วางแผนรับมือหลังเกษียณแล้วหรือยัง
โพสต์แล้ว: จันทร์ ส.ค. 19, 2019 9:22 am
เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้คุยกับคุณครูท่านนึงที่จะเกษียณในเดือนหน้านี้
ว่าเกษียณแล้วได้วางแผนทำอะไรบ้าง ครูท่านได้ตอบว่า
ช่วงแรกๆก็คงไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะจัดเก็บของสนบ้าน
แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่รู้ว่าทำอะไรดี
ทำให้ผมนึกถึงคอร์สอบรมหลายๆหลักสูตรที่ทางหน่วยงานราชการจัดขึ้นเรื่องการวางแผนการเกษียณ
ให้ทายสิว่า อายุของผู้ร่วมสัมมนาสักเท่าไหร่
1.25-35 ปี
2.36-55 ปี
3.56-59 ปี
4.60ปี
คำตอบก็คือ ข้อ 4 หรือ ข้อ 3 อายุประมาณ59ปี
ซึ่งจริงๆแล้ววัยที่เหมาะมาฟังคือช่วงอายุ 25-35ปี ซึ่งมีเงินเก็บบ้างแล้ว
เวลาก่อนเกษียณยังก็อีกนาน สามารถเรียนรู้การลงทุนได้
ถึงพลาดก็ยังมีเวลาแก้ตัวใหม่ได้เพราะยังมีรายได้จากงานประจำ
สำหรับคนที่ใกล้เกษียณ ถ้ามีเงินเก็บไม่มากเช่น 1แสนบาท ถ้ารวมกับเงินจาก กบข หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วก็ดูไม่มาก ถ้ามาฟังสัมมนาเรื่องวางแผนการเกษียณ
ก็อาจได้ประโยชน์ไม่มาก ยกเว้นว่ามีเงินเก็บมาก
เพราะปัจจัยที่จะทำให้เงินงอกเงยนั้น
ประกอบไปด้วย3ปัจจัย คือ เงินลงทุน เวลาที่สามารถลงทุนได้ และ ความรู้ด้านลงทุน
ซึ่งจะเห็นว่า ปัจจัยเรื่องเงินลงทุน และเวลา ค่อนข้างเหลือน้อย
วิธีการนำเงินไปลงทุนอาจจะไม่เหมาะแล้ว
เราต้องไปหาวิธีอื่นๆเพื่อให้สามารถอยู่ได้หลังเกษียณ
อย่างเช่น
1.การขอยืดอายุเกษียณออกไป ซึ่งก็ไม่ง่ายสำหรับชีวิตครู
เพราะต้องอยู่ในตำแหน่งที่ยังขาดอยู่จึงสามารถยื่นคำร้องได้
2.ทำงานในองค์กรที่รับคนที่เกษียณแล้ว แต่เงินเดือนก็ไม่มากนัก
3.ไปเป็นที่ปรึกษาในที่ต่างๆ ถ้าเรามีคุณวุฒิที่เหมาะสม
4.รับสอนพิเศษ ในวิชาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย อังกฤษ
5.ไปทำธุรกิจส่วนตัว มีความเสี่ยงสูง ต้องหาธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนน้อย
6.ทำอาชีพอิสระ เช่นถ่ายภาพ ไปขายในwebต่างๆ
เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าคนที่เกษียณยังมีโอกาสเก็บเงินต่อได้
แต่ถ้ามีโอกาสวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย ก็จะดีกว่านะครับ
ว่าเกษียณแล้วได้วางแผนทำอะไรบ้าง ครูท่านได้ตอบว่า
ช่วงแรกๆก็คงไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะจัดเก็บของสนบ้าน
แต่หลังจากนั้นก็ยังไม่รู้ว่าทำอะไรดี
ทำให้ผมนึกถึงคอร์สอบรมหลายๆหลักสูตรที่ทางหน่วยงานราชการจัดขึ้นเรื่องการวางแผนการเกษียณ
ให้ทายสิว่า อายุของผู้ร่วมสัมมนาสักเท่าไหร่
1.25-35 ปี
2.36-55 ปี
3.56-59 ปี
4.60ปี
คำตอบก็คือ ข้อ 4 หรือ ข้อ 3 อายุประมาณ59ปี
ซึ่งจริงๆแล้ววัยที่เหมาะมาฟังคือช่วงอายุ 25-35ปี ซึ่งมีเงินเก็บบ้างแล้ว
เวลาก่อนเกษียณยังก็อีกนาน สามารถเรียนรู้การลงทุนได้
ถึงพลาดก็ยังมีเวลาแก้ตัวใหม่ได้เพราะยังมีรายได้จากงานประจำ
สำหรับคนที่ใกล้เกษียณ ถ้ามีเงินเก็บไม่มากเช่น 1แสนบาท ถ้ารวมกับเงินจาก กบข หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้วก็ดูไม่มาก ถ้ามาฟังสัมมนาเรื่องวางแผนการเกษียณ
ก็อาจได้ประโยชน์ไม่มาก ยกเว้นว่ามีเงินเก็บมาก
เพราะปัจจัยที่จะทำให้เงินงอกเงยนั้น
ประกอบไปด้วย3ปัจจัย คือ เงินลงทุน เวลาที่สามารถลงทุนได้ และ ความรู้ด้านลงทุน
ซึ่งจะเห็นว่า ปัจจัยเรื่องเงินลงทุน และเวลา ค่อนข้างเหลือน้อย
วิธีการนำเงินไปลงทุนอาจจะไม่เหมาะแล้ว
เราต้องไปหาวิธีอื่นๆเพื่อให้สามารถอยู่ได้หลังเกษียณ
อย่างเช่น
1.การขอยืดอายุเกษียณออกไป ซึ่งก็ไม่ง่ายสำหรับชีวิตครู
เพราะต้องอยู่ในตำแหน่งที่ยังขาดอยู่จึงสามารถยื่นคำร้องได้
2.ทำงานในองค์กรที่รับคนที่เกษียณแล้ว แต่เงินเดือนก็ไม่มากนัก
3.ไปเป็นที่ปรึกษาในที่ต่างๆ ถ้าเรามีคุณวุฒิที่เหมาะสม
4.รับสอนพิเศษ ในวิชาต่างๆ เช่น คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย อังกฤษ
5.ไปทำธุรกิจส่วนตัว มีความเสี่ยงสูง ต้องหาธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนน้อย
6.ทำอาชีพอิสระ เช่นถ่ายภาพ ไปขายในwebต่างๆ
เป็นต้น
จะเห็นได้ว่าคนที่เกษียณยังมีโอกาสเก็บเงินต่อได้
แต่ถ้ามีโอกาสวางแผนเกษียณตั้งแต่อายุยังน้อย ก็จะดีกว่านะครับ