โครงการ CSR_ครูเชาว์ ศูนย์สร้างโอกาสเด็ก สะพานพระรามแปด
โพสต์แล้ว: เสาร์ มิ.ย. 09, 2018 12:00 am
เมื่อวันที่ 5 มิย. 61
กรรมการสมาคมฯ นำโดยนายกชาย มโนภาส
ได้เดินทางไปเยี่ยม "ครูเชาว์_เชาวลิต สาดสมัย"
อดีตเด็กพิการ ที่พ่อแม่ทิ้งไป จนต้องไปอยู่ในความอุปการะของ
"บ้านเฟื่องฟ้า" อายุมากขึ้นก็ย้ายสู่ "บ้านราชาวดี" ตามเกณฑ์ของสถานสงเคราะห์
.
ในที่สุดก็ขอโอกาสนักสังคมสงเคราะห์ของบ้านเพื่อเรียนหนังสือ
.
และพยายามเรียนจนจบ "คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์"
แม้จะช้าหน่อย เพราะระดับสติปัญญาของเขาด้อยกว่าคนทั่วไปสักหน่อย
.
ด้วยเคยผ่านชีวิตที่ขาดแคลนทุกสิ่ง แม้แต่ความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่
ครูเชาว์จึงมีความเข้าอกเข้าใจในชีวิตของผู้ด้อยโอกาสยากไร้ในสังคม
และตั้งปณิธานไว้ว่า เมื่อเรียนจบจะตอบแทนโอกาสที่ตัวเขาเคยได้รับ
กลับคืนสู่สังคม เท่าที่เรี่ยวแรงเล็กๆ นี้จะทำได้
.
งาน CSR หวังว่า สมาชิกสมาคมจะเห็นด้วย
ที่พวกเราจะช่วยสนับสนุนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคมผ่านกิจกรรมของครูเชาว์
.
ซึ่งทางคณะกรรมการกำลังร่วมพิจารณาว่าการสนับสนุนควรจะเป็นรูปแบบใด
ติดตามได้ ในงานสังสรรค์ ThaiVI ครั้งต่อไปค่ะ
...................
หมายเหตุ - เงินที่ทางสมาคมได้รับจากค่าสมาชิก
การจัดสัมมนา และงานสังสรรค์สมาคม
หลังหักค่าใช้จ่าย ทางสมาคมนำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
ผ่านโครงการ CSR ของสมาคม ทั้งหมด
.
ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่าน ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ ^^
....................
ขออนุญาตบรรยายด้วยภาพ และคลิปจากหลายสื่อนะคะ
เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวยากจน
ครูเชาว์ได้จัดตั้ง "ร้าน 0 บาท" ด้วยเงินจ้างการขายขยะรีไซเคิล
แรกๆ ก็ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองคนเดียว
เพื่อหาทุนจัดซื้อของใช้จำเป็นเข้าร้าน
.
หลังๆ มา หลังออกรายการต่างๆ ก็มีคนนำของมาบริจาคมากขึ้น
ครูเชาว์ก็ยังคงนโยบายเดิมคือ ลูกค้ายังต้องนำขยะรีไซเคิลมาแลกของ
.
ครูบอกว่า ทุกคนต้องใช้ความพยายามเพื่อให้ได้มา
เป็นการพัฒนาผู้ด้อยโอกาสไปด้วยในตัว
ให้พวกเขาเห็นคุณค่าของความพยายาม และไม่นั่งรอรับความช่วยเหลือแบบให้เปล่า
.
แน่นอนปริมาณขยะที่คนในชุมชนนำมาแลก ก็มากขึ้นเรื่อยๆ
เงินที่ได้จากการขายขยะอีกส่วนก็ไว้จัดสรรเป็นค่าเดินทางไป รพ.
สำหรับผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการ ซึ่งแม้จะได้รับสิทธิรักษาฟรี
แต่พวกเขาไม่มีเงินค่าเดินทางไป รพ.
การเดินทางของพวกเขาต้นทุนสูงกว่าคนปกติ...เพราะจำเป็นต้องใช้ Taxi
แอ้ม มีความพิการร่างกายช่วงล่างทั้งหมด
ไม่สามารถเดิน และขับถ่ายได้
ต้องใส่สายสวนปัสสาวะ และใช้ผ้าออ้อมผู้ใหญ่
.
มีลูก 4 คน ในวัยเรียนทั้งหมด แต่ก็มีผู้มาขอรับไปอุปการะ 2 คน
นานๆ ครั้งก็ยังพามาเยี่ยมแม่บ้าง
ยังคงมีลูกอีก 2 คน ที่ต้องส่งเสียให้เล่าเรียน
หลังพิการเธอไม่ได้อยู่เฉยๆ ยังทำงานฝีมือขาย (ที่เห็นในภาพ)
.
เป็นอีก 1 ในหลายคนที่ได้รับความช่วยเหลือ
ทั้งค่ารถ ไป รพ. ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และทุนสำหรับลูก
คลิปที่ครูเชาว์ออกรายการต่างๆ
แต่ครูยังอยู่กับพื้นฐานความเป็นจริงที่ว่า
ช่วงที่ออกรายการ ก็จะมีคนแวะเข้ามามากหน่อย
แต่ในที่สุด ผู้คนก็จะลืมเลือนไป
ดังนั้น ครูต้องพัฒนาศูนย์สร้างโอกาสให้ยั่งยืน
และพัฒนาผู้ด้อยโอกาสให้ช่วยเหลือตังเองได้
.............................
วันไปดูงาน นั่งเรือกันไป สนุกดีค่ะ ^^
กรรมการสมาคมฯ นำโดยนายกชาย มโนภาส
ได้เดินทางไปเยี่ยม "ครูเชาว์_เชาวลิต สาดสมัย"
อดีตเด็กพิการ ที่พ่อแม่ทิ้งไป จนต้องไปอยู่ในความอุปการะของ
"บ้านเฟื่องฟ้า" อายุมากขึ้นก็ย้ายสู่ "บ้านราชาวดี" ตามเกณฑ์ของสถานสงเคราะห์
.
ในที่สุดก็ขอโอกาสนักสังคมสงเคราะห์ของบ้านเพื่อเรียนหนังสือ
.
และพยายามเรียนจนจบ "คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์"
แม้จะช้าหน่อย เพราะระดับสติปัญญาของเขาด้อยกว่าคนทั่วไปสักหน่อย
.
ด้วยเคยผ่านชีวิตที่ขาดแคลนทุกสิ่ง แม้แต่ความรักความอบอุ่นจากพ่อแม่
ครูเชาว์จึงมีความเข้าอกเข้าใจในชีวิตของผู้ด้อยโอกาสยากไร้ในสังคม
และตั้งปณิธานไว้ว่า เมื่อเรียนจบจะตอบแทนโอกาสที่ตัวเขาเคยได้รับ
กลับคืนสู่สังคม เท่าที่เรี่ยวแรงเล็กๆ นี้จะทำได้
.
งาน CSR หวังว่า สมาชิกสมาคมจะเห็นด้วย
ที่พวกเราจะช่วยสนับสนุนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคมผ่านกิจกรรมของครูเชาว์
.
ซึ่งทางคณะกรรมการกำลังร่วมพิจารณาว่าการสนับสนุนควรจะเป็นรูปแบบใด
ติดตามได้ ในงานสังสรรค์ ThaiVI ครั้งต่อไปค่ะ
...................
หมายเหตุ - เงินที่ทางสมาคมได้รับจากค่าสมาชิก
การจัดสัมมนา และงานสังสรรค์สมาคม
หลังหักค่าใช้จ่าย ทางสมาคมนำไปช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส
ผ่านโครงการ CSR ของสมาคม ทั้งหมด
.
ขอขอบคุณสมาชิกทุกท่าน ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ ^^
....................
ขออนุญาตบรรยายด้วยภาพ และคลิปจากหลายสื่อนะคะ
เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัวยากจน
ครูเชาว์ได้จัดตั้ง "ร้าน 0 บาท" ด้วยเงินจ้างการขายขยะรีไซเคิล
แรกๆ ก็ด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองคนเดียว
เพื่อหาทุนจัดซื้อของใช้จำเป็นเข้าร้าน
.
หลังๆ มา หลังออกรายการต่างๆ ก็มีคนนำของมาบริจาคมากขึ้น
ครูเชาว์ก็ยังคงนโยบายเดิมคือ ลูกค้ายังต้องนำขยะรีไซเคิลมาแลกของ
.
ครูบอกว่า ทุกคนต้องใช้ความพยายามเพื่อให้ได้มา
เป็นการพัฒนาผู้ด้อยโอกาสไปด้วยในตัว
ให้พวกเขาเห็นคุณค่าของความพยายาม และไม่นั่งรอรับความช่วยเหลือแบบให้เปล่า
.
แน่นอนปริมาณขยะที่คนในชุมชนนำมาแลก ก็มากขึ้นเรื่อยๆ
เงินที่ได้จากการขายขยะอีกส่วนก็ไว้จัดสรรเป็นค่าเดินทางไป รพ.
สำหรับผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการ ซึ่งแม้จะได้รับสิทธิรักษาฟรี
แต่พวกเขาไม่มีเงินค่าเดินทางไป รพ.
การเดินทางของพวกเขาต้นทุนสูงกว่าคนปกติ...เพราะจำเป็นต้องใช้ Taxi
แอ้ม มีความพิการร่างกายช่วงล่างทั้งหมด
ไม่สามารถเดิน และขับถ่ายได้
ต้องใส่สายสวนปัสสาวะ และใช้ผ้าออ้อมผู้ใหญ่
.
มีลูก 4 คน ในวัยเรียนทั้งหมด แต่ก็มีผู้มาขอรับไปอุปการะ 2 คน
นานๆ ครั้งก็ยังพามาเยี่ยมแม่บ้าง
ยังคงมีลูกอีก 2 คน ที่ต้องส่งเสียให้เล่าเรียน
หลังพิการเธอไม่ได้อยู่เฉยๆ ยังทำงานฝีมือขาย (ที่เห็นในภาพ)
.
เป็นอีก 1 ในหลายคนที่ได้รับความช่วยเหลือ
ทั้งค่ารถ ไป รพ. ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และทุนสำหรับลูก
คลิปที่ครูเชาว์ออกรายการต่างๆ
แต่ครูยังอยู่กับพื้นฐานความเป็นจริงที่ว่า
ช่วงที่ออกรายการ ก็จะมีคนแวะเข้ามามากหน่อย
แต่ในที่สุด ผู้คนก็จะลืมเลือนไป
ดังนั้น ครูต้องพัฒนาศูนย์สร้างโอกาสให้ยั่งยืน
และพัฒนาผู้ด้อยโอกาสให้ช่วยเหลือตังเองได้
.............................
วันไปดูงาน นั่งเรือกันไป สนุกดีค่ะ ^^