองเดือนที่แล้ว จีนได้พัฒนา 6G แล้ว แน่นอนว่าอาจใช้เวลา 7-10ปี
แต่ประเทศอื่นพึ่งเริ่มวางโครงข่ายเอง
อยากให้เห็นวิสัยทัศน์ของจีน ทำให้เทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้น
Ping An ทุ่มงบไปใช้ระบบ Block Chain 22,000 M$ ซึ่งเป็นภาพสะท้อน
ให้เห็นว่า Tech กระจายไปอยู่หลายsectorแล้ว
ตัวอย่างการใช้จ่ายผ่าน QR Code ที่จีน ขอทานรับ QR codeแล้ว
ตอนนี้มีบางร้านค้า ใช้สแกนใบหน้าเพื่อจ่ายเงินด้วย
จีนมีหลายตลาดหุ้น เช่น เซี่ยงไฮ้ เซิ่นเจิ้น หรือ US
A-share จะรวม เซี่ยงไฮ้ และ เซิ่นเจิ้น ซึ่งรวมบริษัท new china ค่อนข้างเยอ
ถ้าลงทุนในจีน ก็ควรลงทุนใน A-share ซึ่งสองตลาดนี้ ติดหนึ่งในสิบตลาดที่มีmarket cap
ถ้ารวมสองตลาดจะใหญ่เป็นอันดับสองของโลกแล้ว
ตอนนี้ MSCI EM เพิ่มสัดส่วนในการลงทุนในA share 20%
และ ค่อยๆเพิ่มน้ำหนักขึ้นเรื่อยๆ
แสดงว่า Fund Flow ก็ไหลเข้ามาเรื่อยๆ แต่ตอนนี้คิดเป็น 7% มีupsideไหลเข้าได้อีกเยอะ
นอกจากนี้ยังมีกองทุนทั่วไปที่ไปลงทุนในจีนได้
จีนก็พยายามเปิดประเทศ และ จะออกกฎหมายการเปิดเผยข้อมูลให้มีความโปร่งใส
นี่คือเสน่ห์ของตลาดหุ้น A-share
ตราสารหนี้ตอนนี้อยู่ในระดับสูง และ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คุณภาพมีความหลากหลายก็ต้องเลือก
ปีที่แล้วขึ้นไป 51% แพงไปหรือเปล่า
มาจากตลาดขึ้น 20กว่า% และ มาจากฝีมือผู้จัดการกองทุน 20%กว่า
PE ratio ปีที่แล้วเริ่มจาก 9 เท่ากว่าในต้นปี 2019
พอขึ้นมาเรื่อยๆ PE 12.5 เท่า เมื่อวานลง 8% PE 12 เท่า
ซึ่งยังขึ้นมาน้อยเมื่อเทียบกับ PE ในอดีต
จากรูป Equity Market : PE Ratio
A-share PE ต่ำกว่าตลาดหุ้นอื่น แค่ขึ้นเป็น 16-17 เท่า ก็พอแล้ว จากอดีตเคยขึ้นถึง 22 เท่า
ตลาดหุ้นถูกแพง ดูที่ PE Ratio
เพราะตลาดหุ้น กำไรเพิ่มขึ้น ราคาหุ้นก็สามารถเพิ่มขึ้นได้เหมือนกัน ซึ่งPE Ratio ก็จะเท่าเดิม
แต่ถ้ากำไรของตลาดหุ้นทำกำไรได้ 5% แต่ราคาหุ้น ขึ้น 10% แสดงว่า PE จะขยับเพิ่มขึ้น
ปีที่แล้ว หุ้นส่วนใหญ่ของ A-Share กำไรของบริษัทเติบโตทำให้ราคาหุ้นเพิ่มขึ้น
ทำไมหุ้นประเ่ทศจีน สร้างผลตอบแทนสูงในปี19 มาดูเหตผลกันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 2195
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมหุ้นประเ่ทศจีน สร้างผลตอบแทนสูงในปี19 มาดูเหตผลกันครับ
โพสต์ที่ 2
KFACHINA-A เป็นกองที่ได้ผลตอบแทนสูงสุดปีที่แล้ว
China H-Share มีนักลงทุนสถาบัน 77% Retail 23%
แต่ China A-Share มีรายย่อยถืออยู่ 86% สถาบันแค่ 14%
มีนักลงทุนรายย่อยเป็นส่วนใหญ่ ถือแค่ 2 วัน ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน
ก็เป็นโอกาสในการลงทุน
UBS เลือกหุ้นที่มีคุณภาพสูง และเป็นผู้นำในตลาด
เช่น เหมาไถ , Ping An Insurance , Jiansu Hengrui
พอร์ต จะเน้นลงทุนใน ( KFACHINA-A, MSCI China A onshore )
1.Financials : 25.7% : 26.8%
2.Cons Discretionary : 21% : 8.4%
3.Health Care : 17.9% : 7.9%
4.Cons Staples : 17.8% : 11.6%
ถ้ามาดู 10 อันดับแรก ของกองทุน
1.Kweichow Moutai 9.5%
2.Jiangu Hengrui Medicine 8.5%
3.Ping An Insurance 8.4%
4.Gree Electric Appliances 8.3%
5.Wuliangye Yibin 8.2%
6.China Merchants Bank 8.2%
7.Ping An Bank 7.8%
8.Yunnan Baiyao 6.9%
9.Midea Group 4.7%
10.Alibaba Group 3.9%
รวม 10 บริษัทคิดเป็น 74.4% ถือว่าค่อนข้างเยอะเกือบทั้งพอร์ตแล้ว
เหล้าเหมาไถ เป็นบริษัทเหล้าที่มีมูลค่าหุ้นของเหล้าแพงสุดของโลก
ขวดละ 500 cc ราคา10,000บาท แพงมาก ซึ่งเป็น new china
ถือเป็นnew china , Luxury เหมาะกับผู้นำ หรือ ผู้บริหาร เคยเสริฟ ให้ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ
และสามารถนำเหมาไถไปมอบให้กับผู้ที่นับถือ
เหมาไถ ใช้เวลาผลิต4-5 ปี ซึ่งต้องใช้น้ำจากที่นั่น เอาข้าวฟ่างไปหมัก ได้เหล้าขาว 53ดีกรี
ยอดขายเติบโตสูงมาก ความที่เป็นpremium คนอื่นเลืยนแบบยาก
คนจีนเริ่มมีรายได้มากขึ้น ก็อยากซื้อมากินด้วย ถือเป็น consumption upgrade
ประกันชีวิต ถือ เป็น consumption upgrade ด้วย รายได้ดีขึ้น ก็จะทำประกันมากขึ้น
สัดส่วนการทำประกันค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
Ping An ยอดขายต่อตัวแทนสูงกว่าบริษัทอื่น
และเป็นบริษัทประกันที่ใช้เทคโนโลยีสูง
มีตู้mobileให้คนไข้ไปคุยกับหมอได้ หรือ ใช้ Application : Ping An good doctor ก็ได้
นอกจากนี้ ยังมีการปล่อยกู้ personal loanด้วย ถ้ามีrecordมาก่อน
ถ้าเราลงAppเสร็จ พิสูจน์ตัวตนเสร็จ AI จะพิจารณาสักครู่ก็อนุมัติได้ เร็วขึ้น การdefaultก็น้อยลง
Performance กองทุน:MSCI china A share ตั้งแต่ก่อตั้ง 206% : 35.6%
1Y 57.3% : 37.5%
ส่วนผลตอบแทนของกองนี้ 1 ปี 51.31%
กองแม่คือ UBS China A Opportunity USD P-acc ค่าเงินเป็น $
กองนี้ในไทย ป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวน
ถ้าหยวนอ่อนมากๆ ก็อาจจะขาดทุนได้ ถึงแม้ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน จาก บาท/$
รายละเอียดค่าธรรมเนียม ของกอง KFACHINA-A
ค่าธรรมเนียมขาเข้า 1.5% และค่าธรรมเนียมบริหาร KFACHINA-A 1% ซื้อขายได้ทุกวัน
เมื่อก่อน2ปีที่แล้ว ซื้อขายได้ สัปดาห์ละครั้ง เพราะสภาพคล่องน้อย ลูกค้าอาจไม่สนใจ
แต่ถ้าไปเลือกกองอันดับสองก็ดูไม่น่าสนใจ เลยเลือกกองนี้มาขายลูกค้าของ บลจ กรุงศรี
China H-Share มีนักลงทุนสถาบัน 77% Retail 23%
แต่ China A-Share มีรายย่อยถืออยู่ 86% สถาบันแค่ 14%
มีนักลงทุนรายย่อยเป็นส่วนใหญ่ ถือแค่ 2 วัน ราคาหุ้นยังไม่ได้สะท้อนปัจจัยพื้นฐาน
ก็เป็นโอกาสในการลงทุน
UBS เลือกหุ้นที่มีคุณภาพสูง และเป็นผู้นำในตลาด
เช่น เหมาไถ , Ping An Insurance , Jiansu Hengrui
พอร์ต จะเน้นลงทุนใน ( KFACHINA-A, MSCI China A onshore )
1.Financials : 25.7% : 26.8%
2.Cons Discretionary : 21% : 8.4%
3.Health Care : 17.9% : 7.9%
4.Cons Staples : 17.8% : 11.6%
ถ้ามาดู 10 อันดับแรก ของกองทุน
1.Kweichow Moutai 9.5%
2.Jiangu Hengrui Medicine 8.5%
3.Ping An Insurance 8.4%
4.Gree Electric Appliances 8.3%
5.Wuliangye Yibin 8.2%
6.China Merchants Bank 8.2%
7.Ping An Bank 7.8%
8.Yunnan Baiyao 6.9%
9.Midea Group 4.7%
10.Alibaba Group 3.9%
รวม 10 บริษัทคิดเป็น 74.4% ถือว่าค่อนข้างเยอะเกือบทั้งพอร์ตแล้ว
เหล้าเหมาไถ เป็นบริษัทเหล้าที่มีมูลค่าหุ้นของเหล้าแพงสุดของโลก
ขวดละ 500 cc ราคา10,000บาท แพงมาก ซึ่งเป็น new china
ถือเป็นnew china , Luxury เหมาะกับผู้นำ หรือ ผู้บริหาร เคยเสริฟ ให้ประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ
และสามารถนำเหมาไถไปมอบให้กับผู้ที่นับถือ
เหมาไถ ใช้เวลาผลิต4-5 ปี ซึ่งต้องใช้น้ำจากที่นั่น เอาข้าวฟ่างไปหมัก ได้เหล้าขาว 53ดีกรี
ยอดขายเติบโตสูงมาก ความที่เป็นpremium คนอื่นเลืยนแบบยาก
คนจีนเริ่มมีรายได้มากขึ้น ก็อยากซื้อมากินด้วย ถือเป็น consumption upgrade
ประกันชีวิต ถือ เป็น consumption upgrade ด้วย รายได้ดีขึ้น ก็จะทำประกันมากขึ้น
สัดส่วนการทำประกันค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น
Ping An ยอดขายต่อตัวแทนสูงกว่าบริษัทอื่น
และเป็นบริษัทประกันที่ใช้เทคโนโลยีสูง
มีตู้mobileให้คนไข้ไปคุยกับหมอได้ หรือ ใช้ Application : Ping An good doctor ก็ได้
นอกจากนี้ ยังมีการปล่อยกู้ personal loanด้วย ถ้ามีrecordมาก่อน
ถ้าเราลงAppเสร็จ พิสูจน์ตัวตนเสร็จ AI จะพิจารณาสักครู่ก็อนุมัติได้ เร็วขึ้น การdefaultก็น้อยลง
Performance กองทุน:MSCI china A share ตั้งแต่ก่อตั้ง 206% : 35.6%
1Y 57.3% : 37.5%
ส่วนผลตอบแทนของกองนี้ 1 ปี 51.31%
กองแม่คือ UBS China A Opportunity USD P-acc ค่าเงินเป็น $
กองนี้ในไทย ป้องกันความเสี่ยงเต็มจำนวน
ถ้าหยวนอ่อนมากๆ ก็อาจจะขาดทุนได้ ถึงแม้ป้องกันความเสี่ยงค่าเงิน จาก บาท/$
รายละเอียดค่าธรรมเนียม ของกอง KFACHINA-A
ค่าธรรมเนียมขาเข้า 1.5% และค่าธรรมเนียมบริหาร KFACHINA-A 1% ซื้อขายได้ทุกวัน
เมื่อก่อน2ปีที่แล้ว ซื้อขายได้ สัปดาห์ละครั้ง เพราะสภาพคล่องน้อย ลูกค้าอาจไม่สนใจ
แต่ถ้าไปเลือกกองอันดับสองก็ดูไม่น่าสนใจ เลยเลือกกองนี้มาขายลูกค้าของ บลจ กรุงศรี