เบญจภาคี5หุ้นเด็ด
โพสต์แล้ว: ศุกร์ ธ.ค. 21, 2018 9:10 am
4 กูรูวงการหุ้นไทย เปิดเผยในงาน สัมมนา"โค้งสุดท้ายหุ้นไทย ฟุบ หรือ ไปต่อ" ในช่วงเบญจภาคี 5 หุ้นเด็ด
โค้งสุดท้ายรับไม้ต่อปี 2562
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การลงทุนในระยะสั้นยากมาก เม็ดเงินFundFlow ไม่เอื้อต่อการทำกำไรระยะสั้น แต่ปัจจัยในประเทศเอื้อลงทุน ถึงไม่มีเลือกตั้ง หุ้นก็ขึ้นได้
ความน่ากลัวในเรื่องCredit spread บริษัทในUS มีต้นทุนการกู้ยืมเงิน เริ่มกังวลว่าบริษัทจะคืนหนี้ หรือ จ่ายดอกเบี้ยได้เต็มที่หรือเปล่า เราถูกเตือนมาตลอด ปีหน้าจะครบ11ปีหลังเกิดวิกฤตแฮมเบอเกอร์
ปีหน้านักวิเคราะห์จะบอกว่าเป็นตลาดหมี
ข้อดี คือ อาจมีการพลิกล๊อค ทรัมป์อาจโดนปลด
FEDไม่ได้พูดBalance sheet ลดการลงทุนลง (ซึ่งจะทำให้สภาพคล่องตึงตัวขึ้น)
ปัจจัยระยะสั้น การเมืองโลกเป็นอย่างไร ถ้าตกลงกับจีนได้มาก , ปานกลาง หรือ ตกลงกันได้น้อยมาก ก็มีผลต่อเศรษฐกิจ
ส่วนเรื่องการจับตัวCFO ของหัวเหว่ย ก็ไม่มีผลต่อการเจรจาการค้า แต่อาจมีการตอบโต้จับเจ้าหน้าที่ของแคนาดา
ความผันผวนของราคาน้ำมันจะกลับมา ซึ่งมีโอกาสจะเห็นราคาน้ำมันที่ 80$ต่อบาร์เรล
ปีนี้ยังไม่ได้ซื้อLTFเลย ซึ่งปกติจะซื้อตอนสิ้นปี มองการเลือกตั้งตอนนี้ ปัจจัยในประเทศจะช่วย
ช่วงฮันนีมูลจะหมดหลังหย่อนบัตรเลือกตั้ง หลังเลือกตั้ง ต้องดูว่านโยบายรัฐบาลจะขับเคลื่อนได้จริงหรือไม่
แต่ตอนนี้ต่างชาติกลัวปัจจัยภายนอกประเทศมากกว่า
ต้นปีหน้ามองว่า จะเห็นตลาดหมีมากกว่าตลาดกระทิง เตรียมเงินสดไว้ให้เยอะ มองดัชนีหุ้นไทยในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ 1,850 จุด โดยดัชนีหุ้นในช่วงสิ้นปีน่าจะเกิน 1,600จุด
ปัจจัยความเสี่ยงมีอยู่จริง ถ้าทรัมป์สภาล่างสามารถเอาทรัมป์ออกได้ มีส่วนช่วยต่อตลาดหุ้น
จีนและUSทะเลาะกัน ไทยได้ประโยชน์ ตอนนี้บริษัทที่ลงทุนในจีนพยายามย้ายออกไปเวียดนาม อินโดนีเซีย และ ไทย
จีนเป็นฐานdistribution คุณจรีพรจากWHAเห็นtrendว่า distribution จะย้ายมาอยู่ที่อาเซียนมากขึ้นเราต้องเก็บเงินสดเพื่อซื้อตอนหุ้นตก
โดยหุ้นที่น่าสนใจในการลงทุน
เช่น1. WHA ปีหน้าได้อานิสงค์เต็มๆจาก บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านE-commerceจากจีนย้ายมาไทย รวมถึงซัมซุงด้วย
ซึ่งจะพาห่วงโซ่ บริษัทลูก และ Global supply chainมาด้วย และราคาจะถูกกว่าAmata การเช่าหรือซื้อโรงงาน
เป็นจุดเด่นของWHA ราคาเป้าหมายที่ 5.5 บาท ,
2.หลายสำนักเริ่มdowngrade บริษัทน้ำมัน จากราคาน้ำมันตกต่ำ แต่ผมมองว่าใกล้ต่ำสุดแล้ว การเติบโตของEmerging market ยังมีกำลังซื้อ และ supplyน้ำมันยังไม่เพิ่มมาก คนกลัวPTTEP ที่เสนอราคาขายต่ำมากในการประมูลที่ผ่านมาแต่รู้ไหมว่าVolumnเพิ่ม50% ซึ่งส่งผลต่อPTTดีขึ้น เพราะต้นทุนต่ำลงแต่ราคาขายแก๊สเท่าเดิม
ราคาเป้าหมายที่ 167 บาท ,
3.BEC ดูน่าสนใจเพราะราคาค่อนข้างต่ำ content is the king ถ้าใครกล้า ราคาเป้าหมายที่ 7-8 บาท
4.ส่วนการท่องเที่ยว ในช่วงธค ,มีการ offer visa on arrival 22 ประเทศ ไม่ต้องเสียค่าVisa ทำให้volumnช่วง2สัปดาห์แรกของธค โต Y-Y ดูแล้วAOTน่าสนใจ การประมูลDuty free ถ้าเสร็จในกพ ปีหน้า จะมาชดเชยกับcapexที่รออยู่
5.ส่วนธนาคาร BBLดูน่าสนใจ
6.ส่วนการก่อสร้าง UNIQ ที่มีการประมูลล่าช้าในปีนี้ รัฐแก้ไขทัน ปีหน้า Q1,Q2น่าจะกลับมา
โค้งสุดท้ายรับไม้ต่อปี 2562
นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ซีแอลเอสเอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า การลงทุนในระยะสั้นยากมาก เม็ดเงินFundFlow ไม่เอื้อต่อการทำกำไรระยะสั้น แต่ปัจจัยในประเทศเอื้อลงทุน ถึงไม่มีเลือกตั้ง หุ้นก็ขึ้นได้
ความน่ากลัวในเรื่องCredit spread บริษัทในUS มีต้นทุนการกู้ยืมเงิน เริ่มกังวลว่าบริษัทจะคืนหนี้ หรือ จ่ายดอกเบี้ยได้เต็มที่หรือเปล่า เราถูกเตือนมาตลอด ปีหน้าจะครบ11ปีหลังเกิดวิกฤตแฮมเบอเกอร์
ปีหน้านักวิเคราะห์จะบอกว่าเป็นตลาดหมี
ข้อดี คือ อาจมีการพลิกล๊อค ทรัมป์อาจโดนปลด
FEDไม่ได้พูดBalance sheet ลดการลงทุนลง (ซึ่งจะทำให้สภาพคล่องตึงตัวขึ้น)
ปัจจัยระยะสั้น การเมืองโลกเป็นอย่างไร ถ้าตกลงกับจีนได้มาก , ปานกลาง หรือ ตกลงกันได้น้อยมาก ก็มีผลต่อเศรษฐกิจ
ส่วนเรื่องการจับตัวCFO ของหัวเหว่ย ก็ไม่มีผลต่อการเจรจาการค้า แต่อาจมีการตอบโต้จับเจ้าหน้าที่ของแคนาดา
ความผันผวนของราคาน้ำมันจะกลับมา ซึ่งมีโอกาสจะเห็นราคาน้ำมันที่ 80$ต่อบาร์เรล
ปีนี้ยังไม่ได้ซื้อLTFเลย ซึ่งปกติจะซื้อตอนสิ้นปี มองการเลือกตั้งตอนนี้ ปัจจัยในประเทศจะช่วย
ช่วงฮันนีมูลจะหมดหลังหย่อนบัตรเลือกตั้ง หลังเลือกตั้ง ต้องดูว่านโยบายรัฐบาลจะขับเคลื่อนได้จริงหรือไม่
แต่ตอนนี้ต่างชาติกลัวปัจจัยภายนอกประเทศมากกว่า
ต้นปีหน้ามองว่า จะเห็นตลาดหมีมากกว่าตลาดกระทิง เตรียมเงินสดไว้ให้เยอะ มองดัชนีหุ้นไทยในปีหน้าคาดว่าจะอยู่ที่ 1,850 จุด โดยดัชนีหุ้นในช่วงสิ้นปีน่าจะเกิน 1,600จุด
ปัจจัยความเสี่ยงมีอยู่จริง ถ้าทรัมป์สภาล่างสามารถเอาทรัมป์ออกได้ มีส่วนช่วยต่อตลาดหุ้น
จีนและUSทะเลาะกัน ไทยได้ประโยชน์ ตอนนี้บริษัทที่ลงทุนในจีนพยายามย้ายออกไปเวียดนาม อินโดนีเซีย และ ไทย
จีนเป็นฐานdistribution คุณจรีพรจากWHAเห็นtrendว่า distribution จะย้ายมาอยู่ที่อาเซียนมากขึ้นเราต้องเก็บเงินสดเพื่อซื้อตอนหุ้นตก
โดยหุ้นที่น่าสนใจในการลงทุน
เช่น1. WHA ปีหน้าได้อานิสงค์เต็มๆจาก บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านE-commerceจากจีนย้ายมาไทย รวมถึงซัมซุงด้วย
ซึ่งจะพาห่วงโซ่ บริษัทลูก และ Global supply chainมาด้วย และราคาจะถูกกว่าAmata การเช่าหรือซื้อโรงงาน
เป็นจุดเด่นของWHA ราคาเป้าหมายที่ 5.5 บาท ,
2.หลายสำนักเริ่มdowngrade บริษัทน้ำมัน จากราคาน้ำมันตกต่ำ แต่ผมมองว่าใกล้ต่ำสุดแล้ว การเติบโตของEmerging market ยังมีกำลังซื้อ และ supplyน้ำมันยังไม่เพิ่มมาก คนกลัวPTTEP ที่เสนอราคาขายต่ำมากในการประมูลที่ผ่านมาแต่รู้ไหมว่าVolumnเพิ่ม50% ซึ่งส่งผลต่อPTTดีขึ้น เพราะต้นทุนต่ำลงแต่ราคาขายแก๊สเท่าเดิม
ราคาเป้าหมายที่ 167 บาท ,
3.BEC ดูน่าสนใจเพราะราคาค่อนข้างต่ำ content is the king ถ้าใครกล้า ราคาเป้าหมายที่ 7-8 บาท
4.ส่วนการท่องเที่ยว ในช่วงธค ,มีการ offer visa on arrival 22 ประเทศ ไม่ต้องเสียค่าVisa ทำให้volumnช่วง2สัปดาห์แรกของธค โต Y-Y ดูแล้วAOTน่าสนใจ การประมูลDuty free ถ้าเสร็จในกพ ปีหน้า จะมาชดเชยกับcapexที่รออยู่
5.ส่วนธนาคาร BBLดูน่าสนใจ
6.ส่วนการก่อสร้าง UNIQ ที่มีการประมูลล่าช้าในปีนี้ รัฐแก้ไขทัน ปีหน้า Q1,Q2น่าจะกลับมา