<< นักวิเคราะห์ชี้ ปีนี้ "หุ้นโลกเล่นยาก" >> โดย ชัชวนันท์
โพสต์แล้ว: พุธ มิ.ย. 06, 2018 7:00 pm
<< นักวิเคราะห์ชี้ ปีนี้ "หุ้นโลกเล่นยาก" >>
โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช
ข้อมูลประกอบจาก The Wall Street Journal
ปีที่แล้ว ผลตอบแทนของหลายตลาดทั่วโลกถือว่าดีมาก รวมทั้งตลาดหุ้นไทย แต่ปีนี้ ผ่านมาแล้วห้าเดือนกว่า ปรากฏว่าสถานการณ์กลับเป็นตรงกันข้าม คือตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนอย่างหนัก ลงทีนึงแรงๆ (และตลาดหุ้นไทยก็เช่นกัน)
หลังจากสหรัฐฯ และจีนฮึ่มๆ จะทำสงครามการค้ามาก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาพันธบัตรอิตาลีก็เหวี่ยงรุนแรง แม้แต่ตลาดอย่างอาร์เจนตินาและตุรกี ผลตอบแทนพันธบัตรก็ยังผันผวนสุดๆ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเมื่อปี 2017 ที่ราคาพันธบัตรนิ่งมาก
ขนาดดัชนีที่ว่ากันว่าชัวร์ๆ อย่าง MSCI All-country World Index ซึ่งทำให้นักลงทุนรวยช้าๆ รวยแน่ๆ และไม่มีหวือหวาให้ได้เสียวกันมากนัก ปี 2017 ทั้งปี ลงมากสุดในหนึ่งวันคือ 1.4% และทั้งปีลงมากกว่า 1% แค่สองวัน ขณะที่ปีนี้ วันที่ลงหนักที่สุดปาเข้าไป 2.9%
สำหรับพันธบัตร investment-grade ของสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับพันธบัตรรัฐบาลที่ปลอดภัยกว่า ผลตอบแทนก็ต่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เดือน ก.พ.
นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนอย่างยิ่งว่า นักลงทุนเริ่มรู้สึกถึงความเสี่ยงที่มากขึ้น จึงต้องการผลตอบแทนในอัตราสูงกว่าสำหรับพันธบัตรที่เสี่ยงกว่า
สอดคล้องกับดัชนี VIX ที่ใช้วัดความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งค่าเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 16.7 สูงกว่าจุดพีคทุกจุดของปีที่แล้ว และสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปี 2017 ที่ 11.1 อยู่เยอะมาก
นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ จึงมองว่า “ตลาดง่ายๆ ได้สิ้นสุดลงแล้ว” (the end of easy) แต่นั่นไม่ได้หมายถึง “the end of returns” คือไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีแต่อย่างใด
อย่างเรื่องอิตาลีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ตลาดลงมาเว่อร์เกิน รวมทั้งที่กังวลกันมากเรื่องสงครามการค้าจีนสหรัฐฯ นั่นก็อาจเป็นโอกาสซื้อได้ เพียงเราคุณต้องระวังให้มากขึ้นเท่านั้น
อ่านแล้วนักลงทุนไทยที่หุ้นลงเอาๆ อาจจะใจชื้นขึ้นมาได้บ้างว่าไม่ใช่เราเหนื่อยอยู่คนเดียว คนอื่นเขาก็เหนื่อยเหมือนกัน เพียงแต่เราอาจจะเหนื่อยมากกว่าหน่อยแค่นั้นเอง
--
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ WSJ. com
โดย ชัชวนันท์ สันธิเดช
ข้อมูลประกอบจาก The Wall Street Journal
ปีที่แล้ว ผลตอบแทนของหลายตลาดทั่วโลกถือว่าดีมาก รวมทั้งตลาดหุ้นไทย แต่ปีนี้ ผ่านมาแล้วห้าเดือนกว่า ปรากฏว่าสถานการณ์กลับเป็นตรงกันข้าม คือตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนอย่างหนัก ลงทีนึงแรงๆ (และตลาดหุ้นไทยก็เช่นกัน)
หลังจากสหรัฐฯ และจีนฮึ่มๆ จะทำสงครามการค้ามาก่อนหน้านี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ราคาพันธบัตรอิตาลีก็เหวี่ยงรุนแรง แม้แต่ตลาดอย่างอาร์เจนตินาและตุรกี ผลตอบแทนพันธบัตรก็ยังผันผวนสุดๆ แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเมื่อปี 2017 ที่ราคาพันธบัตรนิ่งมาก
ขนาดดัชนีที่ว่ากันว่าชัวร์ๆ อย่าง MSCI All-country World Index ซึ่งทำให้นักลงทุนรวยช้าๆ รวยแน่ๆ และไม่มีหวือหวาให้ได้เสียวกันมากนัก ปี 2017 ทั้งปี ลงมากสุดในหนึ่งวันคือ 1.4% และทั้งปีลงมากกว่า 1% แค่สองวัน ขณะที่ปีนี้ วันที่ลงหนักที่สุดปาเข้าไป 2.9%
สำหรับพันธบัตร investment-grade ของสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับพันธบัตรรัฐบาลที่ปลอดภัยกว่า ผลตอบแทนก็ต่างกันมากขึ้นเรื่อยๆ นับตั้งแต่เดือน ก.พ.
นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนอย่างยิ่งว่า นักลงทุนเริ่มรู้สึกถึงความเสี่ยงที่มากขึ้น จึงต้องการผลตอบแทนในอัตราสูงกว่าสำหรับพันธบัตรที่เสี่ยงกว่า
สอดคล้องกับดัชนี VIX ที่ใช้วัดความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งค่าเฉลี่ยปีนี้อยู่ที่ 16.7 สูงกว่าจุดพีคทุกจุดของปีที่แล้ว และสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั้งปี 2017 ที่ 11.1 อยู่เยอะมาก
นักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ จึงมองว่า “ตลาดง่ายๆ ได้สิ้นสุดลงแล้ว” (the end of easy) แต่นั่นไม่ได้หมายถึง “the end of returns” คือไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีแต่อย่างใด
อย่างเรื่องอิตาลีเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ตลาดลงมาเว่อร์เกิน รวมทั้งที่กังวลกันมากเรื่องสงครามการค้าจีนสหรัฐฯ นั่นก็อาจเป็นโอกาสซื้อได้ เพียงเราคุณต้องระวังให้มากขึ้นเท่านั้น
อ่านแล้วนักลงทุนไทยที่หุ้นลงเอาๆ อาจจะใจชื้นขึ้นมาได้บ้างว่าไม่ใช่เราเหนื่อยอยู่คนเดียว คนอื่นเขาก็เหนื่อยเหมือนกัน เพียงแต่เราอาจจะเหนื่อยมากกว่าหน่อยแค่นั้นเอง
--
อ่านเพิ่มเติมได้ที่ WSJ. com