ธรรมาภิบาลกับโอกาสการลงทุน -Billionaire VI
โพสต์แล้ว: พฤหัสฯ. ม.ค. 24, 2019 6:27 am
“ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” คำสุภาษิตนี้พวกเราน่าจะได้ยินกันบ่อยๆตั้งแต่ตอนเด็กจนโต
โดยส่วนตัวผมก็มีความเชื่ออย่างนั้นเช่นกัน ผมถือว่าการซื่อตรงไม่คิดโกงใครเป็นสิ่งที่ประเสริฐและมีผลบุญช่วยให้ตัวเราและลูกหลานประสบความสำเร็จอีกด้วย
ส่วนการลงทุนผมก็เน้นหุ้นที่ผู้บริหารมีความน่าเชื่อถือ ไม่คุยโวโอ้อวดมากเกินไป หรือพูดไปแล้วทำไม่ได้ตามคำที่พูด บางคนชอบตั้งเป้าหมายสูงเว่อร์เพื่อล่อนักลงทุนให้ไปติดกับดัก
อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดวิกฤติย่อมมีโอกาส
ขอแชร์ประสบการณ์ลงทุนหุ้น CPALL ช่วงปี 2558 ตอนเกิดวิกฤตธรรมาภิบาลกับคุณก่อศักดิ์ทำให้หุ้นปรับตัวลดลงจาก 50 กว่าบาทลงไปต่ำสุดที่ 38 บาท
แนวความคิดของผมคือบริษัทที่แข็งแกร่งสามารถอยู่ได้แม้ว่าผู้บริหารมือหนึ่งจะต้องออกจากตำแหน่งไป ตอนนั้นนักลงทุนต่างกลัวว่าเมื่อคุณก่อศักดิ์พ้นตำแหน่งไป จะทำให้ CPALL สั่นสะเทือนขาดหัวเรือในการขับเคลื่อนองค์กร หุ้นลงอย่างรุนแรงอยู่หลายวัน
ผมก็มาทำการบ้านหามูลค่าที่เหมาะสมถ้าบริษัทยังรักษาอัตราการเติบโตได้ 15% ต่อปีไปอีก 10 ปีข้างหน้า ได้ราคาที่เหมาะสมพร้อมส่วนเผื่อความปลอดภัยที่ 42 บาท
ด้วยความเชื่อมั่นในองค์กรและคูเมืองที่เเข็งแกร่งของ CPALL ผมเลยตีแตกหุ้นตัวนี้ไปช่วงนั้นแล้วถือมาจนปัจจุบันยังไม่ได้ขายทิ้งเลย
กลับมามองโอกาสการลงทุนในหุ้น BDMS แม้ว่ากรณีที่เกิดกับคุณหมอปราเสริฐจะดูร้ายแรงกว่าเพราะข้อหาเหมือนจงใจปั่นหุ้นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ในขณะที่ของคุณก่อศักดิ์แนวใข้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น Makro ก่อนขายให้ CPALL แต่ก็คงผิดธรรมาภิบาลเหมือนกัน
วันนี้หุ้นปรับตัวลดลงไปถึง 8.4% แต่ธุรกิจก็ยังเป็นโรงพยาบาลเบอร์หนึ่งของประเทศไทย มีเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุด เพื่อนๆลองพิจารณากันดูว่าน่าลงทุนไหมเมื่อราคาลงมาเยอะๆครับ
ปล. ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อหุ้น BDMS แต่แค่แชร์ประสบการณ์ครับ
โดยส่วนตัวผมก็มีความเชื่ออย่างนั้นเช่นกัน ผมถือว่าการซื่อตรงไม่คิดโกงใครเป็นสิ่งที่ประเสริฐและมีผลบุญช่วยให้ตัวเราและลูกหลานประสบความสำเร็จอีกด้วย
ส่วนการลงทุนผมก็เน้นหุ้นที่ผู้บริหารมีความน่าเชื่อถือ ไม่คุยโวโอ้อวดมากเกินไป หรือพูดไปแล้วทำไม่ได้ตามคำที่พูด บางคนชอบตั้งเป้าหมายสูงเว่อร์เพื่อล่อนักลงทุนให้ไปติดกับดัก
อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดวิกฤติย่อมมีโอกาส
ขอแชร์ประสบการณ์ลงทุนหุ้น CPALL ช่วงปี 2558 ตอนเกิดวิกฤตธรรมาภิบาลกับคุณก่อศักดิ์ทำให้หุ้นปรับตัวลดลงจาก 50 กว่าบาทลงไปต่ำสุดที่ 38 บาท
แนวความคิดของผมคือบริษัทที่แข็งแกร่งสามารถอยู่ได้แม้ว่าผู้บริหารมือหนึ่งจะต้องออกจากตำแหน่งไป ตอนนั้นนักลงทุนต่างกลัวว่าเมื่อคุณก่อศักดิ์พ้นตำแหน่งไป จะทำให้ CPALL สั่นสะเทือนขาดหัวเรือในการขับเคลื่อนองค์กร หุ้นลงอย่างรุนแรงอยู่หลายวัน
ผมก็มาทำการบ้านหามูลค่าที่เหมาะสมถ้าบริษัทยังรักษาอัตราการเติบโตได้ 15% ต่อปีไปอีก 10 ปีข้างหน้า ได้ราคาที่เหมาะสมพร้อมส่วนเผื่อความปลอดภัยที่ 42 บาท
ด้วยความเชื่อมั่นในองค์กรและคูเมืองที่เเข็งแกร่งของ CPALL ผมเลยตีแตกหุ้นตัวนี้ไปช่วงนั้นแล้วถือมาจนปัจจุบันยังไม่ได้ขายทิ้งเลย
กลับมามองโอกาสการลงทุนในหุ้น BDMS แม้ว่ากรณีที่เกิดกับคุณหมอปราเสริฐจะดูร้ายแรงกว่าเพราะข้อหาเหมือนจงใจปั่นหุ้นเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ในขณะที่ของคุณก่อศักดิ์แนวใข้ข้อมูลภายในซื้อหุ้น Makro ก่อนขายให้ CPALL แต่ก็คงผิดธรรมาภิบาลเหมือนกัน
วันนี้หุ้นปรับตัวลดลงไปถึง 8.4% แต่ธุรกิจก็ยังเป็นโรงพยาบาลเบอร์หนึ่งของประเทศไทย มีเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุด เพื่อนๆลองพิจารณากันดูว่าน่าลงทุนไหมเมื่อราคาลงมาเยอะๆครับ
ปล. ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อหุ้น BDMS แต่แค่แชร์ประสบการณ์ครับ